บทที่ 151 ต้องทำอย่างนี้กับฉันเลยเหรอ
สาวน้อยที่ถูกบีบบังคับให้เข้ามุมส่ายหัวอย่างแรง ในขณะนี้เธอทำอะไรไม่ถูก และหวาดกลัวอย่างมาก เมื่อเห็นว่าติงจุนปลดกางเกงออกแล้ว และกำลังจะสอดใส่ลงไปข้างล่าง สาวน้อยก็รู้สึกอับอายแล้วหลับตาลง วิ่งไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว
“อย่าวิ่งซิ ที่รักของฉัน เธอต้องการให้ฉันไม่ข่มขืนใช่มั้ย เธอชอบแบบซาดิสม์หน่อยใช่มั้ย….”ในขณะที่ติงจุนพูด กางเกงในก็ถูกเขาโยนลงบนพื้นเรียบร้อยแล้ว
ติงจุนก็ถอดรองเท้า และบังคับไปที่สาวสวย
สาวสวยกระแทกประตูอย่างแรง พยายามหนีออกจากสถานที่ที่น่าขยะแขยงนี้ แต่ประตูถูกล็อกด้วยโซ่คล้อง และมือของเธอถูกมัดไว้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีออกไปจากที่นี่
สาวสวยกังวลมากจนน้ำตาไหลเต็มหน้าเต็มตา เธอจะเป็นบ้าแล้ว!
“ปัง”
ในขณะนี้ ประตูถูกกระแทกเข้ามา สาวสวยก็ล้มลงบนพื้น
“เธอเป็นยังไงบ้าง?”คนที่พุ่งเข้ามาคือฉินหลั่ง เขานั่งยองๆอยู่ข้างหญิงสาว และฉีกเทปออกจากปากของเธอ
“มันเป็นผี….ช่วยฉันด้วย…..มันเป็นผี….”สาวน้อยรีบเข้าไปในอ้อมแขนของฉินหลั่ง
สายตาของฉินหลั่งสังเกตเห็นบางอย่างที่อยู่ข้างหลัง ดูเหมือนจะมีของอะไรที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อน แล้วหันกลับไปมองอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเห็นผู้จัดการติงยืมอยู่เงียบๆอยู่ข้างหลังของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสิ่งนั้นยังอยู่ที่นั่น ฉินหลั่งก็ไม่คิดอะไรมาก หลังจากนั้นก็นำวิชาที่ยายสอนให้ตัวเองวันนั้น ใบมีดที่ยังอยู่แต่ในกระเป๋า “ซิ่ว”เล็งไปที่ผู้จัดการติง
“อ๊ากกก—-“เห็นแต่ติงจุนร้องโอดโอย และในขณะเดียวกันก็มีเศษอวัยวะบางอย่างหล่นลงมาจากตัวเขา
ติงจุนกุมอวัยวะส่วนล่างล้มลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด เลือดไหลออกมาระหว่างนิ้วของเขาที่กุมอยู่ เขาร้องโอดโอย เมื่อเห็นสิ่งที่สิ่งนั้นตกลงอยู่บนพื้น ติงจุนไม่เพียงแต่เจ็บปวด แต่ยังตื่นตระหนกและหวาดกลัวไม่รู้จบ ชั่วขณะหนึ่งเขารู้สึกว่าชีวิตในอนาคตดูมืดมนไร้แสงสว่าง
“ไอ้สารเลว ฉันจะฆ่าแก!”ติงจุนไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดที่รุนแรง ลุกขึ้นยืนและวิ่งไปที่ฉินหลั่ง ฉินหลั่งดึงตัวหญิงสาวสวยมาปกป้องไว้ที่ข้างหลัง เหมือนกับเป็นเกราะกันบัง
ติงจุนยังพุ่งตัวไปไม่ถึงตรงหน้าฉินหลั่ง ตำรวจกลุ่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามา
“คุณฉิน คุณก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ เขาไม่ได้ทำอะไรคุณใช้มั้ย?”เซินหงเป็นคนนำตำรวจเข้ามา
“ไม่เป็นอะไร”ฉินหลั่งส่ายหัว เซินหงถึงโล่งใจ
“คุณตำรวจ มันก็คืออินคิวบัสติงจุนในอาคารของพวกเรา พวกคุณรีบจับกุมตัวเขาไปเถอะ”เซินหงหันไปพูดกับตำรวจ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวติงจุน
“ฉิบหาย!”เมื่อเห็นอวัยวะของติงจุน เซินหงก็ตกใจ และร้องออกมาโดยปริยาย: “ไข่ของไอ้หมอนี่ไปไหนแล้ว?”
“อยู่ที่นี่”หัวหน้าตำรวจสวมถุงมือสีขาวและเก็บอวัยวะขึ้นจากพื้น
“หึ—“เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของสารวัตรตำรวจ เซินหงและตำรวจคนอื่นก็อดไม่ได้จะกุมเป้า ในขณะเดียวกันก็ถอนหายใจ: “เล็กมาก”
“เอาเสื้อผ้าไปคลุมให้เขา นำตัวไป!”สารวัตรตำรวจตะโกน ตำรวจสองคนก็ตอบรับ และนำตัวติงจุนออกไป
“ผมต้องตามไปด้วยมั้ย?”ฉินหลั่งถาม
“ไม่ต้อง คุณฉินคุณไปทำธุระเถอะ ผมไปก็พอ”เซินหงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่พอใจ พูดจบ ก็เดินออกไปกับตำรวจ
“เธอเป็นอะไรมั้ย?”ฉินหลั่งพยุงสาวสวยไปนั่งลง
“ฮือฮือ….”อารมณ์ของสาวสวยสงบลงแล้ว ในเวลานี้ถูกฉินหลั่งถาม ก็อดไม่ได้“ฮือ”ร้องออกมา เธอเอนตัวเข้าไปในอ้อมแขนของฉินหลั่ง กอดเขาไว้และร้องไห้อย่างรุนแรง: “……ถ้าไม่ใช่…..นายฉันก็ถูกไอ้…..สารเลวทำ….ฮือ….ขอบคุณนาย…ขอบคุณ…..”
ทันใดนั้นฉินหลั่งถูกสาวสวยที่อายุน้อยกว่าตัวเองสองสามปีกอดก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่เมื่อเห็นสาวน้อยร้องไห้เสียใจมากขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะถูกติงจุนย่ำยี ก็พอจะทำความเข้าใจได้ ดังนั้นจึงกอดเธอไว้
หลังจากร้องไห้กับฉินหลั่งเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ในที่สุดอารมณ์ของสาวน้อยก็สงบลง เธอค่อยๆปล่อยมือออกจากฉินหลั่ง หน้าอกของฉินหลั่งเปียกไปด้วยรอยน้ำตาของเธอ
“ขอโทษค่ะ…..”สาวสวยที่ร้องไห้จนตาแดงพูดออกมาอย่างขี้อาย
“ไม่เป็นไร เธอให้แผ่นประเทศกับฉันฟรีๆหนึ่งใบ เธอดูที่นี่คือไต้หวัน….”ฉินหลั่งชี้ไปที่หน้าอกที่ถูกสาวสวยร้องไห้เปียกจะเป็นรอยแล้วพูด
สวยน้อยถูกฉินหลั่งทำให้หัวเราะ
“เอาล่ะ ฝันร้ายมันผ่านไปแล้ว หวังว่าคงจะไม่ได้เป็นเงาอยู่ในใจของเธอ”อันที่จริงฉินหลั่งก็เป็นห่วงสาวสวยอยู่บ้าง ดูท่าทางของเธอก็แค่สิบแปดปี แต่ต้องเจอเรื่องแบบนี้ จะทนได้ไม่ได้ก็เป็นปัญหา
“อืม ฉันจะพยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งหมด”สาวสวยพยักหน้า เมื่อเห็นฉินหลั่งก็เริ่มมีความหวังอันน้อยนิดขึ้นมาเล็กน้อยและถามอย่างร้อนรน: “นายชื่ออะไรเหรอ?”
“ฉันชื่อฉินหลั่ง”ฉินหลั่งยิ้มจางๆ
“ฉินหลั่ง ฉินหลั่ง….”สาวน้อยพึมพำในปากสองสามคำ แล้วจดจำมันไว้ในใจ ดวงตาแดงๆของเธอมองไปที่ฉินหลั่ง: “ฉันชื่อหลงเย้น”
“หลงเย้ง?”ฉินหลั่งอุทาหรณ์ กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “ตระกูลของเธอพบเจอได้น้อยนะ หลงเย้น?”
หลงเย้นยิ้ม แล้วมองดวงตาที่มีคราบน้ำตาไปที่ฉินหลั่ง
“อ๋อ หลงเย้น หลงเย้น น่าฟังดีนะ”ฉินหลั่งชมด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณค่ะ”หลงเย้นรู้สึกมีความสุข: “นายช่วยฉันเก็บข้าวของหน่อยได้มั้ย?”
“ทำไม เธอจะไปแล้วเหรอ?”ฉินหลั่งถามด้วยความแปลกใจ
“อืม ฉันหวาดกลัวที่พักอาศัยอยู่ที่นี่ ฉันอยากเปลี่ยนเช่าที่สถานที่ใหม่”หลงเย้นอยู่ที่อาคารหลิงอู่ก็จะคิดถึงเรื่องราวของติงจุนขึ้นมา
“ก็ได้ ฉันช่วยเธอเก็บข้าวของเอง เมื่อคิดถึงว่าหลงเย้นอยู่ในสถานที่ของตัวเองเจอกับเรื่องที่น่าหวาดกลัว ในใจของเขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เมื่อพูดจบ ฉินหลั่งก็ช่วยหลงเย้นเก็บข้าวของ เก็บข้าวของเสร็จอย่างรวดเร็ว
ฉินหลั่งอยู่เป็นเพื่อนหลงเย้นตั้งแต่จัดการเอกสารคืนห้อง และเดินออกจากอาคารหลิงอู่พร้อมกัน ทั้งสองกำลังเดินเล่นไปตามถนน ฉินหลั่งถามหลงเย้นกำลังจะไปที่ไหน หลงเย้นเองก็พูดไม่ออกมา บอกเพียงว่าครั้งนี้เธอออกมาเที่ยวทั่วประเทศคนเดียว ไม่ได้วางแผนไว้เลย
ฉินหลั่งอยากจะช่วยเหลือเธอ แต่ปากก็อดกลั้นคำพูดไว้ ก็เป็นแค่คนที่บังเอิญมาพบเจอกันเท่านั้นเอง ดังนั้นไม่ยุ่งจะดีกว่า
รถแท็กซี่คันหนึ่งหยุดอยู่ตรงหน้าหลงเย้น
“เอาล่ะ ฉันจะไปแล้ว”หลงเย้นยืนอยู่หน้ารถแท็กซี่ มองไปที่ฉินหลั่ง
“อืม”ฉินหลั่งตอบรับเบาๆ
หลงเย้นกะพริบดวงตา ทันใดนั้นก็มีความรู้สึกสูญเสียความยากที่จะได้พบกับฉินหลั่ง ในใจก็กระตุก จู่ๆเธอก็เขย่งเท้า ก่อนที่เธอกำลังจะจูบริมฝีปากฉินหลั่ง แต่ฉินหลั่งก็ตกใจ ก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เธอก็เลยจูบไม่ถึง
ฉินหลั่งมองไปที่หลงเย้นด้วยความประหลาดใจ แววตาสงสัยเล็กน้อย
“ขอโทษ”หลงเย้นไม่ได้มีอาการหน้าแดงและเขินอายอย่างที่ควรจะมี มีแต่เพียงร่องรอยของการผิดหวัง: “บ้านของฉันอยู่ที่หลินอาน หวังว่าเราจะพบกันใหม่ในอนาคต”
ฉินหลั่งมองไปที่หลงเย้น ไม่ได้พูดอะไร
หลงเย้นก้มหน้าเล็กน้อย ขึ้นรถแท็กซี่ แล้วรถแท็กซี่ก็ขับออกไปไกลอย่างช้าๆ
“ลาก่อน….หวังว่าจะไม่พบกันอีก”ฉินหลั่งพึมพำ แล้วเดินหันกลับเข้าไปในอาคารหลิงอู่
เมื่อเวลาตอนเย็นประมาณหนึ่งทุ่มกว่าๆ ซุนเย่วเดินออกจากอาคารหลังหนึ่ง ตั้งแต่ออกจากบ้านพักคฤหาสน์ของฉินหลั่งมาสองวันนี้ เธอหางานทำมาตลอด แต่เธอก็ไม่พบงานอะไรเลย วันนี้ เธอตื่นแต่เช้าอีกครั้ง และอาบน้ำแต่งเนื้อแต่งตัว เธอรู้สึกว่าสาเหตุที่สมัครงานไม่ได้ น่าจะมาจากการแต่งตัวของเธอมีปัญหา เธอก็ไม่มีเงินมากมายนัก ในช่วงครึ่งปีหลังมานี้ไม่ได้ซื้อ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง และกระเป๋าใหม่เลย
เพื่อที่จะสร้างความประทับใจให้ผู้สัมภาษณ์งาน ซุนเย่วเหลือเงินอยู่สองพันหยวน ซื้อกระเป๋าCoach New Yorkไปหนึ่งพันสามร้อยหยวน ใช้เงินที่เหลือเพื่อสร้างภาพลักษณ์ จ้างให้คนมาช่วยแต่งหน้า และยังขอยืมรองเท้าส้นสูงle saundaจากเพื่อน
เมื่อคืนเที่ยงคืนเธอถึงค่อยนอน เพื่อการสัมภาษณ์งานครั้งนี้ เธอเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
แต่พอเธอรอเข้าแถวเป็นเวลาสามชั่วโมง ในที่สุดก็พบกับผู้สัมภาษณ์งาน เธอแนะนำตัวเอง ผู้สัมภาษณ์ไม่ได้ถามคำถามกับเธอ หรือแม้แต่จะเหลือบมองเธอ และบอกกับเธอว่า: “ขอโทษด้วยนะ คุณไม่ใช่คนที่พวกเราต้องการ ดังนั้นเชิญ…..”
ซุนเย่วเคยมีปัญหากับสถานีโทรทัศน์ใหญ่ๆมาก่อน อีกฝ่ายก็ได้บอกกับนายจ้างตามเมืองรอบๆทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผู้สื่อข่าวบรรณาธิการและพิธีกร แล้วถ้ามีการรับสมัครเธอเข้าไปทำงานก็แปลกล่ะ
ซุนเย่วเดินออกจากอาคารพร้อมกับกระเป๋า เธอคิดว่าตัวเองเป็นน่าตลก และน่าสมเพช ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะจ้าง ยังคงเซ่อซ่าที่จะมาทำลายกำแพงนี้อีก
ซุนเย่วถอดกิ๊บติดผมออกอย่างลวกๆ ทรงผมที่เรียบร้อยจัดระเบียบอย่างพิถีพิถันของเธอก็ยุ่งเหยิง ซุนเย่วปลดกระดุมในชุดทำงานออกสองเม็ด เธอไม่รู้ว่าที่ตัวเองทำเช่นนี้ก็เพื่ออะไร กระเป๋าใหม่ที่เธอเพิ่งซื้อถูกลากถูกับพื้น กระเป๋าใหม่เอี่ยมที่ถูกพื้นอยู่นั้น ข้างนอกผิวมีรอยขาด แต่ซุนเย่วไม่รู้สึกกังวลเลย เธอไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำ
เธอเดินไปตามถนนของจีนหลิงด้วยท่าทางที่หดหู่ ราวกับว่าสูญเสียจิตวิญญาณ
ก็ไม่รู้ว่าเดินมานานแค่ไหน ซุนเย่วเดินมาถึงที่อาคารหลิงอู่ ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็เสียการทรงตัว เมื่อเธอยืนขึ้นมาได้มั่นคง พริบตาเดียว ส้นรองเท้าส้นสูงข้างขวาก็หัก
ซุนเย่วถอดรองเท้าส้นสูงทั้งสองข้างทิ้ง แล้วเธอก็หยิบมันขึ้นมา แล้วโยนทิ้งออกไปไกลๆ
ซุนเย่วนั่งอยู่บนขั้นบันไดหน้าอาคาร และไม่สนใจว่าเสื้อผ้าของเธอจะเปื้อนหรือเปล่า ซุนเย่วมองไปที่ดวงจันทร์สว่างบนท้องฟ้า น้ำตาค่อยๆปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ และเธอก็คัดจมูก ซุนเย่วไม่อยากให้คนรอบข้างเห็น ก็ก้มหน้าไปไว้ที่หน้าขา
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่สามารถหยุดการร้องไห้ของเธอได้
ซุนเย่วร้องไห้ด้วยความเศร้าและเสียใจ ทำให้คนรอบข้างรู้สึกใจอ่อน และเป็นห่วงเธอ ในใจซุนเย่วก็รู้สึกน้อยใจ เธอเป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ทำไมต้องกีดกันเธอถึงขั้นนี้?
หลังจากร้องไห้บนขั้นบันไดเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เธอก็ร้องไห้จนเสียงแหบคอแห้ง และเสื้อผ้าก็เปียก จากนั้นซุนเย่วถึงค่อยๆลุกขึ้นยืน ดวงตาที่แดงก่ำของเธอ เงยหน้ามองขึ้นไปที่ตัวหนังสือทั้งสี่ตัวบนหลังคา “อาคารหลิงอู่” ภาพของคนคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในหัวของเธอ
ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยคนนั้น ในวันนั้นสามารถให้เธอพักอาศัยอยู่ในบ้านได้ ถ้ารู้สถานการณ์ของตัวเองในวันนี้ เขาจะรู้สึกเสียใจกับตัวเองเล็กน้อย และจะปลอบใจตัวเองไหม?
เท้าเปล่าของซุนเย่ว เดินไปที่ประตูอาคารหลิงอู่ทีละก้าว และเดินไปที่ห้องของตัวเอง กำลังจะเปิดประตู ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามา
“คุณซุน ในที่สุดคุณก็กลับมา เชิญคุณตามผมมาหน่อยครับ เจ้านายของพวกเราอยากพบคุณ”
ซุนเย่วเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย และในที่สุดเธอก็เดินตามชายหนุ่ม และเดินไปที่สำนักงานอาคารหลิงอู่ชั้นหนึ่งของอาคาร A
“เชิญ”ชายหนุ่มพาซุนเย่วเข้าไปในห้องสำนักงาน และเมื่อเห็นฉินหลั่งนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ซุนเย่วก็เบิกตากว้าง และนิ่งค้างอยู่ที่นั่น: “ประธานฉิน ประธานเซิน ผมพาคุณซุนมาให้พวกคุณแล้วครับ”
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 151 ต้องทำอย่างนี้กับฉันเลยเหรอ
Posted by ? Views, Released on October 21, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment