จิวโมไป๋รู้ได้ทันทีว่าจิงมู่หยานมาหาเขาโดยเฉพาะ เขาไม่แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังทำภารกิจที่นี่ ในหน่วยมังกรซ่อนจะต้องมีคนของตระกูลจิงอยู่อย่างแน่นอน การค้นหาว่าเขากำลังทำภารกิจอะไร มันไม่ได้หายากเย็นนัก
จิวโมไป๋ลูบคางเบาๆ เขาก็คิดอะไรบางอย่างได้ มุมปากของเขากระตุกยิ้มเย็นชา…
“เจ้านั้นมาทำภารกิจที่นี่แน่นะ”จิงมู่หยางถามชายร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“ใช้ครับนายน้อย สถานที่นี่ไม่ผิดแน่”
“หึ! กล้ามาก! หลังจากลอบทำร้ายฉันแล้ว ยังกล้ามาทำภารกิจในอาณาเขตของฉัน ทำเหมือนไม่เห็นฉันคนนี้อยู่ในสายตา”จิงมู่หยางกัดฟันกรอด มองไปยังอาคารมืดเบื้องหน้าด้วยความโกรธแค้น ถ้าเขาไม่ถูกลอบวางยานอนหลับ เขาจะได้เข้าหน่วยมังกรซ่อน อำนาจในตระกูลของเขาก็จะเพิ่มขึ้น ไม่มีใครกล้าดูแคลนเขาได้อีก
แต่ทุกอย่างก็ต้องพังทลายลง เพราะจิวโมไป๋เพียงคนเดียว!
“นายน้อย ปล่อยให้พวกเรา จัดการคนไม่รู้ที่ต่ำที่สูงคนนั้นเถอะ”ชายร่างใหญ่ประจบ
จิงมู่หยางถอนสายตาหันกลับมามองชายร่างใหญ่และกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง
“หึ! งานนี้มันไม่ได้ยากอะไรเลย ถ้าแก็งของพวกแก ไม่สามารถจัดการคนตัวเล็กๆอย่างมันได้ ก็ไม่ควรอยู่ภายใต้ตระกูลจิงอีก”
“ครับนายน้อย ผมจะจัดการตามที่นายน้อยต้องการ”ชายร่างใหญ่ยิ้มรับคำ แต่ในใจเย้ยหยัน ถ้าไม่มีตระกูลหนุนหลัง คนตรงหน้าก็ไม่มีอะไรดีเลย
“ไปได้แล้ว อย่าลืมทำให้มันอยู่ในสภาพปางตายที่สุด แล้วติดต่อลงมา ฉันจะไปดูว่ามันยังจะดีใจอยู่ไหมที่ลอบทำร้ายฉัน จนเข้าหน่วยมังกรซ่อนได้”จิงมู่หยางพูดจบก็กลับเข้าไปนั่งรอในรถตู้สีดำ
ชายร่างใหญ่ก้มหัวรอให้ประตู้รถตู้ปิด เขาก็หันมาทางลูกน้องของเขา
“ขึ้นไป! ตรวจดูรอบๆ ให้ดีอย่าให้เป้าหมายหนีไปได้”
“ครับหัวหน้า!”ลูกน้องทั้ง 14 คน ตอบรับพร้อมกัน
พวกเขาเดินขึ้นวนหาบันไดขึ้นชั้นที่ 2 ในที่สุดก็พบ บันไดปูนอยู่ในสภาพแตกทรุดโทรมราวกับจะพังได้ทุกเมื่อ คราบสีดำน้ำตาลและฝุ่นสกปรกแกะแน่นตามทางเดิน พนังทางขึ้นมีตะไคร่น้ำสีเขียวเกาะแน่น ทำให้รู้ว่าตรงจุดนั้นมีรอยรั่วน้ำตกลงตรงบริเวณนั้นบ่อยๆ
หัวหน้ามองไปที่บันได คิ้วของเขาก็ขมวดขึ้น เขาพบว่าบนบันไดมีฝุ่นเกาะแน่น ราวกับว่าไม่เคยมีใครเหยียบขึ้นไป
“มีทางขึ้นไปที่อื่นไหม?”หัวหน้าหันมาถามบูกน้องคนสนิท
“นอกจากทางขึ้นนี้ ยังมีทางขึ้นอีก 2 ทางครับ ทางหนึ่งเป็นทางขึ้นแบบนี้ อยู่ฝั่งตรงข้ามของอาคาร อีกทางคือบันไดหนีไฟ”
หัวหน้าพยักหน้าก่อนจะขึ้นไป
“ไปต่อ”
ทุกคนขึ้นบันไดไปพร้อมกัน พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็นยะเยือก พวกเขาก็ไม่แปลกใจ เพราะในตอนนี้อยู่ในช่วงฤดูหนาว แม้ว่าเมืองเทียนจิงจะอยู่เขตร้อนหิมะไม่ตก แต่ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงอากาศที่หนาวเย็นในช่วงเวลากลางคืน
พวกเขาเดินไปขึ้นไปชั้นที่ 2 ก่อนจะแยกกันเดินสำรวจทั้งชั้น เมื่อไม่พบจิวโมไป๋ พวกเขาก็รวมตัวกันและขึ้นไปชั้นต่อไปพร้อมกัน เมื่อขึ้นไปชั้นต่อไปทุกๆครั้งพวกเขาจะแยกกันตรวจสอบทั้งชั้น เมื่อตรวจสอบเสร็จพวกเขาก็ขึ้นไปชั้นต่อไป พวกเขาทำแบบนี้เรื่อยๆ
เมื่อขึ้นไปสูงขึ้น อากาศก็หนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีหมอกปกคลุมอยู่ตรงบันไดและห้องทั้งหมดในชั้น
“หัวหน้า ผมว่ามันแปลกๆนะครับ”อยู่ๆลูกน้องคนหนึ่งก็พูดขึ้น
“แปลกอะไร”หัวหน้าถามกลับ เขาก็รู้สึกถึงความผิดปกติเช่นกัน
ลูกน้องคนนั้นลังเลก่อนจะชี้ไปด้านหลังและพูดขึ้น”เราเดินขึ้นไปหลายชั้นแล้ว แต่…”
ทุกคนหันไปมอง ก็เห็นตัวอักษรสีน้ำเงินซีดเก่าจนแทบมองไม่เห็น
ชั้นที่ 8
“อืม…”ทุกคนตกอยู่ในความคิด พวกเขาพยายามนึกให้ออกว่าพวกเขาเดินผ่านไปกี่ชั้น พวกเขาก็จำไม่ได้ แต่ที่แน่ใจคือเดินผ่านไปมากกว่า 8 ชั้นอย่างแน่นอน พวกเขาหันไปมองอาคารฝั่งตรงข้ามพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย อาคารหลังนั้นเป็นอาคารแฝดของอาคารที่พวกเขายืนอยู่
พวกเขานับตั้งแต่ชั้นล่างมาถังฉันที่อยู่เท่ากัน
ชั้นที่ 8!
“นี่…”หัวหน้าจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เขาก็หยุดชะงัด เพราะอาคารฝั่งตรงข้ามชั้นที่ 8 พอดีกับที่พวกเขาอยู่มีร่างของหญิงสาวในชุดสีขาวยืนอยู่ เธอกำลังหันหน้ามองตรงมาทางพวกเขา
แต่ที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงคือ หญิงสาวไม่มีใบหน้า!
“อ๊าาาาก!”ลูกน้องคนหนึ่งกรีดร้องด้วยความตกใจ และหันหลังจะวิ่งหนีไป
หัวหน้าคว้าร่างของคนๆนั้นก่อนที่จะวิ่ง
“ใจเย็นๆ ที่นี่มันชั้นที่ 8 ถ้าวิ่งมั่วตกลงไป ศพของแกจะไม่อยู่ในสภาที่ดีแน่”
“หะ…หัวหน้า”ลูกน้องคนหนึ่งส่งเสียงร้องดังขึ้น
หัวหน้าหันกลับไปมองตามสายตาของลูกน้อง เขาก็เห็นร่างของผู้หญิงชุดขาวยืนอยู่หน้าระเบียงเหมือนเดิม ด้วยท่าทางเดิม แต่ร่างของเธอลงไปอยู่ที่ชั้น 7
“อึก!”หัวหน้ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาพลันนึกไปถึงภารกิจที่เป้าหมายของเขากำลังทำอยู่
ในโลกนี้มีผีจริงๆ!
ในชั่วเวลาที่เขาเผลอ หญิงสาวไร้ใบหน้าลงไปชั้นที่ 7
“หัวหน้าเราจะทำยังไงดี”ลูกน้องคนสนิทกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเทา ตามหนังสยองขวัญ ถ้าปล่อยให้หญิงสาวไร้หน้าลงมาเรื่อยๆ ไม่นานเธอจะต้องมาถึงที่พวกเขาอยู่อย่างแน่นอน
หัวหน้ากัดฟันแน่นใช้ความคิด ก่อนจะตัดสินใจทันที
“ลงไป!”
“หัวหน้าถ้าพวกเรากลับไป เจ้าลูกหมาด้านล่างจะเล่นงานพวกเราแน่”ลูกน้องคนสนิทเอ่ยเตือน
“ลงไป! พวกเราไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอันตรายที่ไม่รู้จัก!”หัวหน้าตัดสินใจเด็ดขาด
ทุกคนพยักหน้ารับ ก่อนที่พวกเขาจะเดินลงบันไดไปเรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัว พวกเขาก็เห็นตัวอักษรสีน้ำเงินซีดที่คุ้นเคย
ชั้นที่ 8!
“ผีตีกำแพง!”ลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้น ร่างของพวกเขาสั่นสะท้านด้วยความหนาวเย็น พวกเขาหยุดหอบหายใจมองไปยังอาคารฝั่งตรงข้ามก็ไม่เห็นร่างของหญิงสาวไร้หน้า
พวกเขาบางคนก็ถอนหายใจ
“ดะ…ด้านล่าง”เสียงหนึ่งดังขึ้น พวกเขามองลงไปก็เห็นหญิงไร้หน้ายืนอยู่ทางเชื่อมระหว่างสองอาคาร เธอยืนเฉยไม่ขยับ เงยหัวขึ้นมามองพวกเขา
เธอกำลังขึ้นมา!
ทุกคนกรีดร้องในใจโดยไม่ได้นัดหมาย…
ทางด้านจิงมู่หยางกำลังนั่งกระดกเหล้าอย่างสะบายอารมณ์ในรถตู้ที่ถูกดัดแปลง
ก๊อกๆ
จิงมู่หยางเงยหน้าขึ้นเห็นชายร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ด้านนอก เขาขมวดคิ้วและเปิดประตูรถตู้สีดำ
“มีอะไร”
“พวกเราจับคนได้แล้วครับ”
“ดีมาก”จิงมู่หยางพยักหน้าด้วยสีหน้าพอใจ เขาลวจากรถและเดินตามชายร่างใหญ่ขึ้นอาคารไป
โดยไม่ทันได้คิดว่า เขาจำใบหน้าของชายร่างใหญ่ไม่ไ่ด้
จิงมู่หยานย่นหน้าเดินขึ้นบันได เขาฝืนใจเหยียบคราบสกปรกบนขั้นบันได เขาเดินไปพลางบ่นไม่พอใจไปพลาง
ทำไมเขาไม่สั่งให้พาจิวโมไป๋ลงมาจัดการด้านล่าง
จิงมู่หยานเดินตามร่างของชายร่างใหญ่ไปเรื่อยๆ เวลาผ่านไปนานจน เขาเริ่มที่จะสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ
“เฮ้! เมื่อไหร่จะถึง”จิงมู่หยานร้องถามเสียงดัง แต่ชายร่างใหญ่ไม่ตอบ
“เฮ้! ไม่ได้ยินที่ฉันถามหรือไง”จิงมู่หยานตะโกนเสียงดังด้วยความไม่พอใจ
แต่ชายคนนั้นก็ยังไม่ตอบ เขาเดินหน้าต่อไป
จิงมู่หยานรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังถูกเมิน มันทำให้เขาโกรธทันที แววตากลายเป็นแระกายดุร้าย เขาไม่พูดอะไรชกหมัดไปที่กลางหลังของชายร่างใหญ่ หมัดของเขาอัดแน่นไปด้วยพลังกดดันอันแข็งแกร่ง ถ้าคนธรรมดาโดนหมัดนี้อาจตายได้ทันที
ตูม!
หมัดของจิงมู่หยานชกทะลุชายร่างใหญ่ ก่อนที่จะชกไปที่พนังอาคาร หมัดของเขาทำลายผนังอาคารจนถล่มลงมา เศษฝุ่นฟุ้งหระจายไปทั่วบริเวณ ตะไคร่น้ำสีเขียว ร่วงลงมาที่ร่างของเขา
“อ๊าก”ใบหน้าของจิงมู่หลานบิดเบี้ยว เขารู้สึกขยะแขยง สั่นสะท้านไปทั่วร่าง เขาปัดฝุ่นและตะไคร่น้ำออก แต่ไม่สามารถปัดได้ มันยิ่งทำให้เสื้อผ้าของเขาเลอะกว่าเดิม
จิงมู่หยานมองไปรอบๆด้วยความโกรธ แต่เมื่อไม่พบชายร่างใหญ่ เขาก็พบอะไรผิดปกติ บันไดโล่งแบบนี้ ชายร่างใหญ่ไม่สามารถหลบหมัดที่ชกจากด้านหลังของเขาได้อย่างแน่นอน
อยู่ๆกระดูกสันหลังของจิงมู่หยานก็เย็นยะเยือกแลนไปยังท้ายทอย ความรู้สึกหวาดกลัวที่ไม่เคยมีมาก่อนก่อตัวขึ้นในจิตใจ
เขามองไปรอบๆด้วยใบหน้าสั่นเทา
“เฮ้! ทุกคนอยู่ที่ไหน”จิงมู่หยานตะโกนเสียงดัง แต่ไม่มีใครตอบ เขาเริ่มตัวสั่นด้วยความกลัว เขาเดินลงบันได แต่ยิ่งเดินเท่าไหร่เขายิ่งเหนื่อยอากาศก็หนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆจนน่าแปลกใจ
เดินอยู่ครู่ใหญ่ เขาก็พึ่งค้นพบว่าตัวเองกลับมาอยู่ที่เดิม เขาหาเลขชั้นก็พบว่าเขาอยู่ชั้นที่ 7
เขาเดินกลับมาชั้นที่ 4 เกือบ 10 รอบ
จิงมู่หยานตั้งสติ เปิดกำไลข้อมือ เขาก็พบว่าไร้สัญญาณ
“เป็นไปไม่ได้!”จิงมู่หยานกรีดร้อง คลื่นสัญญาณมีอยู่ทุกที่ในโลก แม้แต่ใต้ทะเลยังสามารถใช้สัญยาณได้ อาคารร้างแห่งนี้ไม่มีได้ยังไง!
จิงมู่หยานเริ่มบ้าคลั่ง เขาเดินไปมา มือลูบแขนลดความหนาวเย็น ก่อนที่เขาจะมองไปยังระเบียง สายตาของเขาก็พบกับผู้หญิงในชุดสีขาว ไร้ใบหน้า
“อ๊ากกกก!”จิงมู่หยานกรีดร้องบ้าคลั่ง เขาวิ่งลงไปอย่างไร้สติ โชคดีที่เขาไม่พลาดตกช่องหว่างระหว่างอาคาร
“แฮ่กๆๆ”จิงมู่หยานทรุดลงนั่งคุกเขาหน้าเลขชั้นที่ 7 ใบหน้าของเขาขาวซีด ผมที่เซ็ทมาอย่างดีถูกมือของเขาเอง ขยี้จนไม่เป็นทรงราวกับคนบ้า
จิงมู่หยานตั้งสติหันไปที่ระเบียงอาคารตรงข้าม เขาก็ไม่พบร่างของหญิงสาว เขาจึงเดินไปริมระเบียง เขาไม่เห็นหญิงสาวในอาคารฝั่งตรงข้าม เขามองไปรอบๆจนมองลงไปใต้อาคารที่ตัวเองกำลังยืนอยู่ เขาก็อ้าปากด้วยความตกใจ
หญิงไร้หน้ายืนอยู่ด้านล่างกำลังเงยหน้าตั้งฉากกับเขาพอดี
“อ้าาา!”จิงมู่หยานกรีดร้องสุดปอดดึงตัวกลับ ก่อนจะทรุดลงกับพื้น เขาใช้ขาเตะไปมาตะเกียกตะกายถอยไปด้านหลังจนชิดผนังด้านหลัง ติดกับบันได
“เกิดอะไรขึ้น! นี้มันบ้าอะไร! ทุกคนหายไปไหนกันหมด! อ๊าาาก!!!”จิงมู่หยานกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่เขาจะหอบหายใจอย่างหนัก เขาขยี้ผมอย่างรุนแรง จนผมหลุดออกมาหลายกำมือ เมื่อตั้งสติได้เขาก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ระเบียง เขาก้มลงด้วยความกลัวเขาก็ไม่พบผู้หญิงไร้หน้า เขาก็ถอนหายใจ
แต่ในตอนนั้นเอง
ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบไร้เสียงใดๆ เสียงฝีเท้าเหยียบเดินบันไดดังขึ้น มันเป็นเสียงเหยียบเศษฝุ่น เสียงดังมาจากชั้นล่าง
ใบหน้าของจิงมู่หยานซีด เขาไม่ต้องใช้ความคิดเขาก็รู้ว่า’สิ่ง’ที่กำลังเดินมามันคืออะไร!
จิงมู่หยานหันหลังวิ่งขึ้นบันไดไม่คิดชีวิต แต่เมื่อขึ้นไปชั้นต่อไป เขาก็พบว่ากลับมาที่ชั้นที่ 7 เหมือนเดิม!
เสียงฝีเท้าค่อยๆใกล้ขึ้นมาเรื่อย บรรยากาศโดยรอบลดลงอย่างช้าๆ จนเริ่มเกิดหมอกสีขาว
จิงมู่หยานเดินไปที่ระเบียงเขาครุ่นคิดว่าจะกระโดดลงไปดีหรือไม่ แต่เมื่อคำนวนระยะแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 5 กระดูกเขาก็ไม่สามารถดิ่งลงไปจากชั้นที่ 7 ได้
เสียงฝีเท้าดังใกล้เขามา อากาศโดยรอบลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของจิงมู่หยานบิดเบี้ยวร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัว เขาสัมผัสได้ว่า’สิ่ง’นั้นอยู่ชั้นล่าง
จิงมู่หยานเอาหลังพิงพนังข้างทางขึ้นสุดบันได เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนเหลือไม่กี่ขั้น
5 ขั้น หมอกสีขาวหนาแน่นขึ้นจนพื้นเปลี่ยนเป็นสีขาว
4 ขั้น
3 ขั้น จิงมู่หยานหลับตาแน่น
2 ขั้น
1 ขั้น! จิงมู่หยานลืมตาขึ้นก่อนจะหมุนตัว ใช้หมัดที่ห่อหุ้มด้วยกฎแห่งธาตุทองระเบิดพลังออกมาอย่างรุนแรง!
เปรี้ยง! คลื่นพลังระเบิดออกอย่างรุนแรง ทำลายสิ่งก่อสร้างโดยรอบจนพังพินาศ บันไดปูนด้านล่างและด้านบนถล่มลงไป โชคดีที่โครงสร้างสำคัญไม่ถูกทำลาย ไม่อย่างนั้นอาคารจะต้องถล่มลงมาอย่างแน่นอน
“แฮ่กๆ แฮ่กๆ”จิงมู่หยานหอบหายใจอย่างหนัก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก และหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่าๆๆ ผีกระจอกนึกว่าคนอย่างฉันจะกลัวแกอย่างนั้นเหรอ ฮ่าๆ”จิงมู่หยานหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ก่อนที่เขาจะหยุดชะงักกึก ความรู้สึกเย็นยะเยือกแลนไปตามกระดูกสันหลัง ความกลัวไร้ที่มากัดกินหัวใจ เขาค่อยๆหันหลังอย่างช้าๆ มือของเขาสั่นระริกอย่างไม่อาจห้ามได้
เมื่อเขาหันไป ใบหน้าของเขาก็แข็งค้าง หยิงสาวไร้ใบหน้ายืนห่างกับเขาแค่ 5 นิ้ว ใบหน้าของพวกเขาเกือบจะชนกัน
จิงมู่หยานช็อกค้าง แม้แต่การหายใจก็ยังลืม
หญืงไร้ใบหน้า ค่อยยกมือขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาของจิงมู่หยานกวาดไปมาอย่างบ้าคลั่ง ร่างของเขาค้างอยู่ท่าเดิมไม่สามารถขยับได้ ราวกับไม่ใช่ร่างกายของตัวเอง
มือของหญิงไร้ใบหน้ายกมาถึงระดับใบหน้า
จิงมู่หยวนกรีดร้องสุดเสียงในใจ ความคิดมากมายไหลเข้ามาในความคิด เขาคิดว่าตัวเองจะต้องตายแน่ๆ!
แต่หญิงไร้ใบหน้าไม่ได้วางมือที่คอของเขาอย่างที่คิด
หญิงไร้ใบหน้าวางมือสองข้างที่หัวของตัวเอง
จิงมู่หยานงุนงงไม่เข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในชั่วเวลานั้นเอง
กร๊อบ! หัวของหญิงไร้ใบหน้าบิดกลับด้าน
จิงมู่หยานนัยน์ตาหดเล็กลง ตาเบิกกว้าง ก่อนที่ร่างของเขาจะล้มทั้งยืน
—-