บทที่ 48
ช่างน่าสมเพช
วันที่สดใสวันต่อมา!
มู่หรงเสวี่ยค่อยๆลืมตาและมองไปที่เพดานที่คุ้นตา ความทรงจำที่รางเลือนก็ค่อยๆผุดขึ้นมา ความทรงจำสุดท้ายคือรุ่นพี่ที่กำลังอุ้มเธอออกมา
แต่เธอมาอยู่ในห้องของชางกวนโม่ได้ยังไงกัน
มู่หรงเสวี่ยตกใจ เธอรีบกระโดดลุกจากเตียงและเปิดผ้าออก มีรอยแดงๆมากมายทั่วร่างกายที่สะท้อนให้เห็นทางกระจก หน้าเธอเปลี่ยนเป็นซีดเผือด เมื่อคืน มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับเธอ…นี่เธอได้
มู่หรงเสวี่ยรีบวิ่งไปที่ห้องทำงานของชางกวนโม่และถามออกไป “ชางกวนโม่ เมื่อคืนฉัน…เมื่อคืนฉัน…”
ชางกวนโม่มองเธออย่างเย็นชา ความโกรธในหัวใจของเขาถูกเก็บกดไว้จนกระทั่งตอนนี้
เมื่อวานตอนที่เขามาถึง เขาเห็นเธอนอนเปลือยเปล่าอยู่เบื้องล่างชายคนอื่น เขาเกือบที่จะฆ่าคนทั้งคู่ เขาเตะชายคนนั้นออกไปและเมื่อเข้ามาดูใกล้ๆจึงได้รู้ว่ามู่หรงเสวี่ยไม่ได้สติเลย
เขาดึงผ้าห่มและเอามาห่อร่างที่เปลือยเปล่าของมู่หรงเสวี่ย โดยไม่สนใจชายที่อยู่ที่พื้นแต่รีบกลับมาที่คฤหาสน์อย่างเร็ว
ชางกวนโม่เห็นทุกอย่างของมู่หรงเสวี่ย แล้วเมื่อวาน…เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น?!!!
“นั่น…นั่น…”
นั่นอะไร?! งี่เง่าจริงๆ! ฉันไม่อยากที่จะคุยกับเธอเลยจริงๆ “ออกไปซะ!”
มู่หรงเสวี่ยรีบวิ่งออกมาและหายตัวไปในทันที ชางกวนโม่จ้องไปที่เบื้องหน้า เธอ…เธอ! เขาพูดไม่ออกด้วยความโกรธ!
ทำไมเธอไม่โทรหาหยางเฟิง แต่… กลับเลือกถามเขา! โดยไม่ลังเล เธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาและพบว่ามีสายโทรเข้ามากมายที่เธอไม่ได้รับ มีทั้งสายจากแม่ของเธอ, หยางเฟิงและโม่อ้ายลี่ด้วย ตายล่ะ! แม่ต้องเป็นห่วงมากแน่ๆ!
เธอรีบกดโทรหาแม่ทันที “สวัสดีค่ะแม่ ขอโทษทีนะคะที่เมื่อวานนี้หนูไม่ได้โทรหา”
“เกิดเรื่องอะไรหรือเปล่าลูก?! งานยังไม่ทันเลิกเลยลูกก็หายตัวไปแล้ว บอกมาสิ! ลูกหายไปอยู่ไหนมา?” เมื่อคืนจางเข่อเหรินเป็นห่วงอย่างมากที่อยู่ดีๆลูกสาวของเธอก็หายตัวไปท่ามกลางงานปาร์ตี้ เธอโทรหามากมายแต่ก็ไม่มีใครรับสาย วันนี้เธอเกือบที่จะโทรแจ้งตำรวจแล้ว
“แม่ค่ะ เมื่อวานมีคนวางยาหนูที่งานปาร์ตี้ โชคดีที่เพื่อนหนูมาช่วยไว้ไม่งั้นไม่อยากที่จะนึกภาพเลย…” มู่หรงเสวี่ยคิดถึงเรื่องนี้และเลือกที่จะบอกความจริงเพื่อที่แม่เธอจะได้ระวังตัว
“อะไรนะ?!!! ลูก…ตอนนี้ลูกอยู่ที่ไหน?! มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?! แล้วเพื่อนลูกเป็นใคร?!!! เมื่อวานโม่อ้ายลี่มาตามหาลูกด้วย…” ทันทีที่เธอได้ยินเสี่ยวเสวี่ยบอกว่าเธอถูกวางยา เธอก็รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นและเป็นฝีมือใคร? กล้าดียังไงเข้ามาทำเรื่องแบบนี้ในบ้านมู่หรง
“แม่คะ คำถามมากมายแล้วหนูจะตอบหมดได้ยังไง?! ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้จริงๆ!”
ถึงแม้เธอจะทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่เพียงทำใจกับเรื่องนี้! มู่หรงเสวี่ยพยายามที่จะปลอบใจตัวเอง แต่กับฟางฉีฮัว เธอไม่ปล่อยเขาไปแน่ เธอจำได้ว่าไม่ได้เชิญเขา แล้วเขาเข้ามาได้ยังไง?!!!
“งั้นก็ค่อยๆตอบมาทีละข้อ”
“หนูอยู่ที่บ้านเพื่อน แม่ยังไม่เคยเจอ ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสหนูจะแนะนำให้รู้จัก หนูไม่เป็นอะไรจริงๆ” มู่หรงเสวี่ยพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก
“บอกแม่มานะ ลูกรู้ไหมว่าเป็นฝีมือใคร?” จางเข่อเหรินโล่งใจเมื่อได้ยินที่เสี่ยวเสวี่ยพูด น่าจะไม่มีอะไร ทุกอย่างเรียบร้อย
“หนูรู้อะไรนิดหน่อยค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูดูแลตัวเองได้” ดวงตาของมู่หรงเสวี่ยแวบแสงแห่งความเย็นชา
“งั้นก็ระวังตัวด้วยแล้วถ้ามีเวลาก็กลับมาบ้านด้วยนะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ บายค่ะ!”
หลังจากที่โทรหาแม่แล้ว มู่หรงเสวี่ยก็กดโทรหาโม่อ้ายลี่อีกครั้ง เธอเดาว่าเพื่อสาวคงกำลังตามหาเธออยู่แน่ เธอเอาแต่โทรหาเธอทั้งคืน
“เห็นแก่พระเจ้าเถอะในที่สุดก็โผล่หัวออกมาแล้วนะ!” มีเสียงคำรามดังออกมาจากอีกปลายสาย มู่หรงเสวี่ยรีบดึงโทรศัพท์ออกจากหูแทบไม่ทันเพราะกลัวว่าหูจะแตก! “เฮ้ เฮ้ นี่ฉันโทรหาเธอไม่ใช่เหรอ?”
“เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอ? ฉันไม่เจอเธอที่งานปาร์ตี้เลย เธอไม่สบายหรือเปล่า? งานปาร์ตี้วันเกิดเธอผ่านไปแล้วนะ!” งานน่าเบื่อมากจนโม่อ้ายลี่อดไม่ได้ที่จะบ่น เธอไม่รู้ว่าทำไมมู่หรงเสวี่ยเอาแต่หัวเราะ
“ฮัลโหล หัวเราะอะไรไม่ทราบย่ะ? ฉันกำลังบอกเธอ…”
หลังจากนั้นพวกเธอก็คุยกันต่ออีกครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะวางสาย มู่หรงเสวี่ยรู้สึกดีขึ้นที่ได้ฟังโม่อ้ายลี่พร่ำบ่น
หลังจากนั้นเธอก็กดเบอร์โทรของหยางเฟิงและกดปุ่มโทรออก
ปลายสายรีบกดรับสาย “ฮัลโหล มู่หรงเสวี่ยเธออยู่ที่ไหน? เป็นยังไงบ้าง?” หยางเฟิงรีบพูดออกมาด้วยเสียงหอบด้วยความเป็นห่วง
มู่หรงเสวี่ยจับโทรศัพท์แน่น “หยางเฟิง ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่อยากที่จะถาม…เมื่อวาน…เมื่อวาน…เมื่อวานมันเกิดอะไรขึ้นกับเราสองคนหรือเปล่า?”
หยางเฟิงนึกถึงร่างเปลือยเปล่าที่น่าหลงใหลของเธอที่นอนอยู่เบื้องล่างร่างของเขา ใบหน้าสีแดง ถึงแม้จะไม่เลยเถิดไปไกลแต่การที่เขาสัมผัสร่างกายเธอนั่นเป็นเรื่องจริง “มู่หรงเสวี่ย ฉันจะรับผิดชอบเอง!”
มู่หรงเสวี่ยเข้าใจผิดในทันที สีหน้าซีดเผือด เมื่อคืนพวกเขา…กลายเป็นว่าเมื่อคืนเธออยู่กับหยางเฟิง…แต่เช้านี้ แล้วเธอมาอยู่ที่บ้านของชางกวนโม่ได้ยังไง?!
“หยางเฟิง นายหมายความว่าเมื่อคืนพวกเรา…”
“เป็นฉันเองที่เอาเปรียบเธอเมื่อคืน…” เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาสัมผัสร่างกายของเสี่ยวเสวี่ยจริงๆ
ไม่แปลกใจเลยที่เช้านี้ชางกวนโม่จ้องเธอแบบนั้น
หลังจากนั้นเธอก็ไม่ได้ยินสิ่งที่หยางเฟิงพูดอีกเลย เธอคิดถึงวิธีที่ชางกวนโม่จัดการกับผู้คน มันน่ากลัวมาก
แกล้งทำตัวน่าสงสารได้ไหม?!! แกล้งทำเป็นน่าสงสาร เขามักจะรังแกเธอเสมออยู่แล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจแต่เธอไม่รู้ จะโทษเธอได้เหรอ! เราไม่ได้รังแกคนอื่นแค่เพราะเขาน่ารัก ใช่ไหม?!
มู่หรงเสวี่ยตัดสินใจที่จะแกล้งทำตัวน่าสงสารให้ถึงที่สุด มู่หรงเสวี่ยปิดประตูและนอนลงบนเตียง ตัดสินใจที่จะไม่ออกไป
ในตอนบ่าย ชางกวนโม่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ มู่หรงเสวี่ยไม่ลงไปข้างล่างเลยทั้งวัน เธอทำอะไรอยู่?!!! เขารีบปิดเอกสารที่ยังไม่เสร็จทันทีและเดินไปที่ห้องนอน
เขาคาดไม่ถึงว่าจะเจอประตูปิดอยู่และในใจก็แวบถึงเรื่องไม่ดีขึ้นมา เขารีบเปิดประตูทันทีและเห็นมู่หรงเสวี่ยนอนอยู่บนเตียง เขาโล่งอก
เมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงสะอื้นอยู่ใต้ผ้าห่ม เขารีบก้าวขึ้นไปบนเตียงและเปิดผ้าห่มออก อย่างที่คาดไว้เขาเห็นดวงตาที่แดงและบวมช้ำของมู่หรงเสวี่ยจึงจับเธอมากอดด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
“เกิดอะไรขึ้น?! ทำไมถึงร้องไห้แบบนี้ล่ะ?” น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ!
น้ำตาของมู่หรงเสวี่ยยิ่งไหลออกมามากขึ้นไปอีก “หื้อหื้อ…ฉัน…เมื่อวานฉัน…หื้อหื้อ…ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ…” ชางกวนโม่จูบซับน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบาที่ข้างแก้มเพื่อที่จะปลอบใจเธอ
“โอเค ไม่ต้องร้องนะ ฉันรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของเธอ เป็นความผิดฉันเอง ฉันไม่น่าทำเย็นชากับเธอ…”
“หื้อหื้อ…ฉัน…ฉันไม่มีหน้าออกไปเจอผู้คน…” ต่อไปจะมองหน้าหยางเฟิงได้ยังไง…พวกเธอมีอะไรกัน
แล้วจะกล้าไปเจอหน้าคนอื่นได้ยังไง?!!! โอ้
“ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน…”
“มีคนหนึ่งที่รู้…”
“งั้นฉันจะจัดการเอง!” เมื่อคิดถึงชายคนเมื่อวาน ความโกรธก็พุ่งขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาอยากที่จะหาใครสักคนให้ไปจัดการไอ้หมอนั่นจริงๆ!
มู่หรงเสวี่ยประหลาดใจ! โกรธเรื่องอะไรเนี่ย?! จัดการคนอื่นมันง่ายแบบนี้เลยเหรอ!? หยางเฟิงจะโทษเรื่องนี้ไม่ได้นะ เขาน่าจะทำเรื่องอะไรเบื้องหลังหรือเปล่า!? ดวงตาของมู่หรงเสวี่ยเปล่งประกายขึ้น ใช่ ตรงหน้าเธอนี่คือเทพแห่งการสังหารชัดๆ!!!
“หื้อหื้อ…เมื่อคืนฉันถูกวางยา…ตอนนั้นรู้สึกเหมือนจะเกือบตาย…” เธอเป็นแฟนสาวของเขาใช่ไหม? ถึงแม้เธอจะทำกับเธอเหมือนสัตว์เลี้ยงก็ตาม แต่เขาก็คงไม่ยอมให้ใครมาหยามเกียรติความเป็นเจ้าชายของเขาแน่
“ไม่ต้องห่วง! พรุ่งนี้ฉันจะดูแลเขาเป็นอย่างดี ตระกูล หยางใช่ไหม?!! ดูเหมือนว่าจังหวัดนั้นน่าจะไม่จำเป็นต้องมีตระกูลหยางแล้วนะ!” สายตาที่เย็นชาแวบร่องรอยของการสังหาร
อ่า?! ผิดคนแล้วนะ! “คุณ…คือ…หื้อ…”
อ่า?! แค่จะร้องไห้นิดหน่อยแต่ตอนนี้เธอร้องไห้มากไปงั้นเหรอ?! เสียใจมากไปงั้นเหรอ?!! ดูเหมือนว่าการทำลายตระกูล หยางจะทำให้เสี่ยวเสวี่ยหายเศร้าไม่ได้ งั้นแค่ส่งไปขายเป็นทาสในตลาดมืดดีไหม!?
“ฉันจะไปจัดการตระกูลหยางเดี๋ยวนี้เลย” แล้วเขาก็ลุกขึ้นเพื่อจะออกไปหาคนให้มาจัดการเรื่องนี้
มู่หรงเสวี่ยรีบดึงเขาไว้พร้อมทั้งร้องออกมา “ไม่ คุณเข้าใจผิดแล้ว!”
ฮ่ะ?! ชางกวนโม่เข้าใจผิดงั้นเหรอ!?
“ไม่ใช่ตระกูลหยาง แต่เป็นฟางฉีฮัวและผู้สมรู้ร่วมคิดของเขา ตอนนี้ฉันยังไม่รู้ว่าผู้สมรู้ร่วมคิดกับเขาเป็นใคร” มู่หรงเสวี่ยรีบอธิบาย
“ใครคือฟางฉีฮัว?! เอ๊ะ? เธอไม่ร้องไห้แล้วเหรอ?”
“หื้อหื้อ…” สายน้ำตาไหลลงมา
ชางกวนโม่
มู่หรงเสวี่ย: (พูดฟังไม่ได้ศัพท์)
อย่างไรก็ตามในที่สุดเขาก็เข้าใจเรื่องทั้งหมด เขากลัวว่าจะมีใครบางคนมาทำร้ายผู้หญิงของเขาโดยไม่กลัวว่าจะฆ่าใครตาย! แต่เสี่ยวเสวี่ยบอกว่าแค่สั่งสอนก็พอแล้ว อย่าทำถึงตาย! อืม! งั้นไปสั่งสอนเขาว่าต้องทำตัวยังไง ถ้าเสี่ยวเสวี่ยใจอ่อนและไม่ยอมเขาก็จะไม่บอกให้เธอรู้ เขามีวิธีเป็นพันวิธีที่จะทำให้ทรมานกว่าตายซะอีก
เขายังรู้อีกด้วยว่ามู่หรงเสวี่ยแกล้งทำเป็นน่าสงสาร ในตอนแรกที่เขาเห็นน้ำตาของเธอ เขาตกใจมาก เขาคิดว่าเธอกำลังร้องไห้จริงๆ แต่แล้วเขาก็เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของเธอและรู้เลยว่าเธอกำลังแกล้งทำ
แต่ในเมื่อผู้หญิงของเขาอยากที่จะแกล้งทำเป็นน่าสงสาร แล้วเขาจะไม่ให้ความร่วมมือได้ยังไงล่ะ? นี่เป็นเรื่องสนุกระหว่างพวกเขาใช่ไหม?!!!
ชางกวนโม่อารมณ์ดีพร้อมทั้งกอดมู่หรงเสวี่ยอย่างอ่อนโยนด้วยรอยยิ้มที่สดชื่น
อันที่จริงเขารู้ดีว่ามู่หรงเสวี่ยไม่ได้ชอบเขาแต่แล้วยังไงล่ะ? ตราบใดที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา พวกเขามีนิสัยที่คล้ายๆกันและเมื่อมีเด็กๆเป็นโซ่ทองคล้องใจ เขาไม่เชื่อหรอกว่าเมื่อเธอโตขึ้นเธอจะไม่ตกหลุมรักเขา
มู่หรงเสวี่ยไม่ได้คิดอะไรมากขนาดนั้น หลังจากความล้มเหลวของเธอในชีวิตที่แล้ว เธอก็หวาดกลัวความรัก ในชีวิตนี้เธอจะไม่ยอมยกหัวใจให้ใครง่ายๆเด็ดขาด เพื่อที่เธอจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด