บทที่ 126 แค่ตบใช่ว่าจะจบ
ผู้คุมสอบได้รีบเดินมาหาซิ่วเทียนหลงในทันที แต่เมื่อเห็นสภาพของซิ่วเทียนหลงแล้วก็ต้องนิ่งอึ้งไป
ตอนนี้เขากําลังนึกสงสัยว่าห้องนี้มียุงมากมายขนาดนี้เลยเหรอ
นั่นก็เพราะใบหน้าของซิ่วเทียนหลงในตอนนี้ทั้งบวมตุ่ยและแดงก่ำชําเลือด
เพียงแค่มองก็รู้ว่าโดนยุงกัดอย่างหนัก
แต่เมื่อหันไปมองคนอื่นๆที่ในตอนนี้ยังคงพยายามทําข้อสอบอยู่นั้น แต่กับซิ่วเทียนหลงนั้นเป็นคนเดียวที่ถูกรุมกัด ไม่ว่าใครก็คิดได้ในทางเดียวว่าเลือดของซิ่วเทียนหลงอร่อยมากจนยุงเรียกพวกมารุมกิน
เมื่อได้เห็นสภาพของซิ่วเทียนหลงนี้แล้ว ผู้คุมสอบก็รู้สึกเวทนาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
แต่ไม่ว่าจะเวทนายังไง แต่นี่คือสนามสอบ มีนักเรียนมากมายกําลังตั้งใจอยู่ในตอนนี้ การกระทําของซิ่วเทียนหลงนั้นส่งผลกระทบต่อพวกเขาอย่างมาก
ในฐานะเป็นผู้คุมสอบแล้ว ไม่สามารถที่จะปล่อยการกระทําของซิ่วเทียนหลงไปได้
“นักเรียน อย่าได้ทําเสียงดังอีก”
“อดทนอีกหน่อยแล้วกัน เธอก็รีบๆทําข้อสอบเร็วๆเข้า ใกล้หมดเวลาแล้ว”
ซิ่วเทียนหลงพยักหน้ารับได้เพียงเท่านั้นด้วยท่าทีสลด
ในตอนนี้ซิ่วเทียนหลงใกล้ที่จะร้องไห้ออกมาเต็มทน
เขาสงสัยอยากหนักว่าวันนี้เป็นวันอะไรกันแน่ ทําไมเขาถึงได้เป็นที่หมายตาของยุงเวรตะไลพวกนี้นัก
เพียงไม่นาน เมื่อหมดเวลา หลังจากที่ผู้คุมสอบได้เก็บกระดาษคําตอบและเดินจากไปแล้ว
มีเพียงนักเรียนผู้เข้าสอบเท่านั้นในตอนนี้ที่กําลังพูดคุยกันและเตรียมที่จะออกจากห้องสอบกัน
เจียงฮ่าวในตอนนี้เองก็เริ่มเก็บของและเตรียมที่จะออกจากห้องสอบแล้ว
เป็นตอนนั้นเองที่มีเสียงโกรธแค้นคํารามออกมาจากด้านหลังของเขา
“หยุดเดี๋ยวนี้”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกๆคนได้หยุดเท้าและหันหลังกลับไป
เจียงฮวเองก็หันกลับไปด้วยเช่นเดียวกัน
เจียงฮ่าวถึงกับต้องตกใจในสิ่งที่เห็น
ชายคนที่อยู่ข้างหลังเขาในตอนนี้ ใบหน้าของเขาบวมตุ่ยและรอยเกา มันดูแย่ยิ่งกว่าคนที่เข้าไปในป่าอเมซอนและกลับออกมาซะอีก
คนอื่นๆที่เห็นก็ตกใจไม่ต่างกัน
เป็นตอนนี้ที่ซิ่วเทียนหลงได้ชี้หน้าเจียงฮ่าวด้วยความรู้สึกเหลืออด
“ไอ้เวร แกเป็นใครมาจากไหนกันถึงได้กล้าเมินเฉยต่อฉัน”
ถึงแม้คําพูดของเขาจะดูเคร่งเครียดก็ตาม แต่เมื่อเจียงฮ่าวได้เห็นท่าทางของซิ่วเทียนหลงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
เจียงฮ่าวที่อยู่ๆก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งนี้ทําให้ซิ่วเทียนหลงต้องสับสนเล็กน้อยก่อนที่จะระเบิดความโกรธออกมา
“ไอ้ระยํา จะหัวเราะหาบรรพบุรุษแกรีไง”
ซิ่วเทียนหลงกล่าวคําสาบแช่งออกมาและใช้มือข้างหนึ่งตบไปที่เจียงฮ่าว
เมื่อเห็นฉากนี้ เด็กนักเรียนที่อยู่โดยรอบ ต่อให้เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องขนาดไหนก็ต้องรู้ในทันที่ว่าเจียงฮาวกําลังจะโดนตบหน้า
แต่ใครจะไปคาดคิดว่าฉากถัดมานั้นมันกลับกันจนต้องเสียวสันหลัง
สิ่งที่ปรากฏบนสายตาของพวกเขาตอนนี้ก็คือ เจียงฮ่วยังคงยืนนิ่ง ส่วนซิวเทียนหลงปลิวกระเด็น
“อ๊ากกกกก”
เมื่อเห็นฉากนี้ทุกคนทําได้เพียงอ้าปากกว้างออกมา
“ไม่จริงน่า นี่ นี่คือวิชายุทธ…วิทยายุทธ”
“ไอ้ฉิบหาย นี่ฉันไม่ได้มองผิดไปใช่รึเปล่า ตบเพียงหนึ่งครั้งกับส่งคนให้ลอยกระเด็นได้ขนาดนี้”
“เฮ้ออกกก ซิ่วเทียนหลงเจอคนจริงเข้าแล้ว”
ทุกคนในตอนนี้มองเจียงฮ่าวอย่างสะพรึง มีเพียงบางคนเท่านั้นที่จ้องมองเขาราวกับได้พบเจอสิ่งมหัศจรรย์ของชีวิต
ซิ่วเทียนหลงยังพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาจากพื้นด้วยความหวาดกลัว เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ถึงจะอยากก็ทําได้แค่เพียงเก็บมันเอาไว้เท่านั้น
“แก แก…”
เจียงฮ่าวได้รู้สึกเบื่อหน่ายจนหาวออกมาเมื่อได้เห็นท่าทีของคนที่พึ่งตบรอยไป เขาหันหลัง และเดินจากไปท่ามกลางการจับจ้องของทุกคน
เมื่อเจียงฮาวจากไป คนอื่นๆต่างก็มองซิ่วเทียนหลงด้วยสายตาที่บ่งบอกออกมาว่าสมควรแล้ว
ซิ่วเทียนหลงเริ่มรู้สึกอึดอัดกับสายตาแปลกๆที่ทุกคนมองมา
“ไอ้เวรเอ๊ย”
ถึงจะโดนหนักแบบนี้ ซิ่วเทียนหลงยังคงมองไปทางที่เจียงฮ่าวพึ่งจะเดินจากไปด้วยความเกลียดชัง ก่อนที่จะเดินออกไปอีกทาง
“…”
เมื่อเขากลับบ้าน เจียงฮ่าวได้เดินกลับเข้าห้องไปหลังจากโดนแม่ของเขาไล่ให้ไปพัก
เขาต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับการควบคุมแมลงเพิ่มเติม
เห็นศักยภาพที่ไม่สิ้นสุดจากทักษะการควบคุมแมลงนี้
หลังจากทดลองหลายครั้งแล้ว เขามั่นใจได้ว่าเพียงแค่ทักษะระดับควบคุมแมลงระดับหนึ่งนี้ ทําให้เขานั้นควบคุมแมลงได้เพียงสิบตัวเท่านั้น