บทที่ 111 อย่าไปใส่ใจในสิ่งที่พูด
ในตอนนี้ เสียงเชียร์ดังกระหึมไปทั่วสนาม
เจียงฮ่าวหันไปมองรอบๆ เขามองไหยังหมายเลขแปดที่กําลังวิ่งเข้ามา เจียงฮ่าวไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาทําเพียงแค่หันหลังกลับและวิ่งกลับไปยังเขตของตน
แต่นี่กลับทําให้หมายเลขแปดอารมณ์พุ่งปรี๊ด
นี่คือสิ่งที่เรียกว่ากลั่นแกล้งโดยการเงียบใส่
เจียงฮ่าวได้พูดขึ้นมาลอยๆในขณะที่ผ่านหยางชวนเว่ยไป
“คนเรียนดีใช่ว่าจะเล่นบาสไม่เป็นอะนะ”
เมื่อหยางชวนเว่ยได้ยินดังนั้น เขาได้หันไปมองเจียงฮ่าวด้วยใบหน้าที่แดงกล่ำ แต่เขาก็ไม่อาจจะเถียงออกมาได้
คราวนี้เป็นฝ่ายโรงเรียนเทียนเหอที่หนึ่งส่งลูก
นักกีฬาคนหนึ่งของโรงเรียนที่หนึ่งได้ส่งลูกไปยังหยางชวนเว่ย หยางชวนเว่ยได้มองไปยังหมายเลขแปดอย่างมีความหมาย เขายังคงเชื่อมั่นในตัวหมายเลขแปด
ในครั้งนี้ เจียงฮ่าวไม่ได้ประกบติดหมายเลขแปดแต่อย่างใด นี่ทําให้หยางชวนเว่ยส่งบอลให้หมายเลขแปดอย่างไม่อิดออด
ตอนนี้ หมายเลยแปดเป็นคนครองบอล
เจียงฮ่าวได้รีบหันมาและเดินมาหน้าหมายเลขแปดในทันที
“ไอ้เวร ฉันเอาจริงแล้วนะเว้ย ตอนนี้ถึงคราวฉันแล้ว”
หมายเลขแปดตั้งใจว่าจะใช้ทักษะการเล่นของตนกลั่นแกล้งเจียงฮ่าวให้เสียหน้า แต่เมื่อเขารู้ตัว เขาก็พบว่ามือของตนว่างเปล่า
เมื่อหันกลับขึ้นมาดู เจียงฮ่าวก็หายไปเรียบร้อยแล้ว
ในตอนนี้ เจียงฮ่าวได้อยู่ห่างหมายเลขแปดไปกว่าห้าหลาและวิ่งเข้าไปเกือบถึงหน้าแป้นบาสพร้อมกับลูกบาสในมือ
นี่ทําให้ใบหน้าของหมายเลขแปดนั้นแดงกล่ำและตะโกนออกมา
“หยุดมัน หยุดมันให้ได้”
อย่างไรก็ตาม หลิวเปียวและพวกเองก็เริ่มเคลื่อนไหวโดยการกันนักกีฬาฝ่ายตรงข้ามเอาไว้ คนอย่างเขามีหรือจะยอมให้อาจารย์ต้องฉายเดี่ยวคนเดียว
เจียงฮ่าวหยุดอยู่นอกเส้นสามคะแนนอย่างไกล เขามองไปที่แป้นและยิงลูกออกไปในทันที
“ส้วบบบ”
เสียงบอลผ่านตาข่ายดังขึ้นอีกครั้ง
เจียงฮ่าวเมื่อเห็นลูกลงไปแล้ว เขาได้หันหน้าไปยังหมายเลขแปดและพูดออกมา
“โทษทีนะ เมื่อกี้นายว่าไงนะ ฉันหูไม่ดีเมื่อกี้เลยไม่ได้ยินไม่ถนัด”
หมายเลขแปดจ้องมองไหยังเจียงฮ่าวด้วยใบหน้าราวกับจะกินเลือดกินเนื้อแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เมื่อเขาหันหลังกลับไปกลับส่งสายตาอาฆาตพยาบาทราวกับจะมีแผนร้าย
และความผิดพลาดของหมายเลขแปดทําให้หยางชวนเว่ยบังเกิดความโกรธขึ้นมาในทันที
“ซุนโจว แกเป็นอะไรเนี่ย”
หยางชวนเว่ยพูดออกมาด้วยเสียงอันดังลั่น
ในตอนนี้หมายเลขแปด หรือก็คือซุนโจวเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ในตอนนี้เมื่อถูกตั้งคําถามโดยหยางชวนเว่ยยิ่งทําให้เขามีอารมณ์โกรธที่สูงปรี๊ดยิ่งกว่าจนทะลักออกมา
“ไอ้โง่ หุบปากไปซะ”
ในตอนนี้ หลิวเปียวเองก็รู้สึกถึงกับเค้ารางอะไรบางอย่างจากตัวหมายเลขแปดเมื่อได้เห็นฉากนี้
ในสายตาคนอื่นนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ดูเหมือนว่าเป็นความผิดที่หมายเลขแปด
แต่ตัวเขานั้นรู้ดีว่าเจียงฮ่าวนั้นน่ากลัวขนาดไหน
ทั้งความแข็งแกร่งของร่างกาย ความทรงพลัง ทักษะในการกระโดด ความแม่นยํา ทุกอย่างล้วนแล้วอยู่ในระดับสุดยอด
และนี่ทําให้เขานั้นเข้าใจได้แล้วว่าหมายเลขแปดไม่สามารถสู้กับเจียงฮ่าวได้
การเล่นลูกต่อมา ฝั่งของหยางชวนเว่ยยังเป็นฝ่ายเริ่มส่ง แต่ในครั้งนี้หยางชวนเว่ยนั้นอยู่ในสภาพจริงจังแบบสุดๆ
หมายเลขแปดเองก็ยังยึกยักไปมาราวกับแมลงหวี่โดยที่เจียงฮ่าวนั้นไม่ได้ตามประกบติดแต่อย่างใด
และยิ่งเจียงฮ่าวในตอนนี้มีท่าที่ผ่อนคลาย ยิ่งทําให้หมายเลขแปดมีโอกาสที่จะได้บอลมาครอง และในไม่ช้า โอกาสก็ได้มาถึง
เป็นดังคาด เมื่อนักกีฬาคนหนึ่งที่อยู่ฝั่งเดียวกับหมายเลขแปดเห็นว่าหมายเลขแปดไม่มีคนประกบ เขาจึงส่งบอลให้หมายเลขแปดอย่างไม่รีรอ
ในตอนนี้ หมายเลขแปด ได้มายืนอยู่ตรงเส้นสามคะแนน เขารีบรับบอลมาและกระโดดขึ้นไปอย่างไม่ลังเลเพื่อจะส่งลูกให้ลงห่วง
“ป้าบบบบ”
อย่างไรก็ตาม เงาดําได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และมีเพียงหมายเลขแปดเท่านั้นที่รู้สึกได้ถึงเงาดํานี้
หลังจากสิ้นสุดเสียง เขาได้เห็นว่าบอลที่เขายิงออกไปนั้นตกอยู่ในมือเจียงฮ่าว
เมื่อเห็นฉากนี้สายตาของหมายเลขแปดเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ถึงแม้ว่าเขานั้นจะสูงเพียง 1.87 เมตร แต่ด้วยร่างกายที่ยังหนุ่มแน่น แน่นอนว่าทักษะการกระโดดของเขานั้นไม่ได้แย่แต่อย่างใด
แต่นี่ก็ยังโดนเจียงฮ่าวบล็อคลูกไว้ได้