ตอนที่ 240 : ทำสัญญากับอสูรผึ้ง
แม้ว่าจะฟักผึ้งพวกนี้ออกมาได้แต่หวังเย่าก็ไม่ได้รีบฟักมันออกมา
ด้วยการที่มีระบบในมือ การฟักมันก็กินเวลาแค่ไม่กี่นาทีแต่เพื่อจะหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นตกใจและให้มันดูสมเหตุสมผลจึงทำให้เขาต้องรอต่อไป
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาก็เป็นเวลา 5 โมงเย็น หวังเย่าก็ยังคงเอาแต่ฝึกทักษะพายุสังหารในห้องต่อ
สายรัดข้อมือตัวตนนั้นใช้พลังงานแค่เพียงเล็กน้อยและสามารถบอกเวลาได้
ระหว่างนี้ฟ่านฉิงหมยไม่ได้ไปไหนเลย หลังจากฝึกทักษะดาบจนเหนื่อย เธอก็จะนั่งลงบนพื้นหญ้าเพื่อพักฟื้นพลังพลางชมวิวทิวทัศน์ของมิติป่าไปด้วย
“เกือบแล้ว” หวังเย่าหยุดทำความเข้าใจทักษะก่อนจะลุกขึ้นยืนและบิดขี้เกียจเล็กน้อย เขาทำหัวให้โล่งเพื่อที่จิตใจจะได้ผ่อนคลาย
จากนั้นเขาก็ใช้ระบบตรวจสอบ ซึ่งระบบก็ตรวจเจอเป้าหมาย และหมายความว่าไข่นี้พร้อมฟัก
“ยืนยันการฟัก”
แค่เพ่งสมาธิมองไปที่ไข่ผึ้งก็เกิดแสงสีทองส่องประกายขึ้นมา จากนั้นไข่ผึ้งก็ค่อย ๆ ขยับและแตกออกเผยให้เห็นดวงตาที่มองออกมายังโลกภายนอกด้วยความสงสัย
ผึ้งแปดปีกเลเวล 1 หัวของมันมีขนาดเล็กมาก ใหญ่ไม่เท่านิ้วโป้งเลยด้วยซ้ำ ปีกทั้งสี่คู่ของมันดูเปราะบางและคม มันพยายามกระพือปีกบินอยู่หลายครั้งจนสุดท้ายก็บินขึ้นไปได้ แต่บินได้สูงแค่ 1 เมตร มันก็ร่วงลงมา
ด้วยเลือดจากหวังเย่าที่ฟักมันออกมา เมื่อมันเห็นหวังเย่ามันจึงรู้สึกได้ถึงความผูกพัน มันรีบไปหาหวังเย่าและคลอเคลียเขาแสดงท่าทีประจบออกมา บ่งบอกว่ามันหิว
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะจับมันขึ้นมาดูและพบว่ามันดูน่ารักและดูเร่อร่าอีกด้วย
แต่เมื่อมันอ้าปากออกมาก็พบกับฟันสองแถวที่คมกริบ ฟันที่สามารถกัดกระดูกให้ขาดจากกันได้ แน่นอนว่าตอนนี้มันคงกินได้แค่กระดูกอ่อน หากโตไปก็คงกินกระดูกแข็ง ๆ ได้
เป็นธรรมดาที่หวังเย่าจะไม่ให้อะไรมันกิน หนึ่งคือเขายังไม่ได้เตรียมอาหารเอาไว้ สองคือเขาไม่อยากเพิ่มเลเวลให้มัน ไม่อย่างนั้นจะทำสัญญาไม่ได้
เขาวางมันลงไปที่พื้นและทำการตรวจสอบไข่ที่เหลือต่อ พร้อมกับทำการฟักไข่ประมาณ 10 ใบต่อนาที
เมื่อฟักไข่ออกมาได้ 300 ฟอง เขาก็รู้สึกเหนื่อยซึ่งเกิดจากการเสียเลือด หากเสียเลือดแค่หยดเดียวเขาคงไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่การเสียเลือดไปเรื่อย ๆ แบบนี้ก็ส่งผลกับร่างกายเขาได้อยู่
หวังเย่าเอาผลเลือดออกมา เขาใช้เล็บจิกเข้าไปในผลก่อนที่จะมีหมอกเลือดกระจายออกมา หวังเย่ารีบสูบเข้าไปทันที ในพริบตาเขาก็รู้สึกว่าสภาพร่างกายของเขาดีขึ้นทันที
ผลเลือดนี้ถูกปิดรูเอาไว้ มันจึงไม่อาจจะแผ่หมอกเลือดออกมาได้อีก เขาไม่ได้กลัวว่ามันจะเสียเปล่าแต่เขาก็กังวลว่าพวกผึ้งที่ฟักขึ้นมาจะสูดดมหมอกนี้เข้าไป หมอกนี่นั้นบริสุทธิ์และมีคุณภาพสูง มันง่ายที่จะทำให้พวกนี้เพิ่มเลเวลได้
ประมาณ 6 โมงเย็นในที่สุดหวังเย่าก็ฟักไข่ออกมาได้กว่า 1,000 ใบ เขาไปยังบ้านหลังหนึ่งก่อนจะปล่อยผึ้งไว้ในบ้านหลังนั้น
“โชคดีที่ประตูห้องน้ำปิดอยู่ ไม่งั้นแล้วตอนเข้าห้องน้ำคงต้องกังวลแน่ ๆ ”
หวังเย่าค่อย ๆ เดินออกจากบ้านก่อนจะเดินไปหาฟ่านฉิงเหมย “ ฉิงเหมย เธอไปบอกผู้ตรวจสอบทั้งสี่คนทีว่าเสร็จแล้ว ให้พวกเขามาได้ ”
ฟ่านฉิงเหมยพยักหน้าตอบรับและรีบไปแจ้งกับทั้งสี่คนทันที
5 นาทีต่อมาผู้ตรวจสอบทั้งสี่คนก็ได้มาถึง ดูแหมือนว่าไม่มีใครอยากจะมาช้า พวกเขาถึงกับเรียกทหารของตนเอง 250 คนมาด้วย
“หวังเย่า นายคงลำบากน่าดู” ฟ่านฉิงเหมยเห็นสภาพอิดโรยของหวังเย่าก็เป็นห่วงขึ้นมา
หวังเย่าโบกมือและพูดขึ้นมา “ไม่เป็นไรหรอก พักคืนเดียวก็หาย เธอบอกให้พวกเขานำคนไปทำสัญญากับมันเถอะ”
ผู้ตรวจสอบทั้งสี่ไม่รอช้า ฮวงเทียนเจวี๋ยนได้สั่งการออกมา “ตามที่เราตกลงกันไว้เมื่อวานนี้ วันนี้คนของฉันจะเข้าไปทำสัญญาก่อน”
คนอื่น ๆ ไม่ได้แย้งอะไร พวกเขารู้ว่าแย้งไปก็ไม่อาจจะเปลี่ยนผลลัพธ์ได้ สุดท้ายก็ได้เท่ากันอยู่ดี
ฮวงเทียนเจวี๋ยนยิ้มออกมาก่อนจะสั่งการลูกน้องตัวเอง “ตามที่จัดคิวเอาไว้ก่อนหน้านี้ พวกนายเข้าไปทีละ 25 คน หลังจากที่ทำสัญญาแล้วก็รีบออกมา อย่ามัวเสียเวลา”
“พวกนี้เตรียมการมาหมดแล้ว” หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะแปลกใจ
ฮวงเทียนเจวี๋ยนได้ส่งทหาร 25 คนแรกเข้าไปทำสัญญา
หลังจากที่ดูได้สักพัก หวังเย่าก็เข้าใจกฎว่าพวกนี้จะนำทหารมาด้วย 250 คนโดยแบ่งคิวเอาไว้ ซี่งแบ่งเป็น 10 กลุ่ม กลุ่มละ 25 คน
ตามที่ตกลงกันไว้ฮวงเทียนเจวี๋ยน, เฉี่ยนเจินเฉียน, จางจื้อเฉียงและไป๋พั่วหล้างจะสลับกันส่งคนของตัวเองเข้าไป
สำหรับว่าทำไมถึงทำแบบนั้นเหตุผลก็ง่าย ๆ ยกตัวอย่างเช่นถึงหมูจะออกลูกมา 10 ตัวแต่ก็ต้องมีทั้งตัวอ้วน, ผอม, ดูดีและน่าเกลียด
ดังนั้นหากได้เข้าไปเป็นกลุ่มแรกก็ยิ่งมีตัวเลือกในการเลือกทำสัญญากับผึ้งดี ๆ ก่อน
เพราะพวกที่พิการอาจจะสร้างปัญหาขึ้นมาทีหลัง พวกที่ร่างกายสมบูรณ์ก็อาจจะสร้างประโยชน์ขึ้นมาได้อีกมาก
คนที่ทำสัญญาเสร็จก็รีบออกมานอกบ้านทันทีแล้วไปนั่งศึกษาผึ้งที่เพิ่งทำสัญญากันมา พวกนั้นเอาขวดออกมาจากกระเป๋ามิติก่อนจะเทผงบางอย่างออกมาจากขวดนั่น
“กินซะ กินเยอะ ๆ แล้วโตไว ๆ ฉันหวังว่าแกจะพาฉันก้าวสู่สวรรค์” ทหารคนหนึ่งพูดกับผึ้งตัวเอง
หวังเย่าอยากจะหัวเราะ ทหารคนนี้หวังสูงเกินไปแล้ว
ไป๋พั่วหล้างโบกมือให้กับหวังเย่า เมื่อเห็นว่าหวังเย่าสนใจผงนั่น เขาก็อธิบายออกมา “นี่คือผงกระดูก มันได้มาจากการบดกระดูก วันที่พวกฉันกลับไปนั้น พวกฉันก็ปรึกษากันต่อ ทุกอย่างคิดมาอย่างดีแล้ว ผึ้งเลเวล 1 ไม่อาจจะกินกระดูกแข็ง ๆ ได้ ดังนั้นเราจึงส่งคนไปหากระดูกสัตว์อสูรจำนวนมากและนำไปที่โรงงานเพื่อบดมันให้เป็นผง”
“งั้นหรือ ? ” หวังเย่ากระจ่างทันที
ทั้งสี่คนนี้มีความคิดความอ่านที่น่าชื่นชมจริง ๆ พวกเขาวางแผนกันมาอย่างดี
ขั้นตอนการทำสัญญากับสัตว์อสูรนั้นง่ายดายอย่างมาก แต่มันนานเพราะต้องทำสัญญากับผึ้งเป็นพันตัว
จนกระทั่ง 4 ทุ่ม ผึ้งที่เพิ่งฟักออกมาในวันนี้ก็ถูกทำสัญญาจนครบ
“หวังเย่า นายไปพักเถอะ”
หวังเย่าและฟ่านฉิงเหมยนั่งอยู่นอกบ้านรอพวกทหารทำสัญญาพร้อมกับพูดคุยและฝึกฝนกัน
“เสร็จแล้วหรือ ? ” หวังเย่าได้ยินเสียงเรียกก็ลืมตาขึ้นมา
“เราขอตัวก่อน เราคงไม่รบกวนเวลาพักของนาย ไม่งั้นแล้วเราคงอดทนรอจนถึงพรุ่งนี้ไม่ได้แน่” เฉี่ยนเจินเฉียนตบไหล่หวังเย่าและหัวเราะออกมา
“งั้นผมขอไม่ไปส่ง” หวังเย่าลุกขึ้นก่อนจะพาฟ่านฉิงเหมยกลับเข้าไปในบ้านเพื่อพักผ่อน