วูบ!
คนทั้งแปดเคลื่อนไหวพร้อมกัน พวกเขาพุ่งเข้าหาจิวโมไป๋ที่อยู่ตรงกลางจากรอบทิศทาง หมัด เท้า แหวกอากาศ ส่งเสียงกรีดร้องดังน่าสะพรึงกลัว กระบวนท่าผสานโจมตีจากรอบทิศปิดทางหลบหนีทั้งหมด
จิวโมไป๋ยืนนิ่งไม่ขยับ ราวกับกำลังเกรงกลัวการโจมตีที่กำลังเข้ามา
ผู้คนที่เห็นต่างก็มีใบหน้ามืดมิด พวกเขาต่างก็ลงพนันว่าจิวโมไป๋จะสามารถต้านการโจมตีอย่างน้อยก็ 10 วินาที ไม่คิดเลยว่าจิวโมไป๋จะกลัวยืนเฉยๆไม่หลบไม่ตอบโต้
ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องอาหารส่วนตัวที่อยู่ด้านในของห้องอาหาร ชายสองคนกำลังมองการต่อสู้ของจิวโมไป๋ขณะที่ทานอาหาร ราวกับว่ากำลังชมการแสดงอยู่
“นายว่าคนของประเทศมังกรคนนั้น จะทนได้กี่วินาที”อิวะ โซตะใช้ตะเกียบคีบเนื้อและข้าวขึ้นมาและก้มหน้าทานอย่างใจเย็น เขาไม่คิดว่าจิวโมไป๋จะอ่อนแอจนถูกกำจัดง่ายๆ
นาคามูระ อิโทซะไม่ตอบ เขาหยุดมือวางตะเกียบลงบนโต๊ะอาหาร และลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป
อิวะ โซตะชะงักค้างมองหลังเพื่อนของเขาที่ออกไปด้วยความสับสน ก่อนจะหันกลับไปมองการต่อสู้ดวงตาของเขาก็หรี่เล็กลง ก่อนที่เขาจะวางตะเกียบลงและเดินตามหลังเพื่อนของเขาออกจากห้องอย่างรวดเร็ว
ห้องอาหาร
ผู้คนมองไปยังจิวโมไป๋ที่ยืนอย่างปลอดโปร่งด้วยความตกตะลึง บนพื้นมีร่างแปดร่างนอนบาดเจ็บไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก
คนที่มีระดับการบ่มเพาะพลังต่ำกว่าขั้นที่ 5 กระดูก มองไม่เห็นกระบวนท่าของจิวโมไป๋ ก่อนที่การโจมตีจะถึงร่างของจิวโมไป๋ เพียงพริบตาทุกคนก็ถูกกำจัด ผู้ที่มีระดับการบ่มเพาะพลังสูงมองเห็นเพียงมือของจิวโมไป๋ที่โบกขึ้นเท่านั้น!
จิวโมไป๋ไม่สนใจผู้คนที่กำลังพูดกัน เขาค่อยๆหันมามองที่ชายหนุ่มสองคนที่เดินเข้ามาอย่างช้าๆ พลังกดดันที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายสังหาร บ่งบอกว่าทั้งสองต้องฆ่าผู้คนไปไม่ต่ำกว่าร้อยคน
อายุของทั้งสองเพียง 20 ต้นๆ เท่านั้นแต่กลิ่นอายสังหารเหนือกว่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของประเทศมังกรอย่างเทียบไม่ติด
นี้เป็นความแตกต่างระหว่างการฝึกฝนดอกไม้ในเรือนกระจก ที่ไม่สามารถทนแรงลมฝนได้ กับดอกไม้ป่าที่แข็งแกร่ง
“คนที่พวกนายส่งมา ไม่ค่อยมีฝีมือเท่าไหร่ พวกนายอยากต่อสู้ไหม”จิวโมไป๋กล่าวท้าทายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พลังกดดันอันแข็งแกร่งโถมเข้าหาทั้งสองอย่างรุนแรง
แต่ทั้งสองยังคงเดินเข้ามาราวกับว่าไม่ถูกพลังกดดันโจมตี
จิวโมไป๋เก็บรอยยิ้มซ่อนความตื่นเต้นไม่แสดงออกมา
เมื่ออยู่ประเทศมังกร เขาต้องระวังตลอดเวลาว่าจะเผลอแสดงความแข็งแกร่งออกมาจนถูกตระกูลชั้นสูงค้นพบ และครอบครัวถูกเล่นงาน ทำให้เขาต้องซ่อนความแข็งแกร่งตลอดเวลา
การมาที่ประเทศเกาะเป็น เหมือนเป็นการปลดล็อคข้อจำกัดบางอย่าง ที่กักขังเขาเอาไว้
เหตุผลที่เขากล้าแสดงความแข็งแกร่งที่ประเทศเกาะ ก็เพาะว่าเขามาที่นี่ในฐานะผู้ร่วมทำภารกิจพิเศษ
ภารกิจพิเศษเป็นภารกิจระดับสูงที่จะถูกเก็บเป็นความลับ ไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆของภารกิจ
เขาเป็นผู้ร่วมทำภารกิจพิเศษนี้ ทำให้ตัวตนของเขาในระหว่างทำภารกิจจะถูกเก็บเป็นความลับ คนที่มีระดับต่ำกว่า 7 ดาวไม่สามารถค้นหาข้อมูลรายงานภารกิจของเขาได้ว่าเขาทำอะไรในระหว่างภารกิจ
ไม่ต้องพูดถึงคนของประเทศเกาะ พวกเขาจะไม่มีทางค้นหาเขาที่ประเทศมังกรได้
ทำให้เขาสามารถแสดงความสามารถทั้งหมดออกมา โดยไม่ต้องกลัวถูกค้นพบ
เขาลอบมองชายทั้งสองแล้วครุ่นคิดบางอย่าง เขารู้สึกคุ้นเคยกับทั้งสองเล็กน้อย เหมือนกับว่าทั้งสองมีชื่อเสียงในอนาคต เขาครุ่นคิดระลึกความทรงจำก็ไม่สามารถค้นพบตัวตนของทั้งสองได้ ในอดีตพวกเขาอาจเป็นเส้นขนานไม่รู้จักกัน
ในช่วงเวลาที่ประเทศมังกรกำลังอยู่ในช่วงวิกฤต ประเทศรอบข้างเข้าโจมตี ประเทศเกาะเป็นกำลังหลักที่โจมตีประเทศมังกร เขาจดจำศัตรูที่เข่นฆ่าคนของประเทศมังกรได้เป็นอย่างดี
ถ้าทั้งสองเป็นศัตรูเขาก็สามารถจดจำได้ทันที การที่เขาแค่คุ้นเคย แสดงว่าทั้งสองไม่ได้เป็นศัตรูกับเขาและประเทศมังกรในทางตรง
ไม่ใช้คนของประเทศเกาะทุกคนที่โจมตีประเทศมังกรด้วยความโลภ
ตัวอย่างก็คือพันเอกนาคามูระ เคนชิดะ ที่มารับเขาและเจ้าอาวาสหงหมิงที่สนามบิน เขาและตระกูลนาคามูระไม่ได้เป็นศัตรูกับประเทศมังกร ที่เขาจำได้มีแค่ เขาได้ข่าวว่าตระกูลนาคามูระได้รับโชคบางอย่าง พวกเขาจึงย้ายออกจากประเทศเกาะทั้งตระกูล พวกเขาเข้ามิติลึกลับ และหายไปไม่ปรากฏตัวอีกเลย…
อิวะ โซตะที่เดินมาช้ากว่านาคามูระ เคนชิดะเล็กน้อย เมื่อได้ยินคำพูดของจิวโมไป๋ใบหน้าของเขาก็ตึงทันที เพราะคนที่ถูกจิวโมไป๋จัดการเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาของเขาเอง การที่อีกฝ่ายพูดแบบนั้นเป็นการดูถูกเขาอย่างรุนแรง
อิวะ โซตะสูดลมหายใจระงับอารมณ์ก่อนจะเดินผ่าน นาคามูระ เคนชิดะ ไปเผชิญหน้ากับจิวโมไป๋และกล่าวขอโทษด้วยท่าทางจริงจัง
“ขอโทษที่ทำให้ขุ่นเคือง ฉันเป็นคนส่งคนพวกนี้ไปเอง ดังนั้นค่าเสียหายทั้งหมดฉันจะเป็นคนจ่ายเอง”
จิวโมไป๋พยักหน้าช้าๆไม่พูดอะไร ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันพลังกดดันที่มองไม่เห็นเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง จนโต๊ะ เก้าอี้ จาน ชามที่ล้มลงบนพื้นสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
—