ตอนที่ 205 : สิ่งแปลกปลอม
หวังเย่าค่อย ๆ เดินหน้าพร้อมกับเก็บก้อนหินและดินเข้าไปในกระเป๋ามิติอย่างเบามือ ระยะทางที่ใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีกลับกินเวลาไปถึง 2 นาที
โชคดีที่ความอดทนนี้คุ้มค่าเพราะมันไม่ทำให้เกิดเสียงดังขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นพวกไทแรนโนซอรัสจึงยังไม่รู้ตัว
หวังเย่ากลั้นหายใจและให้ตือโป๊ยก่ายเปลี่ยนร่างเป็นหมอกดำซึ่งสามารถจับต้องสิ่งของได้
ตือโป๊ยก่ายค่อย ๆ เดินหน้าไปหาไข่ ก่อนจะใช้สกิลหมอกดำนั้นพันรอบไข่เอาไว้
เพราะระยะห่างที่ไม่ไกลนักจึงทำให้ตือโป๊ยก่ายขนไข่มาถึงมือของหวังเย่าได้ด้วยเวลาแค่ 10 วินาที
หวังเย่ารับไข่มาและรู้สึกว่าไข่นี่มันหนัก แต่ในใจเขากลับรู้สึกตื่นเต้นไปกับความสำเร็จนี้ !
“ไข่ไทแรนโนซอรัสนี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ไข่ใบเดียวอาจจะหนักถึง 200-300 กิโลกรัมเลยก็ว่าได้” หวังเย่าใช้สกิลของหงอคงจึงทำให้มีแรงมากพอที่จะยกมัน จากนั้นเขาก็รีบเก็บไข่เข้าไปในกระเป๋ามิติทันที
เพราะไม่อาจจะส่งเสียงได้ หวังเย่าจึงยืนนิ่งแต่ใจเขากลับเต้นรัวเพราะความตื่นเต้น
หลังจากที่ส่งไข่ถึงมือหวังเย่าแล้ว ตือโป๊ยก่ายก็กลับไปทำงานต่อราวกับเป็นผึ้งงาน มันคอยขนไข่ที่ใกล้ที่สุดมาให้หวังเย่าด้วยความระมัดระวัง
ไม่นาน…ไข่ใบที่สองก็มาถึงมือหวังเย่า จากนั้นก็ใบที่สาม, สี่….
หน้าผากของหวังเย่าชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขากังวลว่าไทแรนโนซอรัสตัวเมียทั้งสามจะรู้ว่าไข่โดนขโมย
“ถ้าฉันใช้สกิลของตือโป๊ยก่ายได้นะ”
ตอนนี้ตือโป๊ยก่ายมี 3 สกิลซึ่งก็คือกลืนแสง, ขโมยเงาและแทรกแซง แต่เพราะคุณสมบัติของตือโป๊ยก่ายนั้นพิเศษเกินไป หวังเย่าจึงไม่อาจจะใช้สกิลของมันได้
5 นาทีต่อมา หวังเย่าก็ได้ไข่มา 16 ใบ ตอนนี้เขาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
มันจะดีแค่ไหนหากเขาขโมยไข่ทั้งหมดมาได้ยกเว้นแค่ไข่สามใบที่ไทแรนโนซอรัสกกอยู่ จากนั้นเขาก็จะหนีไปโดยที่พวกมันไม่รู้ตัว
แต่ตอนนั้นโชคของเขาเหมือนจะหมดลง ตอนที่ตือโป๊ยก่ายกำลังจะขนไข่ใบที่ 17 ไทแรนโนซอรัสตัวหนึ่งก็เหมือนรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ มันหันกลับมามองและพบว่ามีไข่ใบหนึ่งลอยอยู่ โดยมีหมอกดำพันรอบไข่เอาไว้รวมไปถึงรูด้านหลังกำแพงซึ่งมีสิ่งมีชีวิตรูปร่างประหลาดอย่างหวังเย่ายืนอยู่ที่นั่น เมื่อเห็นแบบนั้นมันก็ได้คำรามออกมาทันที
ไทแรนโนซอรัสตัวนั้นได้คำรามออกมาเสียงดัง ทำให้ไทแรนโนซอรัสทั้งหุบเขาต่างก็ตกใจกับเสียงคำรามนี้ พวกมันรีบแห่กันมาที่นี่ทันที
สีหน้าของหวังเย่าเปลี่ยนไปทันที เขาถูกพบตัวแล้ว !
งั้นก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่อ !
เขาใช้สกิลของการ์ฟิลด์พุ่งไปหาตือโป๊ยก่าย เขารีบเก็บไข่เข้าไปในกระเป๋ามิติก่อนที่จะพุ่งไปยังไข่อีก 2 ใบแล้วรีบเก็บมันทันที
เมื่อเขาเคลื่อนที่อีกครั้งเขาก็รู้สึกว่าเขาติดอยู่กับที่
หวังเย่าใช้พลังธรรมชาติของหงอคงสลัดแรงที่จำกัดตัวเขาได้แต่ต่อมาเขาก็โดนตรึงอีกครั้ง หวังเย่าได้ใช้พลังธรรมชาติเพื่อสลัดพลังตรึงออกไป
ไทแรนโนซอรัสตัวเมียทั้งสามไม่อาจจะใช้สกิลตรึงได้สำเร็จนั้นต่างก็พากันลุกขึ้นยืนเพื่อจะพุ่งเข้าใส่เขา
แม้ว่าถ้ำนี้จะเล็กแต่ก็เพียงพอที่ไทแรนโนซอรัสจะใช้สกิลพุ่งชนได้
หากโดนโจมตี หวังเย่าก็คงกระเด็นไปฝังกับกำแพงถ้ำ ถึงเขาจะไม่ตายแต่แน่นอนว่าต้องบาดเจ็บสาหัส
หวังเย่าหน้าเสีย เขาไม่คิดเลยว่าไทแรนโนซอรัสจะเด็ดขาดเช่นนี้ เขาสลัดสกิลตรึงออก เมื่อไทแรนโนซอรัสยังไม่ใช้สกิลพุ่ง เขาก็พุ่งไปยังไข่อีก 2 ใบก่อนจะสร้างพายุเพื่อพัดไข่อีก 2 ใบเข้ามาหาตัว และเก็บเข้ากระเป๋ามิติ
หวังเย่าอยากเก็บไข่อีก 3 ใบที่เหลือแต่ไม่มีเวลาแล้ว เพราะตอนนี้ไทแรนโนซอรัสทั้งสามตัวได้พุ่งเข้ามาหาเขาแล้ว
หวังเย่าใจสั่น เขาไม่กล้าจะเสี่ยงอีกต่อไปและพุ่งเข้าไปในโพรงโดยไม่กล้าหันกลับมามอง พร้อมกับโจมตีไปที่ด้านหลัง
“กรร ! ”
ไทแรนโนซอรัสทั้งสามคำรามออกมาด้วยความโกรธ ด้วยเสียงคำรามนี้ต่างก็ทำให้ไทแรนโนซอรัสทั้งหุบเขารู้ตัว ไทแรนโนซอรัสที่ลาดตระเวนอยู่ก็วิ่งกลับมาก่อนจะรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
ในมุมมองของพวกมันแล้ว ตราบใดที่เฝ้าด้านนอกหุบเขาเอาไว้ ก็คงไม่มีใครเข้าออกและขโมยไข่ของพวกมันได้ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกมันมาขุดถ้ำไว้ที่ส่วนลึกของภูเขาแบบนี้
แน่นอนว่าถึงจะป้องกันแน่นหนาแค่ไหน แต่หวังเย่าก็ยังลักลอบเข้ามาได้
“โชคร้ายที่ฉันไม่ได้ไข่อีก 3 ใบที่เหลือ”
ในตอนที่หนีออกมานั้นหวังเย่าก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา แต่เดิมแล้วเขาก็คิดจะขโมยไข่มาทั้งหมด 24 ใบ สำหรับไข่ 3 ใบที่ฟักอยู่นั้นไม่ได้ถูกนับรวมด้วย แต่การที่ได้ไข่มา 21 ใบนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอยู่
“ ครั้งนี้ฉันพาคนมามิติดวงจันทร์ 31 คน ตอนนี้ภารกิจเสร็จไป 2 ใน 3 แล้ว ฉันแค่ต้องหาไข่ที่เหมาะสมอีก 10 ใบก่อนจะเดินทางกลับ ”
หวังเย่าพอใจอย่างมากกับผลลัพธ์นี้
ไม่นานเขาก็หนีออกมาจากภูเขานั้นได้แต่ว่าพื้นที่โดยรอบรายล้อมไปด้วยอาณาเขตของสัตว์อสูร เป็นธรรมดาที่เขาไม่อาจจะเดินทางบนพื้นดินได้
“ งั้นก็ต้องลงไปใต้ดิน !”
นี่มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหวังเย่าเลย
เขาขุดอุโมงค์ใต้ดินยาวกว่า 10,000 เมตรก่อนจะกลับขึ้นมาที่พื้นผิวดิน ตอนนั้นเขาพบว่าเขาอยู่ห่างจากหุบเขาออกมา 20 ไมล์แล้ว แม้ว่าการตรวจตราของไทแรนโนซอรัสจะแน่นหนาแค่ไหนแต่ก็ไม่อาจจะดูแลถึงระยะที่ไกลขนาดนี้ได้
ดังนั้นเขาจึงกลับขึ้นมาที่พื้นดินก่อนจะรีบเดินทางกลับไปยังทางออกของมิติดวงจันทร์ทันที