จิวโมไป๋และเด็กสาวสีแดงมองสบตากันนิ่ง เวลาค่อยๆผ่านไปอย่างช้าๆ
ปัง! ในชั่วเสี้ยววินาที ทั้งสองก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน พื้นที่จิวโมไป๋แตกร้าวเป็นรอยเท้าลึก ร่างของเขามีสายลมไร้สีห่อหุ้ม เขาเยียบเท้าลงกลางอากาศก็็พุ่งทะยานไปข้างหน้า พริบตาเดียวทั้งสองก็ปะทะกันกลางอากาศ
จิวโมไป๋ฟันกระบี่เลือนเร้นที่ห่อหุ้มคลื่นพลังอันแหลมคมออกไป
เด็กสาวสีแดงเหวี่ยงหมัดที่ห่อหุ้มด้วยคลื่นพลังอันทรงพลังเข้าปะทะตรงไม่มีหลบ
เปรี้ยง! คลื่นพลังของทั้งสองระเบิดออกแทบในชั่วพริบตาที่ปะทะกัน ร่างของทั้งสองลอยอยู่กลางอากาศ ดวงตาไม่แยแสปะทะกับดวงตาไร้ความรู้สึก
ก่อนที่ทั้งสองจะโจมตีออกกระบวนท่าโจมตีปะทะกัน โดยไม่ถอยกลับ
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
คมกระบี่ฟาดฟันร่างของเด็กสาวสีแดง บาดแผลบนผิวชั้นนอกปรากฏขึ้นนับไม่ถ้วน แต่ไม่นานบาดแผลก็สมานตัวด้วยความเร็วสูง อักขระสีเลือดบนผิวส่องแสงกระหายเลือดออกมาเล็กน้อย
หมัดของเด็กสาวชกเข้ากับร่างของจิวโมไป๋อย่างรุนแรง แต่เกร็ดมังกรสีเขียวอ่อนป้องกันหมัดของเธอได้โดยไม่สะดุ้งสะเทือน
ทั้งสองแลกการโจมตีกันอีกสี่ห้าครั้ง ก่อนที่ร่างของจิวโมไป๋จะถอยหลัง ฝ่ามือซ้ายของเขาเหวี่ยงออก กฎแห่งธาตุลมหลอมรวมเป็นหอกสายลมพุ่งเข้าใส่ร่างของเด็กสาวสีแดง
หอกสายลมหมุนวนด้วยความเร็วสูง เสียงแหวกอากาศดังกระหึม
แต่ก่อนที่หอกสายลมจะถึงร่างของเด็กสาวสีแดง พื้นดินใต้ทะเลสาบก็แตกออก ซากศพไหลลงไป พร้อมกับหนวดหินนับไม่ถ้วนพุ่งขึ้นมาขวางคมหอกสายลม
ตูม! ตูม! ตูม! หนวดหินหลายสิบตัวถูกทำลายเป็นเศษซาก แต่พวกมันก็สามารถป้องกันหอกสายลมเอาไว้ได้ เศษซากหนวดหินร่วงลงไปก่อนที่จะรวมกันและเคลื่อนไหวอีกครั้ง พวกมันพุ่งเข้าโจมตีจิวโมไป๋ทันที
จิวโมไป๋มองหนวดหินที่พุ่งเข้ามา มือของเขาก็สะบัดออก เคียวสายลมนับสิบพุ่งลงไปทำลายพวกมัน แต่น่าเสียดายที่พวกมันสามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าโจมตีเคัยวสายลมอย่างไม่ย่อท้อ สุดท้ายพวกมันก็สามารถทำลายเคียวสายลมได้ และพุ่งไปหาจิวโมไป๋ไม่หยุด
จิวโมไป๋ก้มมองหนวดหินที่เข้ามาอย่างไม่แยแส
เมื่อหนวดดินใกล้จะถึงร่างของจิวโมไป๋ พวกมันก็แตกกระแหงออกเป็นเส้นนับไม่ถ้วน คล้ายกิ่งไม้ พวกมันแทงเข้าหาร่างของจิวโมไป๋จากทุกทิศทาง
ดวงตาสีทองทรงอำนาจของจิวโมไป๋เลือบมองอย่างเฉยชา คลื่นพลังก็ระเบิดออกสายลมไร้สีกลายเป็นคมมีด ทำลายกิ่งไม้หินจนหมด
กิ่งไม้หินนับไม่ถ้วนถูกตัดออกเป็นชิ้นๆและร่วงลงไป พวกมันพยายามจะรวมเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้ง
แต่จิวโมไป๋ไม่ปล่อยให้พวกมันได้ทำสำเร็จ เขาวาดมือออก วงแหวนข่ายอาคมสีทองนับสิบ ปรากฏกลางอากาศก่อนที่พวกมันจะระเบิดออกเป็นหอกสีทองแทงลงไปที่กิ่งไม้หินและตึงพวกมันไว้กับกองโครงกระดูกด้านล่าง
เด็กสาวสีแดงเห็นข่ายอาคมของจิวโมไป๋ เธอจ้องมองมันนิ่งๆอย่างไร้ความรู้สึก เธอไม่ได้รับประสบการณ์จากร่างวิญญาณต้น ทำให้เธอไม่รู้จักการใช้พลังวิญญาณที่จิวโมไป๋ใช้
เธอมองไปยังกิ่งไม้หินและยกมือขึ้นอย่างช้าๆอักขระสีเลือดบนร่างเปร่งแสง ก่อนที่กิ่งไม้หินที่ถูกตึงจะระเบิดออกกลายเป็นหอกหินนับพัน พุ่งผ่านหอกที่ตึงพวกมัน ขึ้นไปโจมตีใส่ร่างของจิวโมไป๋ หอกหินถูกอายด้วยพลังแห่งความตายอันมืดมิด กลิ่นอายที่แผ่ออกมามันสะกดสิ่งมีชีวิตให้สั่นเท่าด้วยความกลัว
ถ้าเป็นคนธรรมดา แค่สัมผัสกลิ่นอายแห่งความตายพวกเขาจะหวาดกลัวจนไม่สามารถขยับได้
แต่จิวโมไป๋กลับไม่เป็นอะไรเลย กลิ่นอายมังกรแผ่กระจายออกป้องกันกลิ่นอายแห่งความตาย
มือของเขากำแน่นก่อนจะชกออกไป คลื่นพลังสายลมกระเบิดออกเป็นวงกว้างกวาดทำลายหอกหินจนหมด ห้องโถงใต้ดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนที่รอยแตกร้าวจะเพิ่มขึ้นและมีบางส่วนถล่มลงมา
ห้องโถงใต้ดินนี้ใกล้จะพังลงได้ทุกเมื่อ ถ้าพวกเขายังต่อสู้กันอยู่พวกเขาจะต้องถูกฝังทั้งเป็นอย่างแน่นอน
จิวโมไป๋กวาดตามองโดยรอบอย่างไม่แยแส เขารู้ตัวเองดีว่าในตอนนี้เขากำลังถูกสายเลือดมังกรเข้าครอบงำ ทำให้นิสัยของเขาเปลี่ยนไป
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าจะเอาชนะเด็กสาวตรงหน้า เขามีแต่ต้องใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามเท่านั้น การใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามเพื่อปลุกสายเลือดมังกรพายุอัสนี เป็นวิธีเดียวที่เห็นผลมากที่สุด
โชคดีที่เขาพบหินสีเขียวที่มีแก่นกำเนิดกฎแห่งธาตุลม ทำให้เขาสามารถปลุกสายเลือดย่อยของมังกรพายุอัศนี มังกรวายุ ที่มีนิสัยอ่อนโยนเป็นอันดับสองของสายเลือดมังกร รองจากมังกรวารี ถ้าเขาได้หินสีม่วงที่มีแก่นกำเนิดกฎแห่งธาตุสายฟ้า เมื่อเขาปลุกสายเลือดย่อยของมังกรพายุอัศนี มังกรอัศนี ที่มีชื่อเสียงเรื่องความดุร้ายอหังการ มันจะแย่กว่านี้
อย่างน้อยอารมณ์ไม่แยแสของมังกรวายุ ยังควบคุมได้ง่ายกว่า แม้แผนที่จะรีบจบการต่อสู้และรีบหนีไปจะเปลี่ยนไปก็ตาม เขายังสามารถใช้ความเร็วของมังกรวายุหนีไปได้ทุกเมื่อ
จิวโมไป๋ปลอบใจตัวเองในใจ
—
โค้งสุดท้าย เหลืออีก 4 ตอนจะจบการต่อสู้แล้วครับ^^