ตอนที่ 178 : หนี
ทั้งสามไม่ใช่แค่แสดงท่าทีที่ไม่เป็นมิตรแต่ยังรวมไปถึงคำพูดด้วย มันจึงทำให้หวังเย่ายิ่งแน่ใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้มากกว่าเดิม
เกาเฉียง อายุ 35 ปี เขามีอสูรระดับทองเลเวล 55 มันคือวัวไฟ ความแข็งแกร่งส่วนตัวอยู่ที่ระดับ B ค่าหัวคือ 2 ล้านเครดิต
ผีเสี่ยวเปียว อายุ 26 ปี เขามีอสูรระดับทองเลเวล 54 มันคือม้าหมึก ความแข็งแกร่งส่วนตัวอยู่ที่ระดับ C เขาเก่งเรื่องการใช้กับดักและเจ้าเล่ห์อย่างมาก เดาว่าเขาอาจจะมีอสูรตัวที่สอง อสูรนี้มีความสามารถในการใช้ดิน ค่าหัวคือ 2.5 ล้านเครดิต
สำหรับถันเจี้ยนซวนแล้ว เขาคือคนที่มีความสามารถ เขาอายุแค่ 40 ปี แต่ความแข็งแกร่งอยู่ระดับ A และอสูรระดับทองของเขาก็มีเลเวลที่สูง ส่วนทักษะดาบระดับ 5 ของเขาก็ทรงพลังว่ามีดลมหายใจมังกรของหวังเย่าอยู่เล็กน้อย
ในอีกความหมายคือหากเอาหวังเย่ากับถันเจี้ยนซวนมาเทียบกันแล้ว โดยไม่นับความสามารถในการใช้อสูร งั้นหวังเย่าก็ด้อยกว่าเล็กน้อย
แต่หวังเย่ามีทักษะพายุสังหารระดับ 8 ซึ่งเรียนรู้ไปแล้วถึง 2 ส่วน และทักษะสมาธิกระบี่บินที่เรียนรู้ไปแล้วถึง 2 ส่วนเช่นกัน ดังนั้นเขาก็ยังสามารถรับมืออีกฝ่ายได้สักพัก
“เกาเฉียงกับผีเสี่ยวเปียว ไม่ได้จัดการยากนัก แม้ว่าทั้งสองคนจะร่วมมือกันแต่ฉันก็ยังรับมือได้” หวังเย่าขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่ถันเจี้ยนซวนมีอสูรทองเลเวล 60 ราชาอินทรีย์มังกรและความแข็งแกร่งก็อยู่ระดับ A การเผชิญหน้ากับเขานั้น ฉันคงไม่มีโอกาสชนะ”
ราชาอินทรีย์มังกรก็ตรงตามชื่อ มันมีขนาดใหญ่และกรงเล็บที่ทรงพลัง มันคือนักล่า ว่ากันว่าราชาอินทรีย์มังกรระดับสวรรค์นั้นสามารถฆ่ามังกรที่เพิ่งเกิดได้
มังกรพสุธาของเผ่ามังกรนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากเทอร์โรซอร์ไฟ แม้ว่าจะเทียบมังกรเพลิงและมังกรวารีไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่สัตว์อสูรทั่วไปจะเทียบได้
แต่ราชาอินทรีย์มังกรนั้นพิเศษ มันสามารถล่ามังกรพสุธาเป็นอาหารได้ นี่พอจะคิดภาพออกได้ว่ามันจะแข็งแกร่งแค่ไหน
และเพราะความแข็งแกร่งของราชาอินทรีย์มังกร ค่าหัวของถันเจี้ยนซวนจึงมากถึง 28 ล้านเครดิต มันทำให้กองทหารนับไม่ถ้วนต่างก็พากันคลุ้มคลั่ง
หลังจากที่คิดอยู่สักพัก หวังเย่าก็ตัดสินใจ
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะทั้งสามคน ทางเดียวที่เขาจะรอดก็คือหนี
แน่นอนว่าเขาสามารถใช้เงินซื้อชีวิตตัวเองได้ แม้ว่าทั้งสามคนจะเข้าไปในเมืองไม่ได้และไม่อาจจะใช้เงินพวกนี้ได้ แต่ถ้ากำชีวิตของหวังเย่าได้ ด้วยความมั่งคั่งของหวังเย่าแล้ว พวกเขาก็สามารถหาซื้อสิ่งของที่ไม่มีในป่าได้
แต่ใครจะรับประกันได้ว่าถ้าหากสามคนนี้ได้ของที่ต้องการแล้ว จะยอมปล่อยเขาไป ? ยังไงซะ พวกโจรก็เชื่อถือไม่ได้ โดยเฉพาะพวกที่เคยฆ่าคนมาก่อน
“พวกนายสามคน ฉัน…” หวังเย่าเปิดปากพูดขึ้นมาด้วยท่าทีลังเล แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็แอบใช้สกิลของการ์ฟิลด์และหงอคง
เขากระโดดขึ้นไปสูงกว่า 200 เมตรก่อนจะเหยียบกิ่งไม้ที่สูงกว่า 100 เมตรแล้วถีบยตัวออกไปทันที
“แกกล้าหนีงั้นหรือ ฉันคิดว่าแกคงได้ใจไปหน่อยแล้ว” เสียงของถันเจี้ยนซวนดังก้องขึ้นมา
ทั้งสามคนจะปล่อยให้หวังเย่าหนีรอดไปต่อหน้าต่อตาได้ยังไง แม้ว่าพวกนั้นจะคิดไม่ถึงว่าหวังเย่าจะหนีก็ตาม
ทั้งสามรีบไล่ตามไปทันที
ผีเสี่ยวเปียวฝึกวิชาตัวเบามา เขากระโดดได้สูงกว่า 100 เมตร แค่พริบตาเขาก็กระโดดขึ้นไปบนต้นไม้และไล่ตามหวังเย่าไป แต่ความเร็วของเขาก็ด้อยกว่าหวังเย่าเล็กน้อย
ส่วนเกาเฉียงวิ่งอยู่ที่พื้น เขาเองก็แข็งแกร่ง เพราะเขาเคยเป็นทหารมาก่อน
ถันเจี้ยนซวนเป็นคนสุดท้ายที่เคลื่อนไหว สายตาของเขาแสดงท่าทีเยาะเย้ยออกมา
เขาไม่เชื่อว่าจะมีใครหนีจากเขาไปได้ หากเป็นผู้ตรวจสอบ 3 ดาวรึสูงกว่านั้น ก็คงมีโอกาสที่จะเป็นเช่นนั้นแต่สำหรับเด็กน้อยอย่างหวังเย่าแล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้
เขาได้เรียกราชาอินทรีย์มังกรออกมาข้างกาย ปีกของมันราวกับแสงอันมืดมิดในยามค่ำคืน กรงเล็บของมันฝังลงไปที่พื้น ตัวของมันใหญ่พอ ๆ กับวิลล่าหลังใหญ่หลังหนึ่งเลยก็ว่าได้
พรึ่บ !
