แรงระเบิดทำลายล้างสูง กวาดทำลายช่องแคบพังทลายกลายเป็นเศษซาก ใต้เศษซากกองหินใหญ่น้อยมีร่างของมนุษย์จำนวนนับไม่ถ้วนนอนตายอย่างน่าอเนจอนาถ
“นี้มันเกิดอะไรขึ้น”ฉินอี้เฟยผลักก้อนหินที่ทับแขนซ้ายของเธอออกด้วยความสับสนมึนงง แขนซ้ายของเธอในตอนนี้ถูกทำลายจนบิดเบี้ยวน่ากลัว ใบหน้างดงามเต็มไปด้วยบาดแผล เสื้อคลุมนักวิจัยสีน้ำเงินที่ปกป้องร่างกายของเธอถูกเผาไหม้ไปบางส่วน ยังดีที่เธอมีอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินทำให้เธอหลบหนีออกมาได้ทัน แต่เพราะรัศมีแรงระเบิดกว้างเกินไป ทำให้เธอหลบไม่พ้นระยะทำลาย ทำให้เธอโดนก้อนหินและสะเก็ดไฟทำร้าย
เธอโชคดีกว่านักวิจัย ทหารและนักผจญภัยบางส่วนที่ตามเข้าไป พวกเขาไม่สามารถหลบออกมาได้ทัน ทั้งหมดกลายเป็นศพใต้กองเศษซากที่พังทลาย
นักผจญภัยบางส่วนที่ไม่ได้ตามเข้าไป พวกเขาก็โดนผลกระทบจนบาดเจ็บใหญ่น้อยตามๆกันไป
เมื่อเธอเงยหน้ามองใจกลางระเบิด เธอก็เห็นร่างของคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ฉินอี้เฟนพูดเสียงเบาราวกระซิบอย่างไม่อย่างเชื่อสายตาตัวเอง
“คุณลุงทำไมถึง…”
เหมือนจะรู้ตัว นายทหารยศสูงวัยกลางคน หันมาเห็นหลานสาวของตัวเองในสภาพบาดเจ็บสาหัส เขายิ้มเย็นชาจนน่ากลัวก่อนจะกล่าวเสียงดังให้ฉินอี้เฟยที่อยู่ไกลออกมาได้ยิน
“ไม่คิดเลยว่าฉินเซี่ยหยุน กับให้เครื่องรางช่วยชีวิตที่หายากกับหลาน”
ฉินอี้เฟยมองท่าทางของญาติผู้ใหญ่ที่เปลี่ยนไปด้วยสีหน้าว่างเปล่า มันเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกกลัว
บัง! กองหินพังแตกกระเด็นออกมา พร้อมกับร่างของนายทหารยศสูงกระโดดออกมาจากหลุม และในเวลาไม่ห่างกันนักก็มีนายทหารยศสูงอีกคน พังกองหินที่ทับร่างของตนปีนออกมา ร่างกายของทั้งสองในตอนนี้สะบักสะบอมเต็มไปด้วยรอยเผาไหม้สีดำ แต่ไม่มีบาดแผลสาหัส พวกเขามองกองเศษซากหินที่กองทับกันด้วยแววตาแดงกล่ำ ก่อนที่พวกเขาจะมอง ฉินเชี่ยหนาน ด้วยแววตาแข็งกร้าว
“แกเป็นคนทรยศจริงๆ”ฮั่นอู่หยวนกล่าวเสียงเยือกเย็น พร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ พลังกดดันไร้สภาพแผ่ขยายกดดันไปทั่วบริเวณ จนนักผจญภัยที่รอดชีวิตมาได้รู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก
“พันเอกฮั่นสงบอารมณ์ไว้ก่อน”หวังคงลั่วเคลื่อนตัวเข้ามายืนด้านข้างฮั่นอู่หยวน เอ่ยเตือนด้วยท่าทางจริงจัง ก่อนส่งสัญญาณสายตาไปที่ด้านหลังฉินเชี่ยหนาน
ฮั่นอู่หยวนสงบความขุ่นเคืองในอกลง ก่อนที่จะกวาดสายตาตรวจสอบโดยรอบ เขาก็เห็นร่างของคนผิวขาวในชุดคลุมยาวสีดำ ผมยาวทอง ดวงตาสีแดงราวเปลวไฟ ในมือของเขาถือไม้เท้ายาวหนึ่งเมตรครึ่ง ใบหน้าเย่อหยิ่งบ่งบอกว่าเป็นคนทวีปตะวันตกอย่างชัดเจน
“ผู้ใช้เวท!”ใบหน้าของฮั่นอู่หยวนกระตุกขึ้นเล็กน้อยด้วยความตกใจ แต่เพราะประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปี ทำให้เขาเก็บสีหน้าให้เหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว
เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมระเบิดเมื่อครู่ถึงรุนแรงขนาดนั้น ที่แท้ก็เป็นคาถาของผู้ใช้เวท!
หวังคงลั่วเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว หางตาสบกันกับฮั่นอู่หยวน โดยไม่มีคำพูดใดๆ เขาเร่งพลังพุ่งเข้าใส่ฉินเชี่ยหนานทันที ด้วยความเร็วสูงสุดพริบตาเดียว ก็ห่างจากร่างของอีกฝ่ายไม่ถึงสิบเมตร
ฉินเชี่ยหนานหัวเราะเย็นชา เหมือนเขาจะรู้อยู่แล้ว มือข้างที่ถือกล่องใส่สมบัติโยนไปที่ผู้ใช้เวท ก่อนที่เขาจะพุ่งเข้าใส่ทั้งสองอย่างไม่กลัวเกรง พลังกดดันที่เขาแผ่ออกมาเหนือชั้นกว่าทั้งสอง 1 ขั้น
ขั้นที่ 6 โลหิตปลาย!
หวังคงลั่วชกหมัดฝ่าสายฝน คลื่นพลังแปรเปลี่ยนหยดฝนเป็นกระสุนน้ำหลายร้อยนัด โหมเข้าใส่ฉินเชี่ยหนาน ก่อนที่เขาจะระเบิดท่าร่างราวคลื่นซัดเป็นระลอก พื้นดินโคลนเหมือนเป็นสระน้ำสงบที่ถูกก้อนหินโยนลงไป โคลนดินที่มีน้ำหนักกลายเป็นคลื่น หวังคงลั่วบิดเท้าเตะคลื่นโคลนกลายเป็นหอกเข้าใส่ฉินเชี่ยหนานตาม กระสุนสายฝนไปติดๆ เหตุการณ์เมื่อครู่ใช่เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
ฉินเซี่ยหนานเหมือนไม่เห็นกระสุนสายฝนอยู่ในสายตา ฝ่ามือฟันใส่กระสุนสายฝนแตกกระจายหายไป ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นหมัดสีทองอ่อนชกทำลายหอกโคลน พลังหมัดที่เหลือยังพุ่งเข้าใส่ร่างของหวังคงลั่ว
หวังคงลั่วไม่เกรงกลัวว่าอีกฝ่ายมีระดับพลังมากกว่าหนึ่งส่วน เขาใช้ฝ่ามือตอบโต้ ก่อเกิดคลื่นอากาศสลายการโจมตีของฉินเชี่ยหนานหายไป ก่อนจะเข้าปะทะอย่างหักโหม หมัดกับฝ่ามือตอบโต้กันอย่างดุเดือดฝ่ายหนึ่งโจมตีดุดันทรงพลัง อีกฝ่ายปัดป้องทุกการโจมตี
ใบหน้าของฉินเซี่ยหนานดุร้ายขึ้นหนึ่งส่วน เขาพยายามทำลายการป้องกันที่อ่อนนุ่มแต่แข็งแกร่งแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อเขาจะถอยหนีเขาก็ถูกคลื่นพลังของอีกฝ่ายกักตัวไว้เมื่อเขาไม่ตอบโต้ คลื่นพลังก็จะเข้าทำลายอวัยวะภายในของเขาจนอึดอัด เขาได้แต่กัดฟันเข้าปะทะกับอีกฝ่ายอย่างช่วยไม่ได้
ฮั่นอู่หยวนที่ตามหลังมา เมื่อเห็นว่าหวังลั่วคงพยายามเหนี่ยวรั้งฉินเซี่ยหนานเอาไว้ได้ เขาก็เปลี่ยนความคิดที่จะช่วย เขาพุ่งผ่านร่างของฉินเชี่ยหนาน บุกเข้าใส่ผู้ใช้เวทอย่างไม่รอให้อีกฝ่ายตั้งตัว แต่ในตอนนั้นเอง เขาก็จับสัมผัสจิตสังหารได้ในพริบตา เขาเกรงร่างหันกลับไปชกหมัดใส่อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
ปัง! เสียงกายเนื้อปะทะกันดังสนั่น ร่างที่ลอบสังหารกระเด็นไปหลายสิบเมตรแล้วแน่นิ่งไป
ฮั่นอู่หยวนไม่สนใจนักฆ่าที่กระเด็นออกไป เขาพุ่งเข้าหาผู้ใช้เวท เขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 6 โลหิตกลาง ถือว่าเป็นผู้บ่มเพาะพลังที่แท้จริง แม้ว่าอีกฝ่ายจะผู้บ่มเพาะพลังขั้นที่ 5 กระดูกของทวีปตะวันตกที่มีสายเลือดทรงพลังก็ตาม ความแตกต่างระหว่างพลังนั้นกว้างอย่างมาก แตกต่างจากขั้นที่ 1-5 ที่ความแตกต่างระหว่างขั้นพลังไม่ชัดเจนนัก ขั้นที่ 1 สามารถสังหารขั้นที่ 5 ได้ถ้ามีฝีมือสูงกว่าฝ่ายตรงข้ามหรือมีอาวุธอุปกรณ์ที่ทรงพลังกว่า…
พรึบๆ
ก่อนที่ฮั่นอู่หยวน จะเข้าถึงตัวผู้ใช้เวท ก็มีมือสังหารอีกหลายคนเข้ามาขัดขวาง ฮั่นอู่หยวนสถบออกมา ก่อนที่จะเข้าต่อสู้อย่างสุดกำลัง เพราะเขารู้ตัวดีว่าถ้า ผู้ใช้เวทร่ายเวทพลังทำลายร่างจะรุนแรงอย่างมาก แม้ฐานการบ่มเพาะของเขาจะแข็งแกร่งแต่เขาก็ไม่กล้าเสียงที่จะรับคาถาของอีกฝ่าย
เขาชกร่างของนักฆ่าที่มีรูปร่างเล็กแต่รวดเร็วกระเด็นออกไป ก่อนที่จะหมุนตัวเตะใส่ร่างของนักฆ่าที่มีร่างกายเหมือนก้อนหินให้กระเด็นอย่างรุนแรงไปทางผู้ใช้เวท
ผู้ใช้เวทยืนนิ่งอย่างเย่อหยิ่ง ราวกับไม่สนใจฮั่นอู่หยวนที่กำลังเข้ามา เมื่อเขาเห็นว่าร่างของนักฆ่ารวมองค์กรกำลังพุ่งเข้ามา เขายื่นมือออกมาก่อนที่จะเกิดลูกบอลไฟที่กำลังลุกไหม้ พุ่งใส่ร่างนั้นจนกระเด็นไปด้านข้างอย่างไม่ใยดี
ฮั่นอู่หยวนชะงักเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเย็น สำหรับทหารที่ต้องปกป้องประเทศและสหายรวมอุดมการณ์แล้ว การฆ่าคนที่ทำงานด้วยกันอย่างเลือดเย็น มันทำให้เลือดทหารในร่างของฮั่นอู่หยวนเดือดพล่านขึ้นมา พลังกดดันเย็นชาดุดันแผ่กระจายออกไปจนชั้นบรรยากาศสั่นไหวอย่างรุนแรง นักฆ่าขั้นที่ 5 ที่เหลือสั่นกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และในตอนนั้นเอง ฮั่นอู่หยวน ชกหมัดอย่างรุนแรงดุจกระทิงคลั่ง ร่างของนักฆ่าที่เหลือกระเด็นหายไปในพริบตาทิ้งเลือดสีแดงสาดกระจายทั่วท้องฟ้า
ผู้ใช้เวทจ้องร่างฮั่นอู่หยวนเล็กน้อยราวกับว่าตัวเองเริ่มสนใจอีกฝ่าย เขาจะยกไม้เท้าขึ้นกลิ่นอายเผาไหม้กระจายไปทั่วบริเวณ…