เสียงสัญญาณดังขึ้น ไม่กี่ครั้งก็มีคนรับสาย ปรากฏภาพโฮโลแกรมโปร่งใส่ลอยขึ้น ภาพบนหน้าจอเปลี่ยนไปเป็นเด็กสาวอายุ 14-15 ปี ในชุดนักเรียน ใบหน้าหวานใสน่ารัก ดวงตากลมโต ปากแดงอมชมพูคล้ายลูกเชอรี่ ส่วนผสมทั้งหมดรวมกันอย่างลงตัว ทำให้เด็กสาวคล้ายนางฟ้าน้อยๆแสนน่ารัก
ภาพพื้นหลังเป็น ห้องเรียนซึ่งมีนักเรียนไม่น้อยเดินผ่านไปมา
“ทำไมเมื่อ 2 วันก่อนพี่ไปหาพ่อแม่แล้วไม่ยอมอยู่รอหนูละ แล้วก็เมื่อวานทำไมพี่ถึงไมรับสายหนู ไม่รู้เหรอว่าหนูเป็นห่วง”ทันทีที่ภาพปรากฏเด็กสาวก็พูดขึ้นอย่างไม่พอใจ ใบน่านารักราวตุ๊กตาย่นนิดๆอย่างน่ารัก เด็กสาวลุกขึ้นเดินออกไปนอกห้อง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเรียนทำให้ระหว่างทางมีนักเรียนเดินผ่านไปมาไม่น้อย
“ฮ่าๆ เมื่อวานพี่ติดธุระเลยไม่ได้รับสาย ขอโทษด้วยนะ เดียวอีกไม่กี่วัน พี่จะพาน้องไปเที่ยวดีไหม”จิวโมไป๋หัวเราะอย่างอ่อนโยน เขามองใบหน้าเล็กๆด้วยความรู้สึกผิดอย่างท่วมท้น
ในอดีต จิวเสวี่ยเหม่ย ถูกเด็กชายห้องเดียวกันข่มขืน ในตอนนั้นเขาโกรธจัด จะตามไปฆ่าเด็กชายคนนั้นแต่ก็ทำไม่ได้เพราะอีกฝ่ายมีอำนาจหนุนหลัง คดีข่มขืน ไม่ถือว่าเป็นคดีร้ายแรง ถึงขนาดที่ Nuwa ต้องยืนมือเขามาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นรัฐบาลจึงเป็นผู้รับผิดชอบ โชคร้าย ที่อีกฝ่ายมีอำนาจ เขาใช้เส้นสาย รอดพ้นความผิดไปได้อย่างง่ายดาย
หลังจากที่น้องสาวของเขาได้สติ เธอก็กระโดดลงมาจากดาดฟ้าโรงพยาบาลฆ่าตัวตาย นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของโศกนาฏกรรมของครอบครัว หลังจากน้องสาวเสียชีวิต จิตใจของแม่ก็แตกสลาย คนเป็นพ่อทนไม่ไหว เขาเสี่ยงชีวิตลอบฆ่าอีกฝ่าย แต่ก็ถูกจับเข้าคุกฆ่าได้แค่ผู้คุ้มกันของเด็กคนนั้น พ่อต้องโทษติดคุก 20 ปี แต่ติดคุกไม่ถึง 7 วัน พ่อของเขาถูกฆ่าตายภายในคุก
ภายหลังเขารู้จุดบอดของ Nuwa การฆ่ากันในคุกนั้น ถ้านักโทษคนที่ลงมือมีโทษประหารชีวิตอยู่แล้ว จะไม่มีความผิดเพิ่ม เพราะคนลงมือฆ่ายังไงก็ต้องถูกประหาร
เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิต แม่ของล้มลงอย่างสมบูรณ์ เธอฆ่าตัวตายในเวลาไม่นาน สุดท้ายเหลือเขาเพียงคนเดียว
แม้ภายหลังเขาจะแก้แค้นได้สำเสร็จ แต่จิตใจของเขาเหมือนถูกสาป นอกจาก 3 พี่น้องที่เผชิญหน้าผ่านความยากลำบากมาด้วยกันแล้ว เขาก็ไม่อยากสร้างความสัมพันธ์กับใครหรือมีครอบครัว มันก็เหมือนพี่ใหญ่และพี่รอง ที่ครอบครัวถูกฆ่าเช่นกัน
ยกเว้นพี่สาม ที่เขาเป็นเด็กกำพร้าเขาจึงอย่างสร้างครอบครัวที่มั่นคง จนสุดท้ายเขาได้แต่งงานและมีลูกสาวที่น่ารัก แม้ภายหลัง ครอบครัวของเขาจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทรยศหักหลังพี่น้องก็ตาม…
จิวเสวี่ยเหม่ยได้ยินดังนั้นก็ยิ้มมีความสุข
“พี่พูดจริงๆนะ”เด็กสาวร้องถาม
“จริง”เขาพยักหน้าสัญญา
หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันอีกพักใหญ่ ก็ได้ยินกระดิ่งสัญญาณเข้าเรียน น้องสาวของเขาก็กดวางสายไป
จากนั้นเขาก็ตรวจดูเบอร์โทรอื่น ปรากฏว่าเป็น 3 พี่น้องที่โทรเข้ามา
เข้าเลือกโทรหาหวังเสี่ยวเปาเป็นคนแรก
สัญญาณดังไม่กี่ครั้งก็มีคนกดรับสาย แต่อีกฝ่ายไม่ได้เปิดภาพ ทำให้ได้ยินแต่เสียง
“พี่ใหญ่มีอะไรรึป่าว ผมเห็นว่าพี่และ พี่รอง พี่สาม โทรเข้ามาหลายสาย”เขาถาม
“ไม่มีอะไร ฉันเห็นนายไม่เข้ามานอนที่หอพัก แล้วไม่ไปเรียนอีก พวกเราเลยเป็นห่วง ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”น้ำเสียงของหวังเสี่ยวเปาดูโล่งใจจนน่าแปลก
“พี่ใหญ่มีเรื่องอะไรก็บอกผมได้นะ”จิวโมไป๋ถามขึ้นอย่างจริงจัง
“ฮ่าๆ ไม่มีอะไรหรอก”หวังเสี่ยวเปา หัวเราะเสียงดังแล้ว พูดเปลี่ยนเรื่อง
พูดคุยกันอีกไม่กี่ประโยชน์ก็วางสาย เขานิ่งคิดอยู่นานความทรงจำก็เริ่มก่อตัวช้าๆ
“อ่า ทำไมถึงจำไม่ได้นะ”จิวโมไป๋ร้องเสียงเบา เขากดเปิดดูเวลา
“เหลือเวลาอีก 8 วัน เซียวหนานจิ้น จะส่งคนมาก่อความวุ่นวายที่ร้าน แต่อีก 2 วัน พวกกลุ่มเลือดมังกรจะต่อสู้กับกลุ่มปีกสวรรค์ ตอนนี้พวกมันจึงเกณ์คนจำนวนมาก เข้าเป็นพวก ด้วยการเข้าคุกคามนักศึกษาและบีบบังคับให้เข้าไปช่วยต่อสู้ จำได้ว่าหัวหน้ากลุ่มเลือดมังกรจะเป็นลูกของอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทียนซู ดังนั้นจึงไม่มีใครเข้าไปห้ามได้”
ในช่วงเวลานี้เขา กำลังอกหักจากหลานซูเมิง ทำให้ไม่สนใจโลกภายนอก พี่น้องทั้ง สาม ถูกคุกคามสุดท้ายก็โดนลากไปรวมกลุ่มจนได้ เขาจำได้ว่าเพราะเหตุนี้ พี่รองต้องบาดเจ็บหนัก จนต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อฟื้นตัวกว่า 3 เดือน เพราะพี่รองฝึกเคล็ดบ่มเพาะภายนอก เมื่อบาดเจ็บทางกาภาพทำให้ไม่สามารถบ่มได้มากนัก ทำให้เมื่อถึงเวลาสอบ คะแนนการบ่มเพาะของเขาตกลงมาอยู่อันดับกลางของชั้นปี
พี่รองมีความฝันที่จะเข้ากองทัพ ด้วยคะแนนแค่นี้ทำให้ความหวังของเขาหมดไป แม้ภายหลังในช่วงโลกเกิดการวิวัฒนาการรุนแรง ประตูเชื้อมต่อต่างมิติถูกเปิด พี่รองจึงมีโอกาสได้เข้ากองทัพสมใจ แต่เพราะได้เข้าไปเป็นทหารอาสาสมัคร ดังนั้นการเลื่อนขั้นเลือนยศจึงยากมาก สุดท้ายก็ต้องปลดประจำการณ์ด้วยยศสิบเอกเท่านั้น
เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนของพี่รอง ดังนั้นเขาต้องช่วยให้ได้
จิวโมไป๋นิ่งคิดวางแผนพักใหญ่ ก่อนที่จะกดโทรสั่งอาหาร ไม่นานก็มีพนักงานเสริฟอาหารมาให้ เขากินจนอิ่มก็เดินมานั่งสมาธิบนโซฟา เพ่งจิตดูตำหนักยุทธ 108 หลัง ที่ตอนนี้ฟื้นตัวได้ประมาณ 4% แล้ว กะคร่าวๆ 1 วัน ฟื้น ได้ประมาณ 3-4 % ถ้าจะให้ฟื้นจนเต็มต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน
ซึ่งมันไม่ทันกับปัญหาที่กำลังจะมาแน่ๆ
เขาจึงหยิบกระเป๋าใส่ยาอีกใบมาเปิด ด้านในมีหลอดแก้วยาเหลวสีเหลืองอ่อน 4 ขวด
ค่าใช้จ่ายในการกลั่นแต่ล่ะขวดมากถึง 10,000 เครดิส
โอสถฟื้นฟูตำหนักยุทธ
สรรพคุณ ฟื้นฟูตำหนักยุทธ
เป็นอีกโอสถที่เขาสร้างขึ้นมาใหม่ เหมือนกับโอสถกลั่นตำหนักยุทธ
มันไม่ได้เป็นโอสถที่ฟื้นฟูตำหนักยุทธทันที แต่จะทำการเร่งการก่อตัวอย่าช้าๆแต่มั่นคงพร้อมกับขัดเกลา กลั่นตำหนักยุทธไปด้วย
เขาหยิบขวดแก้วสีเหลืองมาดื่มอย่างรวดเร็ว ในตอนนั้นเอง แสงสว่างตรงเศษซากตำหนักยุทธ พลันเจิดจ้าอย่างรุนแรงราวกับตำหนักยุทธกำลังลุกไหม้ ความเร็วในการก่อตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พริบตา โครงสร้างตำหนักยุทธก็เพิ่มเป็น 5 %
6 % 8 % 12 % 18 %