รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 218 ฉันจะสอนวิทยายุทธ์ให้แกเอง

บทที่ 218 ฉันจะสอนวิทยายุทธ์ให้แกเอง
ฉินหลั่งถูกโยนมาจนเจ็บเอว ในใจรู้สึกไม่สบายใจ พร้อมทั้งพูดว่า “ตอนที่ผมอยู่ที่เมืองจีนหลิง มียายท่านหนึ่งเป็นคนสอนผมมา!”
“ยาย? หน้าตาเธอเป็นยังไง?” หญิงงามชุดขาวถามขึ้น
ฉินหลั่งเกิดความสงสัยในใจ หรือว่าหญิงงามชุดขาวคนนี้รู้จักกับยายคนนั้น เลยพูดว่า “เธอก็เหมือนกับคุณนั่นแหละ ใส่เสื้อผ้าชุดโบราณ แต่ว่าเป็นสีแดง คุณยายยังมีผมเปียสองข้าง เหมือนเป็นผู้มีฝีมือมากวิชามีชีวิตชีวามาก”
หญิงงามชุดขาวตกใจ จากนั้นก็พูดอย่างยินดี “แกเจอนางตอนนั้นนางเป็นคนแก่ที่อายุน่าจะเจ็ดแปดสิบ จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเด็กสาวแรกรุ่นอายุ17-18 ปี ใช่หรือไม่?”
ฉินหลั่งแปลกใจ แล้วพูดว่า “คุณรู้ได้ยังไง?”
สีหน้าหญิงงามชุดขาวดีใจหนักกว่าเก่า พร้อมทั้งพูดเสียงทุ้มต่ำ “ที่แท้ก็เป็นนาง! ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน? รีบพาฉันไปเจอ!”
ฉินหลั่งนึกสงสัยอยู่ในใจ เลยถามว่า “ท่านครับ คนที่คุณต้องการจะฆ่าเป็นคุณยายเหรอ?”
หญิงงามชุดขาวพูดเสียงแข็ง “คนไร้ค่านั่นแหละ แกพาฉันไปพบเธอ หลังจากนี้แล้วฉันจะตอบแทนให้อย่างหนัก! นางอยู่ไหน?”
ฉินหลั่งตกใจ ฉับพลันนึกถึงคุณยายกำลังฝึกวิทยายุทธ์ในวิลล่า เธอเคยพูดเอาไว้ว่า เธอมีศัตรูที่ชื่อว่าจูชุยส่วย คุณยายค่อนข้างหวาดกลัวมาก หรือว่าเป็นหญิงงามชุดขาวที่อยู่ตรงหน้านี้ ฉินหลั่งเลยถามกลับ “ท่านครับ คุณคือจูชุยส่วยใช่ไหม?”
หญิงงามชุดขาวยิ้มให้เล็กน้อยแล้วถามกลับ “ดูเหมือนว่ายายปี้หวู้คอยพูดถึงฉันอยู่ ตอนนี้เธอฟื้นวิทยายุทธ์ไปถึงไหนแล้ว รีบพูดกับฉันว่านางอยู่ที่ไหน?” ’
ฉินหลั่งได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธ “ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่ผมก็ไม่บอกคุณ”
“อะไรนะ!” จูชุยส่วยพูดเพิ่มเติม “แกรนหาที่ตายใช่ไหม!”
พูดไป แววตาเย็นชา มือโบกสะบัด ชุดโบราณสีขาวราวกับมีชีวิตมันพุ่งมาหาฉินหลั่ง จากนั้นก็มัดด้านบนของฉินหลั่งเอาไว้ จูชุยส่วยพูดอย่างเย็นชา
“เส้นผ้าไหมสีขาวอันนี้มีเส้นใยขนวัวเป็นหมื่นๆ เส้น ฉันแค่ใช่พลังภายในดึงให้แน่น มันทำงานได้รวดเร็วกว่ามีตั้งเยอะ แกถูกมัดมือไว้ทั้งสองข้างก็จะถูกตัดออก แกไม่กลัวหรือไง?”
ฉินหลั่งใช้แรงพยายามทำให้หลุดอีก แต่ท่อนด้านบนร่างกายของเขาถูกมัดไว้แน่น ฉินหลั่งมองมาทางจูชุยส่วย แล้วพูดว่า “ท่านจู คุณกับคุณยายมีเรื่องเข้าใจผิดบางอย่างใช่หรือไม่ ทุกคนพูดกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องเข่นฆ่ากันด้วย?”
จูชุยส่วยพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ความแค้นระหว่างฉันกับนางดั่งทะเลลึก ไม่มีอะไรที่ต้องพูดกันดีๆ อีก ฉันแค่หวังว่าจะแร่เนื้อบนตัวนางออกเป็นชิ้น ให้นางอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็น! เรื่องของฉันกับนางแกอย่าช่วยพูดเสนอความคิดเห็นเลย? แกพูดก็เหมือนไม่พูด?”
จูชุยส่วยดึงเส้นผ้าไหมเข้าหาตัว มันยิ่งทำให้เส้นไหมที่อยู่บนตัวฉินหลั่งแน่นตึง ฉินหลั่งถึงกลับอดร้องออกมาไม่ได้ เพราะบนแขนที่ถูกมัดแน่นที่สุดนั้น ผิวถูกใบมีดคมกริบแทงทะลุเข้าเนื้อ
จูชุยส่วยยิ้มและพูดอย่างเย็นชา “แกรู้สึกแล้วหรือยัง ถ้าแกยังไม่ยอมพูดออกมาอีก ตอนฉันใช้พลังภายในอีก ถึงตอนนั้นแขนแกก็จะขาด ถ้ามาโทษฉันแล้วกันว่าไม่เตือนแกก่อน! ฉันจะถามแกอีกครั้ง ยายปี้หวู้ ตอนนี้อยู่ที่ไหน?”
ฉินหลั่งจ้องมองมาที่จูชุยส่วย พร้อมทั้งพูดออกมาตามปกติ “ขอโทษด้วยครับ ท่าน”
“แก!” ใบหน้าจูชุยส่วยมีแต่ความโกรธแค้น พร้อมทั้งพูดอย่างเย็นชา “ได้ งั้นฉันก็จะตัดแขนทั้งสองข้างของแก!” พูดจบ ก็ใช้แรงตวัดไปที่เส้นไหน
ฉินหลั่งถูกพลังซัดมาจนลอยอยู่ในอากาศ จากนั้นก็มีเสียงตกลงบนพื้น “ผลั่ก” หัวใจเสียววาบ แขนของตนเองคงขาดเรียบร้อยแล้วมั้ง?
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขายิ่งเปรมปรีดิ์กว่า นั่นคือแขนของเขาไม่ได้ขาดออกจากกัน ยังอยู่บนร่างกายของเขาครบถ้วน แค่มีรอยขีดข่วนเล็กน้อยและเลือดไหลซึมออกมาเล็กน้อยเท่านั้นเอง แผลนี่น่าจะมาจากการถูกเส้นไหมขีดข่วนจนเป็นรอยแผลเป็น ถ้าจูชุยส่วยใช้พลังภายในจริงๆ สักครั้ง แขนทั้งสองของเขาก็คงถูกตัดขาดออกจากกันแล้วมั้ง?
ฉินหลั่งดีใจเป็นอย่างมากพร้อมทั้งมองมาทางจูชุยส่วย “ท่านครับ คุณไม่ได้ตัดแขนผม!”
จูชุยส่วยหรี่ตามองฉินหลั่งอยู่แวบหนึ่ง พร้อมทั้งพูดว่า “เด็กน้อยอย่างแกนี่กล้าหาญจริงๆ! วันนี้ฉันปล่อยแกไปสักครั้ง” แววตาจูชุยส่วยขยับเล็กน้อย พร้อมทั้งเห็นถุงสีแดงที่อยู่ชายกระเป๋ากางเกงของฉินหลั่ง เลยทำเสียงสงสัย “นั่นคืออะไร?”
ฉินหลั่งหันไปมอง พร้อมทั้งตกใจ มันเป็น “ด้ายหนึ่งเส้นเชื่อมโยงบุพเพ” ที่คุณยายให้ตนเองเอาไว้ในวันนั้น หลังจากที่หยิบออกมาแล้ว เขาก็เอาใส่ไว้ในกระเป๋าตลอดเวลา ไม่คิดเลยว่าเมื่อครู่ตอนที่โดนจูชุยส่วยผลักล้ม เส้นด้ายแดงจะหลุดออกมา ฉินหลั่งรีบยัดกลับไปอย่างรวดเร็ว
เห็นแค่มือที่เอื้อมออกมาเลือนรางพร้อมทั้งรวดเร็ว ด้ายแดงก็ไม่มีแล้ว
จูชุยส่วยเอาด้ายแดงไว้ในมือ พร้อมทั้งสัมผัสความรู้สึก แล้วยิ้มตอบ “ที่แท้ยายปี้หวู้ใช้พลังจริงๆ ในการอวยพร!”
จูชุยส่วยเอาด้ายแดงดึงกับมาที่นิ้วของตนเอง แล้วสะบัดเล็กน้อย พลันเห็นว่าด้านแดงเริ่มมีปฏิกิริยาด้วย มือของจูชุยส่วยถูกหางเลขไปด้วย เห็นได้ชัดว่ายายปี้หวู้สัมผัสได้ที่อยู่ของตนเองเรียบร้อยแล้ว
จูชุยส่วยยิ้มให้แล้วพูดว่า “ดูแล้วยายปี้หวู้ให้ความสำคัญกับแกมากเลยนะเนี่ย?”
ฉินหลั่งพูดเพิ่ม “ผมเลยช่วยส่งไก่เป็นๆ ให้นางเท่านั้นเอง ก็ไม่รู้ว่าหลังจากที่ผมมาที่เมืองหลินอานแล้ว นางอยู่ที่เมืองจีนหลิงเป็นยังไงบ้าง?”
จูชุยส่วยหัวเราะร่าพร้อมทั้งพูดว่า “มันดีจริงๆ นิสัยคับแคบอย่างยายปี้หวู้ที่ แกไปจากนางตอนที่นางกำลังรักษาจุดที่สำคัญที่สุด เพราะฉะนั้นเลยทำให้นางแค้นอย่างหนัก! ดูแล้วครั้งนี้นางโมโหอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ต้องมาหาแกที่เมืองหลินอานเป็นแน่แท้! งั้นดีเลย ประหยัดเวลาที่ฉันจะต้องไปตามหานางทุกหนทุกแห่งแล้ว! เจ้าน้องชาย ฉันขอบคุณเจ้าจริงๆ!”
ฉินหลั่งจ้องมองจูชุยส่วยอย่างดุดันแล้วพูดว่า “ท่านครับ ท่านก็อย่าเพิ่งดีใจไปก่อนเลย วิทยายุทธ์ของคุณยายผมเคยเห็นมาแล้ว เยี่ยมยุทธ์ไม่น้อยหน้ากว่าคุณเลย! ทางที่ดีคุณควรหลบเขาสักหน่อยก็ยังดี เพื่อหลีกเลี่ยงเดี๋ยวเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่ายอีก”
จูชุยส่วยพยักหน้าให้ พร้อมทั้งพูดว่า “นางอายุมากกว่าฉันสี่สิบกว่าปี วิทยายุทธ์ของนางย่อมเก่งกล้ากว่าฉันอยู่แล้ว เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะไม่ผิดพลาดในการฆ่านาง แกต้องช่วยฉันด้วย”
“ผมเหรอ?” ฉินหลั่งสงสัย
จูชุยส่วยพูดต่อ “แกนั่นแหละ ฉันจะสอนวิชา ‘เทียนหนานเทียนเป่ย’ ให้แก ตอนที่พวกฉันกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น แกก็อยู่ข้างๆ แล้วค่อยแอบช่วยฉันลงมือ เพื่อทำให้นางถึงแก่ชีวิต!”
ฉินหลั่งส่ายหัวไปมา “ผมไม่ได้มีความแค้นใดๆ กับคุณยายเลยด้วยซ้ำ อีกอย่างท่านก็ดีกับผมมาก ผมไม่อยากทำเรื่องแบบนี้”
สายตาจูชุยส่วยฉายความจงเกลียดจงชังขึ้นมา นัยน์ตาขยับเล็กน้อย จากนั้นส่งเสียงไอในลำคอ แล้วเธอใช้ฝ่ามือปิดปาก ยามเมื่อแบมือออกมา บนฝ่ามือมีแต่เลือดสดกลิ่นคาวคลุ้ง
“ท่านท่าน…ท่านเป็นอะไรไป” ฉินหลั่งทำหน้าตกใจมาก จูชุยส่วยก็ดูดีอยู่แล้วทำไมถึงอาเจียนออกมาเป็นเลือดได้ล่ะ?
จูชุยส่วยเช็ดคราบเลือดมุมปาก พร้อมทั้งพูดอย่างอ่อนล้า “เมื่อครู่ตอนที่ฉันฝึกวิทยายุทธ์ถึงขั้นสำคัญอยู่นั้น แกใช้วิชามือปล่อยใบมีดของยายปี้หวู้ออกมา ฉันคิดว่าเป็นยายปี้หวู้มาแล้ว เลยรีบเก็บพลังภายในทันที จนทำให้ลมปราณแตกซ่าน จนภายในได้รับบาดเจ็บอยากสาหัส”
“ห๊า…ขอโทษจริงๆ เป็นความผิดของผมเอง” ฉินหลั่งพูดขอโทษอย่างจริงใจ
จูชุยส่วยเริ่มพูดต่อ “แกไม่ได้ตั้งใจ ฉันไม่สามารถโทษแกได้ แค่ฉันพลังภายในอ่อนแอกว่ายายปี้หวู้ ถ้าได้รับบาดเจ็บอีกครั้ง คงเหลือแค่รอให้นางมาฆ่าเท่านั้นเอง”
“ท่าน หรือว่าท่านไม่ต้องไปเจอหน้ากับยายปี้หวู้ดี…..” ฉินหลั่งพูดต่อ
“ไม่…ถึงจะต้องตายฉันก็ต้องล้างแค้นกับนางให้ได้!” จูชุยส่วยพูดอย่างตื่นเต้น ฉินหลั่งเห็นว่าจูชุยส่วยโมโหเป็นอย่างมาก ก็เลยไม่กล้าขัดขวางกับนางได้อีกแล้ว
“เจ้าเด็กหนุ่มแกคิดว่าทำเช่นไรดี? ฉันจะสอนวิชา ‘เทียนหนานเทียนเป่ย’ ให้รอตอนที่พวกฉันกำลังต่อสู้กันอยู่นั้น แกก็ยืนอยู่ด้านข้างคอยสนับสนุนกำลัง ตอนที่ฉันไม่สามารถสู้กับนางได้ แกก็เป็นคนลงมือเพื่อให้ฉันได้รอดชีวิตอย่างปลอดภัย แกเป็นคนที่จิตใจดี ต้องยอมตกลงกับฉันใช่ไหม?”
“เรื่องนี้….” ฉินหลั่งยังไม่ยอมตอบ
“เมื่อครู่แกก็เห็นร่างกายที่โป๊เปลือยของฉันแล้ว หรือว่าการที่ฉันให้แกทำเรื่องนี้ แกก็ไม่ยินดีใช่ไหม? แกไม่ยอมตกลงใช่ไหม? งั้นฉันจะเอาเรื่องนี้ป่าวประกาศไปให้ทั่ว จะดูสิว่าในสังคมของแกนั้นแกจะทนอยู่ยังไง?” หญิงงามชุดขาวพูดทวงบุญคุณ
“ได้ ผมตกลงก็ได้” ฉินหลั่งได้แต่ตอบตกลง
ตัวเขาเองก็อยากเรียนวิชา “เทียนหนานเทียนเป่ย” นี้เพราะว่าฟังดูแล้วมันดูเก่งมากๆ รอจนถึงเวลาจูชุยส่วยกับยายปี้หวู้ใครจะอยู่ใครจะไป เขาก็ยังคงหยุดการต่อสู้อยู่ด้านข้างทั้งสองคน เพื่อให้หญิงงามชุดโบราณทั้งสองคนได้ปรับทัศนคติความขัดแย้งให้เข้าใจกัน
จูชุยส่วยยิ้มเล็กน้อย “แกยอมตกลงแล้ว งั้นพวกเราก็เริ่มฝึกวิชากันเถอะ! ฉันจะสอนแกเอง แกก็ต้องใจเรียน พรุ่งนี้เช้าฉันจะสอนวิชากลยุทธ์จิตใจให้”
พูดไป จูชุยส่วยที่ยืนอยู่ตรงกลางห้อง ก็แสดงท่าทางไปหนึ่งรอบ ยามเมื่อเห็นว่าเธอใส่เสื้อผ้าสีขาว เท้าเปลือย แล้วกำลังฝึกวิชาอยู่บนพื้น ทั้งหมัดทั้งเท้า ทั้งคุกเข่าทั้งกระโดดไปมา รูปร่างนูนโค้งคอดได้รูปหมุนไปมา อีกทั้งเธอเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ บนตัวเธอย่อมมีกลิ่นหอมๆ ลอยออกมาด้วย ฉินหลั่งเห็นเธอกำลังแสดงท่าทางวิชา สีหน้ามีทั้งเศร้าโศก บ้างก็ยิ้มให้ ช่างน่าหลงใหลเสียจริง
ทว่าสิบกว่านาทีผ่านไป จูชุยส่วยก็ฝึกซ้อมวิชาสำเร็จ
จูชุยส่วยพลันนึกถึงในปีนั้นก็ลูกศิษย์ทั้งสามคนที่กำลังฝึกวิทยายุทธ์กำลังภายในวิชานี้พร้อมๆ กันที่ตีนเขาเทียนซาน ฉับพลันเลยรู้สึกตามไปด้วย เลยแอบฉินหลั่งปาดรอยน้ำตาที่บริเวณหางตา ถึงได้หันตัวกลับมาอีกครั้ง แล้วพูดมา “เมื่อครู่ฉันก็ได้แสดงวิชา ‘เทียนหนานเทียนเป่ย’ ทั้ง36กระบวนท่าขั้นพื้นฐานออกมาหมดแล้ว ตอนนี้แกก็ฝึกให้ฉันดูสักรอบ”
“ผม…ท่านครับ ผมจำได้แค่ไม่กี่ท่าเอง แล้วจะฝึกได้ยังไง?” ฉินหลั่งพูดแบบเขินอาย
“ฝึกเถอะ ตรงไหนไม่ได้ฉันจะช่วยเอง!” จูชุยส่วยพูด
“ครับ!” ฉินหลั่งไม่รอช้า ทำได้แค่หน้าด้านฝึกวิชาที่ในหัวจำได้ออกมา กระบวนท่าสิบท่าแรกเกินครึ่งจำได้ แต่พอมาช่วงท้าย ฉินหลั่งก็ลืมไปแล้ว เลยยืนอยู่ที่เดิมมองจูชุยส่วยอย่างเขินอาย
จูชุยส่วยถอนหายใจเล็กน้อย เมื่อเดินมาด้านข้างตัวฉินหลั่ง เลยจัดการใช้มือสอนเขาเอง ฉินหลั่งถูกจูชุยส่วยจับมือ ประสาทหูก็ได้ยินเสียงอันอ่อนโยนของเธอ บางครั้งเธอก็ต้องทรมานกับเส้นผมอันพลิ้วไสวของเธอ แถมยังมีกลิ่นหอมจางๆ จากเรือนกายของเธออีก บางครั้งความตั้งใจก็ไม่สามารถแน่วแน่ได้
จูชุยส่วยสอนฉินหลั่งหนึ่งชั่วโมงกว่า จนถึงเวลาตีหนึ่งแล้ว จูชุยส่วยถึงได้หยุดฝึก แล้วพูดว่า “คืนนี้พอเท่านี้ก่อน พรุ่งนี้ตื่นนอนหกโมงเช้า ฉันจะสอนแกเรื่องวิชากลยุทธ์จิตใจ”
“ได้!” ฉินหลั่งตอบตกลง พลางหันตัวกลับไปที่ห้องพักของตนเอง
“ไม่ต้อง หลายวันนี้นายก็นอนที่ห้องพักของฉันนี่แหละ! เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงที่นายจะส่งข่าวให้ยายปี้หวู้รับรู้” จูชุยส่วยพูด
“ห๊า…” ฉินหลั่งพูดด้วยอาการตกใจเป็นอย่างมาก
จนสุดท้ายแล้ว ฉินหลั่งก็ต้องอยู่ในห้องนอนของจูชุยส่วย เดิมทีจูชุยส่วยคิดจะให้ฉินหลั่งนอนบนเตียงกับเธอ แต่ว่าฉินหลั่งบอกว่าไม่ได้ สุดท้ายแล้วฉินหลั่งเลยขอเตียงเสริม ปูลงบนพื้น ถึงได้ข่มตานอนหลับได้
ในเวลาเดียวกัน เฝิงหรุงถูกส่งตัวมาที่โรงพยาบาล จากห้องฉุกเฉินจนถูกส่งตัวมาที่ห้องพักสังเกตอาการคนป่วย หยูหมิงก็มารอเขาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยแล้ว
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หยูหมิงได้ข่าวว่าเฝิงหรุงทำงานผิดพลาด แถมได้ข่าวว่าถูกคนตัดนิ้วไปสองนิ้ว แล้วยังถูกตัดขาจนขาดอีก ในหัวสมองไม่เคยคิดเลยว่าจะมาถึงขั้นนี้
เฝิงหรุงพูดว่า “คุณชายหยู ขอโทษด้วย ผมไม่ได้ทำงานที่คุณมอบหมายให้สำเร็จ”
“มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หยูหมิงถาม
เฝิงหรุงพลันนึกถึงเรื่องที่หญิงงามชุดขาวเตือนตนเองไว้ก่อนหน้านี้ ใจเขาสั่นไม่หยุด อย่าได้แพร่งพรายเรื่องที่หญิงงามชุดขาวพูด เลยโยนความผิดไปที่ไอ้ขี้แพ้คนนั้นแทน เขาพูดว่า “ไอ้ฉินหลั่งขี้แพ้คนนั้นแหละ ถ้าไม่ใช่มันป่านนี้ผมก็เอาคุณหลงไปส่งที่โรงแรมให้คุณเสร็จเรียบร้อยไปตั้งนานแล้ว เพราะมันนั่นแหละ!”
“มือและเท้าของแกมันเป็นทำทั้งหมดเหรอ?” หยูหมิงถาม
เฝิงหรุงพยักหน้าให้ “ไม่ผิด มันนั่นแหละ! คุณชายหยู ไอ้ขี้แพ้นั่นมันเป็นจิ้งจอกแสนร้ายกาจ! ขนาดผมยังไม่ใช่คู่ต่อสู้กับมันเลย”
หยูหมิงค่อยๆ มองออกไปด้านนอกหน้าต่าง รูม่านตาเริ่มก่อกองไฟทีละเล็กละน้อย มือของเขากำหมัดแน่น ในใจคิดว่า “ไอ้ขี้แพ้ มึงทำกูพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่จบสิ้น กูจะทำให้มึงรู้ว่า ค่าเสียเวลากูมันหนักหนาขนาดไหน!”

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset