ตอนที่ 185 : เตรียมซุ่มโจมตี
เมื่อได้ยินว่าหวังเย่าจัดการทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว เหล่าหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่เขาอีกครั้งหนึ่งอย่างตกตะลึง
เมื่อหวังเย่าเห็นแบบนั้นแล้วจึงพูดขึ้นมา “สำหรับประสบการณ์อันเลวร้ายของพวกเธอ ฉันรู้สึกเสียใจด้วย แต่ตอนนี้พวกเธออย่าเพิ่งชะล่าใจไป เพราะถึงฉันจะช่วยทุกคนเอาไว้ได้ แต่ก็ยังมีถันเจี้ยนซวน, เกาเฉียงและผีเสี่ยวเปียวอยู่ อีกไม่นานสามคนนั้นก็คงจะกลับมาที่นี่ ฉันคงพาพวกเธอหนีไปไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ”
“นายจะขอโทษทำไม ? นายช่วยพวกเราไว้ นายคือผู้มีพระคุณของเรา“ หลิงชิงซวินพูดขึ้น น้ำเสียงของเธอดูเคารพ หวังเย่าอย่างมาก
หญิงสาวคนอื่น ๆ ก็พากันขอบคุณเช่นกัน
หวังเย่าโบกมือ พูดกันตามตรง เรื่องพวกนี้เขารับมือไม่เก่งนัก นอกจากเขาแล้ว ก็ไม่มีผู้ชายคนอื่นอยู่ที่นี้อีก
อีกทั้งหญิงสาวเหล่านี้ก็เจอกับเรื่องเลวร้ายมา ตอนนี้ทุกคนต้องพึ่งเขา ฉะนั้นเขาต้องระวังคำพูดและการกระทำของตัวเองให้ดีกว่าเดิมขึ้นมาอีกมาก
“ฉันจะพาพวกเธอไปยังที่ปลอดภัยก่อน” หวังเย่ากัดนิ้วตัวเองก่อนจะหยดเลือดลงไปที่ลูกแก้ววิญญาณไฟเพื่อทำสัญญา
ไม่นานเขาก็รู้สึกได้ถึงพลังไฟอันบริสุทธิ์ในลูกแก้ววิญญาณไฟ มันเรียกได้ว่าราชาแห่งไฟก็ว่าได้
เพียงแค่คิด พลังไฟรอบตัวในระยะหลายร้อยเมตรในตะเกียงและคบไฟต่างก็ดับลง จนทำให้ที่นั่นตกสู่ความมืดมิดในทันที
หวังเย่าดีดนิ้วก่อนจะมีลูกไฟลูกเล็ก ๆหลายสิบลูกก่อตัวขึ้น และพุ่งใส่บ้านไม้หลังต่าง ๆ
ไม่นานหุบเขานั้นก็กลายเป็นทะเลไฟขึ้นมา มันราวกับคบไฟยามค่ำคืนที่ส่องสว่างถึงท้องฟ้า แม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรก็ยังมองเห็นได้
….
อินทรีย์ดำตัวใหญ่ที่ปีกยาวกว่า 33 เมตรและบินอยู่ในระดับความสูง 1 กิโลเมตรได้พุ่งไปที่นั่นด้วยความเร็วสูง
บนหลังของมันมีชายฉกรรจ์ 3 คนนั่งอยู่ แม้ว่าพวกเขาจะแสดงท่าทีใจเย็นออกมาแต่สายตาของพวกเขาก็ยังสะท้อนความกังวลออกมา
“น้องซ่ง นายทนเอาไว้ อีกแค่ 10 นาที ฉันก็จะกลับไปช่วยนายได้” ถันเจี้ยนซวนพึมพำออกมา
“หัวหน้า น้องซ่งเจอปัญหาอะไรกัน ? ” ผีเสี่ยวเปียวดูร้อนใจ พวกเขาต้องมุ่งหน้าไปที่มิติผลไม้ โดยให้ซ่งฉ่านดูแลที่ฐาน
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ฉันรู้แค่ว่าขนนกสีดำของเขาส่งสัญญาณเตือนออกมา ฉันรู้จักเขาดี หากไม่ถึงที่สุดแล้ว งั้นเขาคงไม่ทำแบบนี้” ถันเจี้ยนซวนรู้สึกเสียใจขึ้นมา ความจริงแล้วเขาอยากให้ซ่งฉ่านเดินทางไปกับเขาด้วย โดยให้คนอื่นคอยดูแลที่ฐานแทน แต่ซ่งฉ่านนั้นกลัวตายและไม่กล้าเข้าไปในมิติผลไม้ ดังนั้นซ่งฉ่านจึงปฏิเสธข้อเสนอของเขา
“รึว่าพวกผู้หญิงก่อเรื่องกัน ? ” เกาเฉียงเลียปากและแสดงท่าทีหื่นกระหายออกมา “พวกเธอแสร้งทำเป็นอ่อนแอ พอพวกเราออกมาก็ก่อเรื่องขึ้นงั้นหรือ”
“ตัดความเป็นไปได้นี้ออกไปเลย เราฆ่าอสูรของพวกเธอไปแล้ว ตอนนี้แค่ตบเบา ๆ พวกเธอก็ตายแล้ว” ถันเจี้ยนซวนพูดขึ้น “รึว่า…” เขาขมวดคิ้วและพูดขึ้น “รึว่าจะเป็นคนนอก มันอาจจะเป็นไอ้เด็กเมื่อวานนี้ เด็กนั่นแข็งแกร่งและหนีเราไปได้”
“ถ้าเป็นไอ้เด็กนั่น ฉันสาบานเลยว่าจะถลกหนังมันทั้งเป็น” เกาเฉียงกำหมัดและพูดขึ้น
ในตอนที่พวกเขาพูดนั้น พวกเขาก็เดินทางกันไปได้หลายสิบไมล์แล้ว
“หัวหน้า นั่นอะไรกัน ? ” ผีเสี่ยวเปียวเห็นสิ่งผิดปกติจึงตะโกนถามออกมา
ถันเจี้ยนซวนมองตามก่อนที่จะมีสีหน้าจะอึมครึมทันที
เกาเฉียงสบถออกมา “นี่มันเกินกว่าที่เราคาดเอาไว้ซะอีก”
“ถ้าฉันจับคนที่ทำได้ ฉันจะเผามันทั้งเป็น” ถันเจี้ยนซวนกัดฟันแน่น
…
หวังเย่าใช้พลังของลูกแก้ววิญญาณดินในการหนีออกมา
อุโมงค์ใต้ดินที่เดินผ่านได้แค่คนเดียวได้ก่อตัวขึ้นมา เขาเดินนำหน้า โดยมีเหล่าหญิงสาวเดินตามมาด้านหลังพร้อมกับเก็บหินและดินที่ขุดมาได้ใส่ลงในกระเป๋ามิติ
แม้ว่าจะเก็บกระเป๋ามิติจากพวกโจรมาได้ 20-30 อัน แต่ก็ยังมีกระเป๋ามิติกว่า 200 อันจากทหารรับจ้างที่ถูกพวกโจรฆ่าไปอีก
ด้วยกระเป๋ามิติเหล่านี้ เขาก็สามารถเก็บดินและหินที่ขุดใส่ลงในกระเป๋ามิติได้ ด้วยพื้นที่หลายสิบลูกบาศก์เมตรของกระเป๋ามิติ ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาสร้างทางเดินที่ไกลขึ้นมาได้
ประมาณ 7-8 ไมล์ต่อมา หวังเย่าก็ได้ขุดพื้นที่โล่งเพื่อให้ทุกคนได้หยุดพัก
“พวกเธอใส่หมวกนี่ไว้ มันน่าจะอยู่ได้หลายชั่วโมง” หวังเย่าหยิบหมวกออกมากว่า 200 ใบ ส่วนใหญ่เป็นหมวกที่มีเครื่องออกซิเจน ในใต้ดินนี้ พวกหญิงสาวไม่มีอสูรกับตัว หากไม่มีอากาศหายใจคงยากที่จะรอดไปได้
หวังเย่าได้วิ่งกลับไปที่ทางเดิมก่อนจะทำการปิดช่องทางใต้ดินเอาไว้
จากนั้นหวังเย่าก็กลับมายังที่พัก เขาได้ขุดโพรงเอาไว้อีกหลายโพรง แต่ละโพรงนั้นมีทางเลี้ยวมากมาย หากมองคงไม่อาจจะเห็นทางตันได้ เพราะมันราวกับเขาวงกต นอกจากนี้เขายังติดตั้งกับดักเอาไว้ด้วย
ด้วยความช่วยเหลือจากลูกแก้ววิญญาณดินแล้วเขาก็จัดการทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย ไม่ถึง10 นาทีเขาก็สามารถขุดโพรงขึ้นมาได้ 5 โพรงและติดตั้งกับดักไปกว่า 10 อัน
กับดับเหล่านี้เป็นกับดักง่าย ๆ เขาขุดหลุมเอาไว้ เมื่อตกไปที่หลุมนี่ก็จะโดนดาบด้านล่างเสียบทันที
สุดท้ายหวังเย่าก็ลบร่องรอยทั้งหมด ก่อนจะไปซ่อนตัวยังโพรงที่ขุดขึ้นมาใหม่ พร้อมกับนั่งตรวจสอบสถานการณ์ภายนอก
เขาเชื่อว่าสามคนนั้นจะกลับมาถึงที่นี้ไม่เกิน 3 ชั่วโมงอย่างแน่นอน และผีเสี่ยวเปียวจะต้องออกตามหาร่องรอยของเขาเป็นแน่
และตอนนั้นเขาก็คงพาพวกผู้หญิงไปยังที่ปลอดภัยแล้ว ยังไงซะสองคนที่เหลือคงไม่สามารถลงมาใต้ดินได้ง่าย ๆ
ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว
“สามคนนั้นกลับมาแล้ว” ตือโป๊ยก่ายได้เปลี่ยนเป็นเงาขึ้นไปอยู่ที่พื้นดินเพื่อเป็นตัวสังเกตการณ์ให้กับหวังเย่า
“กลับมาแล้วงั้นหรือ ? ” หวังเย่าแปลกใจและกังวลนิด ๆ ยังไงซะเขาก็เป็นคนพาพวกหญิงสาวหนีออกมาและฆ่าลูกน้องของพวกเขาไป