เมื่ออารมณ์ตื่นเต้นลดลง เขาก็เดินไปเปิดระบายน้ำในอ่างออก แล้วอาบน้ำจนสะอาดก่อนที่จะเปิดน้ำใส่ในอ่างเพิ่ม
เมื่อออกจากห้องน้ำเขาก็กินอาหารกลางวันที่สั่งมาเตรียมไว้ ความอยากอาหารทำให้เขากินอาหารจนหมดอย่างรวดเร็ว
เมื่อกินเสร็จแล้ว เขาก็หยิบโอสถบรรเทาร่างกายออกมาดื่มจนหมด และเริ่มต้นการฝึกฝึกร่างกายด้วยวิชาหลอมร่างกายามังกรเทวะพร้อมกับเร่งเร้าพลังเตาหลอม 9 สุริยันไปพร้อมกัน
ทั้งสองวิชาเป็นสุดยอดวิชาที่กลั่นร่างกายเมื่อใช้พร้อมกัน ร่างกายจะได้รับการเสริมสร้างรากฐานและร่างกายจนถึงระดับที่ไม่มีผู้ใดประเมินได้
แม้เขาจะเป็นผู้ฝึกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่าอนาคตร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นขนาดไหน
เด็กหนุ่มตระกูลหลงคนนั้นโชคร้าย ที่สายเลือดของเขาอ่อนแอ แม้จะปรับปรุงจนแข็งแกร่งขึ้นแล้วก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจเทียบกับ โลหิตมังกรพายุอัสนีที่เขาหลอมรวม
จิวโมไป๋ร่ายกระบวนท่าหลอมกายามังกรเทวะอีกครั้ง เพราะฝึกไปแล้วหนึ่งครั้ง ในครั้งนี้กระบวนท่าที่เขาใช้ มันดูลื่นไหล ดุดันทรงพลัง มากกว่าครั้งแรก
ไอหมอกสีขาวดูหนาแน่นมากกว่าเดิม
วิชาหลอมกายามังกรเทวะ มี 18 กระบวนท่า ทุกๆกระบวนท่าจะทำให้กล้มเนื้อเส้นเอ็นและข้อต่อถูกดึงศักยภาพของร่างกายออกมาถึงขีดสุด ทุกกระบวนท่าถูกสร้างให้สามารถสลับใช้ส่วนต่างๆของร่างกาย ทำให้เมื่อใช้กระบวนท่าอื่น กล้ามเนื้อส่วนเดิมจะถูกพัก ก่อนที่จะถูกใช้ และสลับกับไปมา
ด้วยการสร้างวิชาที่ยอดเยี่ยมมันช่วยให้ดึงศักยภาพถึงขีดสุดออกมาได้อย่างแท้จริง
จบรอบที่หนึ่งจิวโมไป๋ก็ หยิบโอสถบรรเทาร่างกายมาดื่มอีก 1 ขวด เมื่อออกกระบวนท่าจนจบรอบในแต่ละครั้ง เขาก็ดื่มโอสถบรรเทาร่างกาย
เมื่อฝึกครบ 4 รอบ ร่างกายของจิวโมไป๋ในตอนนี้เต็มไปด้วยคราบสีดำกลิ่นเหม็นจนคลื่นใส เขาหยุดทันทีที่ฝึกครบ 3 รอบ แล้วหยิบโอสถกลั่นกายาก่อยที่เข้าไปในห้องน้ำ
เมื่อออกจากห้องน้ำตอนนี้ก็เป็นช่วงกลางคืน เขาเดินมาเปิดอาหารเย็นแล้วกินจนหมด แล้วหยิบ ขวดแก้วสีเขียวเข้มออก
โอสถ ฟื้นฟูร่างกาย
สรรพคุณ ซ่อมแซม ฟื้นฟู ร่างกายที่เสียหาย
เมื่อดื่มจนหมดขวดไม่นานความรู้สึกเย็นสะบายก็กระจายทั่วร่างกาย กล้ามเนื้อ ผิวหนัง และกระดูก รู้สึกผ่อนคลายปลอดโปล่งโล่งสะบาย จนอยากล้มตัวลงนอน
แต่เขาต้องฝืนตัวไว้ ก่อนที่จะนั่งสมาธิท่องเคล็ดบ่มเพาะจิตวิญญาณหัวใจพิสุทธิ์
พริบตาเดียวก็เข้าสู่เช้าวันใหม่ แสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง
จิวโมไป๋ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาทอแสงสีทองแดงสว่างขึ้นวูบหนึ่งก่อนที่มันจะหายไป
เขาดูเวลาเล็กน้อย จากนั้นก็เก็บข้าวของทำความสะอาดห้องทำลายหลักฐานจนเรียบร้อย ก่อนที่จะออกไปลงชื่อออกจากโรงแรม
ในขณะที่กำลังจะเดินออกจากโรงแรม ได้มีชายหญิง 4 คนเดินเข้ามาขวางทาง
“สวัดดีครับ”ชายหนุ่มอายุ 18 ปี ร้องทักด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสุภาพ
จิวโมไป๋ชะงักเล็กน้อย ก่อนที่จะสังเกตุใบหน้าของพวกเขาดีๆ ชายเบื้องหน้าเป็นชายหนุ่ม ที่ปู่ของเขาหัวใจวาย เหลือบมองหญิงสาวด้านข้าง เป็นหญิงสาวคนนั้นจริงๆ
เมื่อมองชายหนุ่มอายุ 18 ปี ซึ่งดูแล้วเป็นรุ่นเดียวกันทั้ง 3 คน ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านหลังของพี่น้องฝาแฝด ใบหน้ามีสีหน้าไม่พอใจ มองเขาตาขวาง มุมปากเหยียดยิ้มดูถูก
ด้านหลังเป็นชายวัยกลางคนท่าทางเงียบสงบ แต่แววตาทอประกายเล็กน้อย จิวโมไป๋เหลือบมองแค่แวบเดียวก็รู้ว่าอีกฝ่ายต้องเป็นผู้บ่มเพาะขั้นที่ 4 อวัยวะภายใน
“มีอะไรรึป่าว”จิวโมไป๋ถามอย่างเสียงเรียบ
“ผมอยากจะขอบคุณ ที่คุณได้ช่วยชีวิตคุณปู่ของผมครับ ผมถังเจิ้งเฟย ทางนี้คือถังซื่อเหยา และ ถังหมิงหยุนครับ”ถังเจิ้งเฟย ยิ้มแนะนำตัวอย่างสุภาพ
“ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ ผมแค่บังเอิญอยู่ตรงนั้นพอดีเท่านั้น”จิวโมไป๋โบกมืออย่างไม่ใส่ใจก่อนที่จะทำท่าจะเดินออกไป
“เดียวก่อน พวกเราแค่อยากจะตอบแทนคุณ ได้โปรดช่วยรับไปด้วยครับ”ถังเจิ้งเฟยพูดอย่างจริงจัง ก่อนจะล้วง หยิบซ่องกระดาษออกมา
“ไม่ต้องผมไม่อยากได้อะไร ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อน”จิวโมไป๋ส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วรีบขอตัวออกไป แต่ถูกเด็กหนุ่มถังหมิงหยุนขวางไว้ก่อน
“ไม่รู้หรือใงว่าพวกเรารอกันตั้งชั่วโมงหนึ่งแล้ว จะออกไปเฉยๆอย่างนี้เหรอ? หรืออยากให้พวกเราตระกูลถังติดหนี้บุญคุณ”ถังหมิงหยุนพูดเสียงดัง เขาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยท่าทางเย่อหยิ่ง
จิวโมไป๋ขมวดคิ้วแต่ไม่พูดอะไร
“หมิงหยุน นายอย่าเสียมารยาท เขาเป็นคนช่วยคุณปู่นะ”ถังซื่อเหยาที่ยืนเงียบอยู่ด้านข้าง พูดขึ้นห้ามปรามถังหมินหยุน
“เหยาเหยา เธอเงียบไปเลย เธอไม่รู้หรอกว่าคนพวกนี้มันมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรบ้าง”ถังหมิงหยุนสะบัดแขนออก แล้วเดินมาเผชิญหน้า จิวโมไป๋
“ถ้าไม่อยากเอาเงินก็รีบๆพูดมาว่าอยากได้อะไรจะได้จบๆไปเสียที ฉันไม่อยากยุ่งกับคนชั้นต่ำแบบแก”
“ถอยไป”จิวโมไป๋พูดน้ำเสียงเย็นชา พลังจิตวิญญาณ ถูกเรียกออกมาในเสี้ยววินาที
ถังหมิงหยุนที่กำลังทำท่าอวดดีอยู่ รู้สึกถึงรังสีคุกคามที่วาบผ่านในเสี้ยววินาที แต่แค่นั้นก็ทำให้เขาสั่นไปด้วยความกลัว จนเผลอถอยหลังไป 1 ก้าว
ถังเจิ้งเฟย ที่กำลังจะร้องห้ามชะงักอย่างแปลกใจ
ไม่รอให้ใครพูดอะไรอีก จิวโมไป๋รีบเดินออกจากโรงแรมไม่เหลียวหลังกับมามองอีก
“หมิงหยุน นายทำบ้าอะไร เขาเป็นคนช่วยคุณปู่นะ นายไปช่มขูเชาทำไม”ถังซื่อเหยาตีที่ไหล่ถังหมิงหยุนอย่างแรง
ถังหมิงหยุนยืนบื้อไม่ตอบโต้อะไร
ถังเจิ้งเฟยส่ายหน้าเบาๆอย่างหนักใจ
“ให้ผมตามไปไหมครับนายน้อย”ชายวัยกลางคนถามขึ้น
“ไม่ต้อง ตอนนี้เขาคงอารมณ์ไม่ดีอยู่ ลุงเฉินส่งคนไปสืบข้อมูลของเขามาให้ผมที เดียวผมจะไปขอบคุณเขาภายหลัง”ถังเจิ้นเฟยพูดอย่างใจเย็น แววตาของเขาทอประกาย