จิวโมไป๋มองเจ้าอาวาสหงหมิงด้วยสีหน้าของเขางุนงง ราวกับไม่เข้าใจ แต่ในใจของเขากรีดร้องด้วยความตกตะลึง เขาเคยสงสัยมาก่อนว่าทำไมเจ้าอาวาสหงหมิงถึงสามารถมองเห็นบุญในร่างกายของเขาได้ เขาจึงคิดว่าเจ้าอาวาสหงหมิงมีวิชาที่สามารถมองเห็นบุญและบาปได้
แต่วิชาเนตรที่สามารถมองเห็นบุญและบาป เป็นวิชาชั้นสูงและหายาก แม้แต่ในโลกแห่งการบ่มเพาะพลังก็มีวิชาประเภทนี้น้อยมาก
การฝึกฝนวิชาเนตรประเภทนี้ยากลำบากกว่าวิชาเนตรอื่นๆหลายเท่า มีเพียงผู้ฝึกฝน 1 ในล้านเท่านั้นถึงจะสำเร็จ ด้วยอัตราความสำเร็จที่น้อยนิดทำให้ผู้คนถอดใจไม่ฝึกฝน มีเพียงผู้ที่ต้องการเดินทางทางในเส้นทางแห่งธรรมเท่านั้น ถึงจะพยายามฝึกฝนวิชาที่สามารถมองบุญและบาปจนสำเร็จ
ทำให้ผู้ที่สามารถมองเห็นบุญและบาป กลายเป็นที่เคารพนับถือจากผู้คนนับไม่ถ้วน
เขาโชคดีที่มีตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้นที่กลายพันธิ์ ทำให้ได้วิชาเนตรที่สามารถมองเห็นบุญและบาปได้ แต่วิชาเนตรที่เขาได้รับ เขาไม่สามารถใช้ได้ด้วยตัวเอง กระบี่เลือนเร้นจะต้องร้องเตือนก่อน เขาถึงจะสามารถใช้ได้
สำหรับเจ้าอาวาสหงหมิง เขาไม่สามารถสัมผัสถึงการใช้วิชาใดๆเลย เขาจึงมั่นใจว่าเจ้าอาวาสหงหมิงไม่มีวิชาประเภทนี้แน่
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ค้นพบอะไรบางอย่าง นอกจากวิชาแล้ว ยังมีเนตรพิเศษที่สามารถมองเห็นบุญและบาปได้!
จิวโมไป๋พยายามค้นหาในความทรงจำ แต่สุดท้ายก็ไม่พบชื่อเฉพาะเจาะจง เพราะเนตรพิเศษนี้เป็นเนตรหายาก มีแต่คำบอกเล่าไม่มีใครที่เป็นเจ้าของเนตร แสดงตัวออกมา
ชื่อที่ใช้เรียกเนตรประเภทนี้มากที่สุดคือ เนตรมรรคา เนตรที่สามารถมองเห็นความดีและกิเลสทั้งปวง!
เพราะเป็นเนตรที่หายากทำให้รู้เพียงความสามารถในการมองเห็นบุญและบาปเท่านั้น ความสามารถอื่นของเนตรนี้ไม่มีการเปิดเผยออกมา
จิวโมไป๋นิ่งใช้ความคิดไปเพียงครู่หนึ่งเท่านั้น สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย เขาดึงสติกลับก่อนจะกล่าวถาม
“ท่านเจ้าอาวาสหงหมิง ที่ท่านพูดหมายความว่ายังไง”
เจ้าอาวาสหงหมิงมองสำรวจจิวโมไป๋อีกครั้ง ก่อนจะยิ้มแผ่วเบา พันเอกนาคามูระเห็นท่าท่างของเจ้าอาวาสหงหมิงเขาก็รู้ว่าไม่ใช้เรืองร้ายแรง เขาก็ถอนสายตากลับ ปล่อยให้ทั้งสองพูดคุยกัน
“โยมจิวโมไป๋อาจไม่รู้ ในตอนนี้ร่างกายของโยมแผ่ไปด้วยผลบุญอันเหลือล้นเปรียบเทียบกับไม่กี่วันก่อน บุญบนร่างของโยมมากกว่าเดิมเท่าตัว!”
จิวโมไป๋ได้ยินก็นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้ม
“ผมไม่เข้าใจที่ท่านเจ้าอาวาสหงหมิงพูดเท่าไหร่นัก แต่เมื่อวานพวกเราได้ช่วยเหลือตัวประกันหลายคน การช่วยชีวิตผู้คนให้รอดจากความตาย มันอาจทำให้ผมได้บุญเพิ่มขึ้นก็ได้”จิวโมไป๋พูดไปเรื่อยเปื่อยกึ่งจริงกึ่งหลอก
เจ้าอาวาสหงหมิงได้ยินก็มองจิวโมไป๋ ดวงตาแววตาฉายแววลุ่มลึกก่อนจะยิ้มอย่างแผ่วเบา
“อาจเป็นอย่างอย่างที่โยมพูดก็ได้”
บรรยากาศหนักอึ้งในลิฟท์พลันหายไป พวกเขาทั้งสามไม่พูดอะไรกันอีกเลย จนกระทั้งลิฟท์ลงมาที่ชั้น 1 พวกเขาก็พากันออกจากอาคารขึ้นรถตู้สีดำที่จอดรอ
“พวกเรากำลังจะไปที่ไหน”จิวโมไป๋อดไม่ได้ที่ถามขึ้น เพราะบรรยากาศในตอนนี้อึดอัดเกินไป
“โยมจิวโมไป๋อาจจะยังไม่รู้ ว่าภารกิจนี้พวกเราได้รับเชิญมาเป็นภารกิจพิเศษ นอกจากคะแนนภารกิจแล้ว พวกเรายังได้รางวัลพิเศษอีกด้วย”
“รางวัลอะไร?”จิวโมไป๋ถามขึ้นทันที ดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย รางวัลจะต้องไม่ใช่รางวัลธรรมดาอย่างแน่นอน
“โยมจิวโมไป๋อดใจอีกครู่หนึ่ง พวกเราไปรับศิษย์ที่ไม่รักดีทั้งสองของอาตมาก่อน พวกเราจะเดินทางไปรับรางวัลทันที เมื่อไปถึง โยมจะรู้เอง”พูดจบเจ้าอาวาสหงหมิงก็หลับตาทำสมาธิ ไม่ปล่อยให้จิวโมไป๋ถามต่อ
จิวโมไป๋ได้ยินก็ไม่ถามซอกแซก ก่อนที่เขาจะแบ่งสมาธิเข้าไปในทะเลสติ เขามองเข้าไปที่ตำหนักยุทธิกระบี่เลือนเร้น ที่ตอนนี้ฟื้นฟูกลับมาเป็นเหมือนเดิม แตกต่างจากตำหนักยุทธเตาหลอม 9 สุริยันที่ยังคงฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อย หลังคาตำหนักฟื้นฟูไปได้ครึ่งหนึ่งเท่านั้น อาจเพราะความเสียหายที่ทั้งสองตำหนักได้รับแตกต่างกัน
จิวโมไป๋มองไปยังตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น เมื่อคืนเขามัวแต่ยุ่งกลับการรักษาร่างกาย ที่ใช้เคล็ดวิชาต้องห้าม ไม่ได้ตรวจสอบตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้นเลยว่าเขาได้บุญเท่าไหร่จากภารกิจ
เมื่อเขามองเข้าไปในตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น เขาต้องชะงัก เพราะเขาไม่เห็นกรรมชั่วเลย มีเพียงกระบี่เลื่อนเร้นที่กำลังเปร่งประกายงดงาม ราวกับกระบี่ล้ำค่า แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะเป็นกระบี่สีเทาธรรมดา
จิตวิญญาณของจิวโมไป๋เข้าไปในตำหนักยุทธ
กระบี่เลื่อนเร้นพลันส่งเสียงสดใสลอยมาที่ร่างจิตวิญญาณของจิวโมไป๋ และใช้ใบดาบด้านข้างที่ไม่มีคมแตะร่างของจิวโมไป๋อย่างออดอ้อน เหมือนสัตว์เลี้ยงตัวเล็กๆ จิวโมไป๋เห็นดังนั้นเขาก็อึ้งไปเล็กน้อย เพราะกระบี่เลือนเร้น มันเคลื่อนไหวด้วยตัวเองโดยที่เขาไม่ได้สั่ง
จิวโมไป๋ส่งพลังไปที่ร่างวิญญาณ ก่อนที่ร่างเสมือนจะปรากฏขึ้น กระบี่เลื่อนเร้นส่งเสียงใส มันหมุนวนรอบร่างของเขา ก่อนจะใช้ใบดาบไถไปมาที่แขนของจิวโมไป๋
จิวโมไป๋ยกมือขึ้นลูบใบดาบเบาๆ กระบี่เลือนเร้นก็ใช้ใบดาบถูมือของจิวโมไป๋อย่างออดอ้อน มีบางครั้งที่คมกระบี่โดนร่างวิญญาณ แต่มันไม่สร้างความเสียหายแม้แต่น้อย
มันยิ่งทำให้จิวโมไป๋อึ้งอีกครั้ง
เห็นท่าทางของกระบี่เลือนเร้นแบบนี้ เขามั่นใจแล้วว่ากระบี่เลือนเร้นได้เปิดสติปัญญา!
—
ฮ่าๆ ตอนนี้หลายคนคงเกิดความสงสัยไม่ต่างจากจิวโมไป๋ ว่าเกิดอะไรขึ้น เคล็ดวิชากระบี่เลือนเร้นมันกลายพันธิ์ได้ยังไง โปรดติดตามต่อไปนะครับ