จิวโมไป๋เหลือบตามองไปยังเซียวหนานจิ้น อย่างเฉยชา
“ฉันจะไม่ผ่าหินก่อนนี้”
“น่าเสียดาย ที่นายไม่ผ่า ทุกคนอย่างรู้ ว่าหินพนันหยกที่ไม่มีลักษณะเด่นใดๆ ภายในจะมีหยกอยู่หรือไม่”เซียวหนานจิ้นพูดเหมือนเสียใจ แต่แววตามองจิวโมไป๋อย่างท้าทาย
นักพนันหินโดยรอบ มองจิวโมไป๋สลับกับเซียวหนานจิ้น โดยไม่พูดอะไร พวกเขาไม่อยากเข้าไปยุ่งกับการทะเลาะกันของรุ่นน้อง
จิวโมไป๋ทำเมิน บอกพนักงานของลานพนันหินหยก ให้ขนหินพนันหยกไปเก็บในคลังเก็บของในชื่อของเขา
เซียวหนานจิ้นกำหมัดแน่น เขาสูดลมหายใจลึกๆ หลานซูเมิ่งลูบแขนปลอบโยน เธอมองจิวโมไป๋ครุ่นคิดอะไรบางอย่างในใจ
จิงมู่ไท่มองเหตุการณ์อย่างเงียบๆ ในใจเย้ยหยันทั้งสองอย่างดูแคลน
ทุกคนพากันเดินไปดูลานหินพนันหยกใกล้ๆ เหล่าประมาจารย์แสดงความคิดเห็นวิเคราะห์หินพนันเหล่านั้น ให้นักพนันหินรอบๆฟังอย่างไม่ห่วงความรู้
เมื่อได้รับข้อมูล เหล่านักพนันหินต่างก็แย่งชิงกันเสนอราคา โดยที่เหล่าปรมาจารย์ไม่เข้าไปร่วมด้วย พวกเขาเป็นปรมาจารย์หยก มีชื่อเสียงในวงการพนันหยก พวกเขารู้ข้อห้ามบางอย่างดี
พวกเขาไม่สนใจหินพนันหยกเล็กๆ นอกจากจะถูกใจจริงๆถึงจะเสนอราคาแข่ง
หลายครั้ง ปรมาจารย์เตี่ยวมักจะเสนอความคิดเห็น ขัดแย้งกับลู่หว่านอยู่เสมอ
พวกเขาที่เห็นปรมาจารย์เตี่ยว โจมตี ปรมาจารย์ลู่ ตลอดเวลา ก็ไม่แปลกใจนัก
เพราะในอดีตปรมาจารย์เตี่ยว เคยเป็นปรมาจารย์หยกหญิง ที่มีอายุน้อยที่สุด เธออายุเพียงแค่ 31 ปี เธอครองตำแหน่งชื่อเสียงนี้มา 10 ปี ก่อนที่ลู่หว่านจะเข้ามาแทนที่เธอ
ทำให้เธอท้าพนันหยกกับลู่หว่านอยู่เสมอ และส่วนใหญ่เธอก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ความพ่ายแพ้หลายครั้งติดต่อกันของปรมาจารย์เตี่ยว มันทำให้ตำแหน่งปรมาจารหยกของลู่หว่านมั่นคงขึ้น พูดได้ว่าปรมาจารย์เตี่ยว เป็นหินก้าวข้ามของลู่หว่านก็ไม่ผิดนัก
ไม่แปลกเลยที่เธอจะเห็นลู่หว่านขัดตา และหาโอกาสโจมตี เหน็บแนมทุกครั้งเมื่อเผชิญหน้ากัน
ทุกคนต่างเคยเห็น หรือเคยได้ยิน เกี่ยวกับความไม่ลงรอยกันของปรมาจารย์เตี่ยว และ ปรมาจารย์ลู่มาบ้าง พวกเขาจะเมินการทะเลาะเบาะแว้งเล็กๆนี้ ไม่เข้าไปหาเรื่องใส่ตัวเอง
เนี่ยฟูหานคันมือมานาน เขาเข้าร่วมการพนันหินหยกทันที ยังดีที่เขาไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามเพิ่มเงินสูงเกินจริง อาจเพราะมีลู่หว่านอยู่เขาเลยไม่กล้า
โชคในการพนันของเขาดีอย่างน่าประหลาดใจ เขาผ่าหินพนันหยกมีโอกาสได้หยกถึง 3 ใน 5 หรืออาจเพราะหินพนันหยกเหล่านี้พึ่งออกจากเหมือง ทำให้มีโอกาสเจอหยกได้ง่าย
นอกจากเนี่ยฟูหานแล้ว ผู้ติดตามเหล่าปรมาจารย์ไม่มีใครพนันหยกเลย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
จิงมู่ไท่เห็นว่าได้เวลา เขาพาทุกคนไปที่ลานหน้าเหมืองหิน ตอนนี้พื้นที่ได้จัดเตรียมพร้อมสำหรับการประมูลหินพนันหยกแล้ว
รอบเวทีด้านฝั่งตรงข้ามเหมือง ด้านซ้ายและด้านขวา ได้จัดที่นั่งยกสูง ไล่ระดับขึ้นไป 3 ชั้้น เป็นที่นั่งสำหรับนักพนันหยก ตรงกลางระหว่างเวทีและเหมืองเปิดโล่ง ด้านหน้าที่นั่งฝั่งตรงข้ามเหมือง ได้จัดที่นั่งพิเศษ 5 ตำแหน่ง ตรงหน้าที่นั่ง มีโต๊ะสี่เหลี่ยมวางเอาไว้เป็นพิเศษ สำหรับเหล่าปรมาจารย์
ข้างเวที มีเครื่องตัดหินขนาดกลางวางเอาไว้ ข้างเครื่องตัดหินมีชายวัยกลางคนในชุดจีนโบราณ แต่ทะมัดทะแมง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญผ่าหินพนัน
การผ่าหินพนันหยก ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าที่มีความแม่นยำสูง เพราะการผ่าหินพนันหยก ต้องใช้ฝีมือและประสบการณ์ ถ้าเกิดผ่าผิดพลาด แม้จะเป็นแค่ความผิดพลาดเพียง 1 มิลลิเมตร หยกล้ำค่าอาจแตกหักและสูญเสียคุณค่าของมันได้
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญผ่าหินพนันหยกจึงมีชื่อเสียงสูงมาก เป็นรองเพียงปรมาจารย์หยกเท่านั่น
ปรมาจารย์หยุนสังเกตเห็นชายวัยกลางคน เขาเดินไปตรงเข้าไปหา และกล่าวทักทายชายวัยกลางคนอย่างเป็นกันเอง
“ฮ่าๆ เป็นคุณหยางจริงๆ ครั้งนี้คงต้องให้คุณหยาง ลงมือผ่าหินพนันอีกครั้ง”
“ไม่ๆ ทางผมต่างหากที่ต้องให้ปรมาจารย์หยุนช่วยชี้แนะ”หยางผิงหัวเราะประสานมือเคารพ ปรมาจารย์หยุน
ปรมาจารย์คนอื่นๆ ก็คุ้นเคยกับหยางผิงเป็นอย่างดี เพราะเขาคือผู้เชี่ยวชาญผ่าหินพนันหยก มีฉายาว่ามือทอง เพราะเขาแทบไม่เคยผ่าหินพนันหยกพลาดเลย ทำให้เขามีชื่อเสียงในวงการพนันหินหยกอย่างสูง
ในระยะหลังๆชื่อเสียงของเขามากเกินไป ทำให้มีคนเชิญเขาให้ไปผ่าหินพนันหยกแทบจะทุกวัน ช่วงหลังๆเขาแทบไม่รับงานอีก ทำให้ยากที่จะเชิญเขาให้มาผ่าหินพนันหยกได้
การที่ตระกูลจิงสามารถเชิญหยางผิงมาได้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตระกูลจิงเช่นกัน
จิวโมไป๋ลอบหัวเราะในใจ เขาจำได้ว่า ในปีหน้าหยางผิง จะถูกจับในข้อหาหลอกลวง ต้มตุ๋น ความสามารถมือทองอันโด่งดังของเขาล้วนโกหก
เมื่อเห็นหยางผิงอยู่ที่นี่ เขาก็ประติดประต่อบางอย่างได้
ในตอนนี้ตระกูลจิงยังไม่ถูกทำลาย เขาและหยางผิง ได้ร่วมมือกันหลอกลวงนักพนันหยกแล้ว
สาเหตุที่หยางผิงแทบไม่เคยผ่าพลาด เพราะเขาได้รับข้อมูลการสแกนหินพนันมาก่อน ทำให้เขาสามารถผ่าหินพนันทุกก้อนได้อย่างไม่มีผิดพลาด
