ตอนที่ 169 : ทุกอย่างเตรียมพร้อม
“คุณจู ขอบคุณจริง ๆ ถ้ามีอะไรที่ผมพอช่วยได้ คุณบอกมาได้เลย” หวังเย่าบอกกับจูเย่เหยียน แม้ว่าจะเป็นเฉี่ยนเจินเฉียนที่บอกให้อีกฝ่ายมาช่วย แต่อีกฝ่ายก็ช่วยเขาได้อย่างมาก ดังนั้นหวังเย่าจึงต้องการจะขอบคุณจากใจจริง
จูเย่เหยียนเป็นคนที่มีประสบการณ์ เขารู้ว่าคนไหนมีดี แม้ว่าหวังเย่าจะอายุแค่ 18 ปีและดูเด็ก แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะดูถูกอีกฝ่าย ตอนนี้เขาเคารพหวังเย่าอย่างมาก
แม้ว่าหวังเย่าจะยังเด็กแต่ฐานะนั้นเหนือกว่าเขาไปแล้ว หวังเย่าไม่ได้พึ่งครอบครัว เขาพึ่งความสามารถของตัวเองไต่เต้ามาจนถึงจุดนี้ได้ มันจึงทำให้จูเย่เหยียนนั้นชื่นชมหวังเย่าเป็นอย่างมาก
ตลอด 3 วันมานี้เขารู้สึกได้ถึงความทะเยอทะยาน, ความพยายามและความจริงจังของหวังเย่า การที่ได้รู้จักกับหวังเย่านั้นถือว่าโชคดี
“ไม่เป็นไร ผมแค่คอยจัดการเรื่องเล็กน้อย ๆ ตามที่คุณเฉี่ยนสั่งมา” จูเย่เหยียนถ่อมตัว
หวังเย่าพยักหน้าและพูดขึ้น “ ผมสงสัยว่าคุณจูสนใจจะทิ้งอนาคตที่สดใสมาอยู่กับบริษัทที่เพิ่งก่อตั้งของเรารึเปล่า ? “
ตอนนี้สิ่งที่หวังเย่าขาดแคลนมากที่สุดก็คือคน ยิ่งเป็นคนที่มีความสามารถก็ยิ่งต้องการ ซึ่งความสามารถในการจัดการของจูเย่เหยียนนั้นทำให้เขาสนใจและพอใจในตัวอีกฝ่ายอย่างมาก เขาเพิ่งจะก่อตั้งองค์กรขึ้นมา หากมีจูเย่เหยียนมาช่วย แน่นอนว่าจะทำให้บริษัทพัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
จูเย่เหยียนไม่คิดว่าหวังเย่าจะเชิญชวนเขาแบบนี้ หลังจากที่นิ่งไปสักพัก จูเย่เหยียนก็ไม่ได้รีบร้อนจะปฏิเสธและพูดขึ้นมาว่า “ หากเป็นเรื่องเล็กน้อยภายในเมือง ผมมั่นใจว่าจะจัดการได้แต่ผมเป็นแค่คนธรรมดา ผมไม่อาจจะช่วยอะไรในบริษัทใหญ่ ๆ ได้ ผมคงต้องให้คุณหวังเย่าทบทวนดูอีกรอบ “
หวังเย่ายิ้มและโบกมือ “ ที่คุณจูพูดมาก็มีเหตุผล ผมคงไม่กล้าให้คุณเดินทางออกไปภายนอก ผมอยากให้คุณจูคอยจัดการธุรกิจอยู่ที่นี่ และคอยดูแลเรื่องต่างๆ สำหรับค่าจ้างแล้ว ผมให้มากกว่าลุงเฉี่ยน 30% ”
จูเย่เหยียนคิดทบทวนอีกรอบ เงินมากกว่าเดิม 30% นั้นเขาไม่ได้สนใจ ตัวเขาเองก็มีความทะเยอทะยาน จึงเป็นธรรมดาที่อยากจะหาเวทีเพื่อแสดงฝีมือของตัวเอง
หวังเย่ามีทั้งความแข็งแกร่ง ฐานะรวมถึงความทะเยอทะยาน และหวังเย่าต้องการคนแบบเขา หากเขาทำงานให้กับ หวังเย่า แน่นอนว่าเขาต้องได้แสดงฝีมืออย่างแน่นอน
หลังจากที่เงียบไปกว่า 20 วินาที จูเย่เหยียนก็พยักหน้าและหัวเราะออกมา “ผมหวังว่าเราจะร่วมงานกันเป็นอย่างดี สำหรับคุณเฉี่ยนแล้ว ผมจะไปบอกเขาด้วยตัวเอง”
ความจริงแล้วเขาไม่ควรไปบอกเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หวังเย่าดึงตัวเขาไป มันควรจะเป็นหวังเย่าที่ต้องเป็นคนไปบอกเรื่องนี้ การที่เขาบอกว่าจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองนั้นถือว่าเขามีความกล้าพอสมควร
หวังเย่าพยักหน้า เมื่ออีกฝ่ายพูดเช่นนี้ เขาก็ไม่ต้องเหนื่อย เขาเชื่อว่าด้วยความสัมพันธ์ของเขากับเฉี่ยนเจินเฉียนแล้ว มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แน่นอนว่าเขาต้องแจ้งเฉี่ยนเจินเฉียนก่อนล่วงหน้า ไม่อย่างงั้นมันจะดูเหมือนไม่เคารพอีกฝ่าย
หลังจากที่จูเย่เหยียนกลับไปแล้ว หวังเย่าก็เอาโทรศัพท์ออกมาและติดต่อหาลูกน้องทั้งสี่คนให้รีบกลับมาที่เมือง
“หัวหน้าก่อตั้งบริษัทและกองกำลังทหารรับจ้างแล้วหรือ ? ”
เมื่อได้ยินคำพูดของหวังเย่า ทั้งสี่คนก็พากันแปลกใจและรีบมุ่งหน้ากลับมาที่เมืองทันที
ตอนแรกหลงปู้หยู๋เป็นคนไร้สังกัด เมื่อกลายมาเป็นลูกน้องของหวังเย่าแล้ว เขาก็เชื่อฟังคำสั่งของหวังเย่า เขากับลูกน้องอีก 3 คนได้ร่วมงานกันจนเชื่อใจกัน ในขณะเดียวกันการที่ได้คนแข็งแกร่งแบบนี้เพิ่มเข้ามา การทำงานก็ยิ่งมีประสิทธิ์ภาพมากยิ่งขึ้น
หวังเย่าวางสายก่อนจะนึกถึงโจวอวิ๋น เขาได้บอกให้โจวอวิ๋นไปเข้าร่วมกองทัพเพื่อเรียนรู้ทักษะสำรวจรวมถึงการต่อสู้ด้วย
เวลาเข้าร่วมกองทัพโดยทั่วไปแล้วคือ 2 ปี สั้นสุดคือ 1 ปี มันยังเหลืออีก 2 เดือนกว่าจะครบ 1 ปีแล้ว ตอนนี้คงเรียกโจวอวิ๋นกลับมาไม่ได้
สองวันต่อมา หวังเย่าก็ได้รับแจ้งเตือนบอกว่าบริษัทสำรวจพื้นที่หัวเซี่ยจำกัด กับกองกำลังทหารรับจ้างโลกาได้รับการรับรองแล้ว
เมื่อได้รับใบรับรอง หวังเย่าก็เก็บเข้ากระเป๋ามิติทันที
“เจ้านาย คุณทำได้จริง ๆ ฉันนึกว่าคงต้องกินเวลาไปอีกสัก 2-3 ปีเสียแล้ว” เจ้าเขียวพูดขึ้นมาด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
พวกเขาต่างก็คิดว่า หวังเย่าคงต้องใช้เวลา 4 ปีกว่าจะเรียนจบ แต่นี่มันกลับเร็วกว่าที่คิดไว้ถึง 3 ปี
ไม่คิดเลยว่าแยกจากกันแค่ 2 เดือน หวังเย่าจะก้าวหน้าถึงขนาดนี้ ช่างน่าแปลกใจจริง ๆ
หวังเย่ายิ้มออกมา เมื่อข่าวที่เขาเรียนจบแพร่กระจายไปแล้ว หลายคนก็พากันจับตาดูการเคลื่อนไหวของเขา หลงปู้หยู๋ และสามคนนี้ก็รู้ข่าวนี้ไปด้วย
“ฉันได้ก่อตั้งกองกำลังทหารรับจ้างโลกาขึ้นมา ตอนนี้มันอยู่แค่ระดับ 1 สามารถรับคนได้แค่ 30 คน พวกนายไปที่ฝ่ายลงทะเบียนเพื่อแจ้งข้อมูลลงทะเบียนกับกองกำลังของเราเอาไว้ “
หลังจากนั้นหวังเย่าก็เรียกรถมารับทั้งสี่คนพร้อมกับไปรับจ้าวเมิ่งซีเพื่อไปกินมื้อเย็น
ระหว่างที่กินข้าวอยู่นั้นหวังเย่าก็ได้ทำการเพิ่มข้อมูลของทุกคนเข้าไปและรับรองการสมัครของทั้งสี่คน
หลงปู้หยู๋และคนอื่น ๆ เป็นทหารรับจ้างระดับ 3 กระทั่งแหวนมิติพวกเขาก็มี ดังนั้นแค่คอมพิวเตอร์ทำไมพวกเขาจะไม่มี
“หลงปู้หยู๋ ฉันให้นายเป็นรองหัวหน้า ในอีก 2-3 วันนี้นายช่วยรับคนให้ฉันที พวกนั้นจะต้องเป็นคนดีและมีพรสวรรค์ อายุต้องอยู่ประมาณ 18-30 ปี..”
หวังเย่าได้บอกเงื่อนไขของตัวเองออกไป แม้ว่าเงื่อนไขจะค่อนข้างสูง แต่ก็เท่ากับประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่ากองกำลังทหารรับจ้างโลกานั้นจะต้องเป็นกองกำลังทหารระดับสูง
หลงปู้หยู๋พยักหน้าตอบรับ พลางถอนหายใจยาว นี่ถือว่าเป็นโชคดีรึโชคร้ายก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ใจได้ก็คือ นี่คือจุดเปลี่ยนของชีวิตเขา อนาคตนั้นไม่แน่ แต่เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าอนาคตยังอีกยาวไกล และไม่แน่ว่าเขาอาจจะประสบความสำเร็จมากกว่าเมื่อก่อนก็ได้
“ลูกพี่สบายใจได้ ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง”
หวังเย่าพยักหน้าตอบรับ
หากเรื่องของจูเย่เหยียนจัดการเรียบร้อยแล้ว เขาจะให้จูเย่เหยียนกับจ้าวเมิ่งซีไปหาที่ตั้งบริษัทและรับสมัครพนักงาน รวมถึงหาซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ แต่นั้นมันคืองานเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น
สำหรับตัวหวังเย่าเอง เขาตั้งใจจะออกเดินทาง เขากะเวลาไว้ที่ 10-15 วัน เป้าหมายของเขาชัดเจนอยู่แล้ว ว่าเขาจะไปที่ภูเขาผลไม้เพื่อหาโอกาสวิวัฒนาการหงอคงไปด้วย
แน่นอนว่าเรื่องนี้เขาไม่จำเป็นต้องบอกกับลูกน้องทั้งสี่ เขาแค่บอกจ้าวเมิ่งซีคนเดียวก็พอ