รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 403 ก่อนจะเริ่มจัดการ

บทที่ 403 ก่อนจะเริ่มจัดการ
ครูคนอื่นกลัวว่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับฉินหลั่ง ต่างก็หลบเขากันใหญ่ มีแต่ครูเหลียงที่ไปคุยกับเขาก่อน
เหลียงลี่ยุ่นรู้สึกว่าฉินหลั่งยังไม่รู้ว่ามอหกห้องหกน่ากลัวแค่ไหน ยังไงเธอก็รับไม่ไหวกับห้องนี้อีกแล้ว
ครูฉินตอนนี้อันตรายมาก เหลียงลี่ยุ่นมองฉินหลั่งอย่างเป็นกังวล จากนั้นก็เดินออกไป
อีกด้าน หลัวซูเซิงยืนหน้าจูจี้เหวินและถามว่า:
“ครูจู ตอนนี้พวกเราจะเริ่มจัดการฉินหลั่งหรือยัง?”
ทั้งสองกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ เมื่อกี้ฉินหลั่งโอหังมากเกินไปแล้ว!
“เอาข้อมูลทั้งหมดส่งให้พวกเด็กนักเรียนมอหกห้องหกทั้งหมด วันนี้เขาต้องไม่ตายดีแน่!”
จูจี้เหวินสะบัดบุหรี่ออกไปอย่างแรง และเหยียบกดบุหรี่อย่างแรง ตะโกนพูดด้วยความโกรธ
มอหกห้องหก คาบเรียนด้วยตัวเอง!
มีไม่กี่คนที่ตั้งใจเรียนจริง แต่ละคนก็เอาแต่เล่นกัน
“นี่ เฉินเหมิงเลี่ยง นายพูดเรื่องปรมาจารย์ฉินมาอีกสิ” พวกนักเรียนต่างมายืนรอบเฉินเหมิงเลี่ยงกันหมด นักเรียนตรงกลางสวมชุดแปลกๆ แต่ออร่ากลับไม่ธรรมดาเลย ดูจากทรงแล้วน่าจะอายุสิบเจ็ดสิบแปด
เฉินเหมิงเลี่ยง ลูกชายของที่หนึ่งในเขตเฟิงโจว เขาเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในมอหกห้องหก และก็เป็นคนที่ตำแหน่งสูงที่สุดในโรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยอีกด้วย
“ก็ได้งั้นจะพูดให้ฟังแล้วกัน ความเก่งของปรมาจารย์ฉินพวกนายคิดไม่ถึงแน่นอน ตอนนั้นแก๊งหัวชิงมีเก่งสุดในประเทศสั่งนักฆ่าออกไปเอาชีวิตปรมาจารย์ฉินมาให้ได้ ในตึกยังมีระเบิดอีกด้วย คนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดก็ต่างคิดว่าปรมาจารย์ฉินต้องตายแน่ พวกนายเดาสิว่าเป็นยังไงต่อ?”
“เป็นยังไง? เป็นยังไงต่อ?” มีนักเรียนมาล้อมรอบมากขึ้น ทุกคนถามด้วยความสงสัย
“เป็นไงต่อ? ฉันจะบอกให้นะ ก่อนที่จะระเบิดก่อนหนึ่งวิ ปรมาจารย์ฉินแบกจงจิ่วเจินกระโดดลงมากชั้นสิบห้า บนตัวไม่มีเกราะอะไรป้องกันเลย ท่านั้น ดูเท่ระเบิดไปเลย คล้ายกับเทวทูตจากสวรรค์……”
“นายเห็นเองกับตาเหรอ? ชั้นสิบห้า ยังแบกคนลงมาด้วยอีก รนหาที่ตายชัดๆ?”
“นี่นาย อย่ามาว่าปรมาจารย์ฉินของฉันนะ ฉันก็ต้องเห็นเองกับตาสิ ปรมาจารย์ฉินน่ะเหมือนนกเหยี่ยว ที่พึ่งกระโดดออกจากหน้าต่าง แรงระเบิดและไฟก็พุ่งออกมาจากหน้าต่างชั้นสิบห้าทันที ไฟลุกโชนอย่างรุนแรง! แต่ปรมาจารย์ฉินกลับไม่บาดเจ็บเลยด้วย เขาลงพื้นอย่างช้าๆ”
สายตาของเฉินเหมิงเลี่ยงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เหมือนว่าตัวเองเป็นคนในเหตุการณ์จริงๆ
“ตอนนั้นปรมาจารย์ฉินหล่อมาก ท่านี้ขนาดดาราระดับประเทศยังทำไม่ได้เลย ตอนนั้นฉันเอาแต่ดู ลืมถ่ายวิดีโอเก็บไว้เป็นที่ระลึก”
“แล้วหลังจากนั้นล่ะ?” นักเรียนต่างสนใจในตัวปรมาจารย์ฉินขึ้นมากันหมด
“หลังจากนั้น? เรื่องราวหลังจากนั้นจะพูดยังไงก็พูดไม่หมดหรอก พวกนายแค่ต้องรู้ว่า ปรมาจารย์ฉินอยู่เมืองเย็นจีนของพวกเรา นั่นเป็นคนที่สามารถทำให้เกิดพายุได้ ก็เรียกฮีโร่ไร้ประโยชน์……”
“ปรมาจารย์ฉินอายุเท่าไหร่แล้วเหรอ?” นักเรียนบางถามขึ้น
“อันนี้ฉันก็ไม่รู้นะ ยังไงก็ดูจะยังหนุ่มอยู่เลย” เฉินเหมิงเลี่ยงพูด
อึ้งย้งอยู่ข้างๆได้ยินที่เฉินเหมิงเลี่ยงพูด แม้เธอจะไม่ชอบพูดคุย แต่ความนับถือที่เธอมีต่อปรมาจารย์ฉินนั้นเต็มร้อยมาตลอด วันนั้นตอนที่จงเส่นซานจัดการแก๊งม้า พูดอย่างชัดเจนมาคำหนึ่งว่า “รู้จักปรมาจารย์ฉินไหม?” เหมือนว่าแก๊งม้าเพราะทำผิดต่อปรมาจารย์ฉินจึงถูกเคราะห์ร้ายแบบนี้!
“หื้ม ไม่รู้ว่าปรมาจารย์ฉินมีแฟนหรือยัง?” ผู้หญิงอีกคนขมวดคิ้ว และถาม
“เหวินเหวิน เธอก็อย่าคิดเลย ปรมาจารย์ฉินคนระดับนี้ ข้างตัวจะขาดผู้หญิงได้ยังไง? เกรงว่าคงไม่ถึงมือเธอหรอก……” และในตอนนี้ก็มีผู้ชายรูปร่างอ้วนท้วมเดินมา ขาวๆอวบๆดูไร้พิษภัย แต่ที่หูก็ยังมีต่างหูด้วย ทรงผมดูแปลกประหลาด
“อย่าเสียงดังแล้ว พวกเรายังอยากฟังเรื่องของปรมาจารย์ฉินอีกนะ!” มีผู้หญิงคนหนึ่งร้องตะโกนขึ้น
พวกเขาในวัยนี้ก็เป็นวัยที่นับถือฮีโร่ ขณะเดียวกันพวกเด็กผู้หญิงก็มีเจ้าชายอยู่ในใจ ดังนั้นปรมาจารย์ฉินก็ต่างมีระดับในใจพวกเขา เหมือนเฉินเหมิงเลี่ยงที่ขอให้พ่อของเขาเอาลายเซ็นของปรมาจารย์ฉินมาให้ เสียดายที่พ่อของเขาไม่มีโอกาสได้เจอคนอย่างปรมาจารย์ฉินเลย
“งั้นก็พูดเรื่องปรมาจารย์ฉินกับการจัดการลี่ไห่ซาคนที่แม้ทุกกลุ่มแก๊งจะรวมตัวกันแล้วก็ยังจัดการไม่ได้ แต่กลับถูกปรมาจารย์ฉินจัดการได้อย่างง่ายดายกันเถอะ……” เฉินเหมิงเลี่ยงภูมิใจมาก เหมือนว่าเขากับปรมาจารย์ฉินจะรู้จักกันมาก
“ตอนนั้นผืนดินเต็มไปด้วยคราบเลือด เส้าหลิน เอ๋อร์เหมย บู๊ตึ้ง……ทุกแก๊งที่อยู่ในประเทศจีนถูกลี่ไห่ซาจัดการทั้งหมดเลย ทุกคนต่างทำอะไรลี่ไห่ซาไม่ได้ มีเพียงปรมาจารย์ฉินเท่านั้น”
“ปรมาจารย์ฉินชื่ออะไรกันแน่?” นักเรียนคนหนึ่งขยับเข้าไปใกล้ และดูจะสนใจมาก
“ไม่รู้สิ เพราะน้อยคนที่จะกล้าขานชื่อจริง ดังนั้นชื่อกลับถูกปิดบังไปแทน ตอนนี้ไม่มีคนกล้าสืบปรมาจารย์ฉินเลย ก็ขนาดจงจิ่วเจินที่แค่กระทืบเท้าเมืองเย็นจีนทั้งเมืองยังต้องสั่นสะเทือน ยังเคารพปรมาจารย์ฉินเลย……”
“ท่านจง?” คนที่รู้เรื่องเมืองเย็นจีนดี ก็ต่างตกใจจนเอามือทาบอก ต้องนับถือปรมาจารย์ฉินจริงๆ
ช่วงนี้เฉินเหมิงเลี่ยงพูดเรื่องราวของปรมาจารย์ฉินตลอด ดังนั้นทุกคนจึงกลายเป็นซูเปอร์แฟนคลับของเขาไปแล้ว
ที่สำคัญคือเรื่องที่ฉินหลั่งทำนั้นยิ่งใหญ่มากจริงๆ เรื่องพวกนี้แพร่กระจายไปทั่วของพวกคนชนชั้นสูง แต่คนส่วนมากกลับไม่รู้ว่าปรมาจารย์ฉินเป็นแค่ยามคนหนึ่งที่อยู่คนเดียวเงียบๆในเย็นจีน
“หัวหน้าห้อง โทรศัพท์นายดังน่ะ……”
มีคนเตือน
หัวหน้าห้องมอหกห้องหกชื่อว่าจ้าวซิง ตั้งแต่ยังเด็กก็คิดที่จะเป็นที่หนึ่งของเฟิงโจวและประเทศให้ได้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พอเห็นแล้วก็ดูเหมือนจะดีใจมาก:
“เพื่อนๆ พี่น้องทั้งหลาย ห้องพวกเรามีครูประจำชั้นมาใหม่อีกแล้ว ชื่อว่าฉินหลั่ง เดี๋ยวกำลังจะมาห้องพวกเราแล้วด้วย เขาเป็นคนมหาวิทยาลัยจีนหลิง เป็นคนนอกเมือง ปีนี้อายุยี่สิบสอง ยังไม่แต่งงาน เคยถูกแฟนสาวทิ้ง เพราะรังเกียจที่เขาจน ตอนนี้คุณฉินยังคงจัดการปัญหาเรื่องความอดอยากอยู่……”
“ใครให้ข้อมูลมา ทุกครั้งก็ดูละเอียดมากเลย?” เฉินเหมิงเลี่ยงพูดขมวดคิ้ว
“ก็จูจี้เหวินคุณชายจูนั่นไง” จ้าวซิงพูดและหัวเราะ
“อะไรนะ ครูประจำชั้นจะมาแล้วเหรอ พวกเรามีเรื่องสนุกให้ทำแล้วล่ะ……”
“เดี๋ยวก่อน! ครูประจำชั้นคนนี้นามสกุลว่าฉิน? หรือว่าเป็นปรมาจารย์ฉิน??” มีนักเรียนคนหนึ่งพูดขึ้น
“นายฝันไปเถอะ?!” เฉินเหมิงเลี่ยงผลักหัวเพื่อนคนนั้นออก เพื่อช่วยให้เขาได้สติ: “โรงเรียนมัธยมหัวเจี๋ยมีหน้าใหญ่ขนาดที่จะเชิญปรมาจารย์ฉินมาเป็นครูประจำชั้นได้เหรอ? พ่อฉันยังไม่มีหน้าแบบนี้เลย! วันก่อนพวกเราเฟิงโจวมีนักธุรกิจพันล้านคนหนึ่งที่อยากจะเจอปรมาจารย์ฉิน ทำทุกวิถีทางแล้ว ก็ยังไม่สำเร็จ นายคิดอะไรน่ะ”
พอได้ยินเฉินเหมิงเลี่ยงพูดแบบนี้แล้ว ทุกคนก็หัวเราะกันใหญ่ พวกเขาก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้หรอก นั่นเป็นฮีโร่ที่ไม่มีใครเทียมเชียวนะ เพราะยังไงก็ยังห่างจากพวกเขามาก ทำได้เพียงแค่เพ้อฝันเท่านั้น
“นี่ ฉันว่าทำไมจูจี้เหวินถึงดูใส่ใจพวกเราขนาดนี้? เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ ครั้งที่สามแล้วนะ ครูประจำชั้นที่มาใหม่ก็ส่งข้อมูลมาให้พวกเราทันที?” คนที่ชื่อเหวินเหวินพูดขึ้น
“ไอหยา ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ จูจี้เหวินเหมือนจะมีลุงคนหนึ่งที่เป็นข้าราชการเฟิงโจว มีความสัมพันธ์นี้เขาคงคิดว่าตัวเองเป็นทายาทข้าราชการเฟิงโจวสินะ เขาอยากจะรวมตัวกับพวกเรามอหกห้องหกให้เป็นหนึ่งเดียว แบบนี้ลุงของเขาก็จะได้เลื่อนยศ และพวกเราก็ไม่ต้องเรียนหนังสือ เข้ามหาลัยด้วยเส้นสายที่มี ต่อไปเรียนจบก็ยังเป็นตัวช่วยจูจี้เหวินได้เป็นอย่างดีอีกด้วย”
จ้าวซิงพูดวิเคราะห์