นัยน์ตาของถังฉีหลงลุกโชนด้วยความโกรธ แต่เขาก็ยังระมัดระวังอยู่ สังเกตคนตรงหน้าไม่บุ่มบ่ามเข้าไป
จิวโมไป๋ยิ้มแผ่วเบา เขาลอบใช้อาณาเขตวิญญาณห้วงมรณะ ครอบคุมทั้งห้องขังและห้องด้านบน ก่อนที่เขาจะทำเหมือนหลบหนีออกจากห้องขังขึ้นไปห้องชั้นบน
“แกจะหนีไปไหน!”ถังฉีหลงเห็นคนที่ทำร้ายตัวเองกำลังหลบหนี เขารีบตามไปทันทีโดยไม่ได้คิดอะไรเลย
เมื่อขึ้นไป ถังฉีหลงก็สังเกตเห็นห้องที่ว่างเปล่า เขามองไปที่โต๊ะกลางห้อง ชั้นลับถูกเปิดออกด้านในว่างเปล่า
“แกเอาของๆ ฉันไปไว้ที่ไหน!”ถังฉีหลงร้องคำรามด้วยความโกรธ
กว่าเขาจะได้รับหินกำเนิดปราณจำนวนนี้มาได้ เขาต้องใช้ความพยายามมหาศาล เมื่อทั้งหมดหายไป มันทำให้ความยากลำบาก ที่เขาทำมาทั้งหมดสูญหายไป
ถังฉีหลงสำรวจร่างของจิวโมไป็ เขาไม่พบที่ซ่อน จนกระทั้งสายตามาหยุดอยู่ที่แหวนบนมือ
“หรือว่าเป็นอุปกรณ์มิติเก็บของ”ถังฉีหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงแปลกใจ เขาเคบพบอุปกรณ์มิติเก็บของเพียงครั้งเดียว ที่ห้องสมบัติประจำตระกูล ทำให้เขารู้ว่ามีอุปกรณ์ประเภทนี้อยู่
แม้รูปร่างจะหยาบกระด้าง แต่แหวนวงนี้ น่าจะเป็นอุปกรณ์มิติเก็บของ ประเภทแหวน
“ของล้ำค่าชิ้นนี้ ไม่สมควรที่จะอยู่ในมีสวะอย่างแก”ดวงตาของถังฉีหลงเต็มไปด้วยความโลภ ไม่รอช้าเขาพุ่งเข้าต่อสู้กับจิวโมไป๋ทันที
จิวโมไป๋ไม่หลบหนี เขาพุ่งเข้าต่อสู้ ร่างของเขาแยกออกเป็นสองร่างซ้ายและขวา เข้าโจมตีสองทาง
ถังฉีหลงยิ้มเยาะใช้หมัดซ้าย ที่ยังใช้ได้อยู่ ชกเข้าใส่ตรงๆร่างทางขวา เพียงพริบตาเขาสามารถคาดเดาร่างจริงได้ทันที สมแล้วที่เป็นอัจฉริยะ
จิวโมไป๋ไม่ตกใจที่ถังฉีหลงหาตัวจริงพบ เขายังเข้าโจมตีต่อไม่หลบ เกร็ดมังกรใต้เสื้อคลุมส่องประกายแวววาว จิวโมไป๋ชกหมัดเข้าปะทะตรงๆ
ปัง! หมัดทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ชั้นวางสมบัติรอบห้องล้มระเนระนาด ร่างของจิวโมไป๋ถอยกลับไปหนึ่งก้าว แต่ถังฉีหลงกระเด็นไปสามก้าวใหญ่ ก่อนที่เขาจะหมุนตัวสลายพลังปะทะ
ถังฉีหลงมองหมัดของเขาที่ช้ำเลือด เขาเงยหน้ามองหมัดของจิวโมไป๋ที่อยู่ใต้ถุงมือ เขาไม่รู้อาการว่าเป็นยังไง
“น่าสนุก”ถังฉีหลงแสยะยิ้มโรคจิต แววตาเป็นประกายแปลกๆ ร่างของถังฉีหลงมีคลื่นพลังสีแดง ฝ่ามือซ้ายลุกไหม้ด้วยเพลิงสีแดง ถังฉีหลงหายตัวไปจากจุดเดิม มาโผล่ด้านหลังของจิวโมไป๋และตบลงไปกลางศรีษะอย่างรุนแรง
จิวโมไป๋ที่รู้สึกถึงความเคลื่อนไหว เขาหันกลับมายกแขนสองข้างขึ้นมาป้องกันได้
เปรี้ยง! จิวโมไป๋ถอยไปด้านหลังสามเมตร แขนเสื้อลุกไหม้ด้วยเพลิงสีแดง เขายกมือตบไฟจนดับ ก่อนจะพุ่งเข้าไปเตะร่างใส่ถังฉีหลง แต่ถังฉีหลงหลบได้ทัน ก่อนจะใช้ฝ่ามือเพลิงตอบโต้ ทั้งสองต่อสุ้กันอย่างรุนแรง เปลวเพลิงที่กระจัดกระจาย เผาไหม้ชั้นวางสมบัติ ที่สามารถติดไฟได้ง่าย
ผ่านไปหลายสิบกระบวนท่า ความแข็งแกร่งของพวกเขาไม่ต่างกันนัก ร่างกายของจิวโมไป๋ถูกยกระดับจนแข็งแกร่งพอๆกับผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 7 ต้น ส่วนถังฉีหลง เขาสามารถใช้มือได้แค่ข้างเดียว และเป็นมือซ้ายที่ไม่ถนัด แต่เขาก็สามารถต่อสู้ได้ขนาดนี้ ชื่อของอัจฉริยะไม่เสียเปล่า
ทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ก่อนจะแยกกันออกไปคนละด้าน
ถังฉีหลงกัดฟันข่มความโกรธ เขาไม่คิดเลยว่า คนที่มีใบหน้าเหมือนถังหมิงหยุน สามารถรับมือกับวิชาฝ่ามือเพลิงเมฆา ของเขาได้
เสื้อคลุมบนร่างของจิวโมไป๋ ถูกเผาไหม้จนเห็นเกร็ดสีทองบางส่วน
“ผู้ปลุกสายเลือด?”ถังฉีหลงขมวดคิ้ว เขาเร่งพลังเพิ่มขึ้น ฟาดฝ่ามือเพลิงโจมตี 12 ฝ่ามือ อย่างรวดเร็ว
จิวโมไป๋ฉีกเสื้อโยนลงไปในแหวนมิติเก็บของ ทำให้สามารถมองเห็นเกร็ดมังกรทองทั่วร่างของเขา จิวโมไป๋สังเกตการต่อสู้ของถังฉีหลง วิชาต่อสู้ที่ถังฉีหลงใช้อยู่ระดับเชี่ยวชาญ ใกล้ถึงระดับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แล้ว
ส่วนตัวจิวโมไป๋ฝึกแค่วิชาหมัดพื้นฐาน ระดับ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
วิชาพื้นฐานที่เขาฝึก เป็นวิชาพื้นฐานที่รวบรวมศาสตร์หมัดทุกแขนงจากมิติระดับต่ำ กลาง และสูง หลอมรวมเป็นวิชาพื้นที่สุด เหมาะสำหรับปูพื้นฐาน สำหรับวิชาต่อสู้ที่สูงกว่า
แม้วิชาหมัดพื้นฐานจะไม่หลากหลายรุนแรง เหมือนวิชาฝ่ามือของถังฉีหลง แต่โดยรวมเขาก็ไม่ด้อยไปกว่ากันนัก
ฝ่ามือเพลิงคล้ายเมฆที่ลุกไหม้ พุ่งเข้าหาหลายทิศทาง จิวโมไป๋ใช้ย่างก้าวประกายภูตหลบหลีกอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่สามารถหลบได้ เขาก็ชกหมัดทำลายโดยตรง
เกร็ดมังกรทองป้องกันพลังทำลายเกือบทั้งหมดได้ จิวโมไป๋พุ่งเข้าต่อสู้กับถังฉีหลง ยิ่งต่อสู้ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ห้องลับอยู่ใต้ดินลึก ทำให้การต่อสู้ของทั้งสองไม่มีใครรับรู้ได้
ผ่านไปอีกหลายกระบวนท่า ถังฉีหลงเริ่มเหนื่อยหอบ แขนซ้ายสั่นระริก เขามองเกร็ดสีทองที่หม่นแสงไป จนเกือบกลายเป็นทองด้าน มีรอยถูกเผาไหม้บนเกร็ดสีทองบางอัน
เขาต้องรีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด เขารู้ดีว่าร่างกายของผู้ปลุกสายเลือดจะแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะตะวันออก เขาที่บาดเจ็บไม่สามารถต่อสู้ยืดเยื้อได้
ถังฉีหลงสูดหายใจเพลิงสีแดงลุกไหม้ทั่วร่างกายก่อนจะรวมกันที่มือซ้าย ร่างของเขาพลันหายไปปรากฏด้านข้างของจิวโมไป๋
“เพลิงเมฆาผลาญฟ้า!”ถังฉีหลงร้องคำรามฟาดฝ่ามือเข้าใส่จิวโมไป๋
เพลิงสีแดงขนาดใหญ่จับกลุ่ม เหมือนก้อนเมฆที่ร้อนแรงแผดเผาทุกสิ่งที่มันเคลื่อนผ่าน พุ่งเข้าหาจิวโมไป๋อย่างรุนแรง
จิวโมไป๋เร่งเคล็ดบ่มเพาะพลังเตาหลอม 9 สุริยัน เพลิงนิรันดร์สีเขียวลุกไหม้อย่างรุนแรง กล้ามเนื้อของจิวโมไป๋พลันขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อยไอหมอกสีขาวปกคลุมทั่วร่าง เกล็ดมังกรกลับมาเปล่งประกายงดงาม
จิวโมไป๋ไม่หลบหนี เขาพุ่งตรงไปหาเพลิงเมฆาผลาญฟ้า หมัดห่อหุ้มเกร็ดมังกรทอง ชกตรงเข้าใส่เพลิงเมฆา
พลังมังกร
ตูม! เพลิงเมฆาถูกทำลายกระจายไปโดยรอบ ชั้นวางในห้องติดไฟ และเริ่มลุกไหม้อย่างรุนแรงยิ่งกว่าเดิม
ถังฉีหลงชะงักตกใจ เข้าไม่คิดว่าจะมีใครทำลายเพลิงเมฆาผลาญฟ้าที่เขาใช้พลังทั้งหมดได้ เมื่อเห็นจิวโมไป๋พุ่งเข้ามา เขารีบตั้งท่าต่อสู้
แต่จิวโมไป๋ชกหมัดออกมาอีกหมัด ทำลายการป้องกันอย่างสมบูรณ์ แขนซ้ายแตกหักอย่างรุนแรง หมัดพุ่งผ่านชกเข้าที่อกอย่างแรงจนกระเด็นไปกระแทกเข้ากับกำแพงห้อง และหมดสติทันที
ก่อนใช้พลังมังกร พวกเขามีระดับความแข็งแกร่งใกล้เคียงกัน แต่เมื่อใช้พลังมังกี พลังของเขาเพิ่มขึ้น 3 เท่า ถังฉีหลงไม่มีทางรับหมัดของเขาได้อย่างแน่นอน
จิวโมไป๋สูกลมหายใจช้าๆ พลังในร่างก็ค่อยๆสงบลง เกล็ดมังกรทองกลายเป็นผิวขาวแข็งแกร่งเหมือนเดิม
ดูเหมือนพลังมังกร จะแข็งแกร่งกว่าที่เขาคิดไว้
เมื่อเห็นห้องกำลังลุกไหม้ จิวโมไป๋หยิบแผ่นยันต์ออกมาโยนออกไป กลายเป็นลูกบอลน้ำพุ่งออกไปดับไฟทั้งหมด จิตสัมผัสตรวจสอบการต่อสู้ด้านนอกที่ใกล้จะจบแล้ว
เขารีบลากร่างไร้สติของถังฉีหลง ไปห้องขังชั้นในสุดที่มีอุปกรณ์ทรมานหลายชนิดแตกต่างจากห้องอื่น
จิวโมไป๋แขวนร่างถังฉีหลงและมัดด้วยโซ่หนามที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ เมื่อร่างถูกแขวนบนโซ่หนาม เลือดสีแดงสดผุดออกมาจากตรงจุดที่ถูกหนามแทง เลือดทีละหยดค่อยๆไหลออกมาอย่างช้าๆ ไปตามร่างกาย หยดเลือดไหลจนถึงปลายเท้าและหยดลงพื้น
เวลาที่เลือดของตัวเอง ค่อยๆไหลไปตามร่างกาย ประสาทสัมผัสตรงจุดนั้นจะรับรู้ได้ว่าเลือดกำลังไหลผ่านไป จะถูกปลุกเร้าอย่างรุนแรง ยิ่งหยดเลือดจำนวนน้อยๆ ค่อยๆไหลผ่านไปอีกครั้ง ผ่านไปอีกครั้ง ผู้ที่โดนแขวนจะเผลอนับโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกของการมองเลือดของตัวเอง ค่อยๆไหลออกจากร่างกายทีละหยดอย่างช้าๆจนหมด เหมือนนั่งนับเวลารอความตาย
มันช่างเป็นอุปกรณ์ทรมานที่น่าหวาดกลัวจริงๆ
จิวโมไป๋หยิบโอสถขึ้นมากรอกปากถังฉีหลง
เมื่อโอสถทำงาน ถังฉีหลงตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด กระดูกทั่วร่างหักเป็นชิ้นๆ มีกระดูกบางส่วนแทงทะลุปอด ทำให้หายใจลำบาก
“แก…”ถังฉีหลงฟื้นขึ้นมา เขาก็พยายามจะดิ้น แต่ก็ทำไม่ได้ โซ่หนามรัดเขาแน่นจนขยับไม่ได้
“นี้มัน ปล่อยฉันไป!”ถังฉีหลงกรีดร้องเสียงดัง
จิวโมไป๋ ไม่สนใจเดินออกมาปิดกุญแจล็อคห้อง ก่อนจะเก็บลูกกุญแจในแหวนมิติเก็บของ เขาเดินไปยังกรงขังอื่น หยิบโอสถรักษาภายในออกมา ให้กับคนที่ถูกขังในห้องขัง
โอสถที่เขาให้กับเหยื่อ เป็นโอสถที่มีสรรพคุณรักษาอาการบาดเจ็บซ่อนเร้นภายใน
ในอนาคตเมื่อพวกเขาถูกคนพาตัวไปรักษา ร่างกายของพวกเขาสามารถฟื้นกลับมาเป็นปกติได้ แต่สภาพจิตใจต้องอยู่ที่ความสามารถของจิตแพทย์ที่พวกเขาได้รับการรักษา
จิวโมไป๋จัดเปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนใบหน้า เดินไปขึ้นลิฟต์ เมื่อลิฟต์กำลังขึ้นไปชั้น 3 จิวโมไป๋หยิบยันต์ออกมาหลายแผ่น เมื่อแผนยันต์ถูกจุด ระเบิดที่เขาวางไว้นอกโรงแรมทั้งหมด ถูกจุดระเบิดขึ้นพร้อมกัน
บึม บึม บึม..!
ผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 8 ต้น ลืมตาขึ้น ก่อนจะทะยานร่างออกไปตรวจสอบ
จิวโมไป๋ถึงชั้น 3 เขาเดินออกจากห้องลับ เดินไปยังห้องที่ลอบเข้ามา เขาหยิบกระจกกันกระสุนที่ถูกตัดเป็นวงกลม มาเก็บไว้ในแหวนมิติเก็บของ ก่อนจะวางแผนยันต์ระเบิดอีก 4 แผ่นบนกระจกหน้าต่างส่วนที่ถูกตัด
จากนั้นเขาก็หยิบกำไลข้อมือของถังหมิงหยุนที่สลบขึ้นมา และส่งภาพวีดีโอที่เขาบันทึกที่ห้องทรมานลงไปในกำไลข้อมือ จากนั้นเขาก็ใช้ชื่อของถังหมิงหยุน ส่งวีดีโอลงไปยังเว็บไซต์วีดีโอชื่อดัง เมื่อส่งเสร็จเข้าก็ส่งไปยังเว็บไซต์ตำรวจเมืองฉางอัน และเมืองอื่นๆอีก 10 เมือง
เมื่อเสร็จแล้ว เขาลบข้อมูลการใช้ทั้งหมด และยกร่างของถังหมิงหยุนกระโดดออกไปทั้งอย่างนั้น
ยามรักษาความปลอดภัยที่ดูกล้องวงจรติด เห็นคนน่าสงสัยกระโดดออกจากชั้น 3 เขาก็ส่งสัญญาณแจ้งคนอื่นๆ ให้ไปตรวจสอบ
จิวโมไป๋ออกมาได้เล็กน้อย เขาก็หยิบยันต์ออกมา 4 แผ่น เมื่อยันต์ถูกเผา
แผ่นยันต์ที่ติดบนกระจกห้องชั้นสามก็ระเบิดทันที
บึม! แผ่นกระจกร้าวไปทั้งแผ่น ตรงจุดที่ใกล้ระเบิดบางส่วนหักลงเป็นแผ่นใหญ่ไม่มีแตกระเอียด
จิวโมไป๋พาร่างของถังหมิงหยุนมาผูกไว้บนต้นไม้ ก่อนที่เขาจะหายไป
ยามรักษาความปลอดภัย ที่ตามมาทีหลังเห็นคนซ่อนอยู่บนต้นไม้ พวกเขาก็ล้อมต้นไม้ไว้ทันที
จิวโมไป๋หลบหนีได้สำเร็จ แต่เขายังไม่วางใจ เข้าไปในซอยที่ซับซ้อน เขาวิ่งวนไปวนมาหลายสิบซอย เพื่อลบร่องรอย
เมื่อรู้สึกว่าปลอดภัย เขาก็เดินออกจากซอยเล็ก แต่เดินมาได้เล็กน้อย เขาก็หยุดเท้าลง จิตสัมผัสของเขาก็พบ คนๆหนึ่งกำลังยืนพิงอาคาร ห่างออกไป 300 เมตร
—