สิ้นเสียงของจิวโมไป๋ หนวดหินรอบด้านก็ขยับไปมาเหมือนมีชีวิต พวกมันเลื่อยเหมือนงูไปตามผนัง ก่อนจะพุ่งโจมตีเข้าจากทุกทิศทาง ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่สุดกว่า 5 เมตรเล็กสุด 1 เมตรไม่เท่ากัน ทำให้เกิดภาพเงาสลับไปมาดูละลานตา
เสียงแหวกอากาศดังกระหึมใกล้เข้ามาเรื่อย จิวโมไป๋ไม่มีท่าทางหวาดกลัว เขาเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าวรัศมีกระบี่พลันขยายออกผ่านหนวดหิน ก่อนที่กระบี่จะวาดออกเป็นเส้นสีเงินเย็นยะเยือก ตัดหนวดหินที่เข้ามาจนหมดสิ้น
ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!
หนวดหินตกลงไปด้านล่างกระแทกลงทะเลสาบเลือดจนเกิดคลื่นกระเพื่อม
จิวโมไป๋เดินมาถึงขอบเนินสูงมองไปยังเด็กสาวสีแดง
“เจ้าพร้อมที่จะรับความตายแล้วหรือยัง!”จิวโมไป๋ยังคงอยู่ในบทบาท เขาร้องตะโกนภาษาโบราณประเทศเกาะเสียงดังลั่น
เด็กสาวสีแดงยังคงยืนนิ่งบนโคมไฟไม่สนใจคำยั่วยุของจิวโมไป๋เลย เหล่าหนวดหินถอยกลับก่อนจะม้วนไปตามผนัง รอโจมตีจิวโมไป๋เมื่อมีโอกาส
จิวโมไป๋เห็นดังนั้นก็ถือโอกาสใช้จิตสัมผัสมองไปที่ห้องขัง เห็นหัวของนาคามูระ อิโทซะยื่นออกมาเล็กน้อย เขาก็โบกมือซ้ายกลับหลังลงสัญญาณ ให้เตรียมตัว
นาคามูระ อิโทซะเข้าใจสัญญาณมือของจิวโมไป๋อย่างรวดเร็ว เขาดึงหัวกลับ และบอกผู้ที่ถูกลักพาตัวให้เตรียมตัวหนีไปพร้อมกัน
จิวโมไป๋กลับมาสนใจเด็กสาวสีแดงด้านล่าง เห็นท่าทางเฉยชาไร้ความรู้สึกของเธอ ยิ่งกว่าเด็กสาวสีดำเสียอีก เขาครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนจะกระแทกเท้าถีบตัวพุ่งตัวไปข้างหน้ากระโดดข้ามทะเลสาบเลือด ระยะห่างหลายร้อยเมตรย่นระยะเพียงพริบตา คมกระบี่วาดเฉือนออกไปเกิดคลื่นสายลมฟันใส่ร่างของเด็กสาวสีแดง
ก่อนที่คมกระบี่จะถึงตัว เด็กสาวสีแดงพลันหมุนตัวโดยมีโคมไฟเป็นแท่นหมุน คมกระบี่ฟันผ่านร่างของเธอไปที่ทะเลสาบเลือดเกิดรอยแยกลึกลงไปไปหลายเมตร ก่อนที่หยดเลือดจะไหลกับมารวมกันใหม่
จิวโมไป๋รวมพลังวิญญาณที่เท้าเหยียบที่ผิวทะเลสาบเลือด ก่อนจะทะยานกลับไปหาเด็กสาวสีเลือด คมกระบี่ห่อหุ้มไปด้วยพลังกดดัน รัศมีกระบี่ขยายออกปกคลุมร่างของเด็กสาวสีแดง คมกระบี่แหลมคมพลันแทงไปที่คออย่างรวดเร็ว
ประกายแสงเย็นยะเยือกพุ่งเข้ามา เด็กสาวสีแดงเหมือนหุ่นเชิดไร้ความรู้สึก ไร้ความกลัว เมื่อคมกระบี่เข้าระยะ 1 เมตร เธอก็เคลื่อนไหว หมอกสีเทาไหลอาบไปทั่วร่าง ก่อนที่เธอจะชกหมัดปะทะกับคมกระบี่โดยตรง
เปรี้ยง! คลื่นพลังกวาดออกโดยรอบ ทะเลสาบเลือดเกิดคลื่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง
จิวโมไป๋พลิ้วร่างไปด้านหลัง เท้าที่ห่อหุ้มพลังวิญญาณเตะที่ทะเลสาบเลือด ก่อนจะพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง
เด็กสาวสีแดงดึงหมัดกลับ บนหลังหมัดมีรอยแผลสายหนึ่ง รอยเลือดไหลซึมออกจากบาดแผล ในชั่วเวลานั้นเองหมอกสีเทาก็ไหลไปที่บาดแผล ไม่นานก็สมานกลับมาเรียบเนียนเหมือนไม่เคยมีแผลมาก่อน
จิวโมไป๋เข้ามากวัดแกว่งกระบี่ เกิดเงาแสงสีเงินวูบวาบ คมกระบี่นับไม่ถ้วนฟาดฟันออกไปยากที่จะหลบ
เด็กสาวสีแดงไม่หลบ เธอชกหมัดที่ห่อหุ้มด้วยหมอกสีเทาเข้าต้านคมกระบี่ คลื่นพลังทั้งสองสาดกระจายออกโดยรอบ ทำให้ทะเลสาบเลือดปั้นป่วนบ้าคลั่ง ทะเลสาบเลือดเกิดกระแสน้ำวน จนมองเห็นโครงกระดูกด้านล่าง
ในระหว่างที่จิวโมไป๋กำลังต่อสู้ นาคามูระ อิโทซะ ก็พาผู้ที่ถูกลักพาตัวค่อยๆเล็ดลอดหลบหนีไปมากกว่าครึ่ง
ร่างของจิวโมไป๋ทะยานกลับขึ้นมาบนเนินหิน เพราะทะเลสาบเลือดกลายเป็นวังวน ทำให้เขาไม่สามารถเหยียบผิวทะเลสาบเลือดได้อีก เขาจึงต้องใช้คลื่นกระบี่โจมตีจากระยะไกลแทน
รัศมีกระบี่ไม่สามารถขยายไปไม่ถึงร่างของเด็กสาวสีแดงได้ แต่เขาก็สามารถเคลื่อนไหวโฉบไปมาเพื่อลดระยะทาง เมื่อถึงระยะรัศมีกระบี่ เขาก็โจมตี ส่งคลื่นกระบี่ออกไป
เด็กสาวสีเลือดก็ชกหมัดที่ห่อหุ่มพลังหมอกสีเทา คลื่นหมัดพุ่งทะยานปะทะกับคมกระบี่กลางอากาศ
พวกเขาโจมตีกันอีกสิบกระบวนท่า ทะเลสาบเลือดก็กลับมาสงบ จิวโมไป๋พุ่งทะยานเหยียบทะเลสาบเลือด คมกระบี่ฉายประกายแสงสีเงินเจิดจ้าก่อนจะฟันออกไป
เด็กสาวสีแดงชกหมัดเข้าปะทะอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ก่อนที่คมกระบี่จะเข้าปะทะ กระบี่พลันช้าลงในชั่วอึกใจ หมัดของเด็กสาวสีแดงจึงชกพลาดไป และในชั่วงพริบตานั้นเอง กระบี่ของเขาก็ระเบิดพลังอันแหลมคมราวอสรพิษร้าย แทงไปที่คออย่างโหดเหี้ยม
ฉึก! คมกระบี่แทงลึกไปที่คอครึ่งนิ้วก็หยุด สีหน้าของเด็กสาวสีแดงยังคงเรียบเฉยไม่เปลี่ยนสีหน้า แม้จะถูกกระบี่แทงเกือบทะลุคอก็ตาม ในตอนนั้นเองเธอเกร็งคอบีบกระบี่แน่น ทำให้จิวโมไป๋ไม่สามารถดึงกระบี่กลับได้ และเหวี่ยงหมัดชกไปที่ร่างของจิวโมไป๋
แต่ก่อนที่หมัดจะปะทะกับร่าง จิวโมไป๋ก็ปล่อยมือ และหมุนตัวหลบ ก่อนจะเอือมมือจับที่ด้ามกระบี่และใช้แรงทั้งหมดเฉือนกระบี่ออกข้าง เลือดสีดำไหลทะลักออกจากคออย่างน่ากลัว
แต่ไม่นานหมอกสีเทาก็ปกคลุมรอยแผล ใช้เวลาหลายชั่วอึดใจแผลก็สมานเป็นปกติ ไร้รอยแผลเป็น
จิวโมไป๋กระโดดกลับไปที่เนินสูง ตอนนี้นาคามูระ อิโทซะพาคนออกไปจนหมดโดยที่ไม่มีใครจับได้ เขามองไปที่เด็กสาวสีแดงและครุ่นคิดบางอย่าง
การโจมตีไม่อาจผ่านการป้องกันเข้าไปได้และถึงแม้จะสามารถโจมตีผ่านเข้าไปสร้างบาดแผลได้ แต่ไม่นานหมอกสีเทาก็รักษาบาดแผลอย่างรวดเร็ว
ช่างเป็นตัวปัญหาจริงๆ
จิวโมไป๋สูดลมหายใจ ก่อนจะตัดสินใจทันที เขาเสียเวลาอีกไม่ได้แล้ว เขาวาดฝ่ามือไปวางที่ตำแหน่งหน้าอกซ้าย เหนือหัวใจ ในตอนนั้นเองรอยสักมังกรขี่เมฆกลางอกส่องสว่างเจิดจ้า ก่อนที่เลือดในร่างของเขาจะเดือดพล่าน เสียงร้องคำรามของมังกรดังกระหึมในทะเลสติ เกิดคลื่นปราณปั่นป่วนโหมซัดไปกระแทกเข้าเขตปราณอย่างรุนแรง
สายเลือดมังกรพายุอัศนีเกิดการแตกตัวและทำลายโลหิตมนุษย์ จากหนึ่งเป็นร้อย จากร้อยเป็นหมื่น จากหมื่นเป็นล้าน พริบตาเลือดมังกรก็แตกตัวและหลอมร่วมนับครั้งไม่ถ้วน
ตูม! พลังกดดันก็ระเบิดออกจากร่างและหมุนวนราวพายุ
ขั้นที่ 6 โลหิตต้น
“โฮกกกกก!”จิวโมไป๋ร้องคำรามเสียงดังร้องราวมังกร รอยสักมังกรขี่สายลมบนหน้าอกซ้ายกลายเป็นสีดำไร้ชีวิต
จิวโมไป๋ลืมตาขึ้นและพ้นลมหายใจสีขาวออกมา พลังในร่างของเขาปะทุอย่างรุนแรง ราวท่อน้ำปะปาแตก ไม่สามารถระงับได้ เขาต้องต่อสู้เพื่อระบายพลัง ไม่อย่างนั้นร่างของเขาจะระเบิด เพราะไม่สามารถทนพลังที่ปะทุได้
นี้เป็นหนึ่งในข้อเสียของวิชาต้องห้ามที่เขาใช้
รอช้าอีกไม่ได้แล้ว จิวโมไป๋เหินทะยานด้วยความเร็วเกือบเหนือเสียง ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่าตัว พริบตาก็เข้าประชิดร่างของเด็กสาวสีแดง ก่อนจะฟันกระบี่ออกไป กฎแห่งธาตุลมไหลเวียนไปที่ปลายกระบี่โดยที่เขาไม่ต้องสั่ง มันเป็นการเคลื่อนไหวตามสัญชาตญาณของสายเลือดมังกรพายุอัศนี ที่ถูกกระตุ้นโดยหินสีเขียวอ่อน
เด็กสาวสีแดงสัมผัสได้ถึงอันตราย หมอกสีเทาห่อหุ้มร่างของเธอและบีบอัดคล้ายชุดเกาะ เธอชกหมัดออกด้วยท่าทางเดิมๆ แต่เมื่อหมัดของเธอชกออกคลื่นพลังอันมหาศาลก็ระเบิดออก จนเกิดพายุโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง
คมกระบี่และหมัดปะทะกันอย่างรุนแรง ก่อเกิดพายุลูกใหญ่ดูดหยดเลือดในทะเลสาบเลือดลอยขึ้นไป ปะทะเข้ากับผนังหินด้านบน ก่อนจะตกลงมาราวกับฝนตก
ร่างของจิวโมไป๋พลันหายวับไปปรากฏตัวที่ด้านหลังของเด็กสาวสีแดง คมกระบี่วาดออกไปเป็นเส้นแสงสีเงิน ฟันเข้าที่กลางแผ่นหลัง เกาะสีเทาป้องกันคมกระบี่เกิดประกายไฟกระจายออก แต่ในพริบตาต่อมา จิวโมไป๋ก็บิดข้อมือวาดกระบี่ฟันซ้ำจุดเดิม เกิดรอยบาดลึกทะลุเกาะสีเทา เลือดจำนวนมากสาดกระจายออกมา!
—
ตอนสุดท้าย ฝันดีครับทุกคน