บทที่ 722 คลั่งไปทั้งเมือง
“สวัสดีครับประธานหล่วน คืออย่างนี้ครับ มีคนเขียนบทความในอินเทอร์เน็ต โต้ตอบว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีจุดบกพร่อง บอกว่าจะทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน”
“พวกเขาบอกว่าได้ใช้ผงขาวเฟยเยว่แล้ว ตอนแรกเห็นผลดีมาก แต่ว่าไม่นานจะเกิดอาการคัน ถึงขั้นทั้งแกะทั้งเกา จนเลือดไหลไม่หยุด สุดท้ายแล้วผิวหนังจะเกิดการหดตัว หนักหน่อยอาจถึงขั้นใช้การไม่ได้”
“ท่านดูสิครับ นี่เป็นภาพประกอบบทความครับ” ชายหนุ่มเดินขึ้นไปข้างหน้า และนำข้อมูลในโน้ตบุ๊กเปิดให้หล่วนฝูดู
บนหน้าจอมีรูปภาพที่เต็มไปด้วยเลือดอยู่เต็มไปหมด มีบางภาพที่มีน้ำหนองไหลอยู่ด้วย ดูแล้วทำรู้สึกคลื่นไส้ น่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้ ช่างน่าสยดสยองเสียจริง
หล่วนฝูตะลึงงัน เขาผลักโน้ตบุ๊กออกไปข้างหน้าในทันที สองสามนาทีผ่านไปความรู้สึกถึงกลับมาเป็นปกติ เขาคิดอยู่สักพัก พลันหัวเราะเยาะขึ้นมา: “ซื่อบื้อ นี่เป็นการใส่ร้ายทางธุรกิจ บาดแผลหายและสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ มันก็คันเป็นธรรมดา แต่ว่าคันจนถึงขั้นนี้ มันเกินความจริงมากไปแล้ว!”
“คงเป็นฉินหลั่งที่คอยสั่งการอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน มันใช้ขั้นตอนการหายดีของบาดแผลมาหาเรื่องอยู่ตลอด แจ้งทนายความไป บอกให้พวกเขาลบวิดีโอและบทความที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และจะต้องเอาเรื่องให้หนักกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอีกด้วย”
“นอกจากนี้ หาผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีเชื่อเสียงบารมีได้มาสักสองสามคน ร่วมกันอธิบายหลักการการรักษาแผลของผลิตภัณฑ์ยาของเราให้ทุกคนรับรู้โดยทั่วกัน เพื่อลบล้างความหวั่นวิตกของผู้คน และโจมตีกลับคู่แข่งที่ใส่ร้ายพวกเรา”
ในใจของหล่วนฝูเชื่ออย่างแน่นอนแล้วว่าเป็นฉินหลั่งและหลู่เหม่ยเฉินคอยบงการอยู่เบื้องหลัง เขากล่าว: “แล้วก็โทรไปหาหลู่เหม่ยเฉิน บอกกับบริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉิน นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย ถ้าหากยังเล่นตุกติก หรือทำให้พวกเราเสื่อมเสียชื่อเสียงอีก เราจะฟ้องเธอด้วย”
ชายหนุ่มฟังแล้ว เดิมทีก็ควรที่จะจากไป แต่ดูเหมือนว่าความกังวลยังไม่หมด ลังเลอยู่สักพักแล้วกล่าว: “ประธานหล่วนครับ งั้นบทความนี่……”
หล่วนฝูถลึงตาทั้งสองข้าง: “ฟังที่ฉันพูดไม่เข้าใจหรือไง?”
ชายหนุ่มตอบอย่างร้อนรน: “เข้าใจแล้วครับ”
หล่วนฝูมองไปที่เลขาสาวอีกครั้ง: “เหอซินหย่ายังไม่กลับมาอีกเหรอ? ฝ่ามือโดนบาด ใช้ผลิตภัณฑ์ของตัวเองทาก็ได้แล้ว ทำไมถึงต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งเป็นวัน?”
เหอซินหย่าตอนที่อยู่ในทีมจัดตั้งครั้งแรกโดดเด่นเป็นพิเศษ ค่อนข้างจะมีความสามารถ ดังนั้นหล่วนฝูจึงให้ความสำคัญกับเธอเป็นพิเศษ ยังมอบงานมากมายให้เธอจัดการ
เลขาสาวตอบกลับเสียงค่อย: “ยังอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ เสี่ยวเย่นที่ทางบริษัทสั่งให้ไปดูแลเธอบอกว่า สถานการณ์ไม่ค่อยจะดีนัก และยังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ”
“ปะ ไปดูหน่อย” หล่วนฝูทิ้งปากกาในมือลง ผลักเก้าอี้ออกและลุกขึ้นมา จากนั้นก็สวมเสื้อคลุม แล้วเดินก้าวเท้าที่ทั้งเร็วและยาวออกไปข้างนอก
สำหรับเหอซินหย่า หล่วนฝูเห็นว่าเธอค่อนข้างจะเปราะบาง แต่ก็ยังตัดสินใจไปดูที่โรงพยาบาลหน่อย โรคอะไรกัน ร้ายแรงได้ขนาดนี้ แผลมีดบาดเอง แม้แต่ผงขาวเฟยเยว่ยังเอาไม่อยู่?
เลขาสาวจัดเตรียมรถและออกเดินทางอย่างรวดเร็ว สิบนาทีให้หลัง หล่วนฝูและผู้ติดตามก็มาถึงโรงพยาบาลประชาชนอันดับที่สอง
เดิมที่หล่วนฝูคิดว่าจะขับรถเข้าไปในโรงพยาบาลได้ง่ายดาย แต่รถกลับติดตั้งแต่ทางเข้า เห็นเพียงทางเข้าโรงพยาบาลประชาชนอันดับที่สองเต็มไปด้วยรถ มีทั้งรถฉุกเฉิน รถยนต์ส่วนบุคคล สับสนอลหม่านไปหมด เหมือนว่าจะติดไปทุกเส้นทางสัญจร
รอบด้านมีเสียงแตรรถยนต์ เสียงตะโกน เสียงร้องขอความช่วยเหลือ ดังมาพร้อมกับเสียงร้องไห้อ้อนวอนฟ้าดิน จนโลกทั้งใบโศกเศร้าเสียใจ
โรงพยาบาลที่เดิมที่มีระเบียบเรียบร้อย ตอนนี้กลับเละเป็นโจ๊ก เพราะผู้ป่วยเยอะเกินไป เกินกว่าที่เส้นทางสัญจรจะรับได้ อีกทั้งล้วนมีท่าทางรีบร้อน ดังนั้นโรงพยาบาลถึงได้สับสนอลหม่านอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เลขาผมสั้นอ้าปากกว้างขึ้นมาเล็กน้อย: “ทำไมคนไข้ถึงเยอะขึ้นมาอย่างฉับพลันแบบนี้? เกิดอะไรขึ้นนี่?”
หล่วนฝูมองเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยความสงสัย ทันใดนั้นหัวใจก็เต้นตุบ ๆ ขึ้นมา คิดว่าสถานการณ์ไม่ค่อยปกติ มีความรู้สับสนวุ่นวายขึ้นมาในใจ
บางทีอาจจะเป็นสัมผัสที่หก เข้ารู้สึกว่าทุกอย่างนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขา จากนั้น หล่วนฝูก็เปิดประตูแล้วลงไปจากรถพลางกล่าว: “คนขับ เอารถจอดไว้ข้างนอก แล้วรอฉันอยู่ที่นั่น”
“คนอื่น ๆ มากับฉัน เข้าไปดูซินหย่า”
หล่วนฝูออกคำสั่ง จากนั้นก็พาเลขาและบอดี้การ์ดไปต่อ ระยะทางไม่ได้ไกลนัก แต่ระยะทางเพียงแค่นิดเดียวนี้ พวกเขาต้องใช้เวลาเดินถึงครึ่งชั่วโมง ไม่มีทางเลือกนี่ ก็ผู้คนเบียดกันขนาดนั้น
เดินมาถึงห้องโถงของโรงพยาบาล ซึ่งก็เต็มไปด้วยผู้ป่วยเหมือนกัน ห้องแต่ละแผนกแออัดไปด้วยผู้ป่วย หล่วนฝูได้ใส่ใจเป็นพิเศษคือ แผนกฉุกเฉิน แผนกผิวหนัง แผนกแผลไฟไหม้เพียงแค่คนเยอะ แต่ก็พูดได้ว่าจนน้ำไม่อาจไหลได้
ที่แปลกกว่านั้นก็คือ ผู้คนในแผนกเหล่านี้ต่างก็ร้องห่มร้องไห้ ตะโกนโหวกเหวกโวยวาย ทุกข์ทรมานอย่างที่สุด ราวกับอยู่ในนรกอเวจี
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ท้องฟ้าจะร่วงลงมา? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หล่วนฝูขมวดคิ้วเดินไปทางห้องคนไข้ เขาเผชิญกับเห็นการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตมายาวนาน แต่ก็พบเจอกับเหตุการณ์น่าเวทนาที่แปลกประหลาดเช่นนี้เป็นครั้งแรก
ในระหว่างทางก็ได้พบเห็นผู้ป่วยที่รอตรวจอยู่ไม่น้อย พวกเขาทุกคนมีสีหน้าที่เจ็บปวดถึงขีดสุด มือทั้งสองข้างถูกญาติพี่น้องมัดไว้ จ้องมองดึงเอาไว้อย่างไม่คลาดสายตา
ร่างกายของผู้ป่วยเหล่านี้เต็มไปด้วยแผลเก่า ทั้งตัวเต็มไปด้วยคลาบเลือด มองเห็นเลือดเนื้อได้เพียงเลือนราง อยากที่จะอธิบายยิ่งนัก
เลขาสาวกระซิบกับหล่วนฝู: “ประธานหล่วน เห็นหรือยังคะ พวกเขาล้วนใช้ผงขาวเฟยเยว่ของพวกเรา”
หล่วนฝูกวาดสายตามองแวบหนึ่ง เขาสั่นสะท้านไปทั่วร่าง พบว่าคนในครอบครัวล้วนถือผงขาวเฟยเยว่ไว้ในมือจริง ๆ และทาให้ผู้ป่วยเป็นครั้งคราว
เลขาสาวกลับยังอารมณ์ดีเป็นพิเศษ: “คิดไม่ถึง ว่าผงขาวเฟยเยว่ของเราจะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ เป็นที่นิยมจนยึดครองทั่วทั้งโรงพยาบาลแล้ว ประชาชนโดยทั่วไปต่างก็ใช้ผงขาวเฟยเยว่ของพวกเรา ประธานหล่วนคะ ดูเหมือนว่าจำเป็นจะต้องเร่งขยายการผลิตจริง ๆ ”
แรกเริ่มหล่วนฝูก็ดีใจ แต่หลังจากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น เข้าสู่ภวังค์ของความครุ่นคิด
ภาพที่ชายหนุ่มถือโน้ตบุ๊กรายงานต่อเขาปรากฏขึ้นมาในหัว ผู้ป่วยที่อยู่ตรงหน้านี้ล้วนมีบาดแผลจากการเกากระจายไปอยู่ทั่วร่างกาย รอยเลือดเป็นจุด ๆ มีบางคนที่มองเห็นเลือดเนื้อได้เพียงเลือนราง ทั้งยังมีน้ำหนองไหลออกมา จุดเด่นที่พวกเขามีเหมือนกันก็คือล้วนใช้ผงขาวเฟยเยว่……”
หล่วนฝูสะบัดความคิดในหัวออกไป เขาไม่กล้าที่จะครุ่นคิดต่อไปแล้ว ในเวลานี้เอง เสียงลำโพงของโรงพยาบาลก็ได้เริ่มดังขึ้น:
“ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบก่อน ผมคือคณบดีของโรงพยาบาลประชาชนอันดับที่สองหวางเสินหนง ตอนนี้ผมขอประกาศให้ทุกคนรับทราบถึงการค้นพบที่สำคัญของเรา”
“พวกเรามีมติว่า ผู้ป่วยที่มาหาหมอที่นี่ทุกรายที่เป็นผู้ป่วยมีแผลทุกชนิด ผู้ป่วยที่มีผงขาวเฟยเยว่อยู่ในมือทุกราย ให้รีบหยุดใช้ยานี้ในทันที ให้รีบหยุดใช้ยานี้ในทันที!”
“จากที่พวกเราได้ทำการตรวจวินิจฉัย ผงขาวเฟยเยว่เป็นผลิตภัณฑ์ยาที่มีอันตรายร้ายแรง และมีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก”
“ผมขอประกาศอย่างเป็นทางการ จากตรวจวินิจฉัยแล้ว โรงพยาบาลประชาชนอันดับที่สองของเราไม่มีมาตรการและวิธีที่สามารถรับมือกับผลข้างเคียงที่เกิดจากผงขาวเฟยเยว่ได้ ดังนั้น ต้องทำให้ทุกท่านผิดหวังแล้ว ขอให้ทุกคนไปที่โรงพยาบาลศูนย์เย็นจีน ขอให้ทุกคนไปที่โรงพยาบาลศูนย์เย็นจีน ที่นั่นสามารถให้การรักษาอย่างรวดเร็วได้”
“จากที่ผมทราบมา ในตอนนี้มีเพียงโรงพยาบาลศูนย์เย็นจีนที่มียาที่เกี่ยวข้องในการรักษาผลข้างเคียงที่เกิดจากผงขาวเฟยเยว่ได้”
เมื่อเสียงดังขึ้น ทั่วทั้งโรงพยาบาลก็ตกอยู่ในความเงียบ รอจนประกาศได้สิ้นสุดลง ก็เกิดความโกลาหลขึ้นเต็มไปหมด คณบดีได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว จะต้องเชื่อถือได้อย่างแน่นอน ปัดโธ่เอ๊ย เดิมที่คิดว่าผงขาวเฟยเยว่เป็นยาเทวดา ที่แท้ก็เป็นยาพิษดี ๆ นี่เอง
ข่าวคราวแพร่กระจายไปทั่วทั้งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แพร่กระจายไปสู่ข้างนอก พูดได้ว่าสังคมของการแพร่กระจายข้อมูลนั้นรวดเร็วอย่างไม่มีใครเทียบได้
ประมาณสามนาทีหลังจากนั้น หวางเสินหนงก็เริ่มประกาศซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ป่วยที่ตกหล่น และในเวลานี้ผู้ป่วยราวกับกระแสน้ำกำลังล้นทะลักออกจากโรงพยาบาลประชาชนอันดับที่สอง และเริ่มเดินทางไปยังโรงพยาบาลศูนย์เย็นจีน
ในระหว่างทางล้วนเต็มไปด้วยเสียงด่าทอผงขาวเฟยเยว่ กลุ่มผู้คนราวพันคน ได้ไปจากโรงพยาบาลประชาชนอันดับที่สอง
ผงขาวเฟยเยว่มีจุดบกพร่อง?
มาจนถึงตอนนี้หล่วนฝูถึงพิสูจน์การคาดเดาของตัวเองได้อย่างแท้จริง เลขาและบอดี้การ์ดที่มาด้วยนั้นก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน ต่างก็ไม่เข้าใจเหตุผล
จากนั้นไม่นาน เลขาก็ระเบิดออกมา เธอตะโกนอย่างโมโห: “พวกฉินหลั่งและหลู่เหม่ยเฉินช่างน่ารังเกียจจริง ๆ ลงทุนซื้อแม้กระทั่งคณบดีของโรงพยาบาลประชาชนอันดับที่สอง เพื่อให้มาใส่ร้ายพวกเรา ศึกในครั้งรบอย่างไม่มีขอบเขต ต่ำช้าไร้ยางอายที่สุด”
หล่วนฝูสีหน้าเย็นชา: “ฉันได้เคยตัดสินใจไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่ใส่ร้ายป้ายสีเรา จะต้องฟ้องให้หมด เตรียมจดหมายทนายความไว้ให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นศึกแบบไหนพวกเราล้วนรับมือได้อย่างสบาย ๆ ”
บอดี้การ์ดแต่ละคนก็มีท่าทางดุร้าย เช็ดมือกำหมัดแน่น แทบอยากจะฉีกฉินหลั่งและหลู่เหม่ยเฉินออกเป็นชิ้น ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สมาชิกของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นกำลังโมโหอย่างยากที่จะสงบลงได้ โทรศัพท์มือถือของหล่วนฝูก็ดังขึ้น
“ฮาโหล ผมคือหล่วนฝู”
หล่วนฝูยกโทรศัพท์ขึ้นรับ จากนั้นไม่นาน ท่าทางของเขาก็ค่อย ๆ แข็งทื่อ และมึนงงไปอย่างช้า ๆ
ท้ายที่สุด โทรศัพท์ก็ได้หลุดจากมือเขาตกลงสู่พื้นดังตึง
ทุกคนเห็นเช่นนั้น ล้วนรู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วหัวใจ
“เป็นไปได้ยังไงกัน……” หล่วนฝูแววตาเอื่อยเฉื่อยพลางพึมพำออกมา
หล่วนฝู่ไม่ได้เยี่ยมเหอซินหย่าอีก แต่หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์แล้วเขาก็พาผู้ติดตามออกไปจากโรงพยาบาลอย่างรีบร้อน
ทางบริษัทโทรเข้ามา บอกว่ามีผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยไปรวมตัวกันอยู่ที่หน้าโรงงาน ลูกค้าก็ร้องเรียนเข้ามาว่าผงขาวเฟยเยว่มีปัญหาอย่างรุนแรง
เมื่อสักครู่สำนักงานคณะกรรมการยาได้ส่งคนเข้ามาที่โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นแล้ว รวมทั้งได้สั่งปิดห้องไลน์ผลิตและห้องวิจัยพัฒนาแล้ว สำหรับผลิตภัณฑ์ ถูกสั่งห้ามไม่ให้ขายออกไปสู่ท้องตลาดอีก
โรงงานผลิตยาเยว่จิ้นทั้งหมด ตอนนี้ต่างอกสั่นขวัญแขวน ประชาชนมากมายจนน้ำไม่อาจไหลได้ทั้งประตูหน้าและประตูหลัง ผู้คนต่างทุกคนจ้องมองป้ายสโลแกนและตะโกนเอ่ยสโลแกนอย่างเสียงดัง ดุด่าต่อว่าผงขาวเฟยเยว่ ร้องไห้จนน้ำตาไหลเป็นเลือดฟ้องร้องว่าผงขาวเฟยเยว่เป็นโรงงานที่ใจดำอำมหิต และตอนนี้ยังมีคนปลุกระดมให้ทุกคนรวมตัวกันเรียกร้องค่าชดเชยจากโรงงานผลิตยาเยว่จิ้น
สถานการณ์ของโรงงานผลิตยาเยว่จิ้นในตอนนี้ เหมือนกับเหตุการณ์ในตอนที่บริษัทอุตสาหกรรมไวน์เหม่ยเฉินถูกปิดล้อมไม่มีผิด เพียงแต่ดูสถานการณ์น่าจะเลวร้ายกว่าในตอนนั้น
หล่วนฝูกลับเข้ามาในโรงงานอย่างเร่งรีบ แต่กลับได้รับโทรศัพท์เร่งด่วนจากหยางจ้างกั๋ว ให้เขารีบกลับไปประชุมที่อาคารบริษัทของตระกูลหยางทันที
หล่วนฝูขมวดคิ้วแน่น ทำได้เพียงรีบเดินทางไปที่บริษัทตระกูลหยางโดยเร็ว
ในระหว่างทางหล่วนฝูพบว่าปรากฏการณ์ของเย็นจีนในวันนี้ไม่เหมือนทุกวันที่ผ่านมา ลักษณะเด่นก็คือรถพยาบาลเยอะเป็นพิเศษ ตามมาติดต่อกัน อีกทั้งความเร็วเร็วกว่าในช่วงเวลาปกติมาก คล้ายกับว่าทั่วทั้งเมืองล้วนกำลังไปหาหมอ ทำให้มีความรู้สึกแปลกประหลาดเป็นพิเศษ
รอจนขับผ่านสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ทันใดนั้นเองหล่วนฝูก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งวิ่งออกมาจากข้างใน มีบาดแผลที่เกิดจากการเกากระจายอยู่ทั่วใบหน้า ชายคนนั้นใช้มือของตัวเองแกะเกาตัวเองจนเลือดไหลไปทั่วใบหน้า และยังคงเกาอยู่อย่างนั้น ดูแล้วช่างน่าสยดสยองเสียจริง
สภาพเหมือนกับที่โรงพยาบาลไม่มีผิด หล่วนฝูรู้สึกหนาวสั่นอย่างอดไม่ได้ เขาไม่หวังที่จะให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผงขาวเฟยเยว่ แต่ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีได้รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในหัวใจราวกับมีก้อนน้ำแข็งยัดอยู่
“บรึ้น……”
สิบนาทีหลังจากนั้น รถได้พุ่งเข้าไปในอาคารบริษัทของตระกูลหยาง รถยังไม่ทันได้จอดสนิท หล่วนฝูก็ลงมาจากรถแล้ว และเดินเข้าไปในห้องโถงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็วิ่งไปทางห้องประชุมอย่างชำนาญทาง
ในห้องประชุม มีบุคลากรในชุดสูทรองเท้าหนังนั่งอยู่รอบโต๊ะประชุม ล้วนเป็นคนตระกูลหยางและผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่าง ๆ
หนึ่งในนั้นมีชายตาเหยี่ยวนั่งอยู่ คือประธานกรรมการผู้บริหารของบริษัทตระกูลหยาง หยางสิ้นเค่อ เขาเป็นลุงสี่ของหยางจ้างกั๋ว คือบุคคลที่เสาหลักของบริษัท
และยังมีชายชราคนหนึ่งที่หน้าตาเคร่งขรึม ผมขาวไปทั่วทั้งหัว ดวงตาเป็นประกาย สีหน้าเคร่งเครียด เขาเป็นขุนนางเก่าแก่ของตระกูลหยาง แต่ก่อนในตอนที่ตระกูลหยางเริ่มกิจการใหม่ ๆ อู๋ชิวหลงออกแรงค่อนข้างมาก ดังนั้นจึงมีบารมีสูงส่งในวันนี้ ถึงแม้จะเป็นกิจการของตระกูลหยาง แต่ทว่าหุ้นที่ชิวหลงมีอยู่ในบริษัทตระกูลหยางนั้นสูงเอามาก ๆ อะไรที่เป็นปัญหาใหญ่ล้วนต้องขอความคิดเห็นจากอู๋ชิวหลง
รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 722 คลั่งไปทั้งเมือง
Posted by ? Views, Released on October 22, 2021
, รวยชั่วข้ามคืน?!
ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!
Recommended Series
Comment
Facebook Comment