จิวโมไป๋หยิบผลึกกรรมชั่วขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา ก่อนจะกำมันแน่น
ในเวลานี้เขาอารมณ์ของเขาพรั่งพรูตื่นเต้น เสียยิ่งกว่าตอนที่ได้รู้ว่ากระบี่เลือนเร้นเปิดสติปัญญาเสียอีก ไม่แปลกเลยที่เขาจะตื่นเต้นอย่างนี้ ในอดีตเพราะการสูญเสียครอบครัว และการกระทำต่างๆที่เขาได้ทำ ทำให้เขารู้ตัวว่าตัวเองมีจิตมารอันแข็งแกร่ง แม้จะไม่รู้ว่าจิตมารของเขาแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็คิดว่าตัวเองไม่มีโอกาศที่ทะลวงผ่านเทพยุทธ์ได้เลย
เขาจึงไม่มีความสนใจที่จะบ่มเพาะพลัง เพราะเขารู้ว่าไม่ว่าจะบ่มเพาะพลังยังไงก็ไม่สามารถกลายเป็นเทพยุทธได้
ไม่ใช่ว่าในตอนนั้นเขาไม่พยายามหาผลึกกรรมชั่ว แต่มันหายากเกินไป คนระดับเขาอย่าคิดเลยที่จะได้มันมา แม้แต่ข่าวเกี่ยวกับผลึกกรรมชั่วยังยากที่จะพบเห็น
แม้ในตอนนี้เขาจะได้ย้อนเวลากลับมาแก้ไขความผิดพลาดในอดีต แต่เขาก็ได้รู้ว่าที่อกซ้ายของเขามีจิตมารสองตน ที่แข็งแกร่งที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจ ยากที่จะทำลายได้ เขาก็แทบถอดใจที่จะเป็นเทพยุทธ์แล้ว เขาคิดเพียงแค่พยายามบ่มเพาะพลังให้ถึงปราณสวรรค์ปลาย เป็นผู้แข็งแกร่งต่ำกว่าเทพยุทธ์ล้วนไร้พ่าย มีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะปกป้องครอบครัวเขาก็พอใจ
แต่ในตอนนี้ประตูบานหนึ่งได้เปิดออก ทำให้เขาได้เห็นเส้นทางที่ส่องผ่านความมืดมิด เขาไม่คิดเลยว่าประตูสู่เทพยุทธ์จะปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา
ผลึกกรรมชั่วในมือ สามารถช่วยให้เขาต่อสู้กับจิตมารในใจของเขาได้ แม้ว่าจิตมารจะแข็งแกร่งเพียงได้ เมื่อโอกาสปรากฏขึ้นตรงหน้า เขาก็จะสู้! ไม่มีทางถอยหลังกลับ!
นี่อาจเป็นผลของผลึกกรรมชั่วที่ทำให้ผู้คนบ้าคลั่งฮึกเหิม แต่เขาไม่สนใจ ประตูสู่เส้นทางเทพยุทธของเขาได้เปิดออกแล้ว เขาไม่มีทางปล่อยมันไป!
จิวโมไป๋สูดลมหายใจพยายามระงับความตื่นเต้น แต่จิตใจของเขาในตอนนี้ไม่สงบลงได้เลย
ในตอนนั้นเอง ดอกบัวหัวใจพิสุทธิ์ก็หมุนวนอย่างช้าๆ คลื่นพลังสีขาวบริสุทธิ์แผ่กระจายออกมา จิตใจของจิวโมไป๋เหมือนถูกชำระล้าง สติของเขาก็ถูกดึงกลับ
“นี่คือผลกระทบของ ผลึกกรรมชั่ว?”จิวโมไป๋มองไปที่ผลึกกรรมชั่วสีดำในมือ แม้ว่าเขาจะได้สติ แต่เขาก็ไม่สามารถปล่อยมันลงได้
ใช้เวลาครู่หนึ่ง จิวโมไป๋ก็วางมันลงพื้นอย่างเบามือ ราวกับกลัวว่ามันจะแตกหัก ในตอนนี้เองจิวโมไป๋ก็มีโอกาสมองไปรอบๆ หัวใจของเขาแทบจะกระดอนออกมาข้างนอก
“1 2.. 4 .. 6.. 7 ก้อน! เป็นไปไม่ได้! ทำไมมีผลึกกรรมชั่วมากมายที่นี่” ร่างเสมือนของจิวโมไป๋กรีดร้องด้วยความตกใจ
ผลึกกรรมชั่ว 1 ก้อน สามารถทำให้มิติแห่งหนึ่งกลายเป็นมิติสูญเปล่าเพราะการเข่นฆ่า
ผลึกกรรมชั่ว 7 ก้อนตรงหน้าของเขา….
เพราะความตกใจ จิวโมไป๋ก็ตั้งสติได้อย่างสมบูรณ์ในที่สุด เขาถอยมายืนหน้าประตูใกล้ทางออกตำหนักยุทธกระบี่เลือนเร้น สมองของเขาครุ่นคิดเร็วจี๋
ทำไมที่นี่ถึงมีผลึกกรรมชั่วได้? ความคิดแรกแล่นขึ้นมาในหัวทันที
หรือว่าเพราะกรรมชั่วจำนวนมหาศาลถูกกลั่นจนกลายเป็นผลึกกรรมชั่ว?
ถ้าอย่างนั้นเขาได้กรรมชั่วมากมายขนาดนี้มาได้ยังไง?
นอกจากผู้ต้องสาปไม่กี่คน วิญญาณที่อยู่ในรูปปั้นหินที่เขาทำลายล้วนเป็นวิญญาณเป็นกลาง และเขาใช้ยันต์ชำระล้างพวกมันให้ไปเกิดใหม่ หรือจะเป็นวิญญาณนับหมื่นที่อยู่ใต้ทะเลสาปเลือด แต่พวกมันเป็นวิญญาณเป็นกลางเช่นกัน
นอกจากผู้ต้องสาปแล้ว เขาไม่ได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตที่มีกรรมชั่วอยู่เลย
ในตอนแรกเขาคิดว่าเด็กสาวสีแดงจะเป็นวิญญาณแฝด ที่มีกรรมชั่วมหาศาล เขาจึงมุ่งมั่นที่จะฆ่าเธอ แต่สุดท้ายเขาก็ต้องผิดหวังเพราะเธอไม่มีกรรมชั่วอยู่เลย นอกจากนั้นเธอยังมีผลบุญอันมหาศาลอีกด้วย
ผลบุญ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ดวงตาของจิวโมไป๋ก็เป็นประกายขึ้น
ผลึกกรรมชั่ว บุญมหาศาล
เหมือนค้นพบอะไรบางอย่าง จิวโมไป๋ครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ทันที เขานึกถึงบันทึกเกี่ยวกับผลึกกรรมชั่วที่เคยได้ยิน
สถานที่ๆมีผลึกกรรมชั่วเกิดขึ้น สถานที่เขานั้นจะเคยเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงขึ้น
ตามบันทึกเกือบครึ่งหนึ่งที่ผลึกกรรมชั่วปรากฏขึ้น จะเคยเกิดสงครามครั้งใหญ่ ในสงครามจะมีวีรบุรุษผู้กอบกู้ ช่วยให้สงครามยุติลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ทำให้ประเทศหรือมิติสงบร่มเย็นหลายพันหลายหมื่นปี
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าผลึกกรรมชั่ว จะเกิดขึ้นจากการที่ได้สร้างผลบุญมหาศาล?”
จิวโมไป๋ไม่อยากจะเชื่อความคิดตัวเองเท่าไหร่นัก แต่เมื่อเขานึกไปถึงความรู้สึกล่อลวงเมื่อครู่
กรรมชั่ว กรรมดี บาป บุญ
ดวงตาของจิวโมไป๋เป็นประกายเจิดจ้า เขาเข้าใจแล้วว่าผลึกกรรมชั่วเกิดขึ้นมาได้ยังไง
“เมื่อมีความดี ย่อมมีความชั่ว มีขาวต้องมีดำ มีซ้ายต้องมีขวา มีช้าต้องมีเร็ว ทุกสิ่งต้องมีด้านตรงข้ามเสมอ”จิวโมไป๋พูดพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบาราวกระซิบโดยไม่รู้ตัว
ถ้าคนธรรมดาอาจไม่ได้ยินที่จิวโมไป๋พูด แต่คนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ คือเจ้าอาวาสหงหมิงและพันเอกนาคามูระ สุดยอดฝีมือระดับบนของโลก
เจ้าอาวาสหงหมิงมองไปที่จิวโมไป๋ ดวงตาของเขาเป็นประกายเจิดจ้า คำพูดง่ายแต่ความหมายลึกล้ำเหมือนมหาสมุทร
เจ้าอาวาสหงหมิงตกอยู่ในห้วงความคิดอย่างรวดเร็ว
พันเอกนาคามูระ ในตอนแรกเขาไม่สนใจนัก แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าอาวาสหงหมิงเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งการตรัสรู้ในทันที เขาก็ประหลาดใจ เขาจึงคิดทบทวนคำพูดของจิวโมไป๋ ในตอนนั้นเองเข้าก็ตกอยู่ในห้วงความคิดอย่างรวดเร็ว
ถ้ามีใครเห็นจะต้องประหลาดใจอย่างมาก ที่ผู้บ่มเพาะพลังทรงพลังสองคนตระหนักรู้ในการบ่มเพาะพลังพร้อมกัน ในรถตู้ที่กำลังขับผ่านเมืองที่แออัดไปด้วยผู้คน
ผู้บ่มเพาะพลังส่วนมากจะหาที่สงบเพื่อบ่มเพาะพลัง ไม่มีทางเลยที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้
รถตู้สีดำค่อยๆขับไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
—
ตอนนี้เคลียร์ผลประโยชน์จากการต่อสู้ ไม่ได้ต่อสู้โดยเปล่าประโยชน์นะครับ
ต่อไปรอลุ้นกันได้เลยครับว่ารางวัลอะไรที่จิวโมไป๋จะได้
ตอนนี้ไม่รู้จะแต่งประโยคยังไงให้สละสลวย ผมเลยเอาเข้าใจง่ายๆพอครับ ฮ่าๆ