บทที่ 147 ลุกให้นั่งแล้วใช้ทักษะ
“พี่สาว มานั่งตรงนี้ก็ได้ครับ เด็กร้องไห้ใหญ่แล้ว”
เจียงฮ่าวได้ยืนขึ้นมาและพูดกับหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณจริงๆ”
หลังจากกล่าวขอบคุณ แม่เด็กก็รีบอุ้มเด็กมานั่งในทันที
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลบางอย่างยังทําให้เด็กน้อยยังคงร้องไห้ต่อไป
ในตอนนี้ด้วยการที่มีคนแน่นเต็มรถทําให้อาการในรถเริ่มที่จะร้อนมากขึ้นโดยเฉพาะกับอากาศในเดือนมิถุนายนที่ร้อนแบบสุดๆ
ในอากาศที่ร้อนระอุน่าอึดอัดนี้ เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก ก็ยิ่งทําให้ผู้โดยสารคนอื่นอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา
หลายๆคนในตอนนี้ที่เริ่มอารมณ์ไม่ดี ก็ได้หันมาขมวดคิ้วใส่เด็กในทันที
เจียงฮ่าวเองที่ยืนอยู่ข้างๆที่เห็นว่าแม่ของเด็กน้อยยังคงอุ้มเด็กไว้และพยายามโอเด็กนั้น แต่เด็กน้อยกลับร้องไห้ด้วยท่าทีเศร้าสร้อยยิ่งกว่าเดิม
เมื่อเจียงฮ่าวได้เห็นแล้วก็รู้สึกได้ในทันทีว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
นั่นก็เพราะเสียงของเด็กคนนี้แฝงไว้ด้วยความรู้สึกราวกับใจสลายออกมาเมื่อได้ยิน
เมื่อเจียงฮ่าวได้มองไหยังใบหน้าของแม่เด็กน้อย เขาพบว่าดูเหมือนหญิงสาวคนนี้เองก็แสดงท่าที่รําคาญเด็กน้อยพร้อมจ้องมองเธอด้วยสายตาที่ดูถูก
ฉากต่อมาคือเขาเห็นหญิงสาวคนนี้นําอมยิ้มออกมาจากกระเป๋า ก่อนที่จะโปรยผงอะไรบางอย่างลงไปก่อนที่จะจับยัดเข้าปากเด็กไปในทันที
ฉากนี้ทําให้เจียงฮ่าวถึงกับต้องขมวดคิ้ว
คําถามหนึ่งได้ผุดขึ้นมาในใจของเขา คําถามนั้นคือเด็กนี่ใช่ลูกของคนๆนี้จริงๆรึเปล่า
นอกจากจะปลอบเด็กไม่ได้แล้ว สายตาที่ดูแคลนเด็กนี่ ไม่ว่าดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่แม่ของเด็กคนนี้อย่างแน่นอน
นี่ทําให้เขานั้นจับจ้องไปที่แม่เด็กยิ่งกว่าเดิม
ในตอนนี้เอง เขานึกได้ว่าตอนที่หญิงสาวคนนี้ขึ้นมานั้น เธออุ้มเด็กขึ้นมาด้วยท่าที่ร้อนรน
แถมในตอนนี้เขาสังเกตเห็นแล้วว่าเท้าของเด็กนั้นเปลือยเปล่า เธอไม่สนด้วยซ้ําว่ารองเท้าเด็กได้หายไปแล้ว
แม้กระทั่งกางเกงของเด็กที่หลุดรุ่ย เธอก็ยังไม่สนใจ
เมื่อเห็นแบบนี้ เจียงฮ่าวก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
“มีแม่ที่ไม่ใส่ใจลูกแบบนี้ได้ยังไงกัน”
เป็นตอนนั้นที่เขาจดจําข่าวหนึ่งที่พึ่งจะเกิดได้ไม่นาน
ข่าวนั้นบอกได้ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่อาศัยจังหวะช่วงผู้คนแออัดในการก่ออาชญากรรมมากมายในช่วงนี้ราวกับ ว่าคนพวกนี้พึ่งจะมายังเมืองเทียนเหอ ขอให้ทุกคนนั้นระวังตัวเอาไว้
เมื่อคิดได้ถึงเรื่องนี้ เจียงฮ่าวก็อดไม่ได้ที่จะใจเต้นขึ้นมา
“ไม่ใช่ว่าฉันกําลังเจอกับไอ้กลุ่มคนที่ว่าอยู่หรอกนะ…ไม่จริงมั้ง”
ในตอนนี้ เมื่อเจียงฮ่าวได้มองลงไปที่เด็กน้อย เธอสังเกตเห็นว่าเด็กน้อยหลังจากได้อมยิ้มไปแล้วก็ได้เงียบเสียงลง
เจียงฮ่าวนิ่งเงียบคิดไปในทันทีเมื่อเห็นฉากนี้
“หรือฉันคิดไปเอง ไม่แน่ว่านี่อาจเป็นวิธีการเดียวที่จะปลอบเด็กคนนี้ก็ได้”
เจียงฮ่าวได้มองฉากเหตุการณ์นี้อย่างสงบ แต่เมื่อผ่านไปสักพักเขาก็นึกถึงทักษะดวงตาแห่งการทําลายล้างขึ้นมา
ในทันที เขาได้หรี่ตาลงไปที่คู่แม่ลูกที่แปลกประหลาดนี้และได้เปิดใช้ทักษะดวงตาแห่งการทําลายล้างในทันที
ในทันทีนั้น ภาพฎากเหตุการณ์ต่างก็ได้ปรากฏขึ้นในหัว
สิ่งแรกที่เขาเห็นคือฉากที่หญิงสาวคนนี้อุ้มเด็กไว้
แต่เพียงไม่นานภาพหนึ่งก็ได้ปรากฎขึ้นมา
ภาพของผู้หญิงที่น่าจะเป็นแม่ของเด็กได้เปลี่ยนไป
เธอคนนั้นอุ้มเด็กน้อยไปที่ร้านทําผม ในระหว่างที่เธอกําลังทําผมนั้น เด็กกับเล่นซนไปเรื่อยและเดินออกมา
เป็นตอนนั้นที่หญิงสาวคนนี้เห็นเด็กน้อยที่อยู่ไม่ไกลได้รีบเข้าหาเด็กน้อยคนนี้
ในมือธอถืออมยิ้มแล้วหลอกล่อให้เด็กน้อยตามเธอมา
เมื่อเด็กน้อยตามเธอมามากพอ หญิงสาวคนนี้เหลียวซ้ายแลขวาอยู่นานจนมั่นใจว่าไม่มีคนสนใจเธอ
เธอจึงรีบประชิดเด็กน้อยก่อนที่จะให้อมยิ้มและอุ้มเด็กน้อยวิ่งออกมาในทันที
เมื่อเห็นฉากนี้ เจียงฮ่าวมั่นใจในทันทีว่าความคิดของเขานั้นถูกต้องแล้ว
เขาพึ่งจะลุกให้ไอ้พวกลักเด็กนั่ง