เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ยิ่งตำหนักยุทธก่อตัวได้สมบูรณ์มากขึ้นเท่าไหร่ ความเร็วในการก่อตัว ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
20 22 21 %
อีก 1 ชั่วโมงต่อมา สรรพคุธของยาก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ โครงสร้างตำหนักยุทธสมบูรณ์มากขึ้น เขาจึงหยิบขึ้นมาดื่มอีก 1 ช่วย
วูบบบ
แสงเจิดจ้าลุกไหม้อีกครั้ง
25 30 40 50 55 58 59 60 %
เมื่อถึง 60 % สรรพคุณของยาก็หมดลง ตอนนี้ตำหนักยุทธทั้ง 108 ฟื้นฟูมากกว่าครึ่ง แสงสีขาวสว่างเจิดจ้า ทำให้ทะเลลมปราณที่มืดมิดส่องสว่าง
เขายิ้มอย่างพอใจ
ค่อยๆถอดจิดออกมา มองเวลาตอนนี้เที่ยงวันแล้ว เขาบิดตัวเล็กน้อยแล้วเดิน ออกจากห้องไปหาอาหารรับประทาน เขาไม่รีบร้อนฟื้นฟูตำหนักยุทธ อีก 1 ขวดก็สามารถฟื้นฟูได้เต็มแล้ว เขาต้องผ่อนคล้ายสักเล็กน้อยไม่ตึงจนเกินไป
เมื่อเดินออกจากห้องเขาก็ตรงไปที่ลิฟท์ แล้วตรงขึ้นไปชั้นบนสุด มีห้องอาหารขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างสวยงามหรูหรา
จิวโมไปนั่งข้างหน้าต่างบานใหญ่ ไม่นานก็มีพนักงานมาจดเมนูสั่งอาหารประเภทเนื้อไปไม่กี่อย่าง พนักงานก็จากไป เขาเหม่อมองก้อนเมฆ ก้มมองด้านล่างเห็นผู้คนต่างเร่งรีบ จิตใจก็สงบลงอย่างช้าๆ จิตใจผ่อนคลายขึ้นหลายส่วน
เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้วเขาก็เดินกลับไปที่ห้อง เมื่อล๊อคห้องเรียบร้อย เขาก็มานั่งบนโซฟาตัวเดิมแล้วเริ่มทำการตั้งสมาธิไม่นาน จิตใจก็กลับเข้าอยู่ในทะเลลมปราณที่มืดมิด
จิวโมไป๋เอื้อมมือหยิบโอสถฟื้นฟูตำหนักยุทธขึ้นมาดื้ม
แสงเจิดจ้าก่อตัวอย่างรวดเร็ว
61 65 70 78 85 92 95 96 97 98 99 %
เวลาผ่านไปช้าๆ ความเร็วในการก่อตัวของตำหนักยุทธช้าลงเรื่อยๆจนถึง 99 % ดูเหมือนมันจะหยุดลงไม่ก่อตัวเพิ่มอีก เวลาผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง ตำหนักยุทธก็ไม่สามารถก่อตัวได้
จิวโมไป๋ถอนหายใจช้าๆ แล้วหยิบโอสถฟื้นฟูตำหนักยุทธ ขวดสุดท้ายขึ้นมาดื่ม ไม่นานตำหนักยุทธทั้ง 108 หลังพลัน เกิดแสงสว่างเจิดจ้า ตำหนักยุทธทั้งหลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวแผ่นดินไหว
99.1 99.2 99.4 99.6 99.7 99.8 99.9 %
เหลืออีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น ในตอนนั้นเองเขาหยิบ แร่สีดำขี้เถ้าขึ้นมา มันคือหยดโลหิตมังกรพายุอัสนี
เขาหยิบมีดเล่มเล็กออกมาแล้วกรีดฝามือซ้ายแล้วกรีดฝามือข้างขวา แล้วประกบซ้ายขวาของ หยดโลหิตมังกรพายุอัสนี
เลือดมนุษย์ค่อยๆไหลออกมาชโจมทั้วทั้งก้อนแร่หยดโลหิตมังกรพายุอัสนี ผ่านไปครู่ใหญ่ก้อนแร่ก็ร้อนขึ้นเรื่อย จนจิวโมไป๋แทบอยากจะกรีดร้องแต่ก็ต้องฝืนทน
สองมือของเขาในตอนนี้ไม่สามารถปล่อยมือจากแร่โลหิตมังกรพายุอัสนีได้ ราวกับถูกทาด้วยกาว
ความร้อนลงผ่านเข้าสู้ร่างกาย ผิวขาวพลันกลายเป็นแดงกล่ำอย่างน่ากลัว ไอสีขาวเดือดพลานลอยออกตามรู้ขุมขน ก้อนแร่สีดำขี้เถ้าพลันแตกเป็นเศษกระจายเต็มโต๊ะมือของจิวโมไป๋ในที่สุดก็ได้เป็นอิสระ
เขาไม่สนใจตรวจสอบสภาพมือของตัวเอง
เขาจ้องมองอย่างเหม่อลอยไปที่ เม็ดเลือดสีทองแดง 1 หยด ลอยอยู่กลางอากาศ เม็ดเลือดสีทองแดงเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิต แม้มันจะลอยนิ่ง อยู่กับที่ เขาก็สัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ ทรงพลัง น่าเกรงขาม และอีกหลายร้อยพันถ้อยคำ ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ ราวกับว่าสายเลือดเบื้องหน้ามีตัวตนจริงๆ มันเป็นตัวตนที่น่าหวั่นเกรง
สมแล้วที่เป็นหยดเลือดจากหัวใจของมังกรพายุอัสนี มังกรเลือดผสมที่ได้รับถ่ายทอดยีนกรรมพันธิ์ที่ดีสุดของมังกรสายเลือดบริสุทธิ์ของ 2 เผ่าพันธิ์
มังกรที่กวาดผ่านผืนฟ้า เหนือท้องทะเลอันเป็นนิรันดร์
จักรพรรดิมังกรภัยพิบัติ
หยดเลือดสั่นไหวเล็กน้อยแล้วพุ่งเข้าสู้หัวใจของจิวโมไป๋โดยตรง ความร้อนลวกราวถูกแผดเผ่าในนรกทำให้เขาอยากจะกรีดร้องออกมาแต่ต้องทนเอาไว้ เขาพยายามนั่งนิ่งข่มความเจ็บปวด
ทันที่ที่หยดเลือดเข้าสู่หัวใจมันก็ฝั่งตัวเงียบๆอยู่กึ่งกลางหัวใจไม่ขยับไปในอีก แต่ทันทีที่หัวใจเต้นทุกๆครั้งหยดเลือดมังกรพายุอัสนี จะส่งเศษเสี้ยว1ในร้อยล้าน ของหยดเลือดมังกรพายุอัสนี ไหลออกไป ตลอดทางที่เศษเสี้ยวของเลือดมังกรไหลผ่าน มันจะทำลายเลือดเสียหรือสิ่งสดปกภายในร่างกาย และหลอมรวมเลือดมนุษย์ที่คุณภาพดีอย่างช้าๆ
เวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง มีเศษเสี้ยวหยดเลือดมังกรพายุอัสนี ผสมกับเลือดมนุษย์ไป หมื่น ส่วน ร้อยล้าน
ความรู้สึกร้อนแทบจะเป็นจะตายค่อยๆเปลี่ยนเป็นความเคยชิน เขาค่อยๆล่ะความสนใจจากหยดเลือดในหัวใน เพ่งสมาธิตรวจสอบ ทะเลลมปราณ
ตอนนี้ตำหนักยุทธ ยังติดอยู่ที่ 99.99999%
เหลือเพียงนิดเดียวเท่านั้น เขามองสำรวจตำหนักทีละหลังปกติตำหนักยุทธจะมีสีขาวไร้ลวดลาย แต่ตอนนี้ถ้าสังเกตดีๆ บนเสา 4 ต้น จะมีรอยเกล็ดมังกร พันรอบเสา ซึ่งตั้ง 108 ตำหนักจะมีเหมือนกันหมด
เมื่อเห็นว่ายังไม่สามารถก่อตัวตำหนักได้ เขาก็หยิบหัวใจพฤกษาบรรพกาลออกมา แล้วหยิบมีดออกมากรีดตรงกรึ่งกลางหน้าผากของตัวเอง ก่อนที่จะวางหัวใจพฤกษาบรรพกาลตรงจุดที่กรีด
หยดเลือดค่อยๆไหลออกมาผสมเข้ากับหัวใจพฤกษาบรรพกาล เหมือนเล่นกลหัวใจพฤกษาบรรพกาล เหมือนถูกดูดเข้าไปในหน้าผากอย่างช้าๆ
ความรู้สึกเหมือนถูกแหวกกระโหลกทำให้ จิวโมไป๋สั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด เขาทรุดตัวลงบนพื้นไม่สามารถประคองตัวได้อีก เหมือนหุ่นที่ถูกตัดเชือกออก เวลาผ่านไปครู่ใหญ่หัวใจพฤกษาบรรพกาล ก็เข้าไปจนหมดรอยกรีดกึ่งกลางหน้าผากหายไปอย่าไร้ร่องรอย
เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง สติของจิวโมไป๋ก็กลับมา ทันทีที่ได้สติเขาก็ตั้งสมาธิอย่างรวดเร็ว ประสาทสัมผัสทั่วร่างสันระริก ราวกับมีตาที่สาม ภายในรัสมี 10 เมตร แม้ว่าเขาจะหลับตา เขาก็สามารถมองเห็น ภาพอย่างชัดเจน แม้แต่เศษฝุ่นใต้โซฟาที่เขานั่ง
จิตสัมผัส
จิวโมไป๋ระงับความตื่นเต้นเขาเข้าไปที่ทะเลลมปราณอย่างรวดเร็ว
ภายในทะเลปราณตอนนี้บนท้องฟ้าด้านบน เหนือตำหนักยุทธ อยู่ๆก็เกิดพายุพัดผ่านอย่างรุนแรง ท้องฟ้าที่มืดมิดเกิดการสั่นกระเพื่อม ไม่นานแสงเจิดจ้าก็กินฟื้นที่ทั้งหมด
เมื่อแสงเจิดจ้าหายไป ทองฟ้าสีดำพลันเปลี่ยนเป็น ทองแดงจางๆ
จิวโมไป๋ยกยิ้มอย่างไม่อาจหักห้ามใจ เข้าถอยสมาธิมาเล็กน้อยจะเห็นว่าตอนนี้รอบนอกทะเลปราณถูกห่อหุ้มด้วยลูกแก้วสีเขียวใส หรือก็คือหัวใจพฤกษาบรรพกาล
ในอนาคตมันเป็นเรื่องยากที่จะมีใครสามารถทำลายตำนักยุททธ ของเขาได้อีก