หลังจากรักษาชายหัวล้านเสร็จ จิวโมไป๋ก็กลับมาที่หอพักเวลาตีหนึ่งกว่าแล้ว เขาอาบน้ำทำธุระจนเสร็จ ก็เปิดกำไลข้อมือดูรายชื่อผู้ติดต่อ พวกพี่ใหญ่ไม่สามารถติดต่อได้เพราะไม่มีสัญญาณ เขาได้แต่ภาวนาให้ไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้น
เมื่อเขาเห็นหมายเลขติดต่อของชายหัวล้าน เขาก็ส่งข้อความเน้นย้ำภารกิจที่สั่งให้ทำอีกครั้ง ชายหัวล้านส่งข้อความตอบกลับมาสั้นๆ
จิวโมไป๋จ้องมองรายชื่อผู้ติดต่อที่ว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยังไม่มีใครติดต่อมา เขาได้แต่ปลอบตัวเองว่าตอนนี้ดึกแล้ว อีกฝ่ายอาจจะยังไม่ฟื้นก็เป็นได้
ก่อนที่จะเปิดดูข่าวสารอีกเล็กน้อย จิวโมไป๋ก็นึกขึ้นได้ว่า เขาขายสูตรโอสถได้ 1 วันพอดี เมื่อเปิดเข้าหน้าแรกของระบบซื้อขายสูตรโอสถ เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าสูตรโอสถ 12 สูตรของเขาได้เข้ามาอยู่อันดับ 1-12 ของสูตรโอสถที่มียอดขายมากที่สุดตลอดกาล
จิวโมไป๋รีบกดเปิดตรวจสอบยอดขาย ก็พบว่าทุกสูตรโอสถของเขา ขายได้สิบล้านครั้ง! มันหมายความว่า มีคนซื้อสูตรโอสถของเขาไปทั้งหมด 120 ล้านครั้ง! และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่หยุด
เมื่อเขาตรวจสอบเงิน ก็พบว่าเขาได้รับเงิน จากการ ขายยอดผลิตโอสถถึง 200 ล้านเครดิต!
ในตอนนี้จิวโมไป๋รู้สึกตกใจจริงๆ เงินที่ได้ มันเกินกว่าที่เขาคิดไว้หลายร้อยเท่า เขารีบตรวจสอบดูว่ามีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า
ค้นหาไม่นานเขาก็พบว่าใครเป็นผู้ที่ซื้อยอดผลิตโอสถจำนวนมาก
เมื่อเห็นรายชื่อผู้ซื้อ เขาก็ต้องกระตุกยิ้มเย็นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เพราะผู้ที่ซื้อยอดผลิตโอสถ มากที่สุดคือ บริษัทขายยาอันดับ 1 ของประเทศ บริษัทธรรมชาติรังสรรค์ เขาซื้อยอดผลิตโอสถทั้งหมด 5 ล้านขวด หรือ 100 ล้านเครดิต!
ผู้ซื้ออันดับ 2 คือ สมาคมปรุงยา ที่ปกติจะนิ่งเงียบเป็นกลาง ไม่ลงมือแข่งขันกับบริษัทยาอื่นๆ แต่ตอนนี้พวกเขากระโดดขึ้นมาเข้าร่วมความวุ่นวาย โดยที่พวกเขาซื้อยอดผลิตโอสถ 3 ล้านขวด หรือ 60 ล้านเครดิต
อันดับที่ 3 คือ บริษัทยาอันดับ 2 ของประเทศ บริษัทเม็ดยาทองคำ พวกเขาซื้อยอดผลิตโอสถ 1 ล้านขวด 20 ล้านเครดิต
นอกจากสมาคมปรุงยาและบริษัทยาชั้นนำทั้ง 2 ที่เหลือเป็นบริษัทยาขนาดเล็ก ที่ไม่คอยมีบทบาทเท่าไหร่นักในตลาดยา
จิวโมไป๋ส่ายหัวเบาๆ แผนของเขาดูเหมือนจะคาดเคลื่อนไปแล้ว
แผนที่เขาวางไว้คือ เขาจะผลักดันบริษัทยาขนาดเล็ก ขึ้นมาแข่งขันกับบริษัทยาขนาดใหญ่ด้วยสูตรโอสถของเขา แม้จะไม่ทำให้บริษัทยาขนาดเล็กได้กำไรมากนัก แต่ก็สามารถทำให้บริษัทยาขนาดเล็กสะสมชื่อเสียงในหมู่ผู้บ่มเพาะที่เกิดจากชนชั้นธรรมดา
ในอนาคตเขาจะขายสูตรยาอื่นๆอีก บริษัทยาขนาดเล็กจะกลายเป็นเหมือนตัวแทนจำหน่ายโอสถของเขาไปในทันที
ถ้าบริษัทยารายใหญ่ยังไม่รีบปรับตัว พวกเขาจะต้องพบกับความล่มจมในอนาคต เพราะคุณภาพของโอสถจะทิ้งห่างกันเรื่อยๆ ถึงในภายหลัง บริษัทยารายใหญ่จะยอมขายโอสถของเขา ชื่อเสียงของบริษัทก็สู้บริษัทยาขนาดเล็กที่ขายโอสถของเขามาตั้งแต่ต้นไม่ได้
สำหรับเหตุผลที่เขาโจมตีบริษัทยาชั้นนำ เพราะว่าเขาต้องการทำให้ ตลาดยา เกิดความเปลี่ยนแปลง ไม่ถูกผูกขาดโดยบริษัทยาขนาดใหญ่
ในอนาคตโลกจะเกิดการวิวัฒนาการอย่างรุนแรง ทำให้โลกเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด ผู้บ่มเพาะสามารถเดินทางไปในมิติต่างๆได้ ทำให้เกิดการแบ่งแยกกันระหว่างคนธรรมดาและผู้บ่มเพาะพลัง และในหมู่ผู้บ่มเพาะพลังด้วยกันเอง ก็มีการแบ่งแยกขึ้นเช่นเดียวกัน
ส่วนใหญ่ผู้บ่มเพาะพลังชั้นสูง จะเป็นคนที่เกิดในตระกูลหรือครอบครัวชั้นนำ พวกเขาสามารถซื้อโอสถราคาแพงมาช่วยในการบ่มเพาะได้ง่ายๆ ทำให้บริษัทยาชั้นนำทั้งหลาย แข่งกันขึ้นราคาโอสถเพื่อขายให้กับพวกชนชั้นสูง โดยไม่สนใยดีชนชั้นกลางและล่างที่พวกเขาไม่สามารถซื้อโอสถได้
ในอนาคตโอสถกลายเป็นสิ่งล้ำค่าที่คนธรรมดาไม่สามารถแตะต้องได้
มันทำให้ความต่างชั้นระหว่างฐานะในสังคมกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดการแบ่งแยกชนชั้นอย่างชัดเจน
โชคดีที่โลกยังมีระบบปัญญาประดิษฐ์ชั้นสูง Nuwa คอยตรวจสอบดูแลโลกอย่างยุติธรรม
แต่ในมิติอื่นๆ ความแข็งแกร่งคือทุกสิ่งอย่างแท้จริง คนอ่อนแอถูกเหยียบย้ำราวกับสิ่งไร้ค่า ชนชั้นกลางและล่าง ต่างก็ไม่ได้รับความเท่าเทียมกันตั้งแต่แรก สุดท้ายพวกเขาก็ เป็นแค่เบี้ยใช้แล้วทิ้งในสงคราม
เมื่อเขาได้รับโอกาสอีกครั้ง เขาไม่ลังเลที่จะทำลายรากฐานของ ตลาดยา ปล่อยโอสถคุณภาพสูง แต่มีราคาถูก ผู้บ่มเพาะทุกคนสามารถใช้ได้ ทำให้คนชั้นกลางและล่างสามารถมีจุดยืนขึ้นมา เขาเชื่อว่าในหมู่ชนชั้นล่าง มีคนที่มีพรสวรรค์ แต่เพราะไม่ได้รับการฝึกและได้รับโอสถที่มีคุณภาพ ทำให้พวกเขาสูญเสียช่วงเวลาคำคัญในการบ่มเพาะไปอย่างน่าเสียดาย
เขาได้แต่หวังว่าในอนาคตจะมีผู้บ่มเพาะที่เกิดจากชนชั้นกลางและล่างออกมามากขึ้น เพื่อไม่ให้ช่องว่างระหว่างฐานะกว้างขึ้น จนโลกกลายเป็นโลกที่กดขี้ผู้อ่อนแออีกครั้ง…
แผนทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่เต็มไปด้วยประสิทธ์ภาพ ที่สามารถทำลายการผูกขาดของตลาดยาได้จริงๆ
แต่เขาไม่คิดเลยว่าสมาคมนักปรุงยาและบริษัทยาชั้นนำ อันดับ 1 และ 2 จะรู้ทัน พวกเขากระโดดเข้าร่วมการแย่งชิงอย่างเต็มตัวตั้งแต่เริ่ม
แม้ในตอนนี้พวกเขาจะเหมือนขาดทุนมหาศาล ที่ละทิ้งโอสถอื่น มาขายโอสถของเขาอย่างเต็มตัว แต่ในอนาคตพวกเขาจะได้รับส่วนแบ่งในตลาดมากขึ้น เมื่อเขาเริ่มขายสูตรโอสถระดับสูงขึ้นในอนาคต
“ฉันประมาทจิ้งจอกเจ้าเล่ห์พวกนี้ไปจริงๆ”จิวโมไป๋บ่นพึมพำเสียงเบา เขาหยิ่งเกินไปที่คิดว่าคนอื่น รู้ไม่ทันแผนการของเขา ครั้งหน้าเขาจะต้องทำอะไรให้รอบคอบมากขึ้น
เขากดออกจากระบบซื้อขายสูตรโอสถทันที ในตอนนี้เขามีเงินถึง 200 ล้านเครดิตแล้ว เขาสามารถเอาไปทำอะไรได้อีกหลายอย่าง…
เมื่อนึกถึงตรงนี้ใบหน้าของจิวโมไป๋ก็บิดเบี้ยวขึ้นเล็กน้อย
เขาลืมไปได้ยังไง ว่าตอนนี้มีคนตามหาตัวเขาเต็มไปหมด ถ้าเขาออกไปซื้อสมุนไพร หรือไปใช้ห้องกลั่นโอสถ… เขาจะถูกเจอตัวทันที
“ถึงจะพลาดไป มันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร แค่ไม่สามารถซื้อสมุนไพรหรือกลั่นโอสถได้เท่านั้นเอง”จิวโมไป๋ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนกล่าวปลอบใจตัวเอง
“คงต้องเปลี่ยนแผนใหม่ เลื่อนแผนออกนอกเมืองให้เร็วขึ้น”จิวโมไป๋ทำใจให้สงบ นั่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เริ่มวางแผนใหม่
ตอนนี้เป็นเวลาตี 2 กว่า จิวโมไป๋ก็เริ่มบ่มเพาะพลังเตาหลอม 9 สุริยันกับวิชาหลอมกายามังกรเทวะ 1 รอบ ก่อนที่จะนั่งสมาธิบ่มเพาะจิตวิญญาณ หัวใจพิสุทธิ์
ในตอนนี้ภายในทะเลสติของเขากำลังเติบโตขึ้น ทะเลปราณกำลังค่อยๆขยายอย่างช้าๆ ทะเลจิตวิญญาณสีทองแดงเข้มขึ้นเล็กน้อย พร้อมจิตสัมผัสของเขาขยายขึ้นเป็น 21 เมตร
เช้าวันต่อมาเขาทำธุระตามปกติ และเริ่มบ่มเพาะพลังโดยไม่ใช้โอสถ แม้ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาจะเร็วกว่าคนปกติ แต่จิวโมไป๋ก็ยังไม่พอใจ เพราะอีกเพียง 3 เดือนจะมีการประลองต่อสู้ภายในมหาวิทยาลัย เพื่อคัดเลือกนักศึกษา ไปเข้าร่วมการประลองต่อสู้ระหว่างมหาวิทยาลัย
ถ้าเขาสามารถแสดงความสามารถให้ผู้คนได้เห็น เขาอาจจะดึงดูดความสนใจจากองค์กรลับ การประลองครั้งนี้จึงเป็นการต่อสู้ครั้งสำคัญ ที่จะตัดสินชะตาชีวิตของเขาในอนาคต
เขาจำได้ว่ารุ่นพี่ปี 4 ที่แข็งแกร่งที่สุดอยู่ขั้นที่ 4 อวัยวะภายในต้น เขาในตอนนี้ไม่สามารถเอาชนะได้เลย
จิวโมไป๋มีความรู้ในการบ่มเพาะเกือบร้อยปี รวมถึงสูตรโอสถต่างๆที่ช่วยในการบ่มเพาะ แม้เขาจะไม่สามารถบ่มเพาะพลังถึงขั้นที่ 4 ภายในเวลา 3 เดือน แต่เขาสามารถบ่มเพาะพลังถึงขั้นที่ 3 เส้นเอ็น และสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายพอๆกับขั้นที่ 4 อวัยวะภายในได้ เพราะเขามีโลหิตมังกรพายุอัสนีและวิชาหลอมกายามังกรเทวะ
วิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะพลังคือ โอสถ และรองลงมาคือการต่อสู้เสี่ยงชีวิต
สัญชาตญาณต่อสู้ เป็นสิ่งที่จิวโมไป๋ขาดมากที่สุดในตอนนี้ เขาจึงวางแผนออกจากเมือง เข้าไปในป่าหาประสบการณ์ต่อสู้เสี่ยงชีวิต เพื่อดึงศักยภาพของร่างกายออกมา และมันเป็นเรื่องดีที่เขาออกจากเมืองเพราะเขาสามารถหาสมุนไพรในป่ามากลั่นโอสถได้เอง ไม่ต้องเสี่ยงเจอกับคนที่ออกตามหานักปรุงยาเตาหลอม 9 สุริยัน ภายในเมือง
และที่สำคัญเซียวหนานจิ้นจะได้ละความสนใจจากครอบครัวของเขา และเล็งเป้ามาที่เขาเพียงคนเดียว เขามั่นใจว่าเมื่ออยู่ในป่า ทักษะการเอาชีวิตรอดของเขาสามารถหลบหนีพวกที่ตามล่าได้อย่างแน่นอน…
1 วันผ่านไปอย่างเงียบสงบ พี่ใหญ่หวังเสี่ยวเปาขาดการติดต่อไปโดยสิ้นเชิง หลังจากหาข่าวในฟอรั่มข่าว ก็พบว่าคนที่ถูกเรียกตัวไปสอบสวนถูกกักบริเวณไว้ ทำให้ไม่สามารถติดต่อคนภายนอกได้
ส่วนผู้สร้างก็ไม่ติดต่อมา จนเขาอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ เขาเคยได้ยินลักษณะนิสัยของผู้สร้างมาว่า เขาเป็นคนซื่อสัตย์ อ่อนน้อมถ่อมตน แต่ทำไมถึงไม่ติดต่อมาหาเขาที่เป็นผู้ช่วยเหลือ?
จิวโมไป๋ถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินทางไปที่ร้านอาหารครอบครัวจิว