บทที่ 21 เมื่อหมดเวลาก็ถึงเวลา
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หนึ่งวันผ่านไปและก็หมดคาบเรียนในวันนี้แล้ว วันพรุ่งนี้คือวันอาทิตย์ สำหรับเด็กนักเรียนอย่างพวกเขาแล้วมันคือวันแห่งการพักผ่อน
ในฐานะเด็กม.ปลายแล้ว วันอาทิตย์ เป็นวันเดียวที่จะผ่อนคลายจากเรื่องเครียดๆทั้งหลาย
เจียงฮ่าวได้ถือกระเป๋าพร้อมกล่องเล็กๆกล่องหนึ่งเข้าไปในบ้านของตนอย่างรวดเร็ว
หลังจากเข้าไปแล้ว เขาอาบน้ำและแต่งตัวพร้อมทั้งใส่เสื้อคลุมกีฬาตัวใหม่ของเขาในทันที
หลังจากนั้น เขาก็ได้นำจี้หยกนกไฟออกมาจากมิติส่วนตัวและใส่เข้าไปในกล่องที่เขาเตรียมไว้
“พอมานึกดูอีกที ไอ้การเอาของที่คุ้นเคยกับราชาหยกไปแบบนี้นี่ก็กระไรอยู่ล่ะนะ แต่ก็อีกนั่นแหล่ะ ยังไงซะหยกนี่ก็สมควรจะมากพอที่จะเปิดทางของฉันให้เข้าไปในวงการนี้ได้อย่างง่ายดาย”
เจียงฮ่าวนึกขึ้นมา
หลังจากบอกพ่อของเขาว่าเขากำลังจะไปไหน เขาได้หยิบบัตรเชิญขึ้นมาเพื่อดูที่อยู่และตรงไปที่นั่นในทันที
เมื่อเจียงฮ่าวไปถึง เขาได้นำบัตรเชิญออกมา แล้วถูกพนักงานนำไปยังห้องที่จัดงานเลี้ยง
หลังจากเจียงฮ่าวเข้าไปในห้อง เขาก็พบว่าภายในงานถูกแบ่งไว้เป็นสองฝากฝั่งโดยปริยาย ฝั่งหนึ่งนั้นเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเขา อีกฝั่งหนึ่งนั้นดูเหมือนจะเต็มไปด้วยคนใหญ่คนโตทั้งหมดทั้งสิ้น
ในตอนนี้เองเขาได้เห็นว่าคนที่อยู่ในงานคับคั่งมากแล้ว ผู้ชายแต่งตัวในชุดสูทรองเท้าหนัง ส่วนผู้หญิงนั้นสวมใส่ชุดราตรี ทุกคนล้วนแล้วแต่ถือแก้วเครื่องดื่มอยู่ในมือและพูดคุยกันอย่างสนุกสนานและหัวเราะกันอย่างสุภาพชน
ในตอนนี้เอง เจียงฮ่าวก็พบว่าเขานั้นเป็นคนเดียวที่สวมใส่ชุดกีฬามางานนี้
และด้วยเหตุนี้ทำให้ตัวเขานั้นตกเป็นเป้าสายตาจากคนในงานในทันที บางคนถึงกับจ้องมองเขาด้วยสายตาแห่งความสงสัยอย่างหนัก
เจียงฮ่าวนั้นไม่ต้องการตกเป็นเป้าสายตา เมื่อเขาพบที่นั่งตรงมุมห้องก็ได้รีบเข้าไปนั่งรอในทันที
ไม่นานนักก็ถึงเวลาสองทุ่ม ตัวหลักในงานเลี้ยงวันนี้ในที่สุดก็ได้ออกมา
เธอสวมใส่ชุดลูกไม้สีม่วงประกายทองระยิบราวกับดวงดาวที่ส่องสว่างในยามค่ำคืน
เมื่อสวมใส่ชุดแบบนี้แล้วทำให้ซ่งหวานเอ๋อนั้นดูเหมือนชนชั้นสูงในทันที และเธอเองก็ดูคุ้นชินกับสังคมแบบนี้อยู่พอสมควร
และด้วยการปรากฎตัวของเธอที่งดงามมากนี้ทำให้หญิงสาวภายในงานทั้งหลายต่างก็ต้องหม่นหมองลงในทันใด
ข้างๆซ่งหว่นเอ๋อในตอนนี้ ก็คือราชาหยก ซ่งหว่านซ่ง และภรรยาของเขา
และในทันทีที่ซ่งหว่านเอ๋อปรากฎตัวก็ได้ตกเป็นเป้าสายตาในทันที
ในตอนนี้เอง ชายวัยกลางคนที่เดินออกมาพร้อมๆกันได้พูดออกมา
“ฉัน ซ่งหว่านซ่ง ยินดีต้อนรับทุกท่านที่เข้ามาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดครบรอบ 18 ปีของลูกสาวฉัน…”
เจียงฮ่าวเองที่อยู่ตรงมุมห้องก็ได้ลุกขึ้นยืนดูฉากเหตุการณ์นี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวเขานั้นสามารถได้เห็นราชาหยกอย่างซ่งหว่านซ่งตัวเป็นๆแบบนี้
หลังจากซ่งหว่านซ่งพูดจบแล้ว เขาก็ได้เปิดโอกาสให้บรรดาหนุ่มๆเดินเข้าไปกล่าวทักทายลูกสาวของเขา ส่วนตัวเขานั้นก็ได้เดินเข้าไปกล่าวทักทