ตอนที่ 167 : บริษัทสำรวจพื้นที่หัวเซี่ย จำกัด
การที่ได้จ้าวเมิ่งซีมาเป็นแฟนนั้น หวังเย่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสิ่งนี้มันทำให้เขามีความสุขอย่างมาก
อย่างที่บอกไว้เมื่อคนรักช่วยกัน แม้แต่งานก็ดูไม่หนัก ในเรื่องการสื่อสารและการจัดการธุรกิจนั้นหวังเย่าไม่ถนัดเท่าไหร่ มันคงจะดีถ้าหากมีคนที่ไว้ใจคอยจัดการให้
ทั้งสองได้ตกลงเรื่องรายละเอียดก่อนจะเริ่มปรึกษากันเรื่องการก่อตั้งองค์กรขึ้นมารวมถึงรูปแบบของกองทหารและกฎต่าง ๆ ที่จะใช้ในองค์การ
แม้ว่าจะกินอาหารกันเสร็จ แต่ระหว่างทางที่กลับมาพวกเขาก็ยังพูดคุยกันต่อ
สุดท้ายจ้าวเมิ่งซีก็พูดขึ้น “หวังเย่า ฟ่านฉิงเหมยเองก็ช่วยนายได้ ถ้านายไปบอกเธอ ฉันเชื่อว่าเธอคงยินดีที่จะช่วยอย่างแน่นอน”
เธอพูดออกมาด้วยท่าทีเป็นทางการ เพราะที่เธอพูดมาก็มีเหตุผล เธอไม่ได้เอาความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งทำให้หวังเย่านั้นสับสนว่าจริง ๆ แล้วจ้าวเมิ่งซีนั้นคิดอะไรอยู่
“เมิ่งเอ๋อร์ ฉันจะไม่ปล่อยเธอไปอย่างแน่นอน” เมื่อลงไปนั่งที่โซฟา หวังเย่าก็ได้เอื้อมมือไปจับแขนของจ้าวเมิ่งซีเอาไว้ก่อนที่จะจูบไปที่ปากของเธอ จ้าวเมิ่งซีตอบรับเป็นอย่างดี ลิ้นทั้งสองพัวพันกันจนผ่านไป 2-3 นาที ทั้งสองจึงพักหายใจ
หลังจากที่แยกตัวจากกันแล้ว หวังเย่าก็มองไปที่จ้าวเมิ่งซีด้วยความโหยหา เขาไม่อยากจะพูดอะไรในตอนนี้เพราะกลัวว่าจะพูดบางอย่างที่ผิดพลาดไป ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีตรงไปตรงมาที่สุด โดยหวังว่าจ้าวเมิ่งซีจะเชื่อใจเขา
ในด้านความรู้สึกแล้ว หวังเย่านั้นเป็นคนจริงใจและตรงไปตรงมา เขาไม่ชอบสถานการณ์ในตอนนี้ การที่มีผู้หญิงสวยถึง 2 คนมาให้เขาเลือก เขาก็ไม่อาจจะทิ้งคนใดคนหนึ่งไปได้ เขาหวังว่าจะรักษาทั้งสองคนเอาไว้และให้ทั้งสองคนเข้าใจความคิดของเขา รวมถึงไม่บังคับให้เขาต้องเลือก
จ้าวเมิ่งซีหน้าแดงก่ำ ตาของเธอเป็นประกาย เธอยิ้มออกมาก่อนจะแสร้งทำสีหน้าโกรธใส่หวังเย่า จากนั้นก็เอาหัวพิงที่ไหล่ของหวังเย่า ก่อนจะหลับตาลงแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังแอบหยิกไปที่เอวของหวังเย่าอยู่
แน่นอนว่าหวังเย่าทนได้ ความเจ็บเพียงเล็กน้อยแค่นี้เขาสามารถทนได้ตราบใดที่จ้าวเมิ่งซียังอยู่กับเขา
“หวังเย่า นายอยากแต่งงานกับฉันรึแต่งงานกับฟ่านฉิงเหมย…รึว่าทั้งคู่ ? ” จ้าวเมิ่งซีถามขึ้นมา
หวังเย่าดีใจขึ้นมาทันที
เขาลูบผมจ้าวเมิ่งซีและพูดขึ้นมา “ฉันสาบานว่าจะทำให้เธอเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลก แน่นอนว่าฉันต้องแต่งงานกับเธอ แต่ฉันเองก็ชอบพี่ฉิงเหมยเช่นกัน”
“งั้นนายจะแต่งงานกับเราทั้งคู่สินะ ? ” จ้าวเมิ่งซีถามขึ้นมาอีกรอบ
“น่าจะเป็นแบบนั้น ฉันอยากแต่งงานกับพวกเธอทั้งคู่” หวังเย่าตอบกลับ
“งั้น…ก็อย่าทำให้เราผิดหวัง” จ้าวเมิ่งซีเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นมา
ในคืนนั้นหวังเย่ายุ่งอยู่กับการชดเชยเวลาให้กับจ้าวเมิ่งซี แต่ด้วยทั้งสองยังเด็กกันอยู่ จึงยังอยากจะรักษาความบริสุทธิ์ของฝ่ายหญิงเอาไว้ ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่นอนกอดกันทั้งคืน
ในสองวันนี้ จ้าวเมิ่งซียังไปงานประชุมพยับเมฆ ส่วนหวังเย่านั้นไปหาเฉี่ยนเจินเฉียน โดยหวังว่าอีกฝ่ายจะชี้แนะเขาได้
เฉี่ยนเจินเฉียนแสดงท่าทีเป็นมิตรกับหวังเย่าอย่างมาก ทั้งสองนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น อีกทั้งหวังเย่ายังได้พบกับมังกรน้อยอีกด้วย หลังจากที่รับรู้ได้ถึงคลื่นพลังของเขา มังกรน้อยก็วิ่งเข้ามาอย่างดีใจและเลียมือของหวังเย่าทันที
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะลูบหัวและตรวจสอบสถานะของมัน เฉี่ยนเจินเฉียนคงจริงจังกับมันมาก เพราะใช้เวลาเพียง 2 เดือน มังกรน้อยก็เลเวลเพิ่มขึ้นมาถึงเลเวล 11 ค่าประสบการณ์ที่เหลือนั้นสามารถทำให้มังกรน้อยเพิ่มเลเวลได้อีก 5 เลเวล
หวังเย่าไม่เลือกที่จะเพิ่มเลเวลให้กับมังกรน้อย การวิวัฒนาการที่เร็วเกินไปนั้นจะทำให้พื้นฐานของมันไม่มั่นคง ด้วยความเร็วในตอนนี้แล้ว เขาเชื่อว่ามังกรน้อยจะขึ้นไปถึงเลเวล 30 ในเวลาไม่ถึงปี
เฉี่ยนเจินเฉียนได้ฟังแผนการระยะสั้นของหวังเย่า เขาคิดสักพักก่อนจะโทรศัพท์เพื่อโทรหาผู้จัดการให้เข้ามาพบกับหวังเย่า
“สวัสดีคุณหวังเย่า ผม จูเย่เหยียน คุณเฉี่ยนได้บอกผมถึงสิ่งที่คุณจะทำแล้ว ผมจะช่วยคุณก่อตั้งบริษัทขึ้นมา คุณแค่ต้องเอาสายรัดข้อมือที่จำเป็นต้องใช้ในการแสดงตัวตน ส่วนเรื่องอื่นผมจะจัดการให้เอง แบบนี้เป็นยังไง ? ” จูเย่เหยียนพูดออกมาด้วยท่าทีเคารพ
หวังเย่าพยักหน้าด้วยความพอใจก่อนจะจากไปพร้อมกับจูเย่เหยียน
ความสามารถของจูเย่เหยียนนั้นสูงมาก หวังเย่าเพียงแค่บอกแนวคิดและเป้าหมายของเขา ส่วนเรื่องอื่นเขาไม่ต้องสนใจ ตราบใดที่มีจูเย่เหยียนคอยจัดการให้ก็เพียงพอแล้ว
“คุณหวังเย่า คุณมีชื่อจดทะเบียนบริษัทของคุณรึยัง ? ” พนักงานลงทะเบียนถามขึ้นมา
หวังเย่าพยักหน้า ชื่อนี้เขาคิดมาสักพักแล้ว “บริษัทของฉันจะมีชื่อว่า บริษัทสำรวจพื้นที่หัวเซี่ย จำกัด”
ชื่อนี้บ่งบอกถึงความต้องการของหวังเย่าเป็นอย่างดี เขาหวังว่าเขาจะสำรวจให้ได้ไกลออกไปเรื่อย ๆ และมีฐานะที่สูงขึ้นกว่าเดิม ยังไงซะสักวันเขาก็จะรวบรวมโลกนี้ให้เป็นปึกแผ่น เขาจะสำรวจไปทั่วทั้งโลกและทำให้มนุษย์นั้นแข็งแกร่งและรุ่งโรจน์ขึ้นมา
แน่นอนว่าพนักงานนั้นรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ไม่มีใครรู้ว่าเป้าหมายของหวังเย่าจะสูงถึงขนาดนี้
พนักงานคิดว่ามันเป็นแค่ชื่อธรรมดาเท่านั้น
“ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว คุณหวังเย่า ในฐานะผู้ตรวจสอบ 1 ดาวแล้ว คุณต้องรอการรับรองอีก 3 วัน เมื่อผลประกาศออกมาแล้ว เราจะแจ้งผ่านข้อความทันที” พนักงานพูดขึ้น
หวังเย่าพยักหน้า สุดท้ายเขาก็รู้สึกโล่งอก การลงทะเบียนสร้างบริษัทนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันถึงกับยุ่งยากอย่างมาก ถึงจะมีจูเย่เหยียนคอยช่วย แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันเป็นปัญหาอยู่ดี เขาต้องใช้เวลาจัดการธุระต่าง ๆ ถึง 2 วันกว่าจะเสร็จ
“คุณหวังเย่า คุณจะจัดตั้งกองกำลังทหารรับจ้างพรุ่งนี้เลยรึเปล่า ? ” จูเย่เหยียนถามขึ้นมาก่อนที่จะกลับ
“ใช่ ผมจะจัดการให้เสร็จในคราวเดียว ผมไม่อยากยื้อให้เสียเวลา” หวังเย่าตอบกลับ
จูเย่เหยียนพยักหน้า เขาเองก็ไม่อยากเสียเวลาเช่นกัน เขารีบกลับไปเพื่อเตรียมพร้อมว่ามันต้องมีขั้นตอนอะไรบ้างและต้องไปติดต่อที่ฝ่ายไหนบ้าง รวมถึงเวลาทำการของแต่ละที่ด้วย
ไม่นานการเตรียมการทุกอย่างก็เสร็จสิ้น
เพราะแบบนั้นหวังเย่าจึงรู้สึกว่าจูเย่เหยียนนั้นเป็นคนที่เก่ง ถ้ามีโอกาสในอนาคตเขาอาจจะขอเฉี่ยนเจินเฉียนให้ยกจูเย่เหยียนมาอยู่บริษัทเขา