รวยชั่วข้ามคืน?！ – ตอนที่ 525 ระดมกำลังทหารยกทัพไปปราบปราม

บทที่ 525 ระดมกำลังทหารยกทัพไปปราบปราม
วันนี้ฉินหลั่งฝึกฝนอยู่ทั้งคืน เช้ารุ่งตื่นขึ้นมา ก็พบว่ามีชั้นโคลนไหลออกมาจากรูขุมขนโดยไม่มีสาเหตุ
มีความรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แม้แต่ลมหายใจก็บริสุทธิ์ขึ้นไม่น้อย นี่เป็นผลจากการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาถึงอีกขั้นหนึ่ง
หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว สวมชุดคลุมอาบน้ำแล้วก็มานั่งลงบนโซฟา และตอนนี้ก็มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามา
ฉินหลั่งรับสายฟังแล้วคิ้วก็ขมวดลึกขึ้นเรื่อยๆ หลังจากสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็รีบเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่พันธมิตรศิลปะการต่อสู้
โจวเฉียนหยวนโทรมารายงานให้ฟังว่า ท่านผู้บังคับใช้กฎหมายจั่วเฉินบิงของสำนักงานใหญ่พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ประเทศจีน นำกำลังสองพันคนมายังพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีน ไปถามความอะไรสักคำ ลงมือเฆี่ยนตีฉางจื่อชงที่เข้าเวร หลังจากนั้นก็นำกำลังควบคุมทางเข้าออกของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีนทุกทาง เหมือนเตรียมการที่จะรับช่วงต่อ
ไอฟังการกระทำของพวกจั่วเฉินบิง ดวงตาฉินหลั่งฉายแววโมโห ไม่แจ้งเขาที่เป็นประธานคนนี้ให้ทราบก่อน ก็ลงมือทำร้ายคนของตนเอง ถึงแม้จะเป็นท่านผู้บังคับใช้กฎหมายของสำนักงานใหญ่ ก็เป็นการกระทำที่ค่อนข้างเกินไป
ไม่นานฉินหลั่งก็เดินทางมาถึงพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีน เขาเพิ่งรู้ตอนนี้ว่า กลุ่มพันธมิตรศิลปะการต่อสู้นี้ ที่จริงค่อนข้างซับซ้อน สำนักงานใหญ่ยังมีอำนาจทำแบบนี้กับพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีนได้ด้วย
โจวเฉียนหยวนรีบวิ่งมาหาเขา พูดขึ้นด้วยสีหน้าโศกเศร้าว่า
“ประธาน ในที่สุดคุณก็มา”
“หากยังไม่มา เกรงว่าที่นี่คงจะถูกรื้อแล้ว”
“แม้แต่ผมก็ถูกเฆี่ยนตี คุณดูสิ”
โจวเฉียนหยวนเจ้าบ้านตระกูลโจวพูดพร้อมรูดแขนเสื้อขึ้นมาให้ฉินหลั่งดู เป็นแผลที่ยังมีคราบเลือดอย่างน่าตกใจ เห็นได้ชัดว่าตอนที่เฆี่ยนไม่ได้ผ่อนมือเลย
ฉินหลั่งขมวดคิ้ว ถามขึ้นว่า “คนคนนี้เป็นใครมาจากไหน?”
เขาเป็นประธานพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีน แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับสำนักงานใหญ่ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างทั้งหมดขององค์กรพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ตนเองเป็นการถูกเลือกขึ้นมาให้เป็นประธาน ไม่เคยมีประสบการณ์ทางด้านนี้
เขาที่เป็นประธาน เห็นอำนาจอิทธิพลของพวกผู้อาวุโสที่อยู่ในสำนักงานใหญ่พวกนั้น เป็นสิ่งที่ธรรมดามาก ยังไงตำแหน่งนี้เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลยสักนิด
โจวเฉียนหยวนก้าวเข้ามาใกล้ มองดูรอบๆ ลูกศิษย์ที่จั่วเฉินบิงพามายืนอยู่อีกด้าน จึงพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “จั่วเฉินบิง เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ประเทศจีน ดูแลแผนกบังคับใช้กฎหมายของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ทั้งหมด ค่อยจัดการกับคนที่ละเมิดกฎหมายโดยเฉพาะ”
“ความสามารถในการต่อสู้ของเขาไม่ได้ดีเด่น แต่เป็นคนเก่าแก่มีประสบการณ์ ชอบคุยเรื่องอาวุโส ไม่ชอบคนหนุ่มที่ได้ขึ้นตำแหน่ง คิดว่าทั้งหมดที่ได้มาล้วนเป็นเพราะการโกงที่เห็นแก่ตัว”
ฉินหลั่งหัวเราะเยาะพร้อมพูดว่า “ความหมายของเขา เห็นได้ชัดว่าหมายถึงผม ไม่พอใจที่ผมขึ้นมารับตำแหน่ง คิดว่าผมใช้เงินจนได้ขึ้นมาเป็นประธานหรือ?”
“เชอะ คนคนนี้เมื่อก่อนเคยมีปัญหากับท่านจงจงจิ่วเจิน ดังนั้นจึงไม่พอใจพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีนของเราอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลาตรวจลาดตระเวนก็จะหาเรื่องอยู่เรื่อย มักจะหาเรื่องให้เราเดือดร้อนถึงจะยอม”
“ท่านจงค่อนข้างทนจั่วเฉินบิงคนนี้มาตลอด เคยต้องเสียเงินกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย แต่เงินพวกนี้จั่วเฉินบิงไม่เคยเห็นเลยสักบาท ท่านจงเอาไปใช้จ่ายให้กับสมาชิกคนอื่นในพันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นจั่วเฉินบิงยิ่งโกรธแค้นพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีน”
“ครั้งนี้พันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีนเป็นผู้นำ ประธานคนเดิมเกษียนไปอยู่ที่เจียงหนานแล้ว จั่วเฉินบิงก็พยายามสนับสนุนจั่วหู่ขึ้นมาแทน แต่พวกเราที่ลูกศิษย์ของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีนต่างก็ไม่ยอมรับ สุดท้ายด้วยการสนับสนุนของท่านจง ทุกคนส่วนมากเห็นด้วย ใช้วิธีความชื่นชมพอใจเลือกท่านขึ้นมาเป็นประธาน”
“นี่จึงทำให้คนเฒ่านี้โกรธอย่างที่สุด ตอนนี้เขามาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเป็นการมาด้วยแค้นส่วนตัว อยากจัดการดึงคุณลงตำแหน่ง อย่างน้อยก็ต้องการที่จะให้พวกเราอยู่ไม่เป็นสุข”
ฉินหลั่งค่อนข้างไม่พอใจ ทำไมต้องต่อสู้กันไปมาแบบนี้ตลอด พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ ต่างก็รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่สนใจตำแหน่งนี้ จึงพูดขึ้นว่า “เขามาที่นี่ในวันนี้ด้วยเหตุผลอะไร?”
โจวเฉียนหยวนขยับเข้าไปกระซิบพูดว่า “เรื่องที่คุณรับท้าประลองกับเสี่ยวฉวน”
“เรื่องที่รับท้าประลอง?” ฉินหลั่งหัวเราะเยาะ
ในระหว่างที่คุยกันพวกเขาก็เดินมาถึงภายในห้องโถง ภายในห้องโถงยังคงเงียบเหมือนดังเช่นเคย แต่บนพื้นมีคนสี่คนล้มคุกเข่าอยู่ มีซ่งเสี้ยวหยู่ ลู้เป้า ฉางจื่อชง ยังมีลูกชายของโจวเฉียนหยวนโจวกางหยุง
ล้วนเป็นคนหนุ่มคนสำคัญที่ฉินหลั่งสนับสนุนขึ้นมา
พวกเขากัดฟันกรอด เสื้อผ้าท่อนล่างถูกถอดหมดเหลือแต่กางเกงขาสั้น คุกเข่าโดยภายใต้เข่ามีแผ่นดันพื้นวางอยู่ เสื้อผ้าด้านหลังยังขาดเป็นแถบ เผยให้เห็นแผ่นหลัง
เลือดไหลซิบ บอบช้ำไปทั้งร่างกาย
ด้านหลังของพวกเขาคือชายบึกบึนแปลกหน้าร้อยกว่าคน ในมือถือหวายเช็กอยู่เบาๆ เตรียมพร้อมที่จะเฆี่ยนตีได้ทุกเมื่อ
ส่วนตรงที่นั่งของประธานในห้องโถง มีคนชายชราผมขาวหนวดยาวคนหนึ่งนั่งอยู่ สีหน้าเฉยเมย ระหว่างคิ้วเผยให้เห็นถึงความดุร้าย มองดูคนหนุ่มพวกนี้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ทั่วทั้งห้องโถงเต็มไปด้วยความเงียบงัน มีเพียงไข่เหล็กสองฟองในมือของชายชราเท่านั้นที่หมุนดังขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความดูถูก
ไม่ต้องพูดก็รู้ คนนี้ก็คือท่านผู้บังคับใช้กฎหมายจั่วเฉินบิงของสำนักงานใหญ่พันธมิตรศิลปะการต่อสู้
ด้านข้างทั้งสองข้างของจั่วเฉินบิง มีลูกศิษย์ที่เป็นหญิงสาวยืนอยู่หลายคน พวกเธอมีทั้งเม้มริมฝีปาก อย่างดูถูก บ้างก็แสดงท่าทีเหมือนกำลังดูอะไรสนุกๆ มองดูทั้งสี่คนถูกลงโทษ
“ฉินหลั่ง รอคุณมานานแล้ว ยังไม่คุกเข่ารับโทษอีกหรือ?”
ฉินหลั่งกำลังไม่พอใจอย่างที่สุด ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้นในหัว จั่วเฉินบิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
มองก็รู้เลยว่าเป็นฉินหลั่ง แสดงว่าจั่วเฉินบิงได้สืบเรื่องของฉินหลั่งมาพอสมควร
ลูกศิษย์ที่เป็นผู้หญิงหลายคนก็พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “คุกเข่าลง”
“คุกเข่า?” ฉินหลั่งเอามือไขว้หลังแล้วค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ พร้อมพูดว่า “ด้วยฐานะอะไร?”
“เจ้านี่ พูดกับผู้อาวุโสช่วยมีมารยาทหน่อย อย่าคิดว่าคุณเป็นประธานแล้ว ก็จะไม่มีใครสามารถทำอะไรคุณได้”
ผู้หญิงนมโตคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างยั่วยวนว่า “เชื่อไหมว่าคุณจะถูกเฆี่ยนจนปากฉีก?”
เวลานี้จั่วเฉินบิงออกคำสั่ง ห้ามผู้หญิงนมโตคนนั้นไว้ แล้วก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสูงส่งว่า “ด้วยฐานะอะไร? ด้วยฐานะที่ผมเป็นท่านผู้บังคับใช้กฎหมาย ด้วยฐานะที่ผมเป็นผู้อาวุโสในพันธมิตรศิลปะการต่อสู้”
ฉินหลั่งพูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “งั้นขอเรียนถามท่านผู้บังคับใช้กฎหมายว่า ผมทำผิดกฏข้อไหนหรือ ถึงต้องคุกเข่าให้คุณ ยอมรับการลงโทษ?”
พวกซ่งเสี้ยวหยู่ที่อยู่ด้านข้างเท้าของฉินหลั่ง รีบส่งสายตาให้กับฉินหลั่ง เห็นสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งขรึมของฉินหลั่ง ก็รู้ว่าประธานค่อนข้างไม่พอใจแล้ว จึงไม่กล้าพูดอะไรอีก
เชอะ จะดูว่าคุณจะแก้ตัวไปถึงเมื่อไหร่ คุณทำอะไรผิด ตนเองกลับไม่รู้งั้นหรือ?”
ปัง
จั่วเฉินบิงตบโต๊ะอย่างแรง พร้อมพูดว่า “อย่ามาทำเป็นหูหนวกตาบอด ไม่เช่นนั้นผลที่จะตามมาจะยิ่งเร็วร้าย”
“ผมไม่รู้จริงๆ ขอท่านผู้อาวุโสชี้แนะ” ฉินหลั่งพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
ยังไม่ทันรอให้จั่วเฉินบิงส่งสัญญาณ ผู้หญิงนมใหญ่คนนั้นก็พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “คุณรับท้าประลองกับเสี่ยวฉวนอู่เจิ้ง ส่งหนังสือตอบรับไปให้เสี่ยวฉวน ถือเป็นเรื่องที่ผิดมาก ผิดอย่างมหันต์”
“คุณคิดว่าคุณตอบรับหนังสือท้าประลอง เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณหรือ?”
“ผิด”
“ในฐานะที่คุณเป็นประธานของพันธมิตรศิลปะการต่อสู้เย็นจีน หากพ่ายแพ้ให้กับเสี่ยวฉวน คุณตายไปไม่เป็นไร แต่คุณจะทำให้พันธมิตรศิลปะการต่อสู้อับอายขายหน้า เป็นการทำให้ประเทศจีนต้องขายหน้า”
“ถึงตอนนั้นคนทั่วทั้งประเทศจีน ต่างก็จะหัวเราะเยาะว่า พันธมิตรศิลปะการต่อสู้ของเราไม่รู้จักประมาณตน วงการศิลปะการต่อสู้ทั่วโลกต่างก็จะดูถูกว่าประเทศจีนของเรานั้นอ่อนแอ”