ยิ่งจิวโมไป๋เดินลงบันได หมอกสีเขียวแปลกประหลาดก็ยิ่งหนาแน่นขึ้น กลิ่นสมุนไพรฉุนยิ่งรุนแรง ในตอนแรกเมื่อเขาได้กลิ่นเขาก็คิดว่ามันเป็นหมอกยา ที่เกิดจากการหลอมโอสถ แต่เมื่อตรวจสอบ เขาก็พบว่ามันไม่ใช่หมอกยา เขาไม่เคยเห็นหมอกลักษณะแบบนี้มาก่อน
เท้าของเขาสัมผัสถึงพื้นห้องใต้ดิน ทัศนวิสัยโดยรอบก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกสีเขียว ยังดีที่เนตรวิญญาณสามารถมองผ่านหมอกประหลาดได้
เขามองไปรอบๆพบว่าห้องนี้เป็นห้องใต้ดินธรรมดา ที่มีอุปกรณ์วางระเกะระกะรกเต็มห้อง เขากวาดตามองไปรอบๆไม่มีอะไรน่าสงสัย
เขาเดินค้นสิ่งของทีละชิ้น เขาไม่เชื่อว่าจอมมารจะลงมานั่งเล่นเฉยๆหลายนาทีโดยไม่ทำอะไร
เขาค้นสิ่งของอย่างรวดเร็วไม่นานก็ค้นไปครึ่งห้อง จนกระทั่งสายตาของเขาไปสะดุดที่ตราเหล็กสีแดงส้มหม่นไร้สีสันดูแล้วเป็นแค่ตราเหล็กธรรมดาไร้ค่า มันถูกวางไว้ในกล่องสิ่งของดูเหมือนว่าจะเป็นของที่แม้แต่เจ้าของก็ลืม
จิวโมไป๋ยิ้มเล็กน้อย เขาจำสัญลักษณ์บนหน้าของตรานี้ได้ มันเป็นตราของเผ่าพันธุ์มิติชั้นกลางที่จอมมารเปิดให้พวกมันบุกโลก
จิวโมไป๋เลิกรื้อค้น เพราะเขาพบสิ่งที่ตามหาแล้ว เขาใช้เนตรวิญญาณมองตรา ก็พบพลังงานบางอย่างห่อหุ่มมันอยู่ พลังนี้ไม่ใช่พลังวิญญาณ
จิวโมไป๋ตรวจสอบมันอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ค้นพบความผิดปกติ หมอกสีเขียวที่อัดแน่นในห้อง ดูเหมือนว่ากำลังถูกตราดูดอย่างช้าๆ ยิ่งเวลาผ่านไปสีสันของตราก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
“ตรารับส่ง?“จิวโมไป๋นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เขาตรวจสอบอีกครั้ง เขาก็มั่นใจว่าตราในมือของเขาเป็นตรารับส่งจริงๆ!
เมื่อหาคำตอบได้ เขาก็รู้แล้วว่าทำไมจอมมารถึงสามารถเปิดประตูมิติได้
เขาตรวจสอบตราก็พบว่ามันพึ่งจะฟื้นฟูไปไม่ถึง 1 ใน พัน ดูจากเวลาเขาก็รู้ว่าจอมมารพึ่งจะได้รับตรามาได้ไม่นาน
ตรารับส่งมีคุณสมบัติตามชื่อคือ รับ-ส่ง ยิ่งตราสะสมพลังมากขึ้นเท่าไหร่ ระดับของตราก็ยิ่งสูงขึ้น ความสามารถในการรับส่งจะเพิ่มขึ้น
ตราในมือในตอนนี้มีความสามารถเพียงรับสงคำพูดไม่หรือตัวอักษรกี่คำ
เมื่อตราสมบูรณ์ก็จะสามารถเปิดประตูมิติเชื่อมต่อไปยังสถานที่มีตราอยู่ได้
คำอธิบายเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถฝืนกฎสวรรค์ สามารถเข้าไปในมิติที่มีกฎสวรรค์คุ้มครองได้
แต่อันที่จริงแล้วมันมีเงื่อนไขที่ยากลำบากอยู่คือ
ข้อที่หนึ่ง ตรารับส่งจะมีเจ้าของเพียงคนเดียวเท่านั้น เมื่อเจ้าของตายตราจะสูญเสียความสามารถทันที
ข้อที่สอง การฟื้นฟูตราจะต้องใช้วิธีพิเศษและสิ่งของพิเศษที่เฉพาะเจาะจงในการฟื้นฟู มิติปิดเป็นมิติระดับต่ำ สิ่งของล้วนไร้ประโยชน์ ราคาของที่ใช้ฟื้นฟูตราจึงมีราคาแพงและหายาก ทำให้ยากที่จะฟื้นฟูตราหยกได้
เขาคาดเดาได้ว่าหมอกสีเขียวคือสมุนไพรที่ถูกวิธีพิเศษทำให้กลายเป็นหมอกเพื่อฟื้นฟูตรารับส่ง เงินที่จอมมารได้มา เขาเอาไปซื้อสมุนไพรจนหมด
ข้อสุดท้าย ถ้าตราถูกทำลายผู้ที่สร้างตราจะได้รับบาดเจ็บทางวิญญาณอย่างรุนแรง
ผู้สร้างตราคือคนที่ส่งตราเข้ามายังมิติที่ปิดกั้น เจ้าของตราคือผู้ได้รับตราและผูกสัญญา
ถ้าตราถูกทำลายนอกจากจะบาดเจ็บทางวิญญาณที่ส่งผลถึงการบ่มเพาะพลังในอนาคตแล้ว สิ่งที่ทำมาทั้งหมดจะกลายเป็นการเสียเปล่าทันที
เพราะเหตุนี้จึงไม่มีใครส่ง ตรารับส่งไปยังมิติปิดกั้น เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดมันอาจส่งผลร้ายแรงและอันตรายกับผู้่สร้างตราหยก
มิติปิดเป็นมิติระดับต่ำ ไม่มีของมีค่าอะไรและถ้าสามารถเข้าไปได้ระดับการบ่มเพาะพลังก็ลดลง เหลือระดับพลังเท่ากับผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่งที่สุด
ทำให้การส่งตรารับส่งไม่คุ้มค่าอย่างแต่จริง หลายพันปีผ่านมา ตรารับส่งจึงเป็นแค่ของเล่นที่ไม่มีใครยากจะทดลองเล่น
จิวโมไป๋ถอนหายใจยาว เขาไม่คิดเลยว่า การฟื้นฟูตรารับส่งเป็นความสำเร็จที่แทบเป็นไปไม่ได้ จอมมารจะสามารถฟื้นฟูตรารับส่ง และเปิดมิติชั้นกลางได้จริงๆ
จิวโมไป๋ไตร่ตรองตรารับส่งในมืออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาด
พลังมังกร!
พลังมือของจิวโมไป๋เพิ่มขึ้น 10 เท่า เขาบดขยี้ตรารับส่งจนบิดผิดรูป พลังงานที่ห่อหุ้มตรารับส่งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ลวดลายเผ่าบนตราบิดเบี้ยวเหมือนกระแสน้ำ ก่อนที่สัญลักษณ์บนตราจะค่อยๆจางลงอย่างช้าๆ
จิวโมไป๋ถอนหายใจ
เมื่อตรารับส่งถูกทำลาย ประชาชนของมิติโลกจะมีความสามารถในการดำรงอยู่เพิ่มขึ้นเมื่อประตูมิติทั้งหมดถูกเปิดออก
ในขณะที่จิวโมไป๋กำลังผ่อนคลาย ตรารับส่งก็เปร่งแสงสีม่วงอ่อนออกมา ใบหน้าของจิวโมไป๋พลันเปลี่ยนเป็นขาวซีด เขาเหวี่ยงตรารับส่งออกไป แต่มันก็ช้าไป
พลังวิญญาณสีม่วงอ่อนจากตรารับส่งพุ่งเข้าไปที่หน้าผากของเขา โดยที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้
จิวโมไป๋รีบนั่งสมาธิเข้าไปในทะเลสติทันที
เมื่อสติของเขาเข้าไป ใบหน้าของเขาก็กลายเป็นโกรธแค้น ตำหนักยุทธที่ว่างเปล่าบนท้องฟ้ามีชายผิวแดงเข้มสูง 4 เมตรกำลังทุบเสาตำหนักยุทธ หมัดของเขาทรงพลังอย่างมาก แค่ชกตำหนักยุทธก็สั่นสะเทือน
ความเจ็บปวดที่ไม่สามารถอธิบายได้แล่นไปตามร่างกาย
“หยุด!”จิวโมไป๋ร้องคำรามเสียงดัง
—