เสียงกระพือปีกดังขึ้นพร้อมกับราชาอินทรีย์มังกรที่กางปีกออก ปีกของมันยาวกว่า 66 เมตร มันไม่ต่างอะไรจากกระสวยอวกาศขนาดเล็กเลย
“ไล่ตามไป” ถันเจี้ยนซวนกระโดดขึ้นไปที่หลังของราชาอินทรีย์มังกร ก่อนที่มันจะบินออกไปทันที
ราชาอินทรีย์มังกรกระพือปีกก่อนจะพุ่งออกไปชนกับกิ่งไม้ กิ่งไม้ไม่อาจจะทนรับแรงชนนี้ไหวและหักออกในทันที กิ่งไม้รอบ ๆ ถึงกับสั่นไหวเพราะแรงลมจากตัวมัน
ราชาอินทรีย์มังกรไม่ได้สนใจกิ่งไม้ที่ขวางทาง มันพุ่งขึ้นไปบนฟ้าโดยหักกิ่งไม้ที่ขวางทางออก
เมื่อได้ยินเสียงจากด้านหลัง หวังเย่าก็ใจสั่น เขาไม่กล้าที่จะลังเล และใช้พลังทั้งหมดที่มีออกมา
“อันตรายของภูเขาผลไม้เหมือนจะไม่เท่ากับอันตรายของสามคนนี้เลย ยังไงซะราชาอินทรีย์มังกรก็เลเวล 60 ต้นไม้ทั่วไปไม่อาจจะเป็นอันตรายต่อมันได้”
หวังเย่าเข้าใจความแข็งแกร่งของสิ่งมีชีวิตทุกแบบได้ เพราะก่อนหน้านี้เขาได้ไปที่ตลาดและตรวจสอบราคาของวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ได้มาจากต้นไม้เหล่านี้
“มันอยู่ตรงนั้น” ตอนนั้นเองถันเจี้ยนซวนและราชาอินทรีย์มังกรก็มาอยู่ที่เหนือหัวหวังเย่าแล้ว
เพราะมีต้นไม้นับไม่ถ้วนในป่า ราชาอินทรีย์มังกรจึงไม่ได้พุ่งลงมาที่ป่า ยังไงซะขนาดของมันก็ใหญ่เกินไป มันจะทำให้เกิดปัญหาในการไล่ตาม
สำหรับเกาเฉียงแล ผีเสี่ยวเปียวแล้ว ทั้งสองยังอยู่ห่างออกไปเกือบ 1 กิโลเมตร
แต่หากยังหนีต่อไปแบบนี้ พวกนั้นคงจะตามทัน
หวังเย่าใจหล่นวูบ เขาทำการคำนวณและพบว่าไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
เมื่อหนีออกจากภูเขาผลไม้ไป เขาก็จะไม่มีที่ให้หลบและจะกลายเป็นเป้าเดินได้แทน
ทางเข้ามิติผลไม้นั้นอยู่ห่างจากพื้นหลายกิโลเมตร แม้ว่าเขาจะกระโดดได้สูงสัก 400-500 เมตร แต่มันก็ยังยุ่งยากอยู่ดี แม้ว่าจะมีสกิลของการ์ฟิลด์ที่ทำให้เขาบินขึ้นสูงได้อีก แต่มันก็ยังไปไม่ถึงทางเข้าอยู่ดี
ยิ่งกว่านั้นหวังเย่าก็ไม่อยากเข้าไปในมิติผลไม้ เพราะมันเท่ากับหนีเสือปะจระเข้
ตอนนี้ทางรอดเดียวของเขาคือต้องพึ่งโชครวมถึงความอดทน เขาได้แต่วนไปมารอบภูเขาผลไม้โดยหวังว่าจะผลาญเรี่ยวแรงของทั้งสามคนและสลัดทั้งสามคนจนหลุดได้
“ถ้าฉันใช้ลูกแก้ววิญญาณดินได้ ฉันคงหนีได้” เมื่อไม่รู้ว่าต้องหนีไปอีกนานแค่ไหน อยู่ ๆ หวังเย่าก็มีความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัว