ตอนที่ 177 : คนร้ายทั้งสาม
“เพราะมันเป็นสิ่งของที่สร้างมาจากจิตวิญญาณระดับศักดิ์สิทธิ์ ฉันจะใช้สิ่งนี้ฝึกทักษะต่อสู้อีกอย่าง…” หวังเย่าขมวดคิ้ว เขาไม่อยากเข้มงวดกับตัวเองมากเกินไป แต่หากต้องขายมันแล้ว เขาก็อดเสียดายไม่ได้
“แต่ฉันจะใช้มันเป็นของขวัญไม่ก็รางวัล”
นี่คือความคิดที่ดี แต่เดี๋ยวค่อยว่ากัน
ระหว่างที่คิดอยู่นั้น การต่อสู้ด้านล่างก็ขึ้นมาถึงตอนไคลแม็กซ์ การ์ฟิลด์ขยายร่างยาวกว่า 15 เมตรและแผ่พลังของราชาออกมา
“เมี๊ยว ! ” การ์ฟิลด์ร้องออกมาพร้อมกับใช้สกิลตบ กรงเล็บที่ยาวเกินครึ่งเมตรราวกับลำแสงฟาดใส่หัวของอสูรผู้พิทักษ์ ตอนนั้นเองอสูรผู้พิทักษ์ไม่อาจจะทนรับได้ไหว ตัวที่เป็นดินของมันแตกออกทันที
แต่การต่อสู้ยังไม่จบ เมื่ออสูรผู้พิทักษ์โดนโจมตีอย่างหนัก ซึ่งอาจจะกระตุ้นให้มันใช้สกิลที่สามนั่นก็คือ “แยก” มันจะแยกตัวออกเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วน ถ้าหากทำลายชิ้นส่วนทั้งหมดภายในเวลาอันสั้นไม่ได้ อสูรผู้พิทักษ์ก็สามารถรวมร่างกลับมาแบบเดิมได้
ร่างกายของอสูรผู้พิทักษ์ที่เกิดใหม่นั้นจะเปราะบาง แต่ทว่าพลังจะเพิ่มมากขึ้น ยิ่งถ้าหากใช้สกิลที่สอง “รวมพลัง” ซึ่งมันจะกินผลน้ำเต้า เช่นนั้นมันก็สามารถฟื้นฟูตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
หวังเย่ารู้ดีว่าไม่อาจจะจัดการกับอสูรผู้พิทักษ์ได้ง่าย ๆ เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่เปิดโอกาสให้มันได้ฟื้นฟูตัวเอง ดังนั้นเขาจึงเก็บลูกแก้ววิญญาณดินใส่กระเป๋ามิติก่อนจะเริ่มเปิดฉากโจมตีอสูรผู้พิทักษ์
เมื่อหวังเย่าลงมือ อสูรผู้พิทักษ์ก็ตัวแตกออกเป็นชิ้น ๆ มันรับรู้ได้ถึงความตาย แต่ก็ไม่ได้ลนลานเลยแม้แต่น้อย มันควบคุมดินโดยรอบให้มารวมตัวกัน โดยหวังว่าจะทำการรวมร่างกลับขึ้นมาใหม่
แต่หวังเย่าไม่ปล่อยให้อสูรผู้พิทักษ์ได้ทำตามใจ เขากับอสูรทั้งสามได้ใช้วิธีการต่าง ๆ ในการโจมตี ภายในสามนาที อสูรผู้พิทักษ์ก็แตกออกเป็นชิ้น ๆ นับไม่ถ้วนและไม่อาจจะฟื้นคืนชีพได้อีก
เมื่อจัดการกับอสูรผู้พิทักษ์แล้ว หวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกก่อนจะมองไปที่ต้นน้ำเต้า
เมื่อต้นน้ำเต้าเห็นว่าอสูรผู้พิทักษ์ตายไป มันก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา ตัวมันสั่นไหวพร้อมกับใบไม้ที่พุ่งเข้ามาโจมตี
แต่การโจมตีแบบนี้ใช้แทบไม่ได้ผล
หวังเย่าเดินเข้าไปหาต้นน้ำเต้าทีละก้าว ๆ เมื่อมาถึงที่ลำต้นของมันแล้ว เขาก็ไม่ได้ปีนขึ้นไปที่ด้านบนแต่เขากลับใช้มีดกรีดเข้าไปที่ลำต้นน้ำเต้าจนทำให้ยางไม้ไหลออกมา ยางไม้นี่ไม่มีกลิ่นแต่กลับมีพลังชีวิตที่สูง
หวังเย่าแสยะยิ้มออกมา ต้นน้ำเต้าเข้าใจทันที หากมันยังต่อต้านแบบนี้ต่อไป มันก็อาจจะโดนตัดทิ้งได้
หวังเย่ารออยู่สักครู่จนต้นน้ำเต้าไม่ดิ้นรนอีก เขาก็กระโดดขึ้นไปบนกิ่งไม้ก่อนจะเก็บผลน้ำเต้าทั้งหมดใส่เข้าไปในกระเป๋ามิติ
5 นาทีต่อมา หวังเย่าก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ เขาไม่ได้สนใจต้นน้ำเต้าอีก ก่อนจะเดินจากไปพร้อมกับอสูรทั้งสาม
ด้วยน้ำเต้ากว่า 40 กว่าผล เขาเชื่อว่าค่าประสบกาณ์สำหรับหงอคงคงเพียงพอแล้ว เป้าหมายในการเดินทางครั้งนี้ลุล่วงไปได้ด้วยดี มันถึงเวลาที่จะกลับแล้ว
“คงได้เวลาต้องกลับแล้ว” หวังเย่าตัดสินใจและมุ่งหน้ากลับไปยังเส้นทางเดิม
แต่โชคของเขาก็ไม่ดีนัก เขาได้เจอกับกลุ่มคนที่แผ่พลังอันแข็งแกร่งออกมา
“ไอ้หนู แกมาทำอะไรที่นี่ ? ” ท่ามกลางป่าไม้ที่หนาแน่นเช่นนี้ มันง่ายที่จะหลบซ่อนตัวได้ ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นก็มีชายสามคนปรากฏตัวขึ้นมา
คนที่อยู่ทางซ้ายสวมหมวกเก่า เขาตัวผอมสูงหน้าตาซีดเซียว ดูน่ากลัวนิด ๆ
คนทางขวาสวมกางเกงหนัง ดวงตาสีดำเป็นประกายมีมีดสองอันเหน็บไว้ที่ขา และมีหนังสัตว์พันไว้ที่มือเขาราวกับป้องกันการบาดเจ็บ
ส่วนคนตรงกลางนั้นแสยะยิ้มออกมาและมองมาที่หวังเย่า เขาถือดาบและแผ่พลังที่น่าอึดอัดออกมา
เมื่อหวังเย่าเห็นสามคนนี้ก็ไม่ได้ลนลานอะไร
เขาไม่คิดเลยว่าจะได้เจอทหารรับจ้างในภูเขาผลไม้ เมื่อเห็นแบบนี้เขาก็แปลกใจนิด ๆ
ท่าทีของทั้งสามคนนี้ไม่ได้มาด้วยเจตนาดี อีกทั้งใบหน้าของพวกเขาก็ยังดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก
เขาลองนึกดูก่อนจะเบิกตากว้างแล้วถอนหายใจออกมา
พวกนี้….เป็นทหารรับจ้างก็จริงแต่ก็เป็นคนร้ายด้วย
หลังจากที่โลกเกิดเปลี่ยนแปลงไปนั้น แม้ว่ามนุษย์จะร่วมมือกันเพื่อต้านทานสัตว์อสูร แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีพวกชั่วช้าไร้จิตสำนึกอยู่ด้วย ในอดีตคนพวกนั้นเคยเป็นคนค้ายา ฆาตกร
ยังไงซะโลกก็ต้องมีคนแบบนี้หลงเหลืออยู่
คนพวกนี้จะทำแต่เรื่องชั่วร้ายจนยากจะยกโทษให้ได้ และจะถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อบุคคลที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้ อีกทั้งยังโดนทางการประกาศล่าตัว หากใครพบให้ฆ่าทิ้งทันทีและถึงกับให้รางวัลกับคนที่ฆ่าพวกนี้ด้วย
สามคนนี้คือคนร้ายที่โด่งดัง แต่ก็แข็งแกร่งอย่างมาก
คนทางซ้ายมีชื่อว่าเกาเฉียงอยู่ในอันดับที่ 136 ของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหัวเซีย เขาสังหารคนในเมืองไป 5 คนแล้วหนีออกมา ชายผู้นี้จะดักปล้นทหารรับจ้างที่เดินทางคนเดียว และทำเช่นนี้มาหลายสิบครั้ง แม้ว่าจะไม่สำเร็จทุกครั้งแต่อย่างน้อยก็มีทหารรับจ้างกว่าสิบคนที่ตายไป
คนทางขวาคือผีเสี่ยวเปียว เขาอยู่ในอันดับที่ 129 ของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหัวเซีย ถูกตั้งข้อหาลักทรัพย์และฆาตกรรม หลังจากหนีออกจากเมือง เขาก็ก่อคดีฆ่าข่มขืนทหารรับจ้างสาวที่หน้าตาดีที่ตระเวรอยู่นอกเมือง นับว่าเป็นเดรัจฉานดี ๆ นี่เอง
ส่วนคนที่อยู่ตรงกลาง ติดอยู่ใน100 อันดับแรก เขาอยู่อันดับ 58 ของผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองหัวเซีย ชื่อถันเจี้ยนซวน แต่เดิมแล้วเขาเป็นอาจารย์ดาบ เขาฝึกทักษะ 5 ดาวจนถึงระดับสูงสุดแต่เพราะความบ้าผู้หญิง เขาเอาแต่สอนผู้หญิงและทำตัวไม่เหมาะสม สุดท้ายเขาก็ไปยุ่มย่ามกับลูกของหัวหน้าองค์กรใหญ่เข้า…หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเปิดโปงออกมาแล้ว เขาก็ได้หนีออกมาและฆ่าทหารไปหลายคน
เมื่ออยู่ในป่า พฤติกรรมของพวกเขาก็ยิ่งแย่ลงเรื่อย ๆ พวกเขาฆ่าทหารไปหลายคนและถึงกับลักพาตัวผู้หญิงไปไว้ในรังเพื่อใช้เป็นทาส
“พวกนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าฉันจะตกอยู่ในอันตรายเข้าแล้ว” หวังเย่าหวั่นใจขึ้นมาแต่ภายนอกเขายังแสดงท่าทีใจเย็นออกมาและพูดขึ้น “ทำไมพวกนายสามคนต้องมาขวางทางฉันด้วย ? ”
“ไอ้หนู ใจกล้าดีนี่ เจอพวกเราสามคนแล้วแต่กลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลย แต่โชคร้ายหน่อยนะที่แกคงไม่รอดแน่” ถันเจี้ยนซวนพูดขึ้นมา