บทที่ 145
จังหวะหัวใจเต้นรัว
มู่หรงเสวี่ยสมควรที่จะผ่าน ด้วยคำแนะนำของเหล่าอาจารย์และหลิวฮัวลี่แล้วก็ยังมีคะแนนโหวตที่ตัดสินใจว่า มู่หรงเสวี่ยสมควรที่จะได้เป็นรองประธานของสหภาพนักศึกษาซึ่งรองจากหลิวฮัวลี่เพียงคนเดียวเท่านั้น
หลงเหมยจิ่งโกรธจนอยากที่จะกระอักเลือด เธออยากที่จะได้ตำแหน่งรองประธานของสหภาพนักศึกษามาตลอด ในฐานะพี่ปีสองแต่เธอกลับโดนรุ่นน้องปีหนึ่งอย่างมู่หรงเสวี่ยเหยียบหัว อันที่จริงเธอไม่รู้ตัวเลยว่าคำถามหลอกมากมายที่เธอถามออกมาจะยิ่งช่วยเพิ่มคะแนนให้มู่หรงเสวี่ยได้อีกเยอะเลย และเหล่าอาจารย์ที่ทำการประเมินต่างก็มองมู่หรงเสวี่ยดั่งนางฟ้านางสวรรค์ แถมยังได้เป็นลูกศิษย์ของศาสตราจารย์ไป๋อีก สุดท้ายเธอก็ต้องยอมยกเว้นและให้เด็กปีหนึ่งอย่างมู่หรงเสวี่ยขึ้นเป็นรองประธานสหภาพนักศึกษา แน่นอนว่ายังมีช่วงประเมินอีกสองเดือน ถ้าในระหว่างนี้มีเรื่องอะไรผิดพลาดเธอจะต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง
นี่ยังไม่พูดถึงข้อสอบข้อเขียนซึ่งถ้าอยากที่จะพิสูจน์คะแนนละก็ กระดาษคำตอบของมู่หรงเสวี่ยก็บอกได้เลยว่าทำได้คะแนนเต็มและรายชื่อผลการประเมินของสหภาพนักศึกษาก็ถูกติดไว้ที่กระดานข่าวอีกด้วย นี่เป็นอีกครั้งที่ชื่อของมู่หรงเสวี่ยโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางนักศึกษาแพทย์คนอื่นๆซึ่งเป็นตำนานไปเลย
แน่นอนมันเป็นไปไม่ได้ที่นักศึกษาทุกคนจะชอบ มู่หรงเสวี่ยและมีคนกลุ่มเล็กๆที่แอบพูดกันว่ามู่หรงเสวี่ยแกล้งทำตัวเป็นคนดี
หลังจากที่เข้าสอบประเมินของสหภาพนักศึกษาเสร็จ มู่หรงเสวี่ยก็เดินกลับบ้าน อย่างไรก็ตามครั้งนี้เธอไม่เห็นร่างที่คุ้นเคยรอที่หน้าประตู มีเพียงลูกน้องทั้ง 10 คนของพี่ชูที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่หน้าวิลล่า
เธอไม่ได้สนใจแต่เมื่อเธอเดินเข้าไปในวิลล่าและหาทั่วทุกห้อง เธอก็ยังไม่เจอฮวงฟูอี้ ทันใดนั้นเธอก็นึกได้ว่าเขาอาจจะไปแล้วโดยไม่ร่ำลากันสักคำ เขาไม่อยากที่จะกล่าวลาเลยด้วยซ้ำ
ทุกมุมของวิลล่าดูเหมือนเห็นภาพที่เขาคอยเดินตามเธอตลอด ถึงแม้เธอจะคิดไว้แล้วว่ามันจะต้องถึงวันนี้แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเศร้าและไม่พอใจแบบนี้ นี่มันมากเกินไป อย่างน้อยเธอก็ควรจะได้กล่าวลาและได้รู้ว่าเขาหายดีแล้วก่อน
มู่หรงเสวี่ยนั่งลงที่โซฟาและไม่มีอารมณ์ที่จะทำอาหารแล้ว เธอหมดอารมณ์จะกินไปเลย ไม่มีใครมาคอยบอกเธอว่าหิวอีกแล้ว
