รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 273 ตำรวจหญิงที่ก้าวร้าว

บทที่ 273 ตำรวจหญิงที่ก้าวร้าว
หมอกับพยาบาลรีบเดินเข้ามาในห้องผู้ป่วยทันที แล้วก็ประคองต้ายเฉียนโป๋ไปเพื่อทำการผ่าตัด
“ฉินหลั่งนาย……”ต้ายเฉียนโป๋ตกใจเป็นอย่างมาก ฉินหลั่งไม่ได้หนีไป แต่ว่าไปช่วยเรียกหมอให้เขาต่างหาก!
“พี่ต้าย ตอนนี้ยังไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละ ไปผ่าตัดก่อน! ” ฉินหลั่งมองต้ายเฉียนโป๋แล้วพูด
เมื่อกี้พอเขารู้ว่าโรงพยาบาลไม่ยอมผ่าตัดให้ต้ายเฉียนโป๋ถ้าไม่มีเงินนั้น เขาก็โมโหมาก รีบเดินลงไปที่ห้องโถงผู้ป่วยนอกทันที แล้วก็ถามพยาบาลเพื่อให้หาศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดเพื่อผ่าตัดให้ต้ายเฉียนโป๋
เขามีบัตรเอทีเอ็มอยู่ใบหนึ่ง เป็นบัตรที่ “ลมดอกไม้หิมะ พระจันทร์”ให้เขามา พอฉินหลั่งจ่ายค่าผ่าตัด ทางฝั่งของโรงพยาบาลก็ง่ายขึ้นมาก รีบส่งหมอกับพยาบาลมาทันที
ฉินหลั่งกับต้ายเฉียนหลิ่ว มองดูต้ายเฉียนโป๋ถูกเข็นไปที่ห้องผ่าตัด ทั้งสองคนก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ตรงแถวทางเดิน
ตอนนี้ในใจของต้ายเฉียนหลิ่วรู้สึกขอบคุณฉินหลั่งมาก
“พี่ใหญ่ฉินหลั่ง ขอบคุณที่คุณช่วยพี่ชายฉันนะ วางใจได้เลย เงินก้อนนี้ฉันต้องคืนให้คุณแน่นอน……”ต้ายเฉียนหลิ่วมองฉินหลั่ง สายตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความสุข
“ไม่ต้องหรอก พี่ต้ายเป็นพี่ชายของฉัน มันเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้วที่จะช่วยเขา เงินก้อนนี้สำหรับฉันแล้ว ไม่ได้ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่อะไร เธอไม่ต้องเอามาใส่ใจหรอก ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือพี่ต้ายไม่เป็นอะไร” ฉินหลั่งยิ้มพร้อมกับพูดออกมา
“ฉันรู้ว่าคุณหวังดีกับพวกเขา คุณกับพี่ชายของฉันเป็นร.ป.ภ. เดือนหนึ่งได้เงินเดือนแค่5000เท่านั้น จะมีเงินเยอะขนาดนั้นได้ยังไง? คุณวางใจเถอะยังไงเงินก้อนนี้ฉันก็ต้องคืนให้คุณให้ได้ ฉันสาบาน” ต้ายเฉียนหลิ่วพูดอย่างจริงจัง ฉินหลั่งช่วยพวกเธอ เธอจะไม่มีทางยืมเงินโดยไม่คืนเด็ดขาด ไม่ยังงั้นมันจะเป็นการทำร้ายจิตใจของฉินหลั่งมากเกินไป
“เดี๋ยวค่อยว่ากันแล้วกัน” ฉินหลั่งยิ้มเจื่อนๆ รอให้ต้ายเฉียนโป๋รักษาหายดีแล้ว ฉินหลั่งค่อยอธิบายสถานการณ์ให้เขาฟัง
“คุณฉินหลั่งครับ เชิญคุณ…มากับผมหน่อย ยัง…ยังมีใบเสร็จที่คุณต้องเซ็นต์น่ะครับ” หมอคนหนึ่งเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉินหลั่ง สีหน้าของเขาดูประหม่าเล็กน้อย สายตาก็เหมือนกับจะมีร่องรอยของความหวาดกลัว
“ได้ ต้ายเฉียนหลิ่ว เธอรออยู่ที่นี่นะ เหนื่อยก็พักหน่อย เดี๋ยวฉันไปดูก่อน” ฉินหลั่งลุกขึ้นแล้วก็พูดกับต้ายเฉียนหลิ่ว หลังจากพูดจบ ก็เดินตามหมอคนนั้นไป
ฉินหลั่งเดินตามหมอคนนั้นไป จากทางเดิน ตอนที่กำลังจะเลี้ยวนั้น ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งปรากฏขึ้น เล็งปืนมาที่หน้าผากของฉินหลั่ง
“ห้ามขยับ! ”
คนที่เล็งปืนใส่ฉินหลั่งอยู่ตอนนี้ก็คือผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตลายสก็อต ใบหน้าของเธอดูกล้าหาญ ดวงตาสองข้างที่ราวกับหยกนั้นจ้องมองมาที่ฉินหลั่งเขม็ง เหมือนกับว่าถ้าเกิดว่าฉินหลั่งขยับเมื่อกี้ เธอก็จะยิงอย่างไม่ลังเลเลย
ฉินหลั่งไม่ได้ขยับ ได้แต่มองผู้หญิงคนนั้นนิ่งๆ
ด้านหลังขอเธอยังมีชายที่สวมใส่ชุดตำรวจอยู่สองคน เดินมาข้างๆ ของฉินหลั่ง ใช้ทักษะการนวดแผนจีนควบคุมฉินหลั่งไว้ เสียง “แกร๊ก”ดังขึ้น ฉินหลั่งก็ถูกใส่กุญแจมือ
ผู้หญิงคนนั้นเก็บปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจชายทั้งสองนายตรวจค้นร่างกายของฉินหลั่ง แล้วก็รายการกับผู้หญิงคนนั้นว่า “หัวหน้า ร่างกายเขาไม่มีอาวุธครับ! ”
“ฉินหลั่ง นายเป็นผู้ต้องสงสัยว่ายิงฟางเจิ้ง คุณชายของกรุ๊ปเหว่ยฮุ่ย พวกเราต้องพานายไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบปากคำ! ” ผู้หญิงคนนั้นมองหน้าฉินหลั่งแล้วก็พูด
ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ สถานีตำรวจแห่งเย็นจีนได้รับแจ้งจากซ่งอวี่ บอกว่าร.ป.ภ.ของมหาวิทยาลัยเย็นจีน ฉินหลั่งกับเฉิงเหมิ่ง เข้ามายิงฟางเจิ้งถึงคฤหาสน์ ให้ตำรวจรีบจับมือฆาตกรทันที
หลังจากที่ตำรวจสาวหวังเฉินได้รับแจ้งนั้น ก็เลยเสนอขอรับภารกิจสำคัญนี้ พาเพื่อนร่วมงานสองคน ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อตามหาตำแหน่งของฉินหลั่ง แล้วก็มาที่โรงพยาบาลเพื่อจับกุมเขา เพื่อที่ไม่ให้เกิดความเสียหายกับบุคคลอื่น หวังเฉินก็เลยให้หมอไปหลอกฉินหลั่งมาที่นี่ แล้วก็จับกุมฉินหลั่งได้ในทันที
“คุณตำรวจ ผมไม่ได้ยิงฟางเจิ้งนะ เรื่องที่เกิดขึ้นกับเขาไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผมเลย เฉิงเหมิ่งเป็นคนทำคนเดียวเลย” ฉินหลั่งพูด
“เหอะ! ตอนนี้ก็ผลักความรับผิดชอบให้คนอื่นแล้วงั้นสิ! ” หวังเฉินมองฉินหลั่งอย่างเหยียดหยาม ตามประสบการณ์การไขคดีก่อนหน้านี้ของเธอ ยิ่งผู้ต้องสงสัยปัดความรับผิดชอบมากเท่าไหร่ ความเป็นไปได้ที่เขาจะเป็นคนก่ออาชญากรรมก็มากขึ้นเท่านั้น
“พี่ใหญ่ฉิน ทำไม…”ต้ายเฉียนหลิ่ววิ่งมา แล้วก็เห็นฉินหลั่งถูกตำรวจสองคนใส่กุญแจมือ เธอก็กังวลมาก “คุณพี่ตำรวจคะ ทำไมพวกคุณถึงจับพี่ฉินล่ะ เขาเป็นคนดีนะ พวกคุณจับผิดคนแล้วรึเปล่า……”
“วางใจเถอะ ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเราก็จะปล่อยเขาออกมาโดยที่ไม่มีอะไรเสียดายเลย แต่ว่าถ้าเกิดว่าเขาทำผิดกฎหมายจริงๆ ล่ะก็ ฉันก็จะส่งเขาเข้าคุกด้วยตัวเอง! ” หวังเฉินพูดกับต้ายเฉียนหลิ่ว เธอมองตำรวจทั้งสองนายนั้น แล้วก็พูดเสียงเบาว่า “พาตัวไป! ”
“ครับ! ”ตำรวจสองนายนั้นตอย แล้วก็พาฉินหลั่งเดินออกไปด้านนอก
“พี่ใหญ่ฉิน…”พอเห็นว่าฉินหลั่งถูกตำรวจนำตัวไป ต้ายเฉียนหลิ่วก็รู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก แต่ว่าเธอก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้พี่ชายของเธอก็อยู่ในห้องผู้ป่วย เธอจะทิ้งเขาไปก็ไม่ได้
ฉินหลั่งถูกตำรวจทั้งสองนายผลักขึ้นรถ แล้วรถตำรวจก็แล่นไปยังสถานีตำรวจแห่งเย็นจีน หวังเฉินนั่งอยู่ที่ข้างคนขับ ฉินหลั่งนั่งอยู่คั่นกลางตำรวจทั้งสองนายที่แถวหลัง
“เด็กอย่างนายนี่กล้าดีเหมือนกันนะ ขนาดคุณชายของกรุ๊ปเหว่ยฮุ่ยยังกล้าแตะต้อง ได้ยินว่าคุณชายฟางเจิ้งเข้าห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเสเหอเลย! ถ้าเกิดว่าคุณชายฟางเจิ้งเป็นอะไรขึ้นมา หึ แกได้ย่อยยับแน่…”ตำรวจนายหนึ่งมองไปที่ฉินหลั่งพร้อมกับยิ้มเบาๆ
“ผมบอกแล้ว ว่าผมไม่ได้เป็นคนยิง” ฉินหลั่งพูด
“หุบปาก! จะใช่หรือไม่ใช่นาย เดี๋ยวก็รู้ นายตื่นเต้นขนาดนี้ ก็มีแต่ทำให้ฉันสงสัยในตัวนายมากขึ้นไปอีก” หวังเฉินมองฉินหลั่งที่นั่งอยู่แถวหลังผ่านทางกระจกมองหลัง
ฉินหลั่งรู้สึกได้ว่าตำรวจหญิงคนนี้ตรงไปตรงมา แล้วก็ซื่อตรง คดีนี้ให้เธอเป็นคนรับผิดชอบ เขากลับรู้สึกสบายใจ ฉินหลั่งไม่ได้พูดอะไร มองออกไปนอกหน้าต่าง
ไม่นาน รถก็แล่นมาถึงหน้าสถานีตำรวจ ฉินหลั่งถูกตำรวจทั้งสองนายพาตัวเข้าไปที่ห้องสอบปากคำโดยตรง หวังเฉินและตำรวจชายอีกคนหนึ่งจะเป็นคนสอบปากคำฉินหลั่ง
“บอกมาซิว่าทำไมนายถึงอยากยิงฟางเจิ้ง? ” ตำรวจชายคนนั้นถาม ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายคุณฟางเจิ้ง คุณชายจากกรุ๊ปเหว่ยฮุ่ย และคนที่โทรมาแจ้งตำรวจก็คือซ่งอวี่ คุณชายจากตระกูลซ่งของเย็นจีน เขาก็มองว่าฉินหลั่งเป็นฆาตกรตัวจริงไปเลยอัตโนมัติ
“คนที่ยิงฟางเจิ้งก็คือคนที่ชื่อว่าเฉิงเหมิ่ง ผมไม่ได้ลงไม้ลงมืออะไรกับเขาเลย” ฉินหลั่งพูด
“นายจะไม่สารภาพใช่ไหม อยากจะเพิ่มโทษใช่ไหม? ฉันแนะนำให้นายยอมรับในสิ่งที่นายทำมาตามตรง……” ตำรวจชายพูดกับฉินหลั่ง จากสถานะของฟางเจิ้งกับซ่งอวี่แล้วนั้น ทำให้ตำรวจชายนายนี้อยากจะคลี่คลายคดีนี้ให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายไม่พอใจ
“หลู่ชง！ ห้ามนำอารมณ์ส่วนตัวเข้ามาอยู่ในการสอบสวน! ” หวังเฉินมองตำรวจชายนายนั้นแล้วพูด การแก้ไขคดีไม่ได้ทำแบบนี้
“หัวหน้า มันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าเขาเป็นคนทำ เขากำลังเล่นลิ้น……”ตำรวจชายยังคงฮึกเหิมอยู่
“ตอนนี้นายไม่เหมาะสมที่จะทำคดี ออกไปสูบบุหรี่เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อน หรือกลับไปพักผ่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนรับผิดชอบเขาเอง! ” หวังเฉินมองตำรวจชายแล้วก็พูด สายตาของเธอแน่วแน่ ไม่ได้ร่องรอยของความอ่อนโยนจากผู้หญิงเลย
“นี่หัวหน้ากำลังบอกว่าผมตื่นเต้น ไม่ได้ไขคดีอย่างมืออาชีพงั้นเหรอ….”ตำรวจชายนายนั้นมองหน้าหวังเฉินอย่างไม่พอใจ
“ใช่! ตอนนี้ฉันขอสั่งให้นายออกไป! ” หวังเฉินไม่มีเวลาจะมาพูดอะไรไร้สาระกับเขา เธอชี้นิ้วไปที่ประตู น้ำเสียงไม่อนุญาตให้ตั้งคำถาม
ตำรวจชายมองหน้าหวังเฉิน หนังตาของเขากระตุก แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าท้าทายคำสั่งของหวังเฉิน จากข่าวซุบซิบในสถานีตำรวจนี้ หวังเฉินเป็นลูกสาวจากตระกูลใหญ่ แม้แต่ผู้กำกับยังกลัว หวังเฉิน ส่วนเขาก็เป็นแค่ตำรวจธรรมดาๆ นายหนึ่ง ก็ยิ่งไม่กล้าลบหลู่เธอเลยแม้แต่น้อย
ตำรวจชายลุกขึ้น แล้วก็เดินออกจากห้องสอบสวนไปอย่างโกรธเกรี้ยว
“ตอนนี้พูดกับฉันมาตรงๆ ว่าเรื่องนี้มันเป็นยังไงกันแน่! ” หวังเฉินจ้องหน้าฉินหลั่งแล้วพูด
“เรื่องมันเป็นแบบนี้…”ฉินหลั่งจัดแจงประโยค แล้วก็เล่าเรื่องของวันนี้ตั้งแต่ตอนบ่ายจนถึงตอนเย็นให้หวังเฉินฟัง
“ตามที่นายพูด เฉิงเหมิ่งเป็นคนทำร้ายฟางเจิ้งเพียงแค่คนเดียวใช่ไหม? ” หวังเฉินหยุดจดบันทึก มองหน้าฉินหลั่งแล้วก็เอ่ยปากถาม
“ใช่แล้ว! ในที่เกิดเหตุน่าจะยังมีปืนกระบอกนั้นอยู่ บนปืนนั้นจะมีลายนิ้วมือของผม ฟางเจิ้ง แล้วก็เฉิงเหมิ่งสามคน! แต่ว่าตรงที่ลั่นไก จะมีแค่ของฟางเจิ้งกับเฉิงเหมิ่ง นั่นก็พิสูจน์ได้แล้วว่าผมไม่ได้เป็นคนยิง! ” ฉินหลั่งพูด ตอนที่อยู่ในคฤหาสน์นั้น เขาแย่งปืนมาจากฟางเจิ้งจริง แต่ว่าเขาไม่ได้แตะต้องตรงที่ลั่นไกเลย ก็เพราะว่าจะไม่ให้ตำรวจต้องสอบสวนเขา
“พวกเราได้ส่งคนไปรวบรวมหลักฐานที่คฤหาสน์ของฟางเจิ้งแล้ว มันจะเป็นเหมือนที่นายพูดจริงหรือไม่ ยังต้องตรวจสอบก่อนถึงจะรู้ได้” หวังเฉินพูด
“แต่ว่าฉันต้องบอกนายก่อนว่า จากการที่นายอธิบายเมื่อกี้นี้ ในคฤหาสน์นั้น หลังจากที่นายแย่งปืนจากฟางเจิ้งมาแล้ว ก็ไม่ได้ถูกคุกคามทางชีวิตอีกต่อไป แต่ว่านายได้บีบบังคับให้เฉิงเหมิ่งยิงฟางเจิ้ง การกระทำของนายถือเป็นความผิดฐานยุยงให้ผู้อื่นก่ออาชญากรรม พวกเราก็จำเป็นต้องจับกุมนายด้วยเหมือนกัน! ” หวังเฉินกล่าวอย่างชอบธรรม
“คุณตำรวจหวัง ฟางเจิ้งเป็นคนสั่งให้เฉิงเหมิ่งไปฆ่าผมกับต้ายเฉียนโป๋ก่อน หลังจากผมเอาชนะเฉิงเหมิ่งได้แล้ว ผมก็ให้เขาพาผมไปที่บ้านของฟางเจิ้ง แต่ว่าเขาก็หยิบปืนออกมาอีกครั้งและเตรียมจะโจมตีผม เขาเกือบจะฆ่าผมถึงสองครั้ง ผมบังคับให้เฉิงเหมิ่งยิงเขา มันก็ควรจะถือว่าเป็นการป้องกันตัวนะ! ” ฉินหลั่งถามอย่างไม่เข้าใจ
“มันไม่ใช่การป้องกันตัว ฉันสามารถบอกนายได้อย่างชัดเจนเลยนะว่า ไม่ว่ามองทางไหนนี่มันก็เป็นการที่นายบังคับให้คนอื่นก่ออาชญากรรม! ” หวังเฉินพูดด้วยท่าทีที่หนักแน่นและแน่วแน่
“ในขณะเดียวกัน ฉันก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับนาย ตามข้อมูลที่ฉันมีแล้วเนี่ย เฉิงเหมิ่งเคยเป็นหมัดเมาใต้ดิน นายสามารถเอาชนะเขาได้จริงๆ เหรอ? แล้วอีกอย่าง เฉิงเหมิ่งกับฟางเจิ้งสองคนนั้นใช้ปืนเพื่อทำร้ายนาย แต่ว่านายหลบได้สองครั้งเลยงั้นเหรอ? นี่ฟังๆ ไปแล้ว เหมือนกับเทพนิยายเลยนะ! ” หวังเฉินยิ้มเยาะ
“ผมบอกแล้ว ว่าผมไม่ได้โกหก” ฉินหลั่งพูด
“เหอะ ใช่หรือไม่ใช่ อีกไม่นานผลก็ออกมาแล้ว วันนี้สอบปากคำแค่นี้ พวกเราจำเป็นต้องกักขังนายไว้ก่อน จนกว่าความจริงของคดีนี้จะเปิดเผย! ” หวังเฉินพูด แล้วก็ปิดสมุดสอบปากคำ
หวังเฉินลุกขึ้น เห็นว่าฉินหลั่งก็ลุกขึ้นด้วยเหมือนกัน ดวงตาของเธอก็เป็นประกาย ทันใดนั้นมือขวาของเธอก็เปลี่ยนกลายเป็นมือมีด สับไปที่คอของฉินหลั่ง
ฉินหลั่งตกใจ แล้วก็ก้มหัวหลบมือมีดของหวังเฉินในทันที
หวังเฉินนึกไม่ถึงว่าฉินหลั่งจะหลบได้ อดไม่ได้ที่จะมองฉินหลั่งด้วยสายตาที่ทึ่ง เธอต่อยไปที่หน้าของฉินหลั่งอีกที หมัดนี้หวังเฉินคิดว่าต้องหนีไม่พ้นแน่ๆ ใครจะไปรู้ว่าฉินหลั่งจะหันข้าง หมัดของหวังเฉินเฉียดจมูกของฉินหลั่งไป ฉินหลั่งใช้สะโพกดันโต๊ะสอบสวน แล้วโต๊ะนั้นก็กระแทกเข้ากับต้นขาของหวังเฉิน
“โอ้ย” หวังเฉินร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วก็ถอยหลังไปสองก้าว
“ขอโทษครับ ขอโทษจริงๆ! ” ฉินหลั่งเห็นว่าหวังเฉินขมวดคิ้วแล้วร้องด้วยความเจ็บ เขาก็รู้สึกเสียใจ
เดิมทีหวังเฉินก็อยากจะลองดูว่า ว่าฉินหลั่งจะเหมือนกับคำให้การของเขาหรือไม่ ว่าเขาสามารถปราบเฉิงเหมิ่งได้จริงๆ ไม่คิดเลยว่าฉินหลั่งที่ถูกใส่กุญแจมืออยู่ ยังเก่งกาจได้ขนาดนี้
เธอเกิดมาแข็งแรง ตอนนี้ก็ถูกกระตุ้นความอยากเอาชนะของตัวเอง เธอชูกำปั้นขึ้นมา พุ่งเข้าไปหาฉินหลั่ง ชกเข้าไปที่จมูกของฉินหลั่ง
ในสายตาของฉินหลั่งนั้น ฝีมือกังฟูของหวังเฉินนั้นยังเด็กเกินไป เขาหมุนตัวอย่างคล่องแคล่ว หลบหมัดของหวังเฉิน แล้วก็มาหยุดอยู่ข้างๆ หวังเฉิน
หวังเฉินยกเข่าขึ้นกระแทกส่วนล่างของฉินหลั่ง ในขณะเดียวกันฉินหลั่งก็ยกขาขวาของตัวเองขึ้น ความเร็วของเขานั้นเร็วกว่าหวังเฉินเยอะ เจาตรึงขาของหวังเฉินไว้ ตอนนี้หวังเฉินไม่สามารถขยับขาได้แล้ว
“นาย……”หวังเฉินโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ใจของเธอรีบร้อนอยากจะดึงขาของตัวเองออก ไม่คิดว่าร่างกายจะเสียสมดุล ล้มไปด้านหลัง ฉินหลั่งก็ถูกเธอดึงล้มทับเธอไปเหมือนกัน
หวังเฉินพิงโต๊ะสอบสวน สวนฉินหลั่งก็ดึงขากลับมาไม่ทัน ทับลงบนร่างกายของหวังเฉิน เสียง “จุ๊บ”ดังขึ้น เขาจูบลงบนริมฝีปากของหวังเฉินพอดิบพอดี