บทที่ 144 ถ่ายทอดเสียงครั้งแรกแล้วยกระดับ
หลังจากโทรศัพท์เครื่องเก่าของเขาถูกย่อยลงไป เขาก็ได้รับทักษะที่คล้ายกับทักษะของเหล่าเซียนมาได้ซะอย่างนั้น
“ไม่จริงน่า ฉิบ ระบบของฉันสุดยอดจริงๆ”
เจียงฮ่าวได้ตกตะลึงในทันที
หลังจากตั้งสติได้ เขาก็ได้พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น
“สกัดและหลอมรวม”
หลังจากสิ้นคําพูดของเจียงฮ่าว ทักษะก็ได้หลอมรวมเขากับร่างกายของเขา ตามมาด้วยวิธีการใช้ทักษะถ่ายทอดเสียงพันลี้ก็ได้ปรากฏขึ้นมาในจิตสํานึกของเขา
กระบวนที่เกิดขึ้นนี้รวดเร็วมาก และในตอนนี้เจียงฮ่าวได้รับการถ่ายทอดทักษะมาด้วยหัวใจที่ตื่นเต้น
“ฉิบ..นี่มันทักษะเของเทพเซียนชัดๆ หาไปได้ถึงระดับสุดท้ายล่ะก็สามารถส่งข้อความให้คนทั้งโลกได้ด้วยซ้ํา”
“ว่าแต่ นี่ไม่ใช่หมายความว่าโลกของเรามีมิติทับซ้อนนับหมื่นเลยไม่ใช่รึไงกัน”
เจียงฮ่าวเองก็เริ่มสัมสนเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที
อย่างไรก็ตาม เจียงฮ่าวได้โยนคําถามนี้ออกจากจิตสํานึกของเขาในที่สุด
“ในตอนนี้ด้วยทักษะเซียนระดับหนึ่งนี้ทําให้ฉันถ่ายทอดเสียงนี้ออกไปได้เพียงระยะร้อยเมตรเท่านั้น”
เจียงฮ่าวเองรู้สึกกดดันเล็กน้อย
“เอานะ อย่างน้อยๆฉันก็ยังใช้แต้มทักษะยกระดับได้ อีกอย่าง ระยะร้อยเมตรนี่ก็ไม่เลวเลยทีเดียว”
เมื่อคิดได้ดังนี้ ความคิดเลวร้ายที่เกิดขึ้นภายในใจของเจียงฮ่าวก็มลายสายไปสิ้น
“เหนือสิ่งอื่นใดคงต้องลองก่อนสินะ”
เจียงฮ่าวรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องขึ้นมาในทันทีเมื่อเขาคิดขึ้นมาได้ว่าจะลองใช้ทักษะนี้กับใคร
แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นน้องสาวของเขา เจียงไซหยวนที่กําลังนั่งเรียนอยู่ในบ้าน
เพียงแค่กระพริบตา ด้วยการทําตามวิธีการที่ได้รับมา เขาได้ใช้ทักษะถ่ายทอดเสียงพันลี้ในทันที และด้วยเหตุนี้ทําให้บังเกิดคลื่นบางอย่างออกจากร่างกายของเจียงฮ่าว
ที่ห้องนอนข้างๆนั้น เจียงไซหยวนที่ในตอนนี้กําลังเรียนอย่างสงบสุขนั้น เธอไม่ได้ระวังตัวเลยสักนิดว่าจะโดนกลั่นแกล้งจากพี่ชายนิสัยเสียของเธอเลยแม้แต่น้อย
แต่ด้วยการที่เธอนั้นเริ่มคุ้นชินกับสถานะของพี่ชายของตัวเองมากขึ้นทําให้เธอเองนั้นสัมผัสถึงภยันตรายที่กําลังย่างกลายเข้ามาหา
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทําให้เธอต้องเรียนหนักมากยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปีนี้เธอจะได้อยู่ปีสามแล้ว หลังจากนั้นก็ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย นี่ทําให้เธอต้องเรียนหนักตั้งแต่เริ่ม
ด้วยการที่เธอนั้นไม่มีเส้นสาย เป็นธรรมดาที่เธอจะต้องหวังพึ่งตัวเองได้เพียงอย่างเดียวเท่า
และในตอนนี้ เธอก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของเธอ
“ไซหยวนนนน ไซหยวนนนนน”
ด้วยความสับสน เธอได้หันไปมองที่ด้านนอกประตู หลังจากสังเกตอยู่พักใหญ่ เธอก็ไม่รู้สึกว่ามีใครอยู่หน้าห้องที่เธอได้ยินนี้น่าจะเป็นหูแว่วไปเอง
ในขณะที่คิดแบบนั้น เสียงเดิมก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
“ไซหยวนนนน ไซหยวนนน นี่เสียงพี่ของเธอนะ”
เจียงไซหยวนที่ได้ยินชัดถนัดหูได้สะดุ้งในทันที
“พี่ใหญ่เหรอ”
มันเป็นเสียงพี่ของเธอจริงๆ
แต่เธอก็รู้สึกได้ราวกับว่าไม่ได้ยินอะไร
ถึงแม้จะยังสับสน เจียงไซหยวนได้เปิดประตูออกมาก่อนที่จะมองไปยังห้องโถง
“พี่ พี่ พี่กลับบ้านมาแล้วเหรอ”
เจียงฮ่าวยังคงไม่แสดงตัว
“ไซหยวนนน ไซหยวนนน พี่ซื้อของขวัญมาให้วางไว้บนโต๊ะในห้องโถงนะ น้องหยิบไปอย่างละชิ้นแล้วกัน”
ในครั้งนี้ แม้ไซหยวนจะได้ยินเสียงของเจียงฮ่าวได้อย่างชัดเจน
แต่เธอไม่สามารถบอกได้ว่าต้นเสียงนี้มาจากไหนกันแน่
“ของขวัญ.เหรอ”
ไม่นาน เธอก็พบกับกองของกล่องที่วางไว้บนโซฟาในห้องโถง
อย่างไรก็ตาม เธอไม่เห็นร่องรอยของเจียงฮ่าวเลยแม้แต่น้อย
“พี่ใหญ่ พี่ใหญ่ ที่อยู่ไหนเนี่ย”
เจียงไซหยวนร้องเรียกเจียงฮาวลั่นบ้านด้วยเสียงอันสั่นเครือ
เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินแบบนี้แล้วก็รู้สึกได้ในทันทีว่าเขาเกือบจะทําให้น้องของตัวเองคลั่ง เขาจึงได้เปิดประตูห้องนอนของตนออกมา และหยุดแกล้งน้องสาวของตนในทันที
เมื่อเจียงไซหยวนเห็นเจียงฮ่าวแล้วในที่สุดเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมา
เจียงฮ่าวได้อธิบายสิ่งที่เขาทําออกไป เจียงไซหยวนเองก็พอจะเข้าใจและได้หยิบแลปทอป พร้อมกับโทรศัพท์กลับเข้าไปในห้องนอนด้วยท่าทางมีความสุข
เจียงฮ่าวเองก็ได้ก็ได้กลับเข้าห้องไปหลังจากทดลองทักษะได้สําเร็จด้วยดี
ในตอนนี้เขาจ้องมองไปยังโทรศัพท์ที่วางเอาไว้ เขาได้ซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดของฮัวเหว่ยมา
“ฉันย่อยสลายมือถือไปเครื่องนึ่งแล้ว ฉันจะยังย่อยสลายอีกเครื่องได้รึเปล่านะ”
เพื่อการทดลองนี้เขาจึงได้ซื้อโทรศัพท์มาเพื่อเอาไว้
เมื่อเจียงฮ่าวได้ถือโทรศัพท์รุ่นใหม่ขึ้นมาไว้ในมือ ระบบก็ได้ส่งเสียงแจ้งเขาขึ้นมาอีกครั้ง