รถเมล์สาย 18 – ตอนที่ 3 หมู่บ้านเฮยสุ่ย

บทที่  3  หมู่บ้านเฮยสุ่ย

 

          กว่าพวกเย่ปินทั้งสามคนจะกลับถึงสถานีก็เป็นเวลาเลิกงานแล้ว ตำรวจที่ยังอยู่สถานีมีเพียงผู้ที่เข้าเวรปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น

          ในทีมสืบสวนมีเพียงเย่ปินกับจางหลานเท่านั้นที่ยังไม่กลับ ขณะนี้ทั้งสองคนอยู่ในห้องทำงานของเย่ปิน ค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับรถเมล์ ‘สาย  18’  ในคอมพิวเตอร์

          หลังจากทั้งคู่ค้นหาอยู่นาน เมื่อข้อมูลเท็จส่วนใหญ่ถูกกรองออกไป รายการบางอย่างที่มีประโยชน์ก็โผล่ออกมา

          รถเมล์ “สาย  18”  ถูกยกเลิกไปแล้วตั้งแต่เมื่อ  5  ปีก่อน เนื่องจากไฟไหม้หมู่บ้านเฮยสุ่ย    และไม่ได้เปลี่ยนไปวิ่งในเส้นทางอื่น หลังจากนั้น “สาย  18”  ก็หายไปจากเมือง  X  ตลอด  5  ปีที่ผ่านมา

          หลังจากความพยายามทำงานอย่างหนักในที่สุดเย่ปินกับจางหลานก็ค้นพบว่า ใน  5  ปีที่ผ่านมา แม้ว่า “สาย  18”  จะถูกยกเลิกการวิ่งไปแล้ว อย่างไรก็ตามเมื่อ  3  ปีก่อนได้มีคลิปวีดีโอหนึ่งถูกเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต

          ในคลิปวีดีโอ รถเมล์สภาพทรุดโทรมได้มาหยุดอยู่ที่ป้ายหยุดรถที่ถูกทิ้งร้าง แล้วประตูหน้าของรถเมล์ก็ค่อยๆเปิดออก นานไม่เกินหนึ่งนาที ประตูก็ถูกปิดลง หลังจากนั้นรถเมล์ก็ค่อยๆวิ่งออกไป และหายลับไปไม่อาจตรวจสอบได้อีก

          เย่ปินกับจางหลานดูคลิปวีดีโอที่ดูคลุมเครือนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆ อย่างไรก็ตามภาพรถเมล์ที่ปรากฏอยู่ในคลิปวีดีโอ บวกกับคำบอกเล่าของกลุ่มหนุ่มสาวที่เมามายหลายคนที่ได้รับมาจากการสืบสวนก่อนหน้า และคำให้การของเด็กหนุ่มเพื่อนร่วมชั้นของเด็กที่หายตัวไป ทำให้เย่ปินกับจางหลานสรุปว่า ภาพของรถเมล์ในคลิปวีดีโอ คือรถเมล์ “สาย  18”

          “ เรื่องรถเมล์ ‘สาย  18’  ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้ตาฝาด” เย่ปินพูดขึ้นขณะมองดูภาพคลิปวีดีโอในจอคอมพิวเตอร์

          จางหลานพยักหน้า “ดูเหมือนว่ารถเมล์ผีจะมีอยู่จริง นายคิดว่ากรณีการเสียชีวิตของหัวหน้าเหล่าหวังจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไหม ?”  จางหลานคิดว่าการเสียชีวิตของหัวหน้าเหล่าหวัง มันบังเอิญเกินไป เขาจึงเดาว่าการเสียชีวิตรายนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับรถเมล์ ‘สาย  18’

          สำหรับคำถามนี้เย่ปินไม่ได้ตอบรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน

          “ หลานเกอ นายโทรหาเย่เหอขอให้เขาช่วยค้นหาผู้ที่เผยแพร่คลิปวีดีโอนี้ ให้ฉันที”

          “ ได้” จางหลานหยิบโทรศัพท์ของเย่ปิน โทรหาเย่เหอ

          เย่เหออายุ  17  ปี เป็นน้องชายของเย่ปิน เขาเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายปี  2  เป็นอัจฉริยะด้านคอมพิวเตอร์ และเก่งกว่าผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพด้านคอมพิวเตอร์บางคนเสียอีก เมื่อสองปีก่อน การค้นพบที่ซ่อนของเจ้าพ่อค้ายาเสพติด ก็เป็นผลงานส่วนหนึ่งของเย่เหอ

          “ หวัดดี พี่ ?  มีอะไรเหรอ ?”

          หลังจากโทรออกก็มีเสียงของเด็กหนุ่มดังมาจากปลายสาย

          “ หวัดดี เสี่ยวเหอ นี่ฉันเอง หลานเกอ !”  จางหลานพูด

          “ โอ้ !  ลุงหลานนี ่เอง!  มีอะไรกับผมเหรอครับ ?”  ความสัมพันธ์ระหว่างเย่เหอกับจางหลานนั้นดีมาก และเย่เหอก็มักพูดจาล้อเล่นกับจางหลานอยู่บ่อยๆ

          “ เจ้าเด็กบ้า !  พูดผิดก็พูดใหม่ได้นะเฟ๊ย นายต้องเรียกฉันว่า หลานเกอ ลุงหลานเรอะ ลุงบ้านนายสิ !”  จางหลานตอบกลับ

          “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า !  หลานเกอก็หลานเกอ มาคุยกันเถอะ มีอะไรหรือเปล่า ?  พี่ผมมีปัญหาอีกแล้วเหรอ ?”  เย่เหอหัวเราะก่อนจะถามจางหลาน

          “ พี่นายให้นายช่วยหาใครบางคนน่ะ”

          ขณะที่จางหลานกำลังคุยกับเย่เหอ เย่ปินก็ส่งไฟล์คลิปวีดีโอไปให้เย่เหอ

          หลังจากได้รับไฟล์ เย่เหอก็เคาะแป้นพิมพ์ ไม่ถึง  5  นาที เขาก็ค้นพบผู้เผยแพร่คลิป

          “ ผู้เผยแพร่คลิปชื่อ หลิวเจียซิ่ง เพศชาย อายุ  34  ปี อาศัยอยู่ที่เมือง  X  ตำบล  X  อาคาร  X  ห้อง  X  ทำงานที่  XX  หมายเลขโทรศัพท์  XXX”  เย่เหอบอกข้อมูลทั้งหมดของผู้เผยแพร่คลิปกับจางหลาน

          “ แค่นี้นะ !”  หลังจากทราบข้อมูล จางหลาน ก็ตัดสายทันที เขารู้ถึงความเก่งกาจของเย่เหอมานานแล้ว จึงไม่ได้แปลกใจอะไร

          “ ตู๊ด…ตู๊ด…” หลังจากโดนตัดสายใส่หน้า เย่เหอที่ปลายสายก็มีสีหน้ามืดมน “บัดซบ !  ลุงหลาน ดูหมิ่นผู้คนเกินไปแล้ว !”

          เย่เหอส่ายหน้าพร้อมกับบ่น แล้วคลิกคลิปวีดีโอที่เย่ปินส่งให้ด้วยความสนใจอย่างมาก “รถเมล์ผีงั้นเหรอ ?”  เย่เหอพึมพำและเริ่มดูคลิป

          ในเวลาเดียวกันนั้น หลังจากที่เย่ปินได้ทราบข้อมูลของผู้เผยแพร่คลิปวีดีโอ เขาก็โทรติดต่ออีกฝ่ายทันที

          “ โหล !  นั่นใคร ?”

          เสียงหยาบกระด้างดังขึ้นจากปลายสาย

          “ สวัสดีครับ ผมเป็นตำรวจ”

          “ อะไรนะ !  ตำรวจเรอะ ?  แกคิดว่ากำลังล้อเล่นกับใครอยู่ ?  ไอ้สมองกลวง !”

          “ ตื๊ด…ตื๊ด… ตื๊ด…” แล้วเสียงวางสายก็ดังขึ้น

          “……”  ใบหน้าของเย่ปินมืดมน บนหัวเต็มไปด้วยเส้นสีดำ

          จางหลานที่อยู่ด้านข้างเห็นฉากดังกล่าวก็ถึงกับหัวเราะลั่น “ฮ่า ฮ่า ฮ่า !  หัวหน้าเย่ !  นายทำให้ฉันขำมากจริงๆ ประโยคแรกที่พูดคือผมเป็นตำรวจ !  เป็นฉัน ฉันก็วางสายเหมือนกัน !  ฮ่า ฮ่า ฮ่า !”

          เย่ปินจ้องตาเขม็ง มองจางหลานอย่างเย็นชา จนจางหลานต้องหยุดหัวเราะเมื่อได้เห็น

          “ เหอ เหอ หัวหน้าเย่ นายพูดตรงเกินไป มาให้ฉันทำแทนเถอะ” จางหลานพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมา กดหมายเลขของผู้เผยแพร่คลิปวีดีโอ

          “ โหล !  ใครน่ะ !”  เสียงหยาบกระด้างดังขึ้นอีกครั้ง ด้วยน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความอดทนที่หมดลงเรื่อยๆ

          “ ขอโทษ นายคือหลิวเจียซิ่งใช่ไหม !”

          “ เออ มีอะไร ?  นายเป็นใคร ?”  เสียงของฝ่ายตรงข้ามดูหงุดหงิดมากขึ้นเรื่อยๆ

          “ โอ้ นายนี่เอง นายเคยโพสต์คลิป ‘รถเมล์ผี’ บนอินเตอร์เน็ตใช่ไหม”

          พอได้ยินจางหลานพูดแบบนั้น อีกฝ่ายก็เงียบไป ไม่นานหลังจากนั้น เขาก็ถามขึ้นด้วยความสงสัย “นายเป็นใคร ?”

          “ ตำรวจ” จางหลานตอบสั้นๆ

 “ ตู๊ด…ตู๊ด… ตู๊ด…”

          “……”  สีหน้าของจางหลานดูหนักอึ้งด้วยความอาย

          เย่ปินที่อยู่ด้านข้างลุกขึ้นตบไปที่ไหล่ของจางหลานเบาๆ “อา… หลานเกอ !  ตำรวจ !”

          จางหลานมีเส้นดำบนหัว หัวเราะคนอื่นไปได้ไม่นาน ไม่คาดคิดว่าตอนนี้กลับมาถูกตบหน้าเสียเอง

          ทั้งสองพยายามติดต่อผู้โพสต์คลิป แต่ก็ล้มเหลว ดังนั้นเย่ปินจึงล้มเลิกความคิดที่จะโทรหาต่อไป และวางแผนที่จะไปพบตัวผู้โพสต์คลิปที่บริษัทในวันรุ่งขึ้นแทน

          เย่ปินกับจางหลานแทบไม่ได้นอนทั้งคืน    พวกเขาพยายามมองหาเบาะแสเกี่ยวกับรถเมล์ ‘สาย  18’

          หลังจากพยายามอยู่ทั้งคืน พวกเขาก็ค้นพบเบาะแสเกี่ยวกับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับ ‘หมู่บ้านเฮยสุ่ย’ เมื่อ  5  ปีก่อน

          เมื่อ  5  ปีก่อน ได้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่อย่างที่ไม่ เคยเกิดปรากฏมาก่อน หมู่บ้านเฮยสุ่ยของเมือง X  ถูกไฟไหม้เป็นเวลา  1  วัน  1  คืน ทั้งหมู่บ้านกลายเป็นกองเถ้าถ่านภายใต้เปลวไฟที่โหมกระหน่ำ ผู้คนมากกว่า  100  คนในหมู่บ้าน หายสาบสูญไปตลอดกาล

          “ มีผู้คนมากกว่า  100  คนในหมู่บ้านเฮยสุ่ย ทำไมถึงได้ไม่มีใครรอดชีวิตเลยแม้แต่คนเดียว ?”  สำหรับสาเหตุของเพลิงไหม้ได้มีการตรวจสอบแล้วตั้งแต่เมื่อ  5  ปีก่อน  ดังนั้นสิ่งที่เย่ปินสงสัยจึงเป็นผลลัพธ์ของเหตุการณ์นี้

          เพลิงไหม้เกิดจากอุบัติเหตุที่ถังแก๊สของครอบครัวหนึ่งใน “หมู่บ้านเฮยสุ่ย” เกิดระเบิดขึ้น จากนั้นไฟก็ลุกลามอย่างรวดเร็ว และเป็นเพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นในตอนกลางดึก ทำให้ผู้คนตอบสนองไม่ทัน เลยพลาดโอกาสที่จะหลบหนี โศกนาฏกรรมนี้จึงเกิดขึ้น

          “ ทุกครัวเรือนใน ‘หมู่บ้านเฮยสุ่ย’ ล้วนเก็บฟางข้าวเอาไว้ สิ่งนี้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลากลางคืน มันจึงกลายเป็นโศกนาฏกรรม” จางหลานไม่มีความคิดอื่นเกี่ยวกับภัยพิบัติของ ‘หมู่บ้านเฮยสุ่ย’

          เย่ปินนิ่งเงียบและไม่ได้พูดอะไรต่อ เขามองจอคอมพิวเตอร์ ครุ่นคิดเกี่ยวกับ “หมู่บ้านเฮยสุ่ย”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset