ตอนที่ 262 : ผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่ง
ผู้เข้ารอบทั้ง 100 คนนี้ต่างก็มาจากกองกำลังใหญ่ กองกำลังที่ยากจะหาใครเทียบได้
พวกเขาได้รับการฝึกฝนจากกองกำลังของตนรวมกับความโดดเด่นของตนเองแล้ว เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะเย่อหยิ่งมากกว่าคนทั่วไป
เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วสนาม ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นกับการปรากฏตัวของทั้ง 100 คนนี้
ยังไงซะพวกนี้ก็เป็นกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่จะฝากความหวังไว้ในอนาคต ไม่แน่ว่าพวกเขาอาจจะสร้างผลงานครั้งใหญ่ให้กับมนุษยชาติก็ได้…
“ดูคึกคักกันดี” เมื่อได้ยินเสียงปรบมือของทุกคน หวังเย่าก็ปรบมือตามไปด้วยเพราะเขารู้ว่าในอนาคตคนพวกนี้ต้องสู้เคียงข้างเขาในการเอาชนะสัตว์อสูรและทวงคืนแผ่นดินกลับมา พวกเขาจะต้องยอมเสียสละเพื่อมนุษย์และปกป้องมนุษย์เอาไว้
ทั้งร้อยคนนี้ราวกับตื่นเต้นกับเสียงปรบมือไปด้วย พวกเขาพากันใจเต้นรัวและพากันยืดอกอย่างภาคภูมิใจ
ฟางฉิงหัวเห็นแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะสบายใจขึ้นมา
ไม่นานหลังจากที่เสียงปรบมือเงียบลง ทั้งสนามก็กลับคืนสู่ความเงียบอีกครั้ง
“ จากนี้ไปจะเป็นการแบ่งกลุ่ม ดูที่จอได้”
ทันทีที่ฟางฉิงหัวพูดจบ เฮลิคอปเตอร์ก็ทำการฉายภาพทั้งสี่จอออกมา
จากนั้นก็มีรายชื่อของทั้งร้อยคนปรากฏขึ้นมา รายชื่อพวกนั้นสลับกันไปมาก่อนที่สุดท้ายจะได้ตำแหน่งของมัน
“การต่อสู้แรก หลี่ฟาง VS หลิวหมิง”
“การต่อสู้ที่สอง เหยียนเฉิงเยว่ VS หลี่เย่”
“การต่อสู้ที่สาม เหล่ยอู่ฉวน VS ลู่หาน”
…
“การต่อสู้ที่ 48 หลงจั่วเทียน VS เซี่ยงหยาง”
…
รายละเอียดการต่อสู้ในรอบแรกถูกฉายขึ้นมาบนจอซึ่งเป็นสัญญาณการเริ่มต้นงานชุมนุมศิลปะการต่อสู้
“หัวหน้า บอกฉันหน่อยว่าใครมีโอกาสชนะมากที่สุด ? ” ลัวจ้าวฮว่าที่นั่งอยู่ด้านหลังได้ถามขึ้นมา
“มันยากจะบอกได้ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่ม คนพวกนี้ล้วนแต่แข็งแกร่ง ไม่มีใครบอกได้จนกว่าพวกเขาจะสู้กันจริง ๆ ”
“แต่ถ้าฉันเลือก โอกาสน่าจะเป็นของศิษย์จากสำนักเหล่านั้น ฉันว่าน่าจะเป็นเหล่ยอู่ฉวน” พี่หลงพูดขึ้นมา
“ฉันว่าหลงจั่วเทียนก็ประมาทไม่ได้ เขาเป็นถึงหนึ่งในสิบผู้เยาว์ที่โดดเด่น” หลงปู้หยู๋พูดขึ้น
หวังเย่าส่ายหน้า “ฉันคิดว่าตำแหน่งของทั้งสองคนแตกต่างกัน เหล่ยอู่ฉวนโด่งดังมาจาการฆ่าสัตว์อสูร หลงจั่วเทียนโด่งดังในเรื่องการเพาะปลูก เขาไม่น่าจะแข็งแกร่งอะไรมาก เขาน่าจะโดดเด่นในเส้นทางอื่น แน่นอนว่านี่แค่ความเห็นของฉัน ใครจะไปรู้ว่าเขาอาจจะปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้ ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังให้ค่าเหล่ยอู่ฉวนมากกว่า” หวังเย่ารู้ว่าทักษะระดับ 8 นั้นโดดเด่นแค่ไหน เขาได้รับรู้มันด้วยตัวเองแล้ว
“เมื่อหัวหน้าพูดแบบนั้น งั้นก็มารอดูกันว่าเหล่ยอู่ฉวนจะชนะการแข่งได้รึเปล่า”
หวังเย่ายิ้มออกมา นี่แค่ข้อสรุปที่เขาได้มาจากข่าวต่าง ๆ ในอินเตอร์เน็ต เขารู้ข้อมูลของเหล่ยอู่ฉวนและหลงจั่วเทียนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้รู้ข้อมูลเชิงลึกของพวกนี้ทั้งหมด
ในขณะที่พวกเขาพูดคุยกันนั้น พวกที่นั่งอยู่ในที่นั่งพิเศษก็พากันประเมินการต่อสู้และส่งเสียงเชียร์ออกมา
ที่เมืองอื่นเองก็ได้ดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันนี้เช่นกัน พวกเขาต่างก็พากันคอมเมนต์ออกความเห็นว่าใครจะชนะการแข่งนี้
ตอนนั้นเองฟางฉิงหัวที่อยู่บนเวทีก็ได้พูดขึ้นมา “เมื่อรายชื่อถูกประกาศออกมาแล้ว ฉันขอประกาศเริ่มต้นการชุมนุมศิลปะการต่อสู้อย่างเป็นทางการ คนที่แพ้ต้องตกรอบ”
ฟางฉิงหัวโบกมือพร้อมกับคลื่นพลังที่แผ่กระจายออกไป ผู้ชมด้านหน้ารับรู้ถึงพลังนี้อย่างชัดเจน พวกผู้เยาว์บนเวทีเองต่างก็พากันตะลึง
แม้ว่าฟางฉิงหัวจะเป็นคนเปิดเผยอยู่แล้วแต่ก็ยังทำให้ทุกคนต้องตะลึงได้กับพลังที่เขาแผ่ออกมา
ในฐานะเจ้าเมืองแล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะโด่งดังทั่วประเทศหัวเซี่ย ด้วยการที่ปกครองกองทัพทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงแกร่งเกินกว่าที่คนทั่วไปจะคาดถึง
ผู้เยาว์ทั้งร้อยคนมองไปที่เขาด้วยสีหน้าตกตะลึงก่อนที่จะพากันลงจากเวทีไป เพื่อไปยังห้องพัก
เหล่ยอู่ฉวนมองไปที่แผ่นหลังของฟางฉิงหัวตาไม่กระพริบ เขาเกิดแรงกระตุ้นขึ้นมาในใจ
ไม่ไกลจากนั้น หลงจั่วเทียนก็มองดูฉากนั้นอยู่เงียบ ๆ พร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมา
แม้แต่ชายหนุ่มหมวกดำที่กำลังเดินกลับไปที่ห้องพักก็ยังหันกลับมามองดูฉากนี้ด้วยความสนใจ
ไม่นานผู้เข้าแข่งขันทุกคนก็ลงจากเวทีไป เหลือแค่ผู้เข้าแข่งขันในการต่อสู้แรก หลี่ฟางและหลิวหมิง
ฟางฉิงหัวได้กลับไปยังที่นั่งของตัวเองและไปนั่งข้าง ๆ ฟางอี้
เขาแค่ต้องเปิดงานชุมนุม ส่วนเรื่องอื่นนั้นเขาปล่อยให้พวกกรรมการคอยจัดการ
ที่โซนแขกพิเศษนั้นทุกคนต่างก็เริ่มมาทักทายฟางฉิงหัว
ฟางฉิงหัวแค่พยักหน้าตอบรับเล็กน้อยก่อนจะเห็นท่าทีผิดปกติของลูกสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
เธอไม่ได้สนใจบนเวทีเลย เธอแค่มองออกไปทางหนึ่งพร้อมกับร่างที่สั่นเทาเล็กน้อยราวกับกำลังโกรธอยู่
เมื่อเห็นแบบนั้นเป็นธรรมดาที่ฟางฉิงหัวจะสนใจขึ้นมา ลูกสาวที่มักจะเฉยเมยกับทุกอย่างกลับมีท่าทีแบบนี้ได้
ฟางฉิงหัวสงสัยนิด ๆ เขาจึงมองตามสายตาของเธอไปก่อนจะพบกับหวังเย่าและคนอื่น ๆ สิ่งที่ทำให้เขาสนใจคือสองสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หวังเย่า
ตอนนี้ทั้งสองคนได้ควงแขนหวังเย่าเอาไว้พร้อมแสดงสีหน้าหาเรื่อง แต่เมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาของฟางฉิงหัวที่มองมายังพวกเธอ พวกเธอก็รีบหันหน้าหนีทันที
เมื่อเห็นแบบนั้นฟางฉิงหัวก็หันไปมองฟางอี้ เขาจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานได้ และสิ่งนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะครุ่นคิด