บางครั้งเธอก็สงสัยว่าตัวเองปล่อยอารมณ์ความรู้สึกง่ายไปหรือเปล่าถึงมีเพียงแค่เธอที่ต้องเจ็บปวด เหมือนกับตอน ฟางฉีฮัวและชางกวนโม่ เมื่อนึกถึงชางกวนโม่หัวใจเธอก็ยังเจ็บปวดแต่ความเจ็บปวดครั้งนี้มันไม่เหมือนกันเลย แม้เธอจะสูญเสียความรักไปแต่เธอก็ยังมีชีวิตต่อได้ ใช่ไหม
ในโลกนี้ใครบ้างที่จะอยู่ไม่ได้? นอกจากความเจ็บปวดแล้วเธอก็ยังอยู่ได้อย่างดี เธอก็ยังมีมหาลัย มีงานและมีชีวิต เธอถึงขนาดรู้สึกว่าคำว่า “ชางกวนโม่” อยู่ห่างไกลจากตัวเธอมาก
ทุกอย่างไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมได้
อันที่จริงมู่หรงเสวี่ยเป็นคนที่มั่นคงอย่างมาก ถึงแม้ความรักที่มันจอมปลอมจะกลับมาแต่เธอก็ไม่ยอมที่จะเข้าไปแตะต้องมันอีก เมื่อเปลือกที่เคยอ่อนนุ่มปิดตัวลง มันก็มีแต่ที่จะแข็งแกร่งและเยือกเย็นมากขึ้นเท่านั้น และมันก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของตัวเอง
ในชีวิตนี้ เธอไม่มีวันกลับไปหาเขาอีกเพราะระหว่างพวกเขามีไป๋เสวี่ยหลี่และลูกอยู่
ไป่เสวี่ยหลี่กำลังจะเป็นบ้า พี่โม่ไม่อยากที่จะเจอเธอ ทุกอย่างที่เธอเตรียมมาสูญเปล่า เธอถึงขนาดเตรียมยาปรุงอารมณ์ไว้ด้วย เธอวางแผนที่จะปล่อยวางเรื่องศักดิ์ศรีและความจอมปลอมต่างๆ เธออยากที่จะตั้งท้องลูกของพี่โม่แต่เธอจะทำได้ยังไง? พี่โม่ไม่อยากที่จะเห็นหน้าเธอด้วยซ้ำ ครั้งหนึ่งพี่โม่เคยไปที่วิลล่าของมู่หรงเสวี่ยและรออยู่ตั้งหลายชั่วโมงด้วย
ไป่เสวี่ยหลี่กังวลมากว่ามู่หรงเสวี่ยจะกลับมาอีก เธอจึงให้คนไปเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของมู่หรงเสวี่ยบ้างเป็นบางครั้ง เธอกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งท่าทางของพี่โม่ที่เปลี่ยนไปยิ่งทำให้เธอกังวลว่ามู่หรงเสวี่ยจะกลับมา ถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะต้องกลายเป็นคนแพ้อย่างแน่นอน
เธอไม่คาดคิดว่ามู่หรงเสวี่ยจะไม่เพียงแค่ยอมเลิกแต่กลับเลิกอย่างเด็ดขาด ถึงขนาดไม่สนใจอะไรพี่โม่อีกเลย แต่ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ดีเลย มันไม่ได้ทำให้เธอผ่อนคลายลงเลยสักนิดเพราะคนที่ไม่ยอมเลิกก็คือพี่โม่
อยู่ดีๆเธอก็เริ่มที่จะเกลียดมู่หรงเสวี่ย ทำไมเธอถึงไม่ร้องไห้คร่ำครวญ, ทำไมเธอถึงกล่าวคำลาอย่างใจเย็น แล้วทำไมเธอไม่ทำร้ายตัวเองเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ?
มู่หรงเสวี่ย นังผู้หญิงชั้นต่ำ ในบรรดาพวกเธอทั้งสามคนทำไมมู่หรงเสวี่ยยังสงบนิ่งและใจเย็นอยู่ได้? พี่โม่เมินเธอและไม่ยอมมาหาที่บ้านเลย
ถ้ามู่หรงเสวี่ยจับพี่โม่ไว้และร้องไห้คร่ำครวญ เขาก็คงจะทนไม่ไหวแน่ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นพี่โม่จะต้องลบเธอไปจากใจได้แน่ๆ
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ที่เธอเปิดเผยเรื่องที่ท้อง มู่หรงเสวี่ยก็หายออกไปจากโลกของชางกวนโม่จนหมดสิ้น ทำให้เขากลายเป็นคนที่ยุ่งและดูน่ากลัวอยู่ตลอด และบ่อยครั้งที่เหม่อลอยและไม่สนใจอะไรเลย
บางทีมันอาจจะเป็นเพราะแบบนี้ เธอกลัวว่าชื่อของ มู่หรงเสวี่ยจะติดอยู่ในใจของพี่โม่ไปตลอดชีวิตเขา ความรู้สึกผิดและความเสียใจจะต้องมาพร้อมกับผู้หญิงที่ชื่อมู่หรงเสวี่ยและจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิต
เธอคิดว่ามู่หรงเสวี่ยโง่แต่ที่จริงแล้วเธอฉลาดมาก ตัวไม่อยู่แต่กลับเป็นหอกหนามที่คอยทิ่งแทงจิตใจระหว่างเธอกับพี่โม่ได้ หอกหนามนี้จะทำให้หัวใจของเธอกับพี่โม่ต้องเจ็บปวดและหลั่งเลือดไปตลอด
เธอจะเกลียดมู่หรงเสวี่ยจนตายและไม่มีวันปล่อยเธอไปแน่ ถ้าเธอไม่ได้พี่โม่ งั้นเธอจะต้องลากมู่หรงเสวี่ยให้ไปลงนรกด้วยอย่างแน่นอน เธอกับพี่โม่จะเป็นอิสระได้ยังไงหลังจากที่ต้องทรมานกันมาขนาดนี้? เธอไม่ปล่อยให้มู่หรงเสวี่ยมีความสุขแน่ ไม่มีทาง
สำหรับพี่โม่ หลังจากที่เธอได้เจอมาเองกับตัวก็ได้รู้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่เลือดเย็นมากแค่ไหน เขาไม่สนใจชีวิตเธอเลย, ไม่สนใจว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเขาอยู่ และถึงขนาดอยากให้เธอฆ่าเด็กแต่นอกจากเรื่องนี้แล้ว เธอก็ยังรักเขาอย่างที่สุดจนถอนตัวไม่ขึ้น
ชางกวนโม่ผ่ายผอมไปมาก ถึงแม้จะยังหล่อเหลาแต่ก็รู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อได้เห็น
เขารู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับมู่หรงเสวี่ย ร่วมทั้งความจริงที่ว่าเธอได้รับตำแหน่งรองประธานสหภาพนักศึกษาที่มหาลัย, รู้เรื่องที่ชายแปลกหน้าในวิลล่าเธอจากไปแล้วและชายอีกคน ชูอี้เสิ่นก็ย้ายเพิ่งย้ายเข้ามา
หลังจากวันนั้นอยู่ดีๆเขาก็ได้เข้าใจอะไรบางอย่าง มู่หรงเสวี่ยยอมแพ้เรื่องเขาแล้วอย่างหมดสิ้น ความรู้สึกของเธอมุ่งมั่นมากจนเธอไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำ เขาคิดอยู่เสมอว่าตราบใดที่เขาแก้ไขเรื่องที่ผิดพลาดได้ เขาก็จะได้กลับไปอีกครั้งแต่เขาลืมไปว่าเขาเป็นคนเดียวที่อยากจะกลับไป
เขาเสียเธอก็เพราะความผิดพลาด เมื่อรู้ว่ามันแก้ไขไม่ได้ รู้ว่าเธอจะมองเขาอย่างเย็นชาเท่านั้น รู้ว่าเธอไม่ได้รักเขามากเหมือนที่เขารักเธอแต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อย แม้ว่าเขาจะทำได้เพียงนั่งฟังลูกน้องมารายงานเรื่องของเธอทุกๆวัน เขาก็ยังสามารถหาแรงกระตุ้นเพื่อที่จะอดทนต่อไปได้ เขารักเธอและจะไม่ยอมปล่อยมือ
ในที่สุดชูอี้เสิ่นก็ทำงานดึกจนเสร็จและกลับไปที่วิลล่าของมู่หรงเสวี่ย ทันทีที่เขาเข้าประตูไป เขาก็เห็นร่างเล็กนอนขดอยู่บนโซฟา
เขารู้ตั้งแต่ตอนที่ฮวงฟูอี้ไปแล้วเพราะพวกที่เฝ้าอยู่ต่างก็เป็นคนของเขา เขาได้รับรายงานแทบจะทันทีที่ฮวงฟูอี้เดินออกจากประตูไป อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับมู่หรงเสวี่ย ในความคิดของเขาฮวงฟูอี้เป็นคนที่อันตรายมากๆ เสี่ยวเสวี่ยทนรับเรื่องพวกนั้นไม่ได้หรอก ท่าทางเธอดูบอบบางจะตาย เขายังจำภาพเธอที่ร้องไห้เจ็บปวดราวขาดใจได้ไม่มีวันลืม
อันที่จริงการจากไปของฮวงฟูอี้ทำให้เขาถอนหายใจอย่างโล่งอก อย่างไรก็ตามเมื่อได้เห็นท่าทางของมู่หรงเสวี่ย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหดหู่นิดหน่อย เขาอยากที่จะทำให้ฮวงฟูอี้เป็นเด็กและกลับมาทำให้เธอหัวเราะอีกแต่เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้
เขาคอยๆเดินเข้าไปและกระซิบแผ่วเบา “เสี่ยวเสวี่ย ทำไมยังไม่กินข้าวอีกล่ะ?” มู่หรงเสวี่ยที่นั่งอยู่ที่โซฟาตั้งแต่กลับมา เขาสั่งให้ลูกน้องคอยรายงานเขาเรื่องนี้ด้วย เขาแทบจะรีบทำงานให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้กลับมาที่นี่
มู่หรงเสวี่ยพูดด้วยเสียงแหบต่ำ “พี่ชู เขาไปแล้วและไปโดยไม่บอกฉันสักคำ…”
เห็นได้ชัดว่าเขาที่พูดถึงคือฮวงฟูอี้ เขารู้ เรารู้ด้วยว่า มู่หรงเสวี่ยไม่เต็มใจเท่าไร ถึงแม้มันจะไม่ใช่ความรักแต่ก็ยังทำให้เธอเสียใจ
เขาค่อยๆอุ้มเธอขึ้นมาโดยไม่มีนัยแอบแฝงอะไร “บางทีเขาอาจจะมีเรื่องที่ต้องจัดการก็ได้ หรือบางทีเขาอาจจะลำบากใจ…แต่เสี่ยวเสวี่ยอย่าลืมนะว่าฉันอยู่นี่ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเสมอ…” มู่หรงเสวี่ยไม่ได้ร้องไห้และปล่อยให้เขากอดเธอไว้จนหัวใจเธอผ่อนคลายไปได้มาก
อันที่จริงระหว่างทางที่เขากลับมาเขารู้สึกสับสน กลัวว่าจะได้เห็นเธอร้องไห้อย่างเจ็บปวดหัวใจ โชคดีที่เธอไม่ได้ร้องไห้
“พี่ชู ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณนะ…” มู่หรงเสวี่ยยืนขึ้นจากอ้อมแขนของเขา เธอเองก็เตรียมใจไว้บ้างแล้วก็เลยไม่เป็นอะไร
ชูอี้เสิ่นกดลงเพราะมู่หรงเสวี่ยจะลุกออกไปและรู้สึกไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรที่จะปล่อยมือจากเธอ
เขาพูดพร้อมรอยยิ้มจางๆ “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน…”
ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่เธอเศร้า เธอก็จะมีพี่ชูคอยอยู่เป็นเพื่อนเสมอ พวกเขาสนิทกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ ตอนนี้ที่พี่ชูกอดเธอแต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรเลยแต่กลับรู้สึกผ่อนคลายซะอีก
พี่ชูคือคนแรกที่มาอยู่ข้างเธอเสมอ เขารู้ว่าเธอต้องการอะไรมากที่สุดถึงขนาดทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะเล็กน้อย ทำไมพี่ชูถึงดูแลเธอดีขนาดนี้นะ?! เธอไม่กล้าที่จะถาม เธอกลัวว่าคำตอบจะทำลายความสัมพันธ์ของพวกเขา เธอกลัวว่าตัวเองจะทนฟังคำตอบไม่ได้ บางทีในใจลึกๆเธออาจจะรู้คำตอบอยู่แล้วแต่เธอไม่กล้าที่จะยอมรับมันหรือความกล้าหาญของเธอมันหายไปแล้ว
พี่ชูเป็นผู้ชายที่ดีที่สมควรจะได้เจอกับผู้หญิงที่ดีกว่า เธอรู้ว่าหัวใจเธอเต็มไปด้วยรูมากมาย เธอไม่กล้าที่จะลองอีกครั้ง นอกจากนี้ในหัวใจของเธอพี่ชูก็เป็นเพียงแค่พี่ชายของเธอเท่านั้น