รวยชั่วข้ามคืน?! – ตอนที่ 799 ค่ายกล10ทิศ

นักแม่นปืนหมายเลข1กำหมัดดีใจ แต่ทันใดนั้นเขาเห็นร่างใหญ่ยังคงเดินไปด้านหน้าท่ามกลางแสงสีขาว สายตายิ้มแย้มของนักบวชผู้นั้น หมายถึงความกระหายอยากฆ่า ทั้งๆที่เป็นแค่สายตา ก็ทำให้เขาถึงกับขนพองสยองเกล้า
นักพรตอีซินมองไปยังนักแม่นปืน แค่มองนักแม่นปืนก็ตายไปทันที
“นักแม่นปืนหมายเลข1 ตายแล้ว!”
ข่าวจากแนวหน้ามาถึงหูป๋ายหู่ ป๋ายหู่เม้มปากพลางกำหมัดแน่น แล้วก็ปล่อย
นี่เป็นนักรบที่สุดๆแล้วคนหนึ่ง ยังหนุ่ม กระฉับกระเฉง ศักยภาพไร้ขีดจำกัด แต่กลับเสียชีวิตที่ล้ำค่าไปเพียงเพราะสายตาของนักพรตอีซิน
และนักบวชบ้านั่นยังคงเดินหน้าต่อไป ชีวิตแบบนี้ต้องสลายหายไป
บนถนนเส้นนี้มีนักแม่นปืนทั้งหมด7คน แต่ความล้มเหลวของนักแม่นปืนคนแรก มีความหมายอื่นแฝงอยู่ ต่อให้ทั้ง7คนลั่นไก ก็อาจไม่สามารถขวางนักบวชชุดฟ้าครามได้
ตอนนี้คนที่ไม่สบายใจไม่ใช่แค่ป๋ายหู่ ยังมีฉินหย่วนหางที่อยู่บนภูเขาอีกคน!
ด้วยเหตุนี้ภูเขาสิงโตอันใหญ่โต จึงมีแค่ฉินหย่วนหางที่นั่งบัญชาการ!
……
และตอนนี้คนที่ให้ความสนใจนักพรตอีซินไม่ใช่แค่ป๋ายหู่คนเดียว ยังมีกองกำลังจำนวนนับไม่ถ้วน จับตาดูนักบวชชุดฟ้าครามอยู่ทุกการเคลื่นไหว และถึงขนาดทุกย่างก้าว
“นักแม่นปืนคนที่สองเตรียมตัว!”
ตอนนี้ป๋ายหู่กำลังวุ่นวายไปหมด ถ้าไม่ใช่เพราะนักแม่นปืนคนที่สองขอยิงเอง ป๋ายหู่ก็ก็ล้มเลิกไปแล้ว
นี่คือรูปแบบการป้องกันการฆ่าตัวตาย มันไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย แต่ก็ต้องทำ
“เตรียมตัว เหนี่ยว ……”
ป๋ายหู่กัดฟันพูดพยางค์สุดท้ายไม่ออก เพราะทันทีที่ยิงก็มีความหมายนัยๆว่านักแม่นปืนคนนี้ต้องตายแน่ อีกทั้งเวลาชดเชยที่จะหยุดยั้งนักพรตอีซินก็ไม่มีแม้แต่น้อย!
“ช้าก่อน นายพลป๋ายหู่!”
เสียงของฉินหย่วนหางดังออกมาจากไมค์ ทำให้ป๋ายหู่หยุดการสั่งการของตน
“อย่าทำอย่างไม่กลัวตายอีกเลย ในเมื่อเขาอยากไปภูเขาสิงโตก็ให้เขาไป ค่ายกลสิบทิศมีประสิทธิภาพมากกว่าการซุ่มยิงของคุณทันทีที่เขาเข้าไปในภูเขาสิงโต ผมจะให้คนลงเขาจากทางด้านหลังทันที ล้อมเขาไว้ในค่ายกลสิบทิศ จากนั้นรอให้ฉินหลั่งหรือยอดฝีมือคนอื่นๆมาจัดการเขา!”
ฉินหย่วนหางพูดกับป๋ายหู่
ป๋ายหู่ชะงัก:“แล้วพวกอุปกรณ์ ยาวิเศษ และน้ำพุทิพย์บนภูเขาสิงโตล่ะ?”
“พวกนี้เป็นของนอกกาย เสียไปแล้วก็เสียไป อนาคตยังสามารถหาใหม่ได้ แต่คนถ้าตายแล้วก็ไม่อาจฟื้นคืนชีพได้อีก!”
ฉินหย่วนหางพูดเสียงสั่น
“คุณฉินเข้าใจความชอบธรรมอย่างลึกซึ้ง!ป๋ายหู่ขอบคุณมาก!”
ป๋ายหู่ซาบซึ้งมาก ถ้าทำให้นักพรตอีซินเข้าค่ายกลสิบทิศได้จริง ก็อาจไม่ต้องทำให้อีกฝ่ายลำบาก
ฉินหย่วนหางส่ายหน้าพลางพูดหน้าเจื่อนๆ:“ผมไม่เคยมีความคิดแบบนี้ นี่เป็นข่าวจากฉิวซียี่ เขาเป็นคนคิดแผนการ!”
“ฉิวซียี่ คุณชายหัวหน้าแก๊งแถ่จ่างงั้นเหรอ?”
ป๋ายหู่ชะงักไปครู่หนึ่ง สายตามองการณ์ไกลและความเด็ดขาดของหัวหน้าแก๊งแถ่จ่างเหนือกว่าคนทั่วไป ไม่ธรรมดาจริงๆ
“เลิกพูดเรื่องพวกนี้ก่อน ผมขอออกคำสัง ให้ทุกคนถอยทัพอย่างปลอดภัยที่สุด แล้วให้เป้าหมายเข้าไปในพื้นที่ภูเขาสิงโต!”
ป๋ายหู่สั่งให้ถอยอย่างรวดเร็ว ก่อนหน้านี้นักพรตอีซินยังรู้สึกได้ว่าด้านหน้ามีคนจำนวนมากเพ่งเล็งเขาอย่างคุกคาม การคุกคามนั่น สำหรับนักพรตอีซินมันคือความเจ็บปวดชนิดหนึ่ง
แสงเลเซอร์ก่อนหน้านี้ค่อนข้างเจ็บจริงๆ
ความรู้สึกของแสงที่แผดเผาบนร่างกายนั้นเจ็บปวดมากจริงๆ แต่นักพรตอีซินยังทนได้
แสงเลเซอร์นั่นเกือบทำลายลมปราณคุ้มกายของนักพรตอีซินไปแล้ว
อีกนิดเดียว แต่ก็ล้มเหลวไป!
นักพรตอีซินไม่เคยเจออาวุธที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อน ในที่สุดตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมปรมาจารย์หลายคนไม่กล้าทำผิดอย่างไม่กลัวสิ่งใดแล้ว เพราะอาวุธแบบนี้สามารถทำให้พวกเขาตายได้
100ปีก่อน นักพรตอีซินรู้ถึงความรุนแรงของอาวุธ ต่อมาเขาคิดว่าในแดนปรมาจารย์ตนสามารถต้านทานอาวุธเหล่านี้ได้ ตอนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพแล้ว สำหรับเขาลูกกระสุนก็แค่ถูกยุงกัดก็แค่นั้น แต่คิดไม่ถึงว่าพอถึงหลินอานก็โดนยิงจนเจ็บตัว
นักพรตอีซินเริ่มรู้สึกว่าความคิดที่จะตอบโต้แผ่นดินของตนนั้นค่อนข้างไร้เดียงสา แค่อานุภาพของอาวุธเหล่านี้ ต่อให้เป็นปรมาจารย์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดไหน ก็เกรงว่าจะทนได้ไม่กี่นัด ส่วนคนอื่นๆยิ่งไม่ต้องพูดถึง
และอาวุธร้ายกาจเช่นนี้ อีกฝ่ายใช้แค่นักศิลปะการต่อสู้ธรรมดาๆคนหนึ่ง ก็สามารถยิงได้แล้ว!
น่ากลัวเกินไปแล้ว
ถ้าอีกฝ่ายยังมีอาวุธที่รุนแรงกว่านี้อีกล่ะ งั้นแม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเทพอย่างเขาก็ตายได้ใช่หรือไม่?
แต่มีอาวุธที่รุนแรงแบบนี้ ทำไมจู่ๆอีกฝ่ายก็ถอยทัพกลับไป?
นี่นักบวชชราคิดเท่าไหร่ก็ยังไม่เข้าใจ
แม้เป็นเช่นนี้พระสงฆ์ชราก็ยังไม่หยุดเดิน ตะโกนไปทางนักแม่นปืนคนที่สอง:“ฉินหนานจงอยู่ไหน?”แม้อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร แต่นักแม่นปืนคนที่สองยังคงได้ยินเสียงนักบวชชราชุดสีฟ้าคราม และมั่นใจสุดๆว่านักพรตอีซินถามเขา
คำถามนี้ถามอย่างจริงใจและเคารพเป็นอย่างมาก เหมือนถามอนาคตต่อหน้าพระพุทธเจ้าอย่างไรอย่างนั้น
นักแม่นปืนคนที่สองชะงักไปครู่หนึ่ง งุนงงเล็กน้อย ขณะกำลังจะพูด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังมาจากหูฟัง:“ตอบเขา ชี้ไปยังหมอกหนาบนภูเขาสิงโต!”
หลังจากนักแม่นปืนได้ยินเสียงจากหูฟัง ก็ยืนขึ้นและตะโกนตอบทันที:“ฉินหนานจงอยู่ที่หมอกหนาบนภูเขาสิงโตข้างหน้า!”
นักพรตอีซินมองนักแม่นปืนคนนั้น แล้วพยักหน้า:“อย่างนี้นี่เอง!”
นักพรตอีซินพูดพลางเดินต่อ
นักแม่นปืนคนนั้นเหงื่อท่วมตัว ไหลลงมาจากหน้าผากไม่หยุด
“ถอนกำลัง รีบถอนกำลังออกไปอย่างปลอดภัย!”
เสียงป๋ายหู่ดังขึ้นอีกครั้ง
นักแม่นปืนคนอื่นๆยืนขึ้นแล้วเดินไปอย่างไม่ลังเล นักแม่นปืนคนนี้ก็วิ่งอย่างสุดชีวิต
ตอนตอบนักพรตอีซินเมื่อครู่ เขามีความรู้สึกเหมือนโดนล็อค เหมือนโดนศัตรูในสนามรบล็อคด้วยปืนไรเฟิลอย่างไรอย่างนั้น เป็นความรู้สึกที่กลัวมากๆ
โชคดีที่คำตอบของเขาทำให้นักพรตอีซินพอใจมาก
และเขาเป็นเพียงเดียวที่โดนนักพรตอีซินถามทางแล้วไม่โดนฆ่าตาย
ไม่มีอุปสรรคในการเดินหน้าแล้ว นักพรตอีซินก็เดินทางอย่างสบายๆ เดินเล่นในสวน เดินไปด้วยเล่นสนุกไปด้วย
เดินๆหยุดเช่นนี้ นักพรตอีซินก็มาถึงหมอกหนาของภูเขาสิงโต
“เป็นค่ายที่ยิ่งใหญ่มาก ค่ายนี้เทียบกับเทพโบราณได้เลย!”
หลังจากนักพรตอีซินมองตรวจสอบแล้ว ก็เอ่ยชมขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปในค่ายกลสิบทิศอย่างไม่ลังเล
บนยอดเขาภายในค่ายกลสิบทิศตอนนี้ ฉินหย่วนหางให้ลูกน้องเอาป้ายหยกที่ฉินหลั่งเตรียมไว้ให้ในตอนนั้น ออกไปจากค่ายกลสิบทิศแล้ว
“เอ๊ะ?มีร่องรอยสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นี่!คิดไม่ถึงว่าหมอกหนานี้จังบดบังจิตวิญญาณเทพได้ด้วย!”
นักพรตอีซินสังเกตเห็นเงามืดตรงหน้า ในหมอกนี้ ต่อให้เป็นนักพรตอีซิน ก็ทำได้เพียงพึ่งตาเปล่ามองศัตรู
“ขอถามหน่อย ฉินหนานจงอยู่ที่ไหน?”
นักพรตอีซินทะลุหมอกอีกครั้ง พลางถามเงาดำนั่น
เงาดำนั่นคือถงซาน สัตว์เทพร่างนางฟ้าที่ฉินหลั่งทิ้งไวให้ฉินหย่วนหาง
“……”
เงาดำนั่นไม่ตอบเขา
“ในเมื่อไม่จริงใจก็ตายซะเถอะ!”
นักพรตอีซินคิดพลางชี้นิ้วออกไป คิดจะฆ่าอีกฝ่าย
แต่เขากลับพบว่าหลังจากอีกฝ่ายโดนชี้ ร่างกายก็พองออกแล้วล้มลงไปกับพื้น
จากนั้นร่างนั่นแค่ล้มลงไปกับพื้น แล้วกระโดดโลดเต้น!
ใช่ กระโดดโลดเต้น เหมือนกระต่ายที่ถูกยิงด้วยหนังสติ๊ก แล้วกระโดดโลดเต้นไปมา
นี่เป็นครั้งแรกที่นักพรตอีซินพลาดตั้งแต่มาเหยียบภูเขาสิงโต ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างอดไม่ได้
“นี่มันอะไรกัน?ล้มลงไปซะ!”
นักพรตอีซินยกมือขึ้นแล้วตบไปทีหนึ่ง!

รวยชั่วข้ามคืน?!

รวยชั่วข้ามคืน?!

ในระยะเวลา7ปีนี้ ฉินหลั่งถูกคนอื่นเยาะเย้ยและดูถูกเหยียดหยาม แต่ฉินหลั่งก็อดทนใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอดถ้าหากไม่ใช่ได้รับข้อความนั้น ฉินหลั่งคงจะลืมว่าตัวเองเป็นคนรวย7ปีมันเป็นระยะเวลาทดสอบที่ตระกูลให้กับฉินหลั่ง ตอนนี้ฉินหลั่งผ่านการทดสอบแล้ว ก็มีสิทธิ์ไปใช้ทรัพย์สินของตระกูลได้แล้วฉินหลั่งจะเลือกที่จะอ่อนน้อมถ่อมตนต่อไปหรือจะเริ่มเปิดโหมดอวดรวยกันแน่!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset