รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 500 ไสหัวไป

บทที่ 500 ไสหัวไป
ชายหนุ่มส่ายโทรศัพท์ไปมาเล็กน้อย “พี่น้องของผมมีมากมายครับ”
ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ก็โน้มตัวพูดว่า “หรือให้ฉันติดต่อสถานีตำรวจ ให้มัดตัวฉินหลั่งมาคะ?”
ทุกคนไม่มองฉินหลั่งอยู่ในสายตา รู้สึกว่าเป็นแค่เรื่องการโทรศัพท์ ก็ไม่ต้องกังวลแล้ว
มีเพียงเมิ่งเหมิงเหมิงที่รู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องไม่ธรรมดา ถึงอย่างไรเขาก็เคยเห็นฝีมือของฉินหลั่งแล้ว และยังมีเส้นสายที่น่ากลัวมากอีกด้วย
เขากับอู๋หย่งได้ทำการสืบค้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันนี้ แต่ยังคงไม่รู้ว่ากลุ่มที่ปิดหน้าปิดตาที่มาช่วยฉินหลั่งนั้นเป็นใครกันแน่
“ขอบคุณครับ ถ้ามีส่วนไหนที่ต้องการใช้งานพวกคุณผมจะเอ่ยปากเองครับ แต่สถานการณ์ตอนนี้ พวกเราลงมือเองก็ได้แล้ว และจะจับอีกฝ่ายเข้ากิโยตินด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่สะใจกว่า” เมิ่งเหมิงเหมิงพลางพูด
“เหมิงเหมิง นายจะฆ่าฉินหลั่ง?” เมิ่งลี่ลี่เพิ่งรู้เจตนาของเมิ่งเหมิงเหมงชิงที่มีต่อฉินหลั่ง
“ใช่ครับ พี่ ฉินหลั่งมาเหยียบหน้าตระกูลของผม จำเป็นต้องเรียกศักดิ์ศรีกลับมา จะปล่อยให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืนพูดโม้โอ้อวดข้างนอกไม่ได้ ว่าเขาเมิ่งเหมิงเหมิงถูกตีจนวิ่งหนี จำเป็นต้องปิดปากครับ”
สายตาของเมิ่งลี่ลี่เผยความกังวลออกมา “เหมิงเหมิง ฉินหลั่งไม่ใช่คนที่ถูกรังแกง่ายขนาดนั้น เขาสามารถทำให้ผู้อาวุโสของแก๊งหัวชิงยอมอ่อนข้อได้ ศิลปะการต่อสู้นั้นยากที่จะคาดเดา นายต้องระวังตัวหน่อยนะ”
เมิ่งเหมิงเหมิงไม่เห็นด้วย “พี่ครับ ทำไมต้องดูถูกความสามารถของตัวเองด้วย ดูเหมือนพี่จะรู้จักฉินหลั่งมาก?” ขณะที่พูดจึงใช้สายตามองไปที่เมิ่งลี่ลี่
เมิ่งลี่ลี่หน้าแดง “เหมิงเหมิง นายถูกเลี้ยงตามใจตั้งแต่เด็ก ไม่รู้ถึงความอันตรายของโลกยุททธภพ นายอย่าไปหาเรื่องฉินหลั่งจะดีกว่า เท่าที่พี่ได้ยินมา วงการศิลปะการต่อสู้ของประเทศจีน คนที่สามารถฝึกได้อย่างฉินหลั่งนั้น มีไม่มากจริงๆ”
เมิ่งเหมิงเหมิงเห็นพี่สาวแอบปกป้องคนอื่น จึงพูดอย่างไม่พอใจ “เชอะ มันเป็นอะไร ถึงถูกพี่โม้ขนาดนี้ พี่ครับ พี่ชอบมันใช่ไหม? ชายพเนจรร่อนเร่แบบนี้ พ่อไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน”
เมิ่งลี่ลี่ตกตะลึง แล้วพูดอย่างเขินอาย “เหมิงเหมิง พูดไปถึงไหนแล้ว? พี่เป็นห่วงนายต่างหาก ไม่อยากให้นายต้องบาดเจ็บ นายก็ใช้ชีวิตในสังคมมาหลายปีแล้ว เรื่องของยุทธภพก็น่าจะทำความเข้าใจเองบ้าง ชื่อเสียงของฉินหลั่งยิ่งใหญ่ขนาดไหน? นายกลับไม่รู้เหรอ?”
“เชอะๆ ผมก็เคยเห็นความสามารถของมันมาแล้ว แต่เมื่อได้พบเจอคนอย่างพวกเรา มันคงทำเก่งได้อีกไม่นานแล้ว พี่ครับ เรื่องเกิดขึ้นเพราะพี่ ผมจึงอยากขอพูดก่อน ถ้าหากฉินหลั่งถูกพวกเราฆ่า พี่ห้ามโทษผม ได้ไหมครับ?” เมิ่งเหมิงเหมิงกำหมัดขึ้นมา
ขนตาของเมิ่งลี่ลี่สั่นเล็กน้อย “เหมิงเหมิง นายพูดเพราะโมโหใช่ไหม?”
“แน่นอนว่า ฉินหลั่งต้องตาย เย็นจีนไม่ใช่สถานที่ให้มันมาทำตัวกร่าง” เมิ่งเหมิงเหมิงพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
“พี่อยากจะพูดกับนายอย่างจริงจัง อย่าไปหาเรื่องฉินหลั่ง นายสู้ไม่ไหว!” เมิ่งลี่ลี่พูดด้วยความโกรธ
“เชอะ ผมสามารถฆ่ามันได้เป็นพันครั้ง มันยังไม่กล้ามาฆ่าผมสักครั้ง! พี่ครับ พี่มองมันสูงส่งเกินไป คนแบบนี้ พี่ยังจะปกป้องอีกเหรอ? ไร้สาระ!” เมิ่งเหมิงเหมิงไม่เปลี่ยนความคิด ท่าทางของพี่สาวกลับยิ่งกระตุ้นเขาให้ตัดสินใจกำจัดฉินหลั่งมากขึ้น คนของตระกูลเมิ่งจะไม่ยอมให้ไอ้กุ๊ยอย่างฉินหลั่งต้องมาแปดเปื้อนเด็ดขาด
เขาก็ไม่รู้ว่าไปเอาความคิดนี้มาจากไหน รู้สึกว่าฉินหลั่งไม่สามารถมีหน้ามีตาได้ ไม่เหมาะสมกับคนในสังคมชั้นสูงอย่างเขา
“ผมจัดการมัน ผลเสียจากความพ่ายแพ้ก็แค่ลูกน้องตายสองสามคน เสียผลประโยชน์ไปส่วนหนึ่ง”
“ถ้าผมล้มเหลว ก็สามารถจัดการได้อีก ไม่ตายไม่เลิก”
“มันน่ะเหรอ ถ้าหากมันสู้กับผม ครอบครัวของมันทั้งหมดจะต้องตายอย่างอนาถ!”
“ดังนั้น ผมถึงจะเป็นคนที่มันหาเรื่องไม่ได้”
“บนโลกใบนี้ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ การได้มาเจอผมคือความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของฉินหลั่ง เหตุผลที่ผมฆ่ามันมีอย่างเดียว ‘เห็นมันแล้วขัดตา! แค่ข้อเดียวก็พอแล้ว’”
ใบหน้าของเมิ่งเหมิงเหมิงเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม “แค่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ก็คือไม่ได้ ยังจะแสร้งทำเป็นพี่ใหญ่ มันจะไม่เกิดเรื่องได้ยังไง?! ก็แค่ดอกฟ้ากับหมาวัด…”
“พอแล้ว ขี้เกียจจะว่ามันแล้ว ผมคิดว่ามันก็แค่อยากสร้างระดับชื่อเสียงให้ตัวมันเอง”
เมิ่งเหมิงเหมิงพูด พลางยกแก้วไวน์ทรงสูง แล้วไวน์สีแดงก็ค่อยๆ ไหลลงลำคอของเขาอย่างช้าๆ
“ปัง!”
เวลานี้ เสียงหนักอึ้งพลันดังขึ้น ทุกคนที่ชนแก้วพูดคุยกันในงานต่างก็หยุดอย่างกะทันหัน
และในขณะที่ตกตะลึงอยู่นั้น ฉินหลั่งก็เดินเข้ามาอย่างสบายๆ
ประตูสองบานที่หนักมากของห้องจัดงานเลี้ยงกระแทกกันราวกับรถบรรทุกหนักได้รับการกระแทก แล้วแยกออกในทันที ทุกคนต่างหันไปมองด้วยความตื่นตระหนกตกใจ
เมื่อมองผ่านบานประตูที่แยกออกแล้ว จึงเห็นบอดี้การ์ดอาวุธครบครันสองสามคนนอนล้มระเกะระกะอยู่ตรงทางเดิน
พวกเขานอนขดตัวอยู่บนพื้น กุมท้องอย่างเจ็บปวดทรมาน เห็นได้ชัดว่าหมดความสามารถในการต่อต้านแล้ว
ทุกคนต่างตกตะลึงเหม่อ ควรทราบว่านี่คือสถานที่รวมตัวของสังคมชั้นสูง การบุกเข้ามาโดยพลการนั้นคืออยากหาเรื่อง? รนหาที่ตายใช่ไหม?
ฉินหลั่งกวาดสายตามองไปทั่วงานด้วยสายตาเย็นชา แล้วพูดเสียงทุ้มหนักว่า “เมิ่งเหมิงเหมิงล่ะ?”
“ใครมาก่อเรื่องอะไร?”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมสิบกว่าคนวิ่งเข้ามาจากด้านนอก พวกเขาแต่ละคนล้วนมีตัวสูงใหญ่เอวหนา จ้องมองไปที่ฉินหลั่งด้วยความอาฆาต
บาดแผลที่เอวของฉินหลั่งยังไม่หายดี ใบหน้าของเขายังมีร่องรอยบาดเจ็บเล็กน้อย ใบหน้าอันหล่อเหลามีรอยแผลเพิ่มขึ้นมา ทำให้มีความเป็นชายที่พูดไม่ออกอย่างเห็นได้ชัด
ถึงแม้ตัวเองจะบาดเจ็บ ชี่แท้ก็ยังกลับมาไม่เต็มที่ แต่ฉินหลั่งรู้สึกว่าเขาสามารถจัดการเมิ่งเหมิงเหมิงได้มากพอแล้ว ความแค้นของเขาไม่จำเป็นต้องรอให้ข้ามคืน
จากการสืบของเหลิ่งเชียนชีว วันนี้อู๋หย่งไปที่เจียงหนาน ถือว่าเขาโชคดี ดังนั้นฉินหลั่งจึงมาหาเมิ่งเหมิงเหมิง ไหนบอกว่าจะเอาฉินหลั่งไปให้หมากินไม่ใช่เหรอ? ฉันฉินหลั่งมาแล้ว!
เมื่อเห็นสีหน้าที่เงียบสงบและใจเย็นของฉินหลั่ง เมิ่งลี่ลี่ที่อยู่ในกลุ่มผู้คนจึงฉายแววตาที่แปลกออกไป แต่ก่อนดูเขาผ่านวีดีโอมาตลอด วันนี้ได้เห็นตัวจริงแล้ว เธอจึงเกือบหยุดหายใจ
“แมนจริงๆ และยังหล่อกว่าในวีดีโออีกด้วย น่าสนใจมาก” เมิ่งลี่ลี่กลั้นลมหายใจแล้วพูดพึมพำกับตัวเอง เธอตื่นเต้นจนลืมไปว่าอีกฝ่ายมาคิดบัญชีกับน้องชายของเธอ
“เมิ่งเหมิงเหมิง ไม่ได้ยินเหรอ?” ฉินหลั่งกอดอกแล้วพูดอย่างราบเรียบ
นอกจากเมิ่งลี่ลี่แล้ว คนอื่นที่อยู่ในงานต่างก็ให้ความสนใจ
ไม่เพียงแต่ให้ความสนใจแล้ว กระทั่งยังเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม
สมองมีปัญหาแล้วใช่ไหม?
รู้ไหมว่าที่นี่คือที่ไหน?
มาหาเรื่องถึงโรงแรมซีเอ่อ?
ใช่สถานที่ให้แกมาทำกร่างเหรอ?
ดูภาพยนตร์มากไปหรือเปล่า? ดูจากการแต่งตัวแล้ว ก็แค่กุ๊ยที่ไม่มีวิชาความรู้มากมายอะไร!
เมิ่งเหมิงเหมิงแค่เพียงชี้นิ้ว ไอ้กุ๊ยคนนี้ก็ต้องคุกเข่าขอชีวิตแล้วมั้ง?
เวลานี้คณบดีโหยวกำลังยืนอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ของฉินหลั่ง เมื่อเห็นฉินหลั่งว่าไม่ใช่คนระดับสูงอะไร และโอกาสที่จะได้แสดงความซื่อสัตย์ที่หาได้ยากเขาจึงไม่อยากพลาด แล้วจึงถือแก้วไวน์ที่อยู่ในมือเดินไปข้างหน้าแล้วพูดข่มว่า
“ที่นี่คือการจัดงานเลี้ยงของคุณชายเมิ่ง แกกลับกล้าตะโกนเสียงดังต่อหน้าคนมากมาย! แกรีบไปขอโทษคุณชายเมิ่งเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นคุณชายเมิ่งจะยิงแกแน่!”
“เหรอ?” ฉินหลั่งยิ้มเล็กน้อย แล้วหยิบไวน์ที่อยู่ข้างๆ ดมกลิ่นที่อยู่ในแก้ว จากนั้น…
ไวน์แดงที่อยู่ในแก้วไวน์ก็สาดไปที่ใบหน้าของคณบดีโหยว ไหลลงไปทั่วทั้งตัว
“ไสหัวไป” ฉินหลั่งพูดเย็นชา

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset