จิวโมไป๋เลิกสนใจจูหวังเฉินที่กำลังเดินไปที่ห้องกลั่นธาตุไฟ เขาหันมารับเสี่ยวหงจากหลิวยี้เอิน หญิงสาวอิดออดเล็กน้อย ก่อนจะจำใจส่งเสี่ยวหงคืนให้กับจิวโมไป๋
เขาบอกคนอื่นๆว่าจะออกจากสำนักงาน
“น้องเล็กนายไม่ฝึกในห้องกลั่นก่อนเหรอ? มีเวลาตั้ง 2 วันที่จะอยู่ที่นี่ ออกไปตอนนี้มันหน้าเสียดาย”หวังเสี่ยวเปากล่าวห้าม
“ฉันมีธุระต้องทำ ฉันขอตัวไปก่อน”จิวโมไป๋ส่ายหัว ในตอนนี้เขารู้สึกกังวลเกี่ยวกับเฉินหูอย่างมาก เขาไม่สามารถสงบใจฝึกได้
น่าเสียดายที่นี่ไม่สามารถใช้กำไลข้อมือโทรติดต่อเฉินหูได้
เขายังเป็นแค่นักรบฝึกหัด ทำให้ไม่สามารถใช้กำไลข้อมือติดต่อจากภายในสำนักงานได้ จะต้องออกไปก่อนถึงจะใช้กำไลข้อมือได้
หลังจากบอกลาคนอื่นๆ เขาก็ไปที่ห้องลงทะเบียนสัตว์พิทักษ์ มีการตรวจสอบร่างกายของเสี่ยวหงเล็กน้อย ใช้เวลาไม่นานก็ลงทะเบียนเสร็จ
เขาเดินมาที่ทางออกด้านข้าง ในระหว่างที่กำลังเดินเขาก็กดเปิดรายการภารกิจและหาภารกิจที่เกี่ยวกับเมืองเทียนจิงหรืออยู่บริเวณใกล้ๆ ไม่นานก็พบ
ภารกิจระดับ 0 ดาว
ชื่อภารกิจ : เฝ้าระวังตึกร้าง B ถนน 215 เขต 13 เมืิองเทียนจิง
เนื้อหาภารกิจ : ตรวจสอบความผิดปกติของตึกร้าง B ระยะเวลา 5 วัน
หมายเหตุ : มีรายงานว่า ภายในตึกร้าง B ช่วงเวลา 3.00 – 3.30 น. จะมีเสียงกรีดร้องไร้ทิศทาง ไม่ทราบจุดกำเนิดเสียงแน่ชัด
รางวัล : 3 คะแนนภารกิจ , 2 คะแนนเครดิต
จิวโมไป๋อ่านภารกิจอีกรอบ เขาก็ต้องเลิกคิ้วสงสัย เพราะมันเป็นภารกิจที่เขาพบตั้งแต่แรก น่าแปลกที่ยังไม่มีใครรับไป แต่หลังจากอ่านรายละเอียด เขาก็เข้าใจ ระยะเวลาภารกิจ 5 วัน แต่ได้รางวัลแค่นิดเดียว ถ้าเทียบกับภารกิจอื่น
จิวโมไป๋ไม่คิดมากกดรับภารกิจทันที เมื่อกดรับกำไลข้อมือของเขาก็ส่งเสียงดัง เขาเดินไปตามทางเดินลงไปด้านล่าง เขาก็พบลานกว้างจอดเครื่องบินขนาดใหญ่ที่มีเครื่องบินลำเล็กจอดจำนวนมาก
รอบๆมีนักรบฝึกหัดคนอื่นๆที่กำลังขึ้นเครื่องบินออกไปทำภารกิจ
กำไลข้อมือส่งสัญญาณบอกทิศทาง เดินตามไปก็พบเครืองบินสำหรับไปทำภารกิจ เมื่อเดินเข้าใกล้ประตูก็เปิดออก เขากระโดดขึ้นไปทันทีด้วยความรวดเร็ว เมื่อประตูปิด เสียงราบเรียบของระบบเครื่องบินก็รายงาน
“เครื่องบินหมายเลข11135 กำลังจะขึ้นสู่น่านฟ้า ยืนยันภารกิจอัตโนมัติ ระบุสถานที่ลงจอด…”จิวโมไป๋ไม่สนใจที่มันรายงาน เขากดไปที่แผ่นสีดำตรงที่วางมือก่อนที่แผ่นโฮโลแกรมสีฟ้าใสก็ปรากฎขึ้น เขากดป้อนคำสั่งทันที
“อัพเดทข้อมูลสำเร็จ เปลี่ยนทิศทาง ไปยังเมืองเทียนซู…”
เครื่องบินก็ลอยขึ้นและพุ่งเข้าทางช่องเล็กๆที่เปิดรอ เมื่อพ้นสำนักงานเครื่องบินก็เข้าสู่โหมดพรางตัว เครื่องบินลำเล็กทะยานตรงไปยังเมืองเทียนซูทันที
จิวโมไป๋เอนตัวพิงเบาะหลัง ก่อนจะกดกำไลข้อมือโทรติดต่อไปยังเฉินหู
ไม่สามารถติดต่อได้
ใบหน้าของจิวโมไป๋กลายเป็นเคร่งเครียด เขากดโทรติดต่อไปอีกครั้งก็ไม่สามารถติดต่อได้
จิวโมไป๋กดปิดกำไลข้อมือสูดลมหายใจตั้งสติ ไม่ถึง 5 นาที เครื่องบินก็เข้าสู่เมืองเทียนซู ลงจอดที่อาคารหลังเล็กๆ ไม่สะดุดตา จิวโมไป๋ออกจากเครื่องบินก็พบคนของหน่วยมังกรซ่อนในชุดสีดำรออยู่ เขาเปิดกำไลข้อมือส่งตรานักรบฝึกหัดเพื่อยืนยันตัวตน
“หืม ภารกิจของนายอยู่ที่เมืองเทียนจิง แล้วนายมาที่นี่ทำไม?”คนของหน่วยมังกรซ่อนถาม
“ภารกิจของผมเริ่มเวลาตี 3 ผมมาทำธุระที่เมืองเทียนซูก่อน แล้วจะรีบกลับไปทำภารกิจ”จิวโมไป๋ตอบ
คนของหน่วยมังกรซ่อนพยักหน้า สอดส่องสายตาสำรวจจิวโมไป๋เล็กน้อย ก่อนจะถอนสายตากลับ เขาไม่สงสัยอะไรเพราะยืนยันข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
“เสร็จธุระแล้วรีบกลับไปประจำจุดภารกิจ ถ้าช้าไปไม่ทันคะแนนเครดิตจะถูกหัก ภารกิจ 0 ดาว ได้รับคะแนนเครดิตน้อยอยู่แล้ว หักแค่ครั้งเดียวก็เกือบเท่ากับทำภารกิจฟรี”คนของหน่วยมังกรซ่อนเตือนด้วยความหวังดี
จิวโมไป๋กล่าวขอบคุณ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดกันหนาวสีดำ ก่อนจะรีบจากไป เขาไปบ้านของเฉินหู ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบก็พบว่าเฉินหูไม่อยู่ที่บ้าน
จิวโมไป๋เดินไปนั่งที่ร้านกาแฟใกล้ๆ สามารถใช้จิตสัมผัสตรวจสอบที่บ้านของเฉินหูได้ นั่งรออยู่นาน เขาก็ได้ยินพ่อแม่ของเฉินหูพูดกัน เขาก็รู้ว่าเฉินหูใช้ข้ออ้างไปทดสอบหน่วยลับว่า ไปทำกิจกรรมอาสาบ้านเด็กกำพร้าพร้อมกับเขา อูเหวินและหวังเสี่ยวเปา
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆอากาศหนาวเย็นจัดที่เย็นจัด และหิมะที่ตกลงมา ทำให้ด้านนอกมีผู้คนบางตา จนถึงช่วงเย็นผู้คนเริ่มเลิกงานออกมาเดินกันมากขึ้นเรื่อยๆ จิวโมไป๋ดื่มกาแฟแก้วที่ 5 ก็ถอนหายใจ เขาแน่ใจแล้วว่าเฉินหูยังไม่กลับจากการทดสอบจริงๆ ใบหน้าของจิวโมไป๋เย็นชา ดวงตาเป็นประกายสีแดงจางๆ เขาข่มความโกรธสูดลมหายใจสงบสติอารมณ์ เดินออกจากร้านกาแฟ
พนักงานเสิร์ฟสาวมองตามหลังจิวโมไป๋ด้วยสายตาแปลกๆ
จิวโมไป๋กลับไปที่เครื่องบิน และสั่งให้บินไปยังเมืองเทียนจิงทันที
เมืองเทียนจิงเป็นเป็นเมืองระดับ 3 อยู่ในพื้นที่ลึก มีผู้คนอยู่อาศัยแค่ 5 แสนคน ถ้าเทียบกับเมืองระดับ 3 อื่นๆ
เมืองเทียนจิงล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีทางเข้าออกเพียง 2 เส้นทางเท่านั้น คือทางรถไฟฟ้า และถนนที่สลับซับซ้อน ทำให้การเดินทางด้วยรถยากลำบาก คนที่เดินทางเข้าเมืองเทียนจิงจึงนิยมเดินทางด้วยรถไฟฟ้า
แม้ว่าเมืองเทียนจิงจะเป็นเพียงแค่เมืองระดับ 3 แต่เพราะภูเขาที่อยู่รอบๆเมืองเป็น เหมืองหยกคุณภาพสูง ธุระกิจหยกจึงโด่งดังมีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศมังกรและประเทศรอบนอก แต่ละวันมีผู้คนเข้ามาที่เมืองเทียนจิงเพื่อซื้อหยกชั้นเลิศ หรือเข้ามาเสี่ยงโชคพนันหยกนับไม่ถ้วน
ว่ากันว่าจำนวนคนเดินทางมายังเมืองเทียนจิงมีมากกว่า 2 หมื่นคนต่อวัน ทำให้มีการสร้างรถไฟฟ้าพิเศษสำหรับเมืองเทียนจิงโดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
คุณค่าทางเศรษฐกิจของเมืองจึงมีมากกว่าเมืองระดับ 2 หลายๆเมือง ถ้าไม่ใช้เพราะสถานที่ตั้งห่างไกลจากเมืองอื่นๆ และไม่มีสินค้ามีชื่ออื่น เมืองเทียนจิงจะถูกเลื่อนระดับเป็นเมืองอันดับ 2 ไปแล้ว
เมืองเทียนจิงมีตระกูลเพียงตระกูลจิง ปกครองเพียงแค่ตระกูลเดียว แตกต่างจากหลายๆเมือง ที่จะแบ่งเมืองให้กับหลายๆตระกูลได้เข้ามาครอบครองร่วมกัน และขยายกิจการตระกูล ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม
ตระกูลจิงเป็นเพียงแค่ตระกูลชั้นสูง ไม่ได้เป็นตระกูลราชวงศ์หรือตระกูลโบราณ
แต่พวกเขามีอำนาจการเงินที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตระกูลโบราณ ตระกูลจิงปกครองเมืองเทียนจิงมาหลายร้อยปี ทรัพย์สินที่สะสมมากมายมหาศาลจนไม่สามารถคาดเดาได้ ในหลายการปกครอง พวกเขามักจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนตระกูลราชวงศ์ใหม่ให้เข้าปกครองประเทศมังกร ทำให้พวกเขาสามารถอยู่อย่างมั่นคงไม่ถูกทำลาย ด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนสะสมมาหลายร้อยปี ทำให้ตระกูลจิงมีเคลือข่ายมากมาย ในปัจจุบันแม้ตระกูลจิงจะเป็นแค่ตระกูลชั้นสูง แต่ก็ไม่มีใครกล้าดูแคลน
การที่พวกเขาสามารถปกครองเหมืองหยกนับไม่ถ้วนได้ ในยุครุ่งอรุณ โดยที่ไม่มีใครกล้าหาเรื่อง ก็เป็นการบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของตระกูลจิงเป็นอย่างดี
จิวโมไป๋อ่านประวัติตระกูลจิงที่มีอยู่ในเว็บไซต์พูดคุยทั่วไป เขาก็ส่ายหัว ไม่มีข้อมูลอะไรที่มีประโยชน์เลย เขาทบทวนความทรงจำก็พบว่าตระกูลจิงถูกทำลายก่อนที่เขาจะเข้าหน่วยมังกรซ่อน เขาคาดเดาได้ว่า ตระกูลจิงถูกทำลายในช่วงผลัดเปลี่ยนไปพร้อมๆกับหลายตระกูล
เครื่องบินลงจอดที่อาคารหลังเล็ก จิวโมไป๋ยื่นตรานักรบฝึกหัด ให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยมังกรซ่อนของเมืองเทียนจิง ก่อนจะเดินจากอาคาร
ทันทีที่ออกจากอาคาร เขาก็สัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้เขาต้องคลายเสื้อกีนหนาวตัวนอกออกเล็กน้อย
เมืองเทียนจิงอยู่ห่างออกไปเกือบถึงเขตตะวันออกของประเทศมังกร ทำให้อากาศร้อนกว่าเมืองเทียนซูที่อยู่ใต้สุดของประเทศ ที่นี่แม้อากาศจะหนาวเย็น แต่ก็ไม่มีหิมะตก
จิวโมไป๋ยังไม่รีบไปตรวจสอบตำแหน่งโรงงานที่ได้รับมา เขาเดินสำรวจเมืองเทียนจิงเพื่อดูกิจการของตระกูลจิงก่อน เขาคาดเดา 9 ใน 10 ส่วนว่าตระกูลจิง จะต้องเกี่ยวข้องกับองค์กรที่ใช้ยีนพันธุ์กรรมอย่างแน่นอน
แต่ยังไม่ทันทีเขาจะได้เดินไปไหน อยู่ๆก็มีเสียงร้องทักดังขึ้นด้านหลัง
“เฮ้! น้องชาย”
จิวโมไป๋ชะงักและหันกลับไป เขาก็ต้องหรี่ตาหลบแสงแสงสะท้อนแวววาวจากเสื้อผ้าของอีกฝ่าย
—-