ตอนที่ 252 : ทานอาหารด้วยกัน
ตอนบ่ายสามทุกคนก็พากันแยกย้ายกันไป
หวังเย่าไม่คิดที่จะอยู่ต่อ เขาไม่คิดจะอยู่พูดคุยกับคนอื่น ๆ และเดินออกมานอกลาน ในเมื่อเขาไม่มีแผนจะเข้าร่วมงานชุมนุม งั้นก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปลงทะเบียน เขาแค่ต้องซื้อตั๋วเพิ่ม เพื่อเข้าชมการประลองก็พอแล้ว
จากนั้น เมื่อเขาเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกคนด้านหลังหยุดเอาไว้
“ผู้ตรวจสอบหวังเย่า ไม่ทราบว่าคุณพอจะให้เกียรติฉันได้รึไม่ ? ”
หวังเย่าหันหน้ากลับไปมองและพบกับคนแปลกหน้าที่อายุราว ๆ 22-23 ปี ชายคนนี้ดูธรรมดา แต่มีกลิ่นอายที่แข็งแกร่ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่แสนสุภาพ
ชายคนนี้ยืนอยู่ตรงกลางระหว่างกลุ่มผู้ตรวจสอบและกลุ่มผู้บ่มเพาะสันโดษ ข้างกายของเขามีลูกน้องติดตามมาด้วย 2 คน พวกเขาสวมชุดสีดำและมีแววตาที่แหลมคม ดูแล้วไม่ธรรมดาเลย คาดว่าคงเป็นผู้คุ้มกัน
“คุณเรียกผมหรือ ? ” หวังเย่าถามขึ้นมา
“ผู้ตรวจสอบหวังเย่า ท่านนี้คือบุตรชายคนที่สามของท่านเจ้าเมือง” หนึ่งในชายชุดดำเดินนำก้าวหนึ่งและพูดขึ้นมา
ฟางซานปรายตามองชายผู้นั้นแวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวว่า “ ผู้ตรวจสอบหวังเย่า ฉัน ฟางซาน คืนนี้เรามีงานเลี้ยงที่บ้าน จึงอยากเรียนเชิญผู้ตรวจสอบและศิษย์สำนักลับที่โดดเด่นทุกคนมาร่วมงาน จากนี้ไปทุกคนต่างก็เป็นชาวเมืองหัวเซี่ยด้วยกัน และจะเจอหน้ากันมากขึ้น หากมีอะไรก็สามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ ดังนั้นเราจึงอยากเป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงกระชับมิตรขึ้นมา เพื่อที่ทุกคนจะได้รู้จักกัน ไม่รู้ว่าผู้ตรวจสอบหวังเย่าสนใจรึไม่ ? ”
ท่าทีของเขาดูเป็นมิตรอย่างมาก น้ำเสียงดูจริงใจ หวังเย่าจึงไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ โอกาสดี ๆ เช่นนี้เขาก็ไม่อยากพลาด เมื่อสำนักลับลงจากเขามาแล้ว งั้นคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะได้พบปะกันมากขึ้น
หวังเย่าคิดสักพักแล้วตอบกลับ “ผมไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว”
แต่ในใจกลับคิดว่า “ เคยได้ยินมาว่าท่านเจ้าเมืองมีลูกทั้งชายและหญิงอยู่ 3 คน ชื่อฟางอี้, ฟางเอ้อร์และฟางซาน ดูเหมือนว่านี่จะเป็นความจริง”
“งั้นเวลา 19.00 นาฬิกา เราจะให้คนขับรถไปรับ ” ฟางซานมองไปยังชายชุดดำที่อยู่ข้าง ๆ อีกฝ่ายได้ล้วงเอาบัตรเชิญออกมาและส่งให้หวังเย่าด้วยท่าทีสุภาพ
หวังเย่ารับไว้ด้วยความจริงใจ “ผมไม่พลาดงานนี้แน่”
“ดี” ฟางซานยิ้มรับ
หลังจากที่หวังเย่าจากไปแล้ว ฟางซานก็ยังคงไปเชิญคนอื่น ๆ ต่อ ท่าทีของเขายังคงเป็นเช่นเดิม
ตอนแรก บางคนอาจจะคิดว่าเขาเสแสร้ง แต่เขาก็ยังรักษาท่าทีเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จนคนหลายคนเปลี่ยนความคิดว่านี่คือนิสัยที่แท้จริงของเขา
หลังจากนั้น หวังเย่าก็เดินไปหาจ้าวเมิ่งซีและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไปกันเถอะ เธอซื้อของมาเยอะไม่ใช่รึไง วันนี้เราจะฉลองกันไม่ใช่หรือ ? ”
ตอนแรกหวังเย่าจะจองร้านอาหารเพื่อฉลองให้กับสมาชิกใหม่ แต่เพราะงานชาติในวันนี้และการมาของสำนักลับจึงทำให้ร้านอาหารที่โด่งดังถูกจองเต็มหมด
อันที่จริงแล้วหากคิดดูดี ๆ ก็จะรู้ว่าการที่สำนักลับเหล่านั้นมาที่เมือง ทางเมืองคงไม่อาจจะดูแลทุกสำนักได้ ดังนั้นสำนักส่วนมากจึงติดต่อกับกองกำลังและตระกูลใหญ่ ๆ ในเมืองเพื่อร่วมมือกัน ฝ่ายกองกำลังและตระกูลใหญ่คงไม่พลาดที่จะอำนวยความสะดวกให้กับพวกเขา ดังนั้นการเลี้ยงอาหารเย็นจึงเป็นสิ่งจำเป็น
หวังเย่าไม่ได้รู้จักสำนักเหล่านี้ดีนักแต่ก็พอเดาได้ว่ามันคงมีสำนักทั้งใหญ่และเล็ก สำนักใหญ่คงมีศิษย์ไม่น้อยกว่าร้อยคน พวกเขาคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ส่วนสำนักเล็กก็คงต้องพึ่งตัวเอง
ด้วยการที่ทุกคนพากันกลับก็ทำให้การจราจรติดขัด มันไม่ง่ายเลยที่จะเดินทางมาถึงบริษัทสำรวจพื้นที่หัวเซี่ย จำกัด และการจะหาสถานที่จัดงานเลี้ยงก็เช่นกัน ปกติแล้วไม่จำเป็นต้องให้กลุ่มทหารรับจ้างทำเรื่องนี้ เพราะบริษัทมีหน้าที่คอยดูแลเรื่องนี้อยู่
หน้าที่ของกลุ่มทหารรับจ้างมีแค่ฝึก, เพิ่มความแข็งแกร่งและทำภารกิจเท่านั้น
หยางเสี่ยวหยวนยืนรออยู่ที่หน้าประตูตึก เมื่อเห็นหวังเย่าเดินทางเข้ามา หยางเสี่ยวหยวนก็รีบเข้ามาทักทายทันที “ประธานหวัง ผู้จัดการจ้าว สถานที่จัดงานอยู่ที่ชั้น 2 มีส่วนนั่งเล่นและบาร์ให้ รวมถึงอุปกรณ์สร้างความบันเทิงต่าง ๆ ทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ”
“นำทางไปได้เลย” หวังเย่าตอบกลับ
วันชาตินี้เป็นวันหยุดของทุกคน มันหยุดติดต่อกัน 3 วันจึงเป็นธรรมดาที่ตึกสำนักงานต่างๆจะว่าง พนักงานทุกคนต่างก็ใช้โอกาสนี้ในการกลับไปที่บ้านเพื่อพักผ่อน
แต่หวังเย่าได้จัดงานเลี้ยงขึ้นมาและบอกทุกคนว่า เขาหวังว่าทุกคนจะมางานเลี้ยงนี้
เมื่อมีอาหารฟรี จึงเป็นธรรมดาที่พวกพนักงานจะไม่ปฏิเสธ ต้องรู้ก่อนว่าแค่เนื้อสัตว์อสูรธรรมดาก็แพงอย่างมากเนื้อสัตว์อสูรขั้นลอร์ดก็ถือว่าเป็นที่สุดสำหรับพวกเขาแล้ว แต่หวังเย่าบอกว่าจะเลี้ยงเนื้อสัตว์อสูรขั้นราชาให้กับพวกเขา เนื้อพวกนี้แค่ขีดเดียวก็ราคาหลายร้อยเครดิตแล้ว หากกินมันเข้าไปก็จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย ของดีแบบนี้คงยากที่ใครจะปฏิเสธ
เมื่อมาถึงชั้นสองก็พบว่าหลงปู้หยู๋และคนอื่น ๆ กำลังขนพวกของใช้ในครัวอย่างกระทะ, หม้อและเตาปิ้งย่างรวมไปถึงพวกผลไม้และเครื่องดื่มต่าง ๆ
มันไม่ได้มีแค่เนื้อสัตว์แต่ยังมีผักผลไม้ต่าง ๆ ด้วย ยกตัวอย่างเช่นองุ่นและผลไม้อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีผลไม้จากมิติลับอยู่ด้วย รสชาติของพวกมันดีมาก ซึ่งเหมาะแก่กินเป็นของเรียกน้ำย่อย
เมื่อขนของออกมาจนครบ ทุกคนก็พากันจัดของรวมถึงลงมือทำอาหารด้วย หวังเย่าเองก็เข้าไปช่วยจัดผลไม้ด้วย
1 ชั่วโมงต่อมา อาหารส่วนมากก็ถูกเตรียมจนเสร็จ พวกเขากินไปคุยไป หวังเย่าได้ให้อั่งเปา รวมถึงแจกรางวัลให้กับทุกคน รางวัลแต่ละอย่างมีมูลค่าถึง 1 ล้านเครดิต ทำให้บรรยากาศครึกครื้นขึ้นมาอย่างมาก ทุกคนสนุกกับงานนี้เป็นอย่างมาก
“ เมิ่งเอ๋อร์ ฉิงเหมย พวกเธอกินกันต่อเถอะ ฉันต้องไปงานเลี้ยงที่ศาลาว่าการของเมือง ” ตอน 18.10 นาฬิกา หวังเย่าก็บอกกับสาวๆทั้งสองคน
เมื่อมันเป็นงานเลี้ยง จึงเป็นธรรมดาที่จะต้องมีการดื่ม หวังเย่าไม่อยากรบกวนคนอื่น ๆ จึงให้พวกเขาฉลองกันต่อ
“ประธาน เดินทางปลอดภัย”
“ประธาน อย่าดื่มมากล่ะ”
“หัวหน้า ระวังตัวด้วย”
“หัวหน้า รีบไปรีบกลับ”
…
ทุกคนพากันแสดงความเป็นห่วงออกมา หวังเย่ารู้สึกอุ่นใจอย่างมาก เขาหันกลับไปมองจ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมย ก่อนจะเดินออกมา