จิวโมไป๋เก็บหินสายฟ้าในแหวนมิติเก็บของอย่างระมัดระวัง เขาไม่รีบร้อนที่จะดูดซับมันอีก เขาเหลือเวลาอยู่ในโบราณสถานอีกไม่ถึง 3 ชั่วโมง เขาต้องเร่งความเร็วสังหารภูติสายฟ้าให้ได้มากที่สุด
เขาเงยหน้ามองเข้าไปด้านหลังกำแพง เป็นอาณาเขตเมืองโบราณ อาคารบ้านเรือนสูงแค่ 1 ชั้น พวกมันมีลักษณะคล้ายๆกันหมด ทำให้ดูน่าเบื่อ อาคารบ้านเรือนเรียงรายสุดสายตา นับคราวๆมีหลายหมื่นหลัง ผู้ที่สามารถสร้างมันต้องไม่ใช้คนธรรมดา ที่น่าแปลกคือ อาคารเหล่านี้สร้างจากหินและดินแข็งแกร่งทนทาน สามารถคงสภาพอยู่ได้หลายร้อยหลายพันปี ไม่พังทลาย
จิวโมไป๋มองไปยังใจกลางของอาณาเขตเมืองก็มองเห็นเงาดำๆสูงใหญ่ น่าจะเป็นอาคารสูง แต่เพราะอยู่ไกลเกินไปเขาไม่สามารถมองเห็นได้ชัดนัก
เขาไม่รอช้ากระโดดผ่านกำแพงเข้าไป เมื่อร่างกายผ่านกำแพง เขาก็สัมผัสได้ว่าหมอกสายฟ้าหลังกำแพงมีความหนาแน่นกว่านอกกำแพง 2-3 เท่า ปะจุสายฟ้าซ๊อตร่างกาย แต่เขาไม่รู้สึกเจ็บอะไรนัก
ทันทีที่เท้าของเขาแตะพื้น พลังกดดันอันทรงพลังก็แผ่พุ่งเข้ามาปะทะเข้ากับร่างของเขา
ในตอนนั้นเองภูติสายฟ้าถือดาบก็เดินออกจากบ้านหลังใกล้ๆ มันพุ่งเข้าโจมตีทันที ดาบคาตานะสายฟ้าโจมตีด้วยความเร็วสูง เหนือกว่าภูติสายฟ้าถือดาบบนกำแพงมาก
จิวโมไป๋ยกพลองเหล็กขึ้นมาป้องกันทันที
เปรี้ยง! สะเก็ดไฟสาดกระจายไปทั่ว ปะจุไฟฟ้าระเบิดออก ก่อนจะไหลตามพลองเหล็กเข้าทำร้ายมือของจิวโมไป๋
จิวโมไป๋ใช้พลังกดดันห่อหุ้มฝ่ามือเอาไว้ ทำให้ปะจุไฟฟ้าไม่สามารถทำร้ายร่างกายของเขาได้
จิวโมไป๋หรี่ตามองภูติสายฟ้าถือดาบ ความแข็งแกร่งของมันเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากภูติสายฟ้าถือดาบบนกำแพง ความแข็งแกร่งอยู่ขั้นที่ 6 โลหิตต้น!
จิวโมไป๋เข้าใจทันที เพราะหลังกำแพง กฎแห่งสายฟ้าหนาแน่นกว่านอกกำแพง ทำให้ภูติสายสายฟ้าระดับกลางมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
ถ้าอย่างนั้น…
โอกาสในการตกหินสายฟ้าก็ยิ่งเพิ่มขึ้น!
จิวโมไป๋กำพลองเหล็กด้วยความตื่นเต้น
ภูติสายฟ้าถือดาบไม่รู้สึกถึงอารมณ์ของจิวโมไป๋ มันพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง ในเวลาเดียวกันภูติสายฟ้าถือดาบตัวอื่นๆก็ทยอนเดินออกจากอาคารบ้านเรือน และเข้ามาโจมตีจิวโมไป๋ สิ่งมีชีวิตเดียวที่ลุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ของพวกมัน
จิวโมไป๋สูดลมหายใจสงบสติอารมณ์ ดูเหมือนว่าเขาจะตื่นเต้นเกินไป ไม่แปลกเลยเพราะโชควาสนาครั้งนี้ มันยากที่จะหักห้ามจริงๆ
ไม่พูดถึงผนึกกรรมชั่ว ที่ผู้คนสามารถเข่นฆ่ากันเพื่อแย่งชิง เขายังไม่สามารถใช้มันได้ กว่าจะได้ใช้อาจต้องใช้เวลาหลายสิบหรือร้อยปี มันจึงไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
แต่หินสายฟ้าเขาจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ และต้องการจำนวนมากอีกด้วย ไม่แปลกเลยที่เขาจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้
เมื่อสงบใจลงแล้ว เขาก็ควงพลองปัดป้องการโจมตี พร้อมกับฟาดพลองเหล็กโจมตีเข้าใส่ภูติสายฟ้าถือดาบอย่างดุดัน คลื่นพลังกวาดทำลายภูติสายฟ้าที่เข้ามาอย่างน่ากลัว
แต่มันทำร้ายภูติสายฟ้าถือดาบได้เพียง 2 ตัวเท่านั้น เพราะความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้นทำให้ยากที่จะกำจัดพวกมันง่ายๆอีก
แต่จิวโมไป๋ไม่สนเขาควงพลองเหล็กเข่นฆ่าพวกมันไม่หยุด
เวลาผ่านไปหลายสิบนาที
ภูติสายฟ้าระดับกลางหลายร้อยตัวถูกกำจัดจนหมด พื่นที่โดยรอบมีร่องรอยสีดำ ที่เกิดจากการระเบิดของปะจุไฟฟ้าทิ้งความเสียหายเอาไว้มากมาย
จิวโมไป๋สูดลมหายใจด้วยความตื่นเต้นในมือของเขามีหินสายฟ้า 3 ก้อนในมือ
เหลืออีกแค่ 5 ก้อน เขาจะสามารถดูดซับกฎแห่งธาตุสายฟ้าในทะเลปราณได้หมด
จิวโมไป๋ไม่อาจรอได้อีก เขาถือพลองเหล็กจะเดินไปยังทิศทางของอาคารสูง
วูบ เงาสีดำขนาดเล็กพุ่งออกมาจากข้างทาง จิวโมไป๋เหลือบมอง เขาสัมผัสไม่ได้ถึงจิตสังหาร เขาจึงไม่ตั้งท่าโจมตี
เงาสีดำวิ่งมาตรงหน้าของจิวโมไป๋ เป็นแมวสีดำสนิมดวงตาฉายแววปัญญาของมนุษย์
นาคามูระ คิยูมิ!
จิวโมไป๋ประหลาดใจเขาคิดว่าเธอจะเข้าโบราณสถานพร้อมกับพี่ชายของเธอ ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
เขามองแมวตัวเล็กก็สังเกตเห็นว่าดวงตาของเธอฉายความตื่นตะหนก เขาก็รู้ได้ทันทีว่ามีเหตุอันตรายเกิดขึ้นกับอิโทซะ
เขาเกิดลังเลขึ้นครู่หนึ่ง เพราะเขาและอิโทซะ ไม่ได้สนิทกันมากนัก พวกเขาแค่ผ่านการต่อสู้เป็นตายมาด้วยกันเท่านั้น ไม่ถือว่าสนิทกัน ถ้าเขาจะไปช่วย เขาจะสูญเสียโอกาสครั้งใหญ่ ที่จะตระหนักกฎแห่งธาตุสายฟ้าได้ โอกาสแบบนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ
ความลังเลเกิดขึ้นเพียงครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะปัดความคิดนั้นไป เขาตัดสินใจช่วยทันที
“เกิดอะไรขึ้นกับอิโทซะ?”จิวโมไป๋เอ่ยถาม
คิยูมิมองจิวโมไป๋ครู่หนึ่ง ก่อนจะกระโดดไปในอ้อมแขนของเขา เธอขยับตัวเล็กน้อยอย่างเขินอาย ก่อนจะกดไปที่กำไลข้อมือของจิวโมไป๋ แต่เปิดไม่ได้
จิวโมไป๋เห็นดังนั้นก็กระตุกยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะกดกำไลข้อมือเปิดระบบพิมพ์ข้อความ เขาเปลี่ยนเป็นภาษาประเทศเกาะให้เด็กสาวไปพร้อมกัน
คิยูมิกดไปที่โฮโลแกรมไม่นานข้อความก็ปรากฏขึ้น
“พี่ชายของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย ได้โปรดช่วยเหลือพี่ชายของฉันด้วย!”
—-