บทที่ 123 ยามเมื่อราชาถูกบังคับให้ทําเรื่องชั่วช้า
ในตอนนี้ เจียงฮ่าวทําได้เพียงตอบคําถามนักข่าวไปเท่านั้น
“ไม่ยากครับ ง่ายเลยนะผมว่า”
“ผมใช้เวลาทํา 25 นาทีครับ”
“ก็ไม่ได้มีโจทย์ที่ยากจนคิดไม่ได้นะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดผมกว่าน่าจะได้เต็ม
คําตอบของเจียงฮ่าวทําให้เหล่านักข่าวนิ่งอึ้งไปกันทั้งกลุ่ม
และนี่เองทําให้เขานั้นสามารถซิ่งออกมาได้ในที่สุด
“…”
เช้าวันถัดมา เจียงฮ่าวก็ได้เริ่มทําข้อสอบอีกครั้ง
เป็นเช่นเดิม เจียงฮ่าวทําข้อสอบทั้งหมดเสร็จลงโดยใช้เวลาเพียงสามสิบนาทีเท่านั้น และเขาก็ได้รออย่างเงียบเฉียบเพื่อรอกระดิ่งดังและจะได้แฝงตัวออกไปจากโรงเรียนที่เขาเข้ามาสอบ
คราวนี้ เพื่อที่จะได้หลุดรอดจากนักข่าวที่หิวกระหายเขาตั้งใจไว้ว่าเขาจะไม่พุ่งออกไปเป็นคนแรกเหมือนก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม เจียงฮ่าวนั้นไม่อาจจะคาดคิดได้ว่าเหล่านักข่าวเองต่างก็พนันกันไว้แล้วว่าเจียงฮ่าวนั้นจะต้องไม่ใช่คนแรกที่ออกจากโรงเรียนแบบเมื่อวาน
“ฉันว่าราชาข้อสอบนั้นจะต้องออกมาก่อนเป็นคนแรกแน่ๆ”
“ฉันก็ว่าอย่างนั้นนะ”
“ไม่หรอก ต่อให้เขาเสร็จเป็นคนแรกจริงฉันว่าเขาต้องออกมาพร้อมเด็กคนอื่นแน่ๆ เพราะเขาโดนเราดักไว้สองรอบแล้ว”
“…”
ไม่นาน เสียงกระดิ่งแจ้งเตือนหมดเวลาการทําข้อสอบก็ได้ดังขึ้น เหล่านักเรียนที่เข้าสอบเริ่มวางปากกาและทยอยออกจากห้องสอบด้วยท่าทางยอมแพ้ในชีวิตที่ละคนสองคน
ที่ด้านนอก นักข่าวได้เตรียมตัวที่จะไล่ล่าเข้าหาราชาของเขาแล้วเช่นเดียวกัน พวกเขาเขาใช้ขาต่อกล้องเพื่อมองหาราชาของพวกเขาจากมุมสูงด้วยซ้ำ จนเหล่านักเรียนเริ่มสงสัยกันว่าเหล่านักข่าวกําลังมองหาอะไรกัน
เจียงฮ่าวเองที่ได้หยุดรอจนกว่านักเรียนคนอื่นแล้วเลือกที่จะเดินปะปนออกมา ในตอนแรกที่ออกมาแล้วเห็นเหล่านักข่าวพยายามมองหาอะไรบางอย่าง เขาก็นึกสงสัยเช่นเดียวกันว่าคนพวกนี้กําลังมองหาอะไรกันแน่
ทันใดนั้นเอง เจียงฮ่าวก็ราวจะนึกออกว่านักข่าวเหล่านี้กําลังมองหาอะไร และนั่นทําให้หน้าของเขานั้นแสดงออกมาราวกับว่าได้เห็นภูติผีวิญญาณตามติด
“ไอ้ฉิบหาย ไม่จริงน่า อย่าบอกว่าหาฉันเหรอ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น สัญชาตญาณของเขากําลังร่ำร้องว่า ใช่
นักเรียนออกไปพร้อมกันนับหมื่นไม่ถูกไม่ถาม จะมาเจาะจงถามเขาทําไมกัน
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจียงฮ่าวได้รูปนําฮัดของเสื้อของเขาขึ้นมาคลุมหัวในทันที เพื่อที่จะได้แฝงตัวออกไปได้อย่างเงียบงัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาได้ก้าวเดินออกจากประตูโรงเรียนไป เขาก็ได้ไปเจอกับนักข่าวสาวคนหนึ่งที่ราวกับจะดักรอเขาอยู่ตรงหัวมุมพอดี
“มาตรงนี้เร็วๆเข้า เขาอยู่นี่”
เมื่อนักข่าวสาวเห็นหน้าเจียงฮ่าว เธอได้รีบตะโกนจนดังลั่นในทันที
เป็นตอนนั้นเองที่เหล่านักข่าวคนที่เหลือหันควับมาราวกับฉลามที่ได้กลิ่นเลือด พวกเขารีบกุลีกุจอมาในทันที
เจียงฮ่าวเองที่ไม่ได้คิดว่าก็ต้องนิ่งแข็งค้างอย่างตกใจไปเลยทีเดียว
“เวรล่ะ”
อย่างที่คาดไว้ในตอนนี้เขาโดนรุมล้อมไปด้วยนักข่าวอีกครั้ง แถมครั้งนี้คือท่ามกลางเหล่านักเรียนอีก
“นักเรียนเจียงคะ นักเรียนเจียงพอจะตอบคําถามพวกเราหน่อยได้ไหมคะว่าสอบครั้งนี้คุณคิดว่าเป็นยังไงบ้างแล้วใช้เวลาไปเท่าไหร่”
“นักเรียนเจียงครับ คุณคิดว่าข้อสอบวิชานี้คุณจะทําได้กี่คะแนนครับ”
“…”
“เอ่อ ก็ค่อนข้างง่ายนะครับ”
“ห้ะ เอ่อ ถ้า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงจะเต็มล่ะมั้งครับ”
“…”
โดยไม่หยุดพัก เหล่านักข่าวยังคงกระหน่ำถามคําถามไปยังเจียงฮ่าวอย่างหิวกระหาย และภายใต้การเริ่มยื้อแย้งของนักข่าว เจียงฮ่าวก็ได้อันตระธานหายไปอีกครั้ง
เพียงชั่วพริบตา ก็ถึงการสอบรอบบ่าย
การสอบสุดท้ายของวันนี้คือภาษาอังกฤษ
เจียงฮ่าวทําเสร็จในสามสิบนาที
และนี่เองก็เป็นอีกครั้งที่เหล่านักเรียนผู้เสอบก็ได้เห็นว่าเจียงฮ่าวผู้นี้ไม่มีอะไรที่จะทําและฝุบลงหลับไป
“ไอ้ฉิบ…หมอนี่ถอดใจเร็วโคตร”
“ไม่จริงน่า คงไม่ใช่ว่าเขาทําเสร็จหมดแล้วหรอกนะ”
“อิ่มมมม มันก็แค่ทําเป็นเด่นนั่นแหล่ะ”
“…”
ทุกๆคนในตอนนี้ต่างก็จ้องมองเจียงฮ่าวด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งดูถูก สงสัย และหมดกําลังใจ
และนี่รวมถึงผู้คุมสอบที่ค่อนข้างจะสนใจในการกระทําของเจียงฮ่าวเป็นพิเศษ
แต่เมื่อมั่นใจว่าเจียงฮ่าวนั้นทําเสร็จแล้วและไม่มีท่าที่จะเล่นตุกติกแต่อย่างใด พวกเขาจึงเลือกที่จะปล่อยผ่าน
เป็นตอนนี้ที่เจียงฮ่าวนั้นกําลังจะฝูบหลับไปบนโต๊ะจริงๆ
ตอนนั้นเอง เก้าอี้ที่เขานั่งอยู่นั้นก็โยกไหวไปเล็กน้อย
เจียงฮ่าวเองรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาจึงได้ลองเหลือบตาลงไปมองก็พบผู้เข้าสอบคนหนึ่งได้เตะมาที่เก้าอี้ของเขา
เจียงฮ่าวเหลือไปข้างหลังก็พบว่านักเรียนที่อยู่ข้างหลังเขานั้นเหมือนจะต้องการอะไรบางอย่าง
และดูจากท่าทางแล้ว เขาบ่งบอกได้ว่านักเรียนคนนี้ต้องการที่จะลอกข้อสอบเขา