รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 198 เขาไม่ได้สนับสนุนแค่งานเลี้ยงต้อนรับ

บทที่ 198 เขาไม่ได้สนับสนุนแค่งานเลี้ยงต้อนรับ
ที่แท้ที่ฉินหลั่งบริจาคเงินให้ไม่กี่วันก่อนนั้น อธิการบดีชุยข่ายไปเยี่ยมเยือนต่างจังหวัดพอดี ผู้อำนวยการหลิวฝ่ายการเงิน จึงนำเรื่องที่ฉินหลั่งบริจาคเงิน1.5ล้านยูโรนี้ รายงานต่อรองอธิการบดี และย้ำอีกว่าฉินหลั่งไม่อยากให้แพร่งพรายสถานะของเขา แต่พอเมื่อวานชุยข่ายกลับมายังมหาลัย รองอธิการบดีก็รายงานต่อเขา แต่เขาบอกไปแค่ว่าฉินหลั่งบริจาคเงินให้1.5ล้านยูโร และลืมบอกเรื่องที่เขาไม่อยากให้เปิดเผยตัวตน เขาไม่ทันได้นึกถึง
ชุยข่ายคิดว่าฉินหลั่งบริจาคเงินเยอะขนาดนี้ ควรหาโอกาสแสดงความขอบคุณ และความเคารพสักหน่อย งานเลี้ยงต้อนรับถือเป็นโอกาสที่ดี ดังนั้นเมื่อครู่จึงตัดสินใจอย่างฉุกละหุก ให้ฉินหลั่งเป็นคนมอบรางวัลแก่อันดับที่1
เมื่อได้ยินที่อธิการบดีพูด สมองของฉาวหนิงพวกเขานั้น“วิ้ง”ไปครู่หนึ่ง และยืนแข็งทื่อ ไม่อยากจะเชื่อว่าทุกสิ่งที่ตนได้ยิน และเห็นนั้นเป็นความจริง
ฉินหลั่งคือคนที่สนับสนุนคนนั้น อีกทั้งยังให้เงินสนับสนุนอีก1,250,000บาท!เห็นๆกันอยู่ว่าเขาเป็นแค่นักเรียนไอ้ขี้แพ้จนๆคนหนึ่งเขาจะมีเงินเยอะขนาดนี้ได้ยังไง?
“อธิการบดี คุณมอบดีกว่า?”ฉินหลั่งพูดอย่างฝืนๆ
“ไม่…นักศึกษาฉินหลั่ง คุณเป็นคนสำคัญของมหาลัยเรา รางวัลนี้ต้องให้คุณมอบด้วยตัวเอง”อธิการบดีพูดพลางพาฉินหลั่งเดินไปกลางเวที แล้วเอาใบประกาศนียบัตรให้ฉินหลั่ง จากนั้นอธิการบดีก็เป็นคนถือไมค์ พูดกับนักศึกษาล่างเวทีด้วยตัวเอง:“ลำดับต่อไปเชิญนักศึกษาฉินหลั่ง มอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ได้อันดับที่1!”
เมื่อครู่ผู้ชมแค่เห็นอธิการบดีเดินไปหาฉินหลั่ง แต่ไม่ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด ตอนนี้เมื่อได้ยินว่าฉินหลั่งก็คือผู้สนับสนุนคนนั้น ก็เกิดความประหลาดใจขึ้นทันที ทุกคนต่างส่ายหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ
ทายาทเศรษฐีในมหาลัยนั้นทุกคนรู้จัก แต่ไม่เคยได้ยินชื่อฉินหลั่ง เขาจะเป็นผู้สนับสนุนงานเลี้ยงนี่ได้ยังไง?แต่อธิการบดีก็ได้ยืนยันแล้ว เพื่อไม่ให้พวกเขาสงสัย
“ฉันรู้แล้ว เขาอาศัยที่ตัวเองเป็นสปอนเซอร์ เลยตั้งใจทำลายการแสดงของฉาวหนิงกับคุณหลง!ทำลายเสร็จแล้วค่อยมามอบรางวัลให้ฉาวหนิง นี่ก็เท่ากับว่าทำให้ฉาวหนิงและคุณหลงขายหน้านะ!”ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งขึ้นมาบนเวที เธอคือคนที่ชื่นชอบฉาวหนิง เธอไปแย่งไมค์จากพิธีกร แล้วพูดกับผู้ชมทั้งหลาย:“พวกเราไม่ต้องการให้คนแบบนี้ มอบรางวัลให้ฉาวหนิงกับคุณหลง!ทุกคนว่าจริงไหม!”
“ใช่!”
คำพูดของผู้หญิงคนนั้นได้รับการตอบรับจากผู้ชมมากมายทันที หากเป็นผู้ชายก็เพราะหลงหลิง ส่วนผู้หญิงก็เพราะฉาวหนิง เพราะก่อนหน้านี้ฉินหลั่งผลักฉาวหนิง และลากหลงหลิงลงจากเวทีอย่าง“ป่าเถื่อน”ทุกคนไม่ชอบเขาเอามากๆ
“ลงมาเถอะ!”
“ไม่ต้องการให้นายมอบรางวัล”
“คิดว่าตัวเองอยู่ระดับไหนกัน”
“ช่วยสนับสนุนก็คิดว่าเจ๋งแล้วใช่ไหม”
……
เมื่ออธิการบดีเห็นนักเรียนล่างเวทีโมโหฉินหลั่งเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกร้อนรนและโมโห เขาหยิบไมค์แล้วพูดยับยั้งเสียงดัง:“อย่าพูดเหลวไหล นักศึกษาฉินหลั่งเป็นผู้สนับสนุนงานเลี้ยงนี้ ไม่มีเขาก็ไม่มีงานเลี้ยงเกิดขึ้น พวกคุณควรขอบคุณเขา!”
“งานเลี้ยงครั้งนี้จ่ายไปมาสุดคือ1,250,000บาท พวกเราระดมเงินเอาก็ได้ พวกเราไม่อยากให้คนแบบนี้มอบรางวัลให้ฉาวหนิงและคุณหลง!ให้เขาลงจากเวทีซะ!”ผู้หญิงก่อนหน้านี้แย่งไมค์และพูดขึ้น
“ใช่ พวกเราระดมเงินแล้วคืนเขาไป ให้เขาลงจากเวทีซะ!”
“แค่เงิน1,250,000บาท คนเดียวอาจกระอักเลือดได้ แต่นี่เรามีตั้งกี่พันคน ให้คนละ500ก็ครบแล้ว”
คนด้านล่างเวทีดูถูกฉินหลั่ง พวกเขายอมระดมเงินให้ครบ1,250,000บาท ดีซะกว่าให้ฉินหลั่งมอบรางวัลแก่ฉาวหนิงและหลงหลิง
“ฉินหลั่งลงมา”
“ฉินหลั่งลงมา”
“ฉินหลั่งลงมา”
ด้านล่างเวทีพูดเป็นเสียงเดียวกัน
“เงียบให้หมด!”อธิการบดีเดือดมาก เขาตะโกนออกมาเสียงดัง:“หากใครยังใส่ร้ายนักศึกษาฉินหลั่งอีก ผมชุยข่ายจะลงทัณฑ์บน!”
อธิการบดีเป็นกังวลมาก ฉินหลั่งเป็นถึงคนสำคัญที่บริจาคเงินให้ตั้ง1.5ล้านยูโร แต่กลับได้รับการตอบแทนแบบนี้ในมหาลัย นี่ทำให้เขาอับอายจนเหงื่อตก ถ้าฉินหลั่งเอาเงินบริจาค1.5ล้านยูโรกลับจะทำยังไง?นักเรียนไร้ประโยชน์พวกนี้ ไม่ได้ทำอะไรดีๆให้มหาลัยเลย แต่ก่อเรื่องวุ่นวายให้มหาลัยเนี่ยที่หนึ่ง
เมื่อได้ยินอธิการบดีพูดว่าจะทัณฑ์บน เสียงของนักศึกษาก็ค่อยๆเบาลง
อธิการบดีจับมือฉินหลั่ง พลางเดินไปหน้าเวที แล้วพูดกับนักศึกษาด้านล่างอย่างไม่พอใจ:“พวกคุณคิดว่านักศึกษาฉินหลั่ง สนับสนุนแค่งานเลี้ยงนี้แค่นั้นเหรอ?”
“ใช่!”มีนักศึกษาคนหนึ่งพูดขึ้นเสียงดัง
“ผมจะบอกตัวเลขที่แม่นยำ ที่นักศึกษาฉินหลั่งบริจาคให้ฟัง นักศึกษาฉินหลั่งบริจาคเงินให้มูลนิธิมหาลัยไป1.56ล้านยูโร และอีกกว่า60ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆในมหาวิทยาลัยเจียงหนาน และทุนการศึกษา เงินช่วยการศึกษา ค่าใช้จ่ายในการทดลอง เงินช่วยการศึกษาที่หลายคนสมัคร ล้วนมาจากนักศึกษาฉินหลั่ง พวกคุณใช้เงินของเขา แต่ตอนนี้กลับทำให้เขาลำบากใจ ด่าทอเขา ไหนจะไล่เขาลงจากเวที พวกคุณไม่รู้จักบุญคุณบ้างเหรอ หรือว่าไม่อยากได้ทุนกับเงินช่วยการศึกษาแล้ว?”อธิการบดีพูดหน้านิ่วคิ้วขมวด
ล่างเวทีเกิดเสียงโวยวายสนั่น นักศึกษาจะรู้ได้ยังไง ว่าฉินหลั่งจะบริจาคเงินให้มหาลัยเยอะขนาดนี้ นักศึกษาส่วนใหญ่ยังคงมีท่าทีสงสัยกับอธิการบดี
อธิการบดีหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วฉายรูปเงิน1.56ล้านยูโร และข้อมูลเงินมูลนิธิมหาวิทยาลัยเจียงหนาน บนหน้าจอใหญ่ด้วยกล้องนักศึกษาเห็นหลักฐานพวกนี้แล้วจึงปักใจเชื่อ ว่าฉินหลั่งบริจาคเงินให้มหาลัยเยอะขนาดนั้นจริงๆ
ถึงแม้พวกเขาบางคนจะ“คลั่งคนดัง”อย่างฉาวหนิง แต่จำนวนเงินที่ฉินหลั่งบริจาคนั้นเยอะมากจริงๆ นี่ก็เป็นทายาทเศรษฐีนะเนี่ยในพวกเขามีคนสมัครทุนเงินช่วยการศึกษาของมหาลัยจริงๆ เป็นการรับผลประโยชน์จากฉินหลั่ง พวกเขาจะมีหน้าไปด่าฉินหลั่งได้ยังไง?ตอนนี้พวกเขาต้องรีบชดเชยจากการที่เสียมารยาท และพฤติกรรมบุ่มบ่าม
ทันใดนั้น เสียงด้านล่างเวทีก็เปลี่ยนไป
“คุณชายฉินสุดยอดมาก”
“คุณชายฉิน ฉันรักคุณ!”
“เยี่ยมมาก ใจกว้างสุดๆ !ฉันสมัครทุนเงินช่วยการศึกษาแล้ว ขอบคุณคุณชายฉินที่ช่วยเหลือฉัน”
……
“นักศึกษาฉินหลั่ง คุณมาพูดอะไรหน่อยสิ”อธิการบดีเห็นสถานการณ์สงบลงแล้ว จึงโล่งอก แล้วส่งไมค์ให้ฉินหลั่งพูด
เสียงปรบมือจากผู้ชมดังกึกก้อง พร้อมเสียงโห่ร้องไม่ขาดสาย
ท่ามกลางไมตรีที่เปี่ยมล้น ฉินหลั่งไม่อาจปฏิเสธได้ จึงรับไมค์มาแล้วพูดขึ้น:“จริงๆที่ผมบริจาคเงินพวกนี้ เพราะไม่มีที่จะเก็บแล้วเลยมอบให้ฝ่ายการเงิน ตอนแรกคิดว่าเงินที่ใช้ในงานเลี้ยงต้อนรับ คงจ่ายไปใกล้หมดแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่างานเลี้ยงต้อนรับจ่ายไปแค่1-1.5ล้านบาท ส่วนเงินที่เหลือเอาไปใช้ในส่วนต่างๆของมหาลัย ผมหวังว่าทุกคนจะสมัครทุนเงินช่วยการศึกษา ตั้งใจศึกษาในคณะของตน ทำประโยชน์ให้ครอบครัว สังคม และประเทศชาติในอนาคต”
ฉินหลั่งพูดจบ อธิการบดีพยักหน้าหงึกๆ และมีเสียงปรบมือจากผู้ชมอย่างล้นหลาม
“เป็นพลังงานบวกมากเลย!นี่สิถึงจะเป็นสิ่งที่ทายาทเศรษฐีควรมี”
“คุณชายฉิน ฉันโดนคุณตกเข้าให้แล้ว ถ้าได้ทุนฉันจะตั้งใจเรียน”
“ให้ตายเถอะ คุณชายฉินเหนือกว่าพวกทายาทเศรษฐี ที่ชอบเล่นยาบ้าผู้หญิงเยอะเลย”
……
“เอาล่ะ เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ลำดับต่อไปเชิญนักศึกษาฉินหลั่ง มอบรางวัลแก่ทีมของเขา!”อธิการบดีพูดอย่างพึงพอใจ
ฉินหลั่งถือใบประกาศนียบัตร และเดินไปที่ต่งอี้ ต่งอี้ราวกับน้ำแข็งบนมะเขืออย่างไรอย่างนั้น เขามองฉินหลั่งพลางพูดอย่างกลัวๆ:“คุณชายฉิน ขอโทษนะครับ ก่อนหน้านี้ผมปากพล่อย……”
ฉินหลั่งเห็นเขาซึมๆ เห็นได้ชัดว่าใจกระวนกระวาย เลยดูไม่ค่อยมีชีวิตชีวา แต่ฉินหลั่งไม่ได้มีสีหน้าโกรธแค้นอะไรนัก เขาแค่ยื่นใบประกาศนียบัตรให้เขา แล้วตบบ่าเขาเบาๆ
คนต่อมาคือจางเสี่ยวซาน เมื่อเห็นฉินหลั่งยืนอยู่ตรงหน้า เธอก็ตกใจราวกับลูกแมวน้อย หดคอไปมา และพูดเสียงเบา:“คุณชายฉิน ขอโทษค่ะ ก่อนหน้านี้ที่ฉันล้อคุณเพราะฉันไม่รู้ ปกติฉันล้อคุณว่าคนโง่…ไม่สิ คำๆนั้นไม่ได้ด่าคุณ แต่ฉันด่าตัวเอง ฉันนี่แหละคือคนโง่……”
ฉินหลั่งนึกถึงตอนที่จางเสี่ยวซาน ล้อเลียนตนอย่างพึงพอใจขณะฝึกซ้อม เทียบกับตอนนี้ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน น่าขันจริงๆขาพูดอย่างอบอุ่น:“เธอไม่ต้องกลัวจนเป็นแบบนี้ก็ได้ ปกติที่คุณหยอกล้อผม ถึงมันจะเกินไปหน่อย แต่ผมว่ามันน่าสนใจมาก ต่อไปอย่าล้อเล่นกับคนอื่นแบบนี้ก็พอ”
“ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะเชื่อฟังคุณชายฉิน!”จางเสี่ยวซานเห็นฉินหลั่งไม่ได้ตำหนิตนก็รู้สึกดีใจ เธอยิ้มหวานพลางรับใบประกาศนียบัตร ฉินหลั่งได้เดินผ่านไปแล้ว เธอมองฉินหลั่งพลางคิดในใจ ว่าผู้ชายคนนี้อบอุ่นมาก จึงยิ้มออกมา
เมื่อเห็นฉินหลั่งอยู่ตรงหน้าตน สายตาฉาวหนิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ที่จริงวันนี้ตนจะได้หน้า แต่ทั้งหมดล้วนโดนฉินหลั่งแย่งไป
ตอนนี้ยังจะให้ฉินหลั่งมามอบรางวัลให้ตนอีก นี่ก็แปลว่าตนยังด้อยกว่าเขาไปขั้นหนึ่ง เมื่อฉินหลั่งส่งใบประกาศนียบัตรมาตรงหน้า ฉาวหนิงไม่อยากรับเลยจริงๆ สายตามองไปทางอื่น ในใจพลางคิดว่าเขามีสิทธิ์อะไรมามอบรางวัล?
“ฉาวหนิง ไม่รับใบประกาศนียบัตรเหรอ!”ฉินหลั่งเห็นเขายังคงอืดอาด เลยพูดด้วยความโมโหอย่างอดไม่ได้
“แก……”ฉาวหนิงมองฉินหลั่ง ในใจโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ในมหาวิทยาลัยเจียงหนานและแต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับตนด้วยน้ำเสียงแบบนี้
“นักศึกษาฉาวหนิง รีบรับใบประกาศนียบัตรสิ!”อธิการบดีทำหน้าขรึมพลางพูดเร่ง
ฉาวหนิงไม่เต็มใจมาก แต่สถานการณ์ตอนนี้เขาไม่รับไม่ได้ ถ้าทำให้ฉินหลั่งหมอนี่โมโหขึ้นมา และมีเรื่องกับเขาบนเวที ภาพลักษณ์ของเขาในมหาวิทยาลัยเจียงหนานคงย่อยยับแน่
ฉาวหนิงดึงใบประกาศนียบัตรมาอย่างไม่พอใจ
ฉินหลั่งยิ้ม เขารู้ว่าตอนนี้ฉาวหนิงคงโมโหมากแน่ๆ แต่เขากลับเบิกบานใจมาก ให้เขาลำพองใจมาได้ตั้งนาน วันนี้นายก็ต้องขมขื่นบ้าง
ฉินหลั่งเดินไปถึงหลงหลิง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที แล้วหยิบใบประกาศนียบัตร ค่อยๆส่งให้หลงหลิง:“ใบประกาศนียบัตรของเธอ”
ภายใต้แสงไฟ เห็นแค่หลงหลิงกำลังมองฉินหลั่งอย่างเงียบๆ เมื่อรับใบประกาศนียบัตรก็ยิ้มอย่างเย็นชา และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน:“คุณนี่ปกปิดได้เก่งจริงๆ”
เมื่อเห็นหลงหลิงยิ้มให้ตน ฉินหลั่งก็รู้สึกเหมือนอ่อนระทวยไปทั้งตัว:และรีบเขย่ามือพลางพูด:“ผมไม่ได้จะหลอกคุณ คือ…คือ…เรื่องนี้มันซับซ้อนเกินไป เดี๋ยวผมจะอธิบายให้คุณฟังทีหลัง”
หลงหลิงเพียงแค่พูดไปเฉยๆ ฉินหลั่งกลับจริงจังขนาดนี้ ราวกับกลัวตนจะเข้าใจผิด มีน้ำใจกับเธอเป็นพิเศษอย่างเห็นได้ชัด ใจเธอเต้นเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเขาใช้ความรู้สึกแบบแฟนกับตนอีกครั้งแน่ๆ หลงหลิงจึงก้มหน้าลงเล็กน้อย จิตใจซับซ้อน และไม่มองฉินหลั่ง
“เอาล่ะ คุณฉินมอบใบประกาศนียบัตรเสร็จแล้ว ตอนนี้เราขอเชิญนักแสดง และทีมงานทั้งหมดขึ้นมาบนเวที มาถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน”พิธีกรพูด
ตอนนี้ นักแสดงและทีมงานทั้งหมดหลังเวทีขึ้นมาแล้ว ฉินหลั่งกับอธิการบดี และรองอธิการบดีนั่งตรงกลาง หลีซีเมื่อรู้ว่าฉินหลั่งเป็นผู้สนับสนุนงานเลี้ยงต้อนรับนี้ ก็ตกตะลึงมาก และเมื่อได้ยินว่าฉินหลั่งบริจาคเงิน ให้มหาลัยกว่า60ล้านบาท ก็ยิ่งทำให้เขาตกใจเข้าไปอีก เขากำลังเดาว่าฉินหลั่งเป็นใครกันแน่ ไม่แน่อาจสูงศักดิ์กว่าฉาวหนิงซะอีก
อาศัยช่วงที่กำลังถ่ายรูป หลีซีก็เดินไปหาฉินหลั่ง เขายิ้มราวกับพระพุทธรูป:“คุณชายฉิน ขอโทษนะครับ ก่อนหน้านี้ผมมีตาหามีแววไม่ ผมมาขอโทษคุณ ขอคุณอย่าถือสาผู้น้อยอย่างผมเลย ให้อภัยผม……”
ฉินหลั่งเห็นหลีซีก็อดไม่ได้ที่จะโกรธ 20กว่าวันมานี้เขาทำให้เขาเสียหาย ต่อหน้าทุกคนไม่น้อยเลย เป็นพวกประจบประแจงจริงๆท่าทางของเขาในตอนนี้ คงรู้ว่าตนมีเงินเลยมาประจบสอพลอ
ฉินหลั่งยิ้มอ่อนๆพลางกวักมือให้เขา หลีซีก็เดินมาตรงหน้าฉินหลั่งราวกับหมาปั๊ก ฉินหลั่งจับหูหลีซีและพูดข้างๆหูเขา หลีซีท่าทางดูลำบากใจมาก แต่ตอนสุดท้ายพยักหน้าเล็กน้อย แล้ววิ่งไปหลังเวที
ไม่นานนักทุกคนก็จัดคิวถ่ายรูปกันเสร็จ หลีซีก็วิ่งมาจากหลังเวที แล้วมีเสียงหัวเราะดังสนั่น ที่แท้เขาก็ไปใส่กางเกงในสีแดงมา หลีซีเป็นคนอ้วนน้ำหนัก90กิโลกรัม ไขมันทั่งร่างกาย ขณะนี้เขาเดินขึ้นมาบนเวทีตัวสั่น เหมือนตือโป๊ยก่ายที่ถอดเสื้อผ้าหมดไม่มีผิด เขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว แต่เพื่อให้ฉินหลั่งยกโทษให้ตน เขาจึงทำได้เพียงทำตามที่ฉินหลั่งบอก
กลุ่มคนด้านล่างเวทีต่างพากันล้อเลียน นักแสดงบนเวทีก็รังเกียจหลีซีที่ขายหน้า พลางหัวเราะและหลบเขา
หลีซีเดินไปหาฉาวหนิง ฉาวหนิงตกใจมาก และดุเขา:“นายจะทำอะไร อย่าเข้ามานะ!”
คุณชายฉินอยากให้หลีซีทำให้นายขยะแขยง ฉาวหนิงนายอย่าโทษฉันนะ ฉินหลั่งสามารถบริจาคเงินให้มหาลัยได้ถึง60ล้าน สถานะคงสูงกว่าฉาวหนิง หลีซียอมล่วงเกินฉาวหนิง ดีกว่าไปล่วงเกินฉินหลั่ง
หลีซีเดินไปถึงฉาวหนิงอย่างใจดีสู้เสือ และใช้แขนโอบไหล่ฉาวหนิง:“ฉาวหนิง ขอโทษนะ”
หลีซีพูดขอโทษพลางโอบฉาวหนิงไว้แน่น ไม่ว่าฉาวหนิงจะด่า จะต่อต้านยังไงเขาก็ไม่ปล่อย ผู้ชายสองคนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันกลางวันแสกๆ เหมือนฉาวหนิงจะโผล่ออกมาจากชั้นไขมันของหลีซีได้ ทำเอาทั้งบนและล่างเวทีหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงถ่ายรูปรวมดัง“แชะ”รูปหมู่นี้ต้องลงบนเว็บมหาลัย เมื่อนึกถึงที่เมื่อครู่ตนกับเจ้าอ้วนหลีซี กอดกันอย่าสนิทสนม ฉาวหนิงก็สิ้นหวังแล้ว

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset