บทที่ 390 พลังแห่งแบบอย่าง
ในช่วงที่ทุกคนกำลังประหลาดใจอยู่ ไอ้หัวทองที่กระทบกับต้นไม้ ร้องโหยหวนและอาเจียนเป็นเลือดอีกครั้ง ตัวสั่นและพยุงต้นไม้ไว้ก่อนจะลุกขึ้นยืนได้ในที่สุด
ชี้ไปที่อึ้งย้งและตะโกน:
“จับมันมาให้กูให้ได้ คืนนี้กูต้องได้ใช้มัน เร็วเข้า!เร็ว!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ปรากฏ ชายที่มีร่างกายใหญ่โตหลายสิบคนที่อยู่ข้างๆเขา ก็รีบตรงไปที่อึ้งย้งทันที อึ้งย้งดูเหมือนจะเตรียมตัวไว้แล้ว เธอไม่ได้ตกใจ เมื่อมือหยกที่เย็นพลิกกลับ ดาบอ่อนก็ปรากฏในมือของเธอ ส่งออกไป
ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ!
แสงดาบสว่างวาบ ชายร่างใหญ่หลายคนล้มลงทีละคน พวกเขานอนโอดโอยอยู่บนพื้น กุมบาดแผลกลิ้งไปมา แต่อึ้งย้งไม่แม้แต่จะย่นคิ้ว
อึ้งย้งที่ถือดาบแสงโชติช่วงดูสง่ามาก เตรียมการป้องการอย่างรัดกุมทุกด้าน นักเรียนคนหนึ่งมองแล้วมองอีก แววตาแสดงความชื่นชม และอดไม่ได้ที่จะปรบมือให้
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายตรงข้ามเป็นคนที่แข็งแกร่งหลายสิบคน แม้ว่าอึ้งย้งจะไม่มีปัญหากับคน ๆ หนึ่ง การต่อสู้ด้วยวงล้อเช่นนี้ผ่านไปรอบแล้วรอบเล่า ในที่สุด ความคล่องแคล่วของในการกวัดแกว่งดาบนุ่มในมือของเขาเริ่มลดลง และค่อยๆมีสัญญาณของการรับมือไม่ไหว
เมื่อเห็นฉากนี้ จงยู่รู้สึกกังวล ชายร่างใหญ่เหล่านี้ไร้มนุษยธรรม ตรงไหนอ่อนแอก็จะจู่โจมตรงนั้น เกรงว่าอีกสักพักอึ้งย้งจะได้รับบาดเจ็บแน่นอน
เพียงแต่ ฉินหลั่งยังคงไม่สนใจนิ่งเฉยอยู่แบบนั้น ถ้าจงยู่ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ เขาก็อยากจะหันหลังกลับไปแล้ว เพราะนานๆทีจะได้อยู่กับจงยู่สองต่อสอง ไม่น่ามาเสียเวลากับคนพวกนี้
และนักเรียนที่รักความยุติธรรมส่วนหนึ่ง ที่จริงก็อยู่ในวัยที่แข็งแรง พวกเขาเห็นผู้หญิงบอบบางรูปร่างเซ็กซี่ถูกรังแกอยู่ในสนาม แต่ในฐานะผู้ชาย พวกเขากลับยืนดูเฉยๆ บวกกับถูกแรงผลักดันที่ไม่ย่อท้อของอึ้งย้งโน้มน้าว ดวงตาของแต่ละคนแสดงถึงความไม่พอใจ และค่อยๆมีบรรยากาศของความร่วมมือร่วมใจที่จะแก้แค้นศัตรู
“พวกเราตะลึงงันกันอยู่ทำไม เมื่อกี้เพื่อนร่วมชั้นถูกพวกเขาตีจนขาหัก ไม่คิดจะช่วยเขาแก้แค้นให้เขาเหรอ รีบไปช่วยเพื่อนนักเรียนคนนี้สิ!”
นักเรียนคนหนึ่งเฝ้าดูอึ้งย้งที่ล้มลง ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนขึ้น กระโดดอย่างกะทันหัน และรีบวิ่งขึ้นไปเหมือนพายุหมุน
“เหี้ย! คุณปู่จะสู้กับพวกมึง!” นักเรียนอีกคนก็ตะโกน และรีบวิ่งไปข้างหน้า ผู้ชายหลายสิบคนรุมตีผู้หญิงคนเดียว ใครจะทนได้ !
ทันใดนั้นนักเรียนหลายสิบคนดูเหมือนจะได้กลิ่นคาวเลือดเลือดโหดร้าย ท่าทีที่สั่นสะท้านในตอนแรกของพวกเขาได้หายไป พวกเขาคำรามขึ้นพร้อมกับหมดและเท้าที่พุ่งออกไป
แน่นอนว่านักเรียนกลุ่มนี้ไม่รู้วิธีการต่อสู้ ไม่เพียงแต่ไม่มียุทธวิธีเท่านั้น แต่พวกเขายังไม่รู้จักข้อห้ามใด ๆ อีกด้วย เมื่อวิ่งขึ้นไปก็ต่อยมั่ว ทั้งกัดทั้งถีบ ชายร่างใหญ่บางคนถึงกับติดกับดัก หูถูกกัดจนแหว่ง ร้องโหยหวนอย่างรุนแรงและล้มลงกับพื้น
ในจำนวนนั้นมีนักเรียนหญิงจำนวนหนึ่ง พวกเธอถูกโน้มน้าวอย่างสมบูรณ์ เข้าร่วมกลุ่มต่อสู้ พอตกใจก็ทำท่าทางต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต ทำให้ชายที่รู้จักวิชาการต่อสู้นั้นหน้าเหลือแค่สองนิ้ว
นักเรียนทุกคนต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง คลั่งจนหยุดไม่ได้ มีคำกล่าวที่ว่า คนอ่อนกลัวคนแข็ง คนโหดร้ายกลัวคนมุทะลุ คนมุทะลุกลัวคนไม่กลัวตาย คนไม่กลัวตายหลายสิบคนต่อสู้กันแบบไม่คิดชีวิต ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปมากในทันทีอย่างคาดไม่ถึง
สนามแข่งม้าทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหล จากนั้นนักท่องเที่ยวบางคนก็ผ่านเข้ามา พวกเขายืนดูสักพัก เมื่อก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็คำรามทันที และรีบวิ่งเข้าไปต่อสู้กับนักเรียนชายหญิงผู้กล้าหาญเหล่านั้น!
แม่ง ช่างดูเหมือนเป็นการชุมนุมต่อสู้ของมหาชนจริงๆ สนามแข่งม้าแห่งนี้สะสมแค้นชังมานานเกินไป เห็นได้ชัดว่าสนามแข่งม้าทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหล แม้แต่ม้าที่ยังไม่ได้กลับเข้าคอกก็กรีดร้อง เกิดบรรยากาศของสงครามที่ดุเดือด
อย่างไรก็ตาม ชายร่างใหญ่เหล่านั้น ได้รับการฝึกฝนมาก่อน ในตอนแรกพวกเขามีอาการวู่วามเล็กน้อยเพราะความตกใจ จากนั้นก็สงบลง โดยทั่วไปแล้วชายร่างใหญ่หนึ่งคนสามารถเอาชนะมวลชนสามหรือสี่คนได้
แต่ชายฉกรรจ์หลายสิบคน ที่ถูกกัดและฉีกท่ามกลางความตื่นตระหนกเมื่อครู่ ล้มลงกว่า 20 คน ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหน พวกเขาก็เสียเปรียบอย่างมากในแง่ของการเปรียบเทียบจำนวนคน ดังนั้นในขณะนี้มวลชนยังคงได้เปรียบอยู่
ไอ้หัวทองอย่างกับเห็นผี เป็นเวลานานกว่าจะตั้งสติได้ว่าวันนี้เขาต้องสูญเสียอย่างที่เขาไม่เคยได้รับมาก่อนตลอดหลายปีนี้ ผู้ที่รู้ศิลปะการต่อสู้ถึงกับกุมเป้าของตัวเองและร้องครวญครางอยู่ที่พื้น? เป็นไปได้ยังไง!
“แม่ง ถอนตัวด่วน ถอนตัวด่วน!”
ไอ้หัวทองตระหนักว่าหากยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้กองทัพทั้งหมดจะถูกทำลาย เขารีบตะโกนไปด้านข้าง ชายฉกรรจ์เหล่านี้ลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่หันกลับไปมอง พวกเขาวิ่งออกไปข้างนอก ส่วนผู้ที่ยังต่อสู้ที่เหลืออยู่ ค่อยๆชูมือและหนีไปทีละคน …
การต่อสู้ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ ชัยชนะเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ฝูงชนโห่ร้องไล่สักพัก และในที่สุดก็เข้าใจว่าสนามแข่งม้าแห่งนี้เดิมเป็นของไอ้สารเลวพวกนั้น แต่พวกมันกลับหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนข้าศึกที่มารุกรานดินแดน!
ดูเหมือนว่า ตราบใดที่คุณไม่ตื่นตระหนก ไม่ว่าคู่ต่อสู้ของคุณจะดุร้ายแค่ไหนคุณก็อาจจะสู้เขาได้ ดังนั้นอย่าดูถูกตัวเอง!
จากที่ไกลออกไปเสียงคำรามแหบแห้งของไอ้หัวทอง “ไอ้พวกเหี้ย รอก่อนกูจะหาคนมาฆ่าพวกมึง !!”
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…
ฝูงชนหัวเราะเสียงดัง ท่าวิ่งของไอ้หัวทองนั้นตลกที่สุด เกือบจะเหมือนจิงโจ้ที่ตื่นตระหนก
“มีแบบกลับมาสู้ด้วย!”
“ไอ้สารเลว คืนเงินฉันด้วย!”
“ฉันถูกพวกมันหลอกไปแสนกว่า!”
เพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน ทุกคนมองหน้ากันต่างตื่นเต้น เมื่อเจอพลังชั่วร้าย อันที่จริงการต่อสู้อย่างกล้าหาญก็เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน ไม่ใช่ไก่อ่อนที่วิ่งหนีอย่างเดียว
“แก๊งม้าอะไร ต่อไปเปลี่ยนเป็นแก๊งขี้กลัวเหอะ” นักเรียนคนที่สองที่วิ่งขึ้นมา เต็มไปด้วยความตื่นเต้นบนใบหน้า เขาเป็นคนที่ไม่กล้าแม้แต่เหยียบมด ตอนนี้กลับกล้าเตะเป้าของ ชายฉกรรจ์สองคนจนพัง!
ผู้ที่รู้เรื่องราวภายใน มองไปที่อึ้งย้งด้วยความชื่นชม …
พลังแห่งแบบอย่างนั้นไม่มีที่สิ้นสุด ถ้าไม่ใช่เพราะอึ้งย้ง ก็ไม่รู้ว่าจะได้เรียกพลังแบบนี้ออกมาเมื่อไหร่
นอกจากนี้มวลชนยังได้รับบาดเจ็บ แต่ส่วนใหญ่แค่ถลอก ไม่ร้ายแรงมาก
“เพื่อนนักเรียน เมื่อกี้เธอช่างกล้าหาญมาก เธอคนเดียวเอาชนะชายฉกรรจ์เจ็ดแปดคนได้ ฉันชื่นชมเธอจัง ขอถามหน่อยเธอแซ่อะไร” นักเรียนคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะแสดงความรู้สึกและต้องการทราบชื่ออึ้งย้ง
อึ้งย้งเช็ดเหงื่อออกเล็กน้อยและยิ้ม “ เธอถามชื่อทำไม เราไม่รู้จักกันสักหน่อย”
“เอ่อ … ” นักเรียนคนนั้นปิดปากเขินอายไปชั่วขณะ ไม่รู้จะพูดอะไร
“ดูเธอแบบนั้น ได้ ฉันจะบอกเธอ ฉันชื่ออึ้งย้ง พ่อของฉันชื่ออึ้งเอี๊ยะซือ ไม่ต้องถามอะไรอีกนะ พวกเธอรีบไปได้แล้ว ต่อไปอย่าเรียกฉันเพื่อนนักเรียนอีก ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้ว” อึ้งย้งเหมือนไม่เต็มใจที่จะถูกคนอื่นมองว่าเป็นเด็ก
“อึ้งย้ง ฮ่าฮ่า”
“อึ้งเอี๊ยะซือ ฮ่าฮ่า”
ฝูงชนหัวเราะชอบใจ พวกเขารู้สึกว่าเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้น่ากลัวและแปลกมาก ที่เธอไม่อยากบอกชื่อกับทุกคน แต่มันไม่ง่ายเลย พบกันโดยบังเอิญ การถามชื่อแซ่คนอื่นก็ดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 390 พลังแห่งแบบอย่าง
Posted by ? Views, Released on October 21, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment