ตอนที่ 263 : ชายแก่ลึกลับ
แน่นอนว่าหวังเย่าไม่รู้สึกถึงสายตาของฟางฉิงหัวที่มองมา ถึงจะรู้สึกแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ
แม้ว่าจ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยจะดูผิดปกติ แต่หวังเย่าก็ไม่ใช่คนคิดอะไรมาก เขายังคงไม่สนใจสิ่งรอบข้างได้แต่จดจ่ออยู่กับเวทีประลอง
ฟางอี้มองหญิงสาวทั้งสองด้วยความหงุดหงิด เธอตัวสั่นจนใช้เล็บจิกลงบนเก้าอี้ เธอถึงกับทำให้มันหักได้ คนทั่วไปไม่อาจจะทำได้แน่
ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็เลือกที่จะเลิกสนใจและมองขึ้นไปบนเวที ยังไงซะถึงมองไปก็มีแต่จะหงุดหงิด หวังเย่าเองก็ยังแสดงท่าทีพอใจอีกด้วย
เธอกลัวว่าหากยังมองต่อไป เธอคงอดไม่ได้ที่จะพุ่งไปที่นั่น ตอนนั้นเธอคงทำลายภาพลักษณ์ของพ่อเธอไปอย่างน่าตกใจที่จู่ ๆ ลูกสาวเจ้าเมืองมาทำเรื่องแบบนี้ในงานชุมนุมศิลปะการต่อสู้
งานชุมนุมนี้คือเวทีให้ผู้หญิงสามคนแย่งผู้ชายกันรึไง
หากเรื่องนี้กลายเป็นข่าว มันก็คงดูไม่ดีเท่าไหร่…
ฟางฉิงหัวมองไปยังฟางอี้ เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หวังเย่า ก่อนจะเผยรอยยิ้มออกมา
“พ่อ มีอะไร ? ” ฟางอี้รู้สึกได้ถึงสายตาของฟางฉิงหัว เขามองมาที่เธอพร้อมกับรอยยิ้มมีเลศนัย
เธอยังคงโกรธและหงุดหงิดอยู่ หน้าของเธอแดงขึ้นมาซึ่งทำให้เธอยิ่งดูมีพิรุธเข้าไปใหญ่
พวกคนหนุ่มสาวรอบ ๆ ที่ไม่ได้สนใจการต่อสู้พากันหันกลับมามองเธอ สำหรับสายตาของคนพวกนี้ ฟางอี้ไม่ได้สนใจ เมื่อมองไปยังคนเหล่านี้ คนพวกนี้ก็ได้แต่ก้มหน้าเพื่อหลบสายตาเธอ
“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ดูการต่อสู้ไปเถอะ” ฟางฉิงหัวพูดขึ้นพร้อมหันกลับไปมองที่เวทีต่อ
แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ฟางอี้ก็ยังมองขึ้นไปบนเวที เธอไม่คิดจะหันกลับไปมองอีกทางเพื่อจะได้ไม่ต้องมีปัญหา
ในด้านหวังเย่า จ้าวเมิ่งซีและฟ่านฉิงเหมยได้ปล่อยมือจากแขนของเขาและมองไปที่เวทีอย่างใจเย็น
“เกิดอะไรขึ้นกัน ? ” ในหัวของหวังเย่าเต็มไปด้วยคำถาม แต่สุดท้ายเขาก็หันกลับไปสนใจที่เวทีต่อ
ตอนนั้นฟ่านฉิงเหมยและจ้าวเมิ่งซีก็แอบส่งสายตาให้กัน
“เราร่วมมือกันได้ดีเลย” ฟ่านฉิงเหมยพูดขึ้น
“ฉันเห็นผู้หญิงที่มีปัญหากับหวังเย่าแล้ว ดูจากสายตาของเธอ เธอน่ะดูผิดปกติ” จ้าวเมิ่งซีพูดขึ้น
ฟ่านฉิงเหมยตอบกลับ “ใช่ เรากดดันเธอได้สำเร็จ แต่ฉันว่ามันคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเธอ”
“ต่อไปเราต้องระวังกันให้มากกว่านี้” จ้าวเมิ่งซีพูดขึ้น
ทั้งสองเหมือนจะพูดคุยกันผ่านสายตาได้
แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เหมือนจะกินเวลานาน แต่อันที่จริงแล้วการต่อสู้เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเอง
….
เมื่อฟางฉิงหัวลงจากเวทีไปได้ไม่นานก็มีชายแก่คนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาราวกับว่าเขายืนอยู่ที่นั่นแต่แรกอยู่แล้ว
ฉากนี้ทำให้หลายคนต้องขยี้ตาตัวเอง พวกเขาต่างก็คิดว่าตัวเองตาฝาดไปหรือเปล่า ?
พวกทหารรับจ้างจากกลุ่มทหารรับจ้างโลกาเองก็อึ้งไปเหมือนกัน แม้แต่หวังเย่าเองก็ยังแปลกใจ
“หัวหน้า นี่ฉันตาฝาดรึไง ชายแก่คนนั้นขึ้นมาบนเวทีตอนไหนกัน ? ทำไมถึงมองไม่เห็นเขามาก่อนหน้านี้เลย ? ” ลัวจ้าวฮว่าถามขึ้นมา
“ไม่ใช่แค่นายหรอก แม้แต่ฉันก็ด้วย มันราวกับว่าเขายืนอยู่บนเวทีแต่แรกแล้ว” หลงปู้หยู๋เองก็ตกใจ
คนอื่น ๆ เองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
“ฉันเองก็ไม่รู้ แต่ฉันรู้สึกว่าชายแก่คนนี้คงไม่ธรรมดา” เมื่อได้ยินคำถามของทุกคน หวังเย่าก็มองไปที่ชายแก่คนนั้นก่อนจะส่ายหน้า
ชายแก่บนเวทีนั้นใส่ชุดธรรมดา เขาดูใจเย็นไม่ได้แผ่พลังออกมาราวกับเป็นคนทั่วไป แต่ไม่มีใครกล้าประมาทเขาเลย การขึ้นไปบนเวทีได้ในพริบตาแบบนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่าชายแก่ผู้นี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แม้แต่พวกตระกูลใหญ่บนที่นั่งพิเศษก็ยังต้องตกใจ
มีแค่คนที่สนิทกับฟางฉิงหัว รวมถึงผู้ตรวจสอบ 4 ดาวคนอื่น ๆ ที่พากันเผยรอยยิ้มออกมา
“ตามที่เจ้าเมืองได้บอกเอาไว้…” ตอนนั้นเองชายแก่ก็ได้พูดขึ้น
เมื่อเสียงของเขาดังขึ้น แม้แต่พวกศิษย์จากสำนักต่าง ๆ ก็ยังพากันแสดงท่าทีเคารพออกมา
ทุกคนพากันหยุดพูดและมองไปที่ชายแก่
พวกคนจากตระกูลชั้นนำต่างก็พากันตะลึงกับความลึกลับของชายแก่ผู้นี้
สุดท้ายพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามฟางฉิงหัว “ท่านเจ้าเมือง ชายแก่คนนั้น…เขาเป็นใครกัน คุณบอกเราได้รึเปล่า ? ”
ฟางฉิงหัวหัวเราะออกมา แต่ก็ไม่ได้ตอบกลับ
“ผู้ตรวจสอบ 4 ดาวทั้งสี่…”
พวกเขาพากันมองไปที่เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ แต่เฉี่ยนเจินเฉียนและคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้สนใจพวกนั้น
พวกเขามองไปยังคนจากสำนักลับที่รู้จักกันกับพวกเขาเพื่อจะขอคำตอบ แต่กลับได้คำเตือนมาแทน
“ที่ฉันบอกนายได้ก็แค่ว่าเขาน่ากลัวอย่างมาก อย่าคิดหาเรื่องเขา ไม่งั้นแล้วมีแต่จะนำหายนะมาให้กับตัวเอง”
เมื่อได้ยินแบบนั้นคนจากตระกูลใหญ่ต่างก็พากันกลั้นหายใจ แม้แต่คนจากสำนักลับก็ยังต้องเคารพชายแก่คนนี้
นี่แสดงให้เห็นแล้วว่าชายแก่คนนี้แข็งแกร่งแค่ไหน
ในพริบตาคนจากตระกูลระดับสูงก็พากันจดจำชายแก่คนนี้เอาไว้จนขึ้นใจ นี่คือคนที่พวกเขาไม่อาจจะหาเรื่องได้
“แข็งแกร่งจริง ๆ ” ฟางอี้ตาเป็นประกาย เธอมองไปยังชายแก่บนเวทีพร้อมกับขนลุก