บทที่ 219 ฐานะของจูชุยส่วย
เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาหกโมงเช้า จูชุยส่วยเรียกฉินหลั่งให้ตื่นนอน หลังจากที่ทั้งสองคนอาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว จูชุยส่วยก็เริ่มใส่ผ้าคลุมหน้า และเดินออกจากห้องของโรงแรมพร้อมกัน
พนักงานของโรงแรมเห็นว่าฉินหลั่งกับจูชุยส่วยพักอยู่ห้องเดียวกัน ต่างตกใจกันยกใหญ่ พนักงานกับแขกเหรื่อที่เข้ามาพักบางคนไม่สามารถสงบจิตสงบใจได้ เพราะว่ารูปร่างสาวสวยที่เพอร์เฟคเช่นนี้ ทำไมถึงไปอยู่กับผู้ชายที่แต่งตัวเป็นไอ้ขี้แพ้มอซอนี้ไปได้ล่ะ พลันคิดถึงฉากบทรักฟ้าถล่มดินทลายดอกไม้เบ่งบานกระจัดกระจายไปทั่วห้องของเมื่อคืนของพวกเขาด้วยแล้ว จนคนหลายต่อหลายคนอยากจะหมดอาลัยตายอยากไปด้วย
จูชุยส่วยกับฉินหลั่งเดินที่สวนสาธารณะในละแวกใกล้เคียง แล้วหาที่สงบๆ ที่ไม่มีคนพลุกพล่าน จูชุยส่วยพูดกับฉินหลั่งว่า “ตอนนี้ฉันจะถ่ายทอดวิชากลยุทธ์ทางจิตให้นาย นายต้องระลึกจดจำท่าทาง ‘หลับตานั่งสมาธิจิตใจจดจ่อ สงบอารมณ์และสมาธิให้แน่วแน่ ยิ้มแย้มให้เห็นฟันสามสิบสองซี่ สองมือทาบกับศีรษะให้มั่น….’ ”
ใช้เวลาห้านาที จูชุยส่วยก็เอาเคล็ดลับวิชาท่องออกมาหนึ่งรอบ เคล็ดลับวิชานี้มีทั้งหมด80ประโยค ทุกประโยคมีเนื้อความห้าคำ โดยส่วนใหญ่เป็นคำคล้องจอง แต่ว่ามีอยู่หลายประโยคเช่นกันที่ยังแสดงออกถึงเนื้อหาได้อย่างถูกต้อง จนออกเสียงได้ยากมาก
“นายนั่งลง แล้วเอาเคล็ดลับวิชาที่ฉันถ่ายทอดให้จำเอาไว้ให้ดี” จูชุยส่วยพูด
“ครับ!” ฉินหลั่งนั่งลงบนก้อนหิน จากนั้นก็รื้อความจำที่จูชุยส่วยเพิ่งถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาเมื่อครู่ออกมา ยามเมื่อลืมไปแล้วเขาก็คอยถามจูชุยส่วยอีกรอบ ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ฉินหลั่งก็สามารถพูดเคล็ดลับวิชาออกมาได้ทั้งสองรอบ จากนั้นก็พูดอย่างมีความสุข “ท่านครับผมจำได้แล้ว”
จูชุยส่วยให้ฉินหลั่งท่องมาให้ตนเองฟังสักรอบ ในที่สุดก็สามารถจดจำได้ไม่พร่องไปสักคำ จูชุยส่วยยิ้มให้ “ฉันไม่ได้มองคนผิดไปจริงๆ คุณสมบัติของแกไม่เลวจริงๆ! เคล็ดลับวิชานี้ให้แกฝึกทำทุกวัน ดี ตอนนี้พวกเรามาเริ่มฝึกวิชาที่ฉันถ่ายทอดวิทยายุทธ์ขั้นพื้นฐานให้แกเมื่อคืนนี้!”
จูชุยส่วยเริ่มแสดงวรยุทธ์ให้ดูก่อนหนึ่งครั้ง เพื่อจะได้เตือนความจำของฉินหลั่งไปด้วย จากนั้นฉินหลั่งก็เป็นคนฝึกเอง
บางครั้งก็มีชาวบ้านเดินเล่นผ่านไปมาในสวนสาธารณะ เมื่อเห็นฉินหลั่งกำลังฝึกวิทยายุทธ์อยู่ ทว่าสายตามีแต่ความดูถูกดูแคลน มีชายชราอยู่ท่านหนึ่งนั่งยืนมองอยู่ข้างๆ สักครู่แล้ว ได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วพูดขึ้นว่า “ไอ้หนุ่ม นี่มันเป็นการฝึกมวยที่คิดเองแล้วมั้ง ดูแล้วท่าทางแปลกประหลาด มาฝึกมวยไทเก๊กกับพวกเราเถอะ ถึงแม้ว่าไม่สามารถเตะต่อยใครได้ แต่มันมีประโยชน์กับสุขภาพจนเห็นได้ชัดเจน แถมยังดีกว่ามวยประหลาดของแกด้วยซ้ำ”
ฉินหลั่งมองไปที่จูชุยส่วยอยู่แวบหนึ่ง ฉับพลันจูชุยส่วยก็พูดกระซิบขึ้นมาว่า “ฝึกของตัวเองไป อย่ามัวสนใจเรื่องคนอื่นเลย?”
“ครับ” ฉินหลั่งพยักหน้า จากนั้นก็ฝึกต่อ
จนถึงเวลากลางวัน ฉินหลั่งกับจูชุยส่วยก็มาที่ร้านซาลาเปา ฉินหลั่งเลยถามกลับ “ท่านครับ เมื่อคืนที่ท่านใช้ท่าในร้านอาหาร คือท่า ‘เทียนหนานเทียนเป่ย’ ใช่ไหม?”
จูชุยส่วยส่ายหน้าไปมา แล้วพูดว่า “ฉันเป็นกังฟูลั่วนฺหวี่ จะสอนแต่ในผู้หญิง ทำไม แกอยากเรียนเหรอ ฉันจะสอนให้แกเอง! แต่ว่าฝึกวิชาแล้วท่าทางและเสียงจะเป็นเหมือนขันทีนะ!”
“อ้อ ไม่ ผมก็แค่ถามเฉยๆ!” ฉินหลั่งรีบพูดทันควัน
จูชุยส่วยยิ้มให้ แล้วพูดว่า “ฉันรู้ว่าแกถามจะถามฉันว่าวิชา ‘เทียนหนานเทียนเป่ย!’ พลังภายในมันเป็นยังไง แกคอยดูให้ดี!”
พลันเห็นว่ามีพนักงานคนหนึ่ง กำลังถือเข่งซาลาเปาเดินเข้ามาหา จูชุยส่วยก็ใช้นิ้วดีดเม็ดถั่วลิสงออกไปหนึ่งเม็ด จนโดนที่น่องขาของพนักงาน จนพนักงานเสียการทรงตัว พลันส่งเสียงร้อง “โอ๊ย” ขึ้นมา เข่งซาลาเปาทั้งสองเข่งก็ร่วงหล่นหลุดมือ แล้วก็เซจนเกือบล้มคะมำหน้าไถลไปกับพื้นเหมือนหมา
ร่างกายของจูชุยส่วยขยับเขยื้อน พริบตาเดียวก็ไปยืนข้างกายของพนักงาน แล้วจับต้นคอด้านหลังของเขาเอาไว้ แล้วดึงเขาขึ้นมา มือที่หูตาไวก็รีบรับเข่งซาลาเปาเอาไว้ แล้วพร้อมซาลาเปาอีกหลายลูกที่ลอยอยู่กลางอากาศ –จนมันร่วงลงบนเข่งได้อย่างครบถ้วน
เสียงตบมือ “แปะ แปะ” ที่ดังอยู่ด้านหน้าของฉินหลั่ง ก่อนที่จะผ่อนเสียงนั้น มือของเธอยังสั่นเล็กน้อย
“ขอบคุณคุณคนสวยมาก คุณช่างเก่งเหลือเกิน” พนักงานรีบเดินมาขอบคุณจูชุยส่วยด้านข้าง ท่ามกลางเสียงที่เป็นสีสันในร้าน จูชุยส่วยไม่ได้ทำอะไร ได้แต่ยิ้มให้เล็กน้อย
ฉินหลั่งมองการแสดงวรยุทธ์ของจูชุยส่วยในครั้งนี้ แต่ยังไม่สามารถเทียบเคียงความเก่งกาจในวันที่สู้กับเฝิงหรุงได้ แต่ว่าก็ต้องชมจากใจ
รอจนเวลาที่ฉินหลั่งกัดซาลาเปาไปคำแรก ถึงกับตกใจยกใหญ่ เมื่อเห็นว่าไส้กุ้ยช่ายกับไข่นั้นมันแยกออกจากกัน ครึ่งหนึ่งเป็นไข่ไก่อีกครึ่งเป็นกุ้ยช่าย
“ท่าน ท่านเป็นคนทำหรือนี่!” ฉินหลั่งถามด้วยความประหลาดใจ
“ไม่ได้แสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อใคร ก็เลยแสดงฝีมือให้ดูเล็กน้อย ฉันสอนวิทยายุทธ์ให้แกต้องฝึกให้ดี มันร้ายกาจกว่าวิชาคาราเต้ หรือเทควันโดซะอีก!” จูชุยส่วยยิ้มให้ตอนพูด
“ครับ!” ฉินหลั่งตอบรับ
หลังจากนั้นหลายวันผ่านไป ฉินหลั่งก็ฝึกฝนวิชากับจูชุยส่วยโดยไม่สนใจเวลากลางวันหรือกลางคืนเลย นี่เป็นวิชาขั้นพื้นฐานของ “เทียนหนานเทียนเป่ย” หลังจากที่ตอนกลางคืนจูชุยส่วยกลับไปที่ห้องพักของตนเองแล้ว ก็ยังฝึกปรือต่อสู้กำลังฉินหลั่งต่อ พร้อมทั้งช่วยแก้ความสงสัยให้ฉินหลั่งด้วย ภายใต้การดูแลของจูชุยส่วยอย่างสนิทใจนั้น ผ่านไปสักหนึ่งสัปดาห์ ฉินหลั่งก็ฝึกวิชาภายในนี้ได้จนคุ้นชิน
ค่ำคืนนี้ ในห้องพักของโรงแรม หลังจากที่จูชุยส่วยและฉินหลั่งได้ฝึกฝนวิชาเสร็จแล้ว และได้มีการถามตอบคำถามของฉินหลั่งอยู่หลายคำถาม เลยพูดกับฉินหลั่งว่า “ตอนนี้นายก็เรียนวิชา ‘เทียนหนานเทียนเป่ย’ ทั้ง36กระบวนท่าจบแล้ว ทั้ง36กระบวนท่านี้เป็นท่าขั้นพื้นฐาน ต่อไปในภายภาคหน้ายามเมื่อเจอกับศัตรู สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ได้ตลอดเวลา วิธีการใช้สามารถดึงเอาท่าใดท่าหนึ่งมาเปลี่ยนออกมาใช้ได้!”
“ครับ! ผมทราบแล้ว” ฉินหลั่งพูดอย่างแน่วแน่ ในใจของเขาตั้งให้จูชุยส่วยเป็นอาจารย์ไปเรียบร้อยแล้ว
พูดจบ จูชุยส่วยก็เดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ จากนั้นก็ใส่ชุดนอนสีม่วงเดินออกมา แล้วนั่งลงบนเตียง เพื่อฝึกวรยุทธ์ให้กับตนเอง
ก่อนหน้านี้เธอพักอยู่ในห้องคนเดียว เลยคุ้นชินเวลาเมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วจะฝึกวรยุทธ์ด้วยสภาพโป๊เปลือย แต่ว่าเมื่อฉินหลั่งเข้ามาอยู่ด้วยในสัปดาห์หนึ่งแล้ว อย่างน้อยจูชุยส่วยก็ต้องใส่ชุดนอนแล้วค่อยฝึกวรยุทธ์
ฉินหลั่งทำความสะอาดร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็นอนบน “ที่นอนเสริม” ของเขา แล้วค่อยเล่นโทรศัพท์ พลันเห็นพาดหัวข่าวที่เรียกความสนใจของเขาได้
“พระราชินีของประเทศบรูไนหายตัวไป ทางการของเมืองหลินอานทั้งเมืองกำลังค้นหาร่องรอยของพระราชินี!”
ฉินหลั่งนึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้าที่ตนเองจะเข้าร่วมพิธีเปิดนั้น ตำแหน่งพระราชินีบรูไนที่ต้องอยู่ด้านข้างพระราชาบรูไนยังว่างอยู่เลย ตอนนั้นเขายังคิดว่าพระราชินีคงไม่สนใจ เลยไม่ได้เข้าร่วมการเปิดพิธีการแข่งขัน ตอนนี้ดูแล้ว เกรงว่าพระราชินีคงหายตัวไปคืนนั้นล่ะมั้ง?
ฉินหลั่งกดอ่านข่าว ในข่าวบอกว่า เดิมทีพระราชาบรูไนกับพระราชินีหลังจากเข้าร่วมงานเปิดพิธีการแข่งขันแล้วจะกลับไป ทว่าด้วยเพราะเหตุที่พระราชินีหายตัวไปอย่างกะทันหัน ทางพระราชาบรูไนตอนนี้ยังคงพำนักอยู่ที่โรงแรมซีหู เพื่อรอฟังข่าวคราวของพระราชินี
ด้านล่างบทความยังมีรูปพระราชินีแนบไว้ด้านล่างด้วย
ฉินหลั่งตกใจทันที ผู้หญิงที่อยู่ในรูป ผิวพรรณขาวดั่งหิมะ งดงามชวนหลงใหล นั่นคือจูชุยส่วยนั่นเอง!
ฉินหลั่งมองไปที่จูชุยส่วยที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงด้วยความประหลาดใจ ไม่ผิดหรอก เป็นเธอจริงๆ ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นพระราชินีของประเทศบรูไน!
เมื่อคิดได้เช่นนี้ การที่จูชุยส่วยค่อยคลุมหน้าตอนออกจากห้องทุกครั้ง แถมตอนเปิดห้องพักยังไม่ใช้บัตรประจำตัวประชาชนของตนเองอีก แล้วเธอยังพูดว่าตนเองเพิ่งมาประเทศจีนไม่นาน ทั้งหมดก็สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้จูชุยส่วยก็กำลังฝึกวิชาอยู่ ฉินหลั่งก็ไม่อยากรบกวน
ในเวลาเดียวกัน หยูหมิงอยู่ในโรงแรมเซก้า กำลังนั่งกินข้าวกับหลงหลิง ยังมีอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันแต่งงานของพวกเขาทั้งสองคนแล้ว ตอนนี้ทั้งสองคนเลยอยู่ในสภาพตัวติดกัน
เวลานั้นเอง โทรศัพท์มือถือของหยูหมิงก็ดังขึ้น เปาถุงเป็นคนโทรศัพท์เข้ามาหา
ตั้งแต่ที่เฝิงหรุงถูกทำร้ายจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล หยูหมิงก็เอาฉินหลั่งจัดอยู่ในหมวดหนามยอกอก เขาให้เปาถุงคอยจับตาดูฉินหลั่ง และพยายามติดต่อหาเหล่าอาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้ฝีมือดีอย่างลับๆ เพื่อมาจัดการฉินหลั่ง!
เหตุเพราะเฝิงหรุงพูดซะฉินหลั่งดูน่ากลัวขนาดนั้น!
“หลงหลิง คุณกินก่อนเลย ฉันขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์กับลูกค้าก่อน! เดี๋ยวกลับมา!” หยูหมิงพูดกับหลงหลิงเสร็จแล้ว ก็ยิ้มให้เล็กน้อย แล้วเดินเลี่ยงไปทางข้างๆ
“คุณชายหยู ฉื่อเส้าอี้ที่เป็นเจ้าพ่อนักมวยลับๆ ของมณฑลเจ้อเจียง เหลียงกั๋วเฉียงผู้มีชื่อเสียงอันโด่งดังด้านศิลปะการต่อสู้ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่างตกลงที่จะเข้ามาช่วยสั่งสอนไอ้ขี้แพ้ฉินหลั่งคนนั้นแล้ว! ตอนนี้พวกเขาก็เตรียมตัวพร้อมแล้ว! ปลายเสียงเป็นเสียงของเปาถุงที่ดังออกมา”
“ดี! ฉินหลั่งทางนั้นเป็นไงบ้าง?” หยูหมิงถามกลับ สามวันก่อน เปาถุงก็ได้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับฉินหลั่งมาให้ เพียงแค่เขากลัวความเก่งกาจของเขาจริงๆ หยูหมิงคอยจัดวางกำลังพลโดยที่ไม่กระโตกกระตากเลย
“เหมือนเดิมทุกอย่าง! ทุกวันฉินหลั่งจะพักอยู่ที่โรงแรมเทียนสิ้นกับหญิงงามชุดขาวที่มีผ้าคลุมหน้า กลางคืนก็อยู่ห้องเดียวกัน ฉินหลั่งมันโคตรโชคดีไม่น้อยเลย!” เปาถุงพูด
“หึ ร่างกายของมันถูกแทงพรุนมีจะดีกว่า แบบนี้พวกเราลงมือจัดการกับมัน มันยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่!” หยูหมิงพูดอย่างเย็นชา “ตอนนี้พวกแกพวกเขาสองคน ไปที่โรงแรมเทียนสิ้นทันที! ฉันกับหลงหลิงจะตามไปเดี๋ยวนี้!”
“คุณหลงหลิงจะมาด้วยเหรอ? แต่ฉินหลั่งเป็นเพื่อนในมหาวิทยาลัยของคุณหลงหลิง จะส่งผลกระทบกับภาพพจน์ของคุณกับคุณหลงหลิงไหม?” เปาถุงถามกลับ
“ก็แค่เพื่อนในมหาวิทยาลัยที่เป็นแมงดาคอยขายตัวไปทั่วมันมีอะไรน่าสงสารกัน? หลงหลิงจะเข้าใจฉันเองแหละ หลังจากที่พวกเราสั่งสอนมันเสร็จแล้ว ก็จะแจ้งให้ทางตำรวจมาเอาตัวมันไป!” หยูหมิงพูดออกมาอย่างเย็นชา
“ครับ ผมเข้าใจความหมายของคุณครับ งั้นตอนนี้ผมจะพาพวกเขาสองคนไปที่โรงแรมเทียนสิ้นทันที เพื่อรอให้คุณชายหยูมาถึง!” เปาถุงพูดเพิ่ม
หยูหมิงเดินกลับไปที่โต๊ะอาหาร จากนั้นก็พูดกับหลงหลิงว่า “หลงหลิง ตอนนี้พวกเราไปที่โรงแรมเทียนสิ้นกัน ที่นั่นมีเพื่อนหลายคนอยากเจอ!”
หลงหลิงหลงเชื่อแผนการของหยูหมิง ทั้งสองคนขึ้นรถ แล้วทะยานไปยังโรงแรมเทียนสิ้นทันที
ด้านในโรงแรมเทียนสิ้น หยูหมิงก็เห็นคนสองคนที่เปาถุงเป็นคนพามา ฉื่อเส้าอี้เป็นวัยรุ่นอายุสามสิบกว่า สวมใส่เสื้อผ้าสีดำรัดติ้ว จนเห็นกล้ามเป็นท่อนๆ ออกมา บนหน้ายังมีรอยแผลเป็นหนึ่งแผล ส่วนเหลียงกั๋วเฉียงชายกำยำอายุสี่สิบกว่าปีเห็นจะได้ รูปร่างสง่างาม ใส่ชุดสไตล์แบบจีนฝึกกังฟู ใบหน้าแสดงสีหน้าความเคร่งขรึม
เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองตนแล้ว หลงหลิงรู้สึกหวาดกลัว เลยได้แต่หลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังหยูหมิง
หยูหมิงยิ้มให้พร้อมทั้งเดินไปจับมือกับทั้งสองคนนั้น
เวลานี้เอง ทางเจ้าของโรงแรมก็เดินเข้ามาต้อนรับ แล้วพูดว่า “คุณชายหยู คุณหลง ทำไมท่านทั้งสองถึงสละเวลามาหาผมที่นี่ได้ ผมยังไม่ได้ออกไปต้อนรับเลย ช่างเสียมารยาทจริงๆ ขอให้คุณชายหยูกับคุณหลงโปรดให้อภัยด้วย!”
“ประธานโป๋นี่ก็ช่างให้ความเกรงใจเกินไปแล้ว ผมได้ข่าวมาว่าโรงแรมของประธานโป๋มีคนขายตัว!” หยูหมิงยิ้มให้
“คุณชายหยู ไม่มีจริงๆ ต้องมีคนสร้างข่าวเท็จแน่! คุณชายหยูอย่าไปเชื่อ” เจ้านายโป๋รีบพูดปัดทันที ในใจของเขายังรู้สึกสงสัย ความหมายของคุณชายหยูหมายถึงอะไร โรงแรมแห่งไหนในเมืองหลินอานไม่มีบริการพิเศษกัน วันนี้ที่เขามาที่นี่จุดประสงค์หลักคืออะไรกันแน่?
“ไม่มีเหรอ ผู้ชายที่อยู่ที่ห้อง 403 ตอนนี้ไม่ใช่พาผู้หญิงมาอยู่ในห้องเหรอ!” หยูหมิงหัวเราะให้อย่างเย็นชา “เจ้านายโป๋ คุณมองข้ามไปแล้ว ตอนนี้รบกวนคุณไปเชิญผู้ชายที่พักห้อง403ออกมาหน่อย!”
“403…” ห้องพักนี้ เจ้านายโป๋ค่อนข้างจำได้อยู่ เพราะว่าตอนที่เข้าพักนั้นคือหญิงงามชุดขาว แต่ไม่ยอมออกค่าห้องพัก แต่ถอดแหวนเพชรสามกะรัตที่ติดนิ้วมาออกมาหนึ่งวง เพื่อถือว่าเป็นค่าห้องพัก! ราคาแหวนเพชรวงนี้อย่างน้อย5แสนหยวนขึ้นไป ดังนั้น ถึงแม้ว่าหญิงงามไม่ยอมเอาบัตรประชาชนของตนเองออกมา เจ้านายโป๋ก็ให้เธอได้เข้าพักอยู่ดี
เมื่อฟังพนักงานหน้าเคาน์เตอร์พูดว่า สัปดาห์ก่อน หญิงงามชุดขาวก็พาเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่งเข้ามาพักด้วย
แล้วเรื่องนี้ทำไมถึงส่งผลกระทบกับคุณชายหยูด้วยล่ะ? วันนี้คุณชายหยูมาหาเรื่องตกลงว่าเพราะเรื่องอะไรกันแน่?
เจ้านายโป๋คิดแล้วก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ได้แต่ยิ้มให้แล้วพูดว่า “ครับ ผมจะไปเรียกคนคนนั้นลงมา!”
ฉินหลั่งกำลังฝึกวรยุทธ์กำลังภายในขั้นพื้นฐานอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงพนักงานเรียกเขาด้านหน้าห้อง “คุณฉิน รบกวนคุณไปที่ห้องโถงสักหน่อย!”
ฉินหลั่งประหลาดใจ เลยเปิดประตูแล้วเดินไปพร้อมกับพนักงานทั้งสองคน เมื่อมาถึงห้องโถงแล้ว ก็เห็นหลงหลิง ฉินหลั่งดีใจ ฉินหลั่งรู้ว่าเพราะครั้งที่แล้วที่หลงเย้นถูกคนลักพาตัวไป ในใจหลงหลิงเลยรู้สึกโกรธเคืองกับตนเองอย่างมาก เขามองไปทางหยูหมิงกับหลงหลิง จากนั้นก็พูดทักทาย “คุณชายหยู คุณหลง สวัสดีครับ!”
ฉินหลั่งกำลังรู้สึกอึดอัดอยู่ในใจ คุณชายหยูกับหลงหลิงมาหาตนเองเหรอ?
หยูหมิงทำเสียงเย็นชาอยู่ในลำคอ แล้วพูดกับหลงหลิง “หลงหลิง คุณเห็นไหม ว่าเพื่อนมหาวิทยาลัยของคุณกำลังขายตัวอยู่ที่นี่!”
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 219 ฐานะของจูชุยส่วย
Posted by ? Views, Released on October 21, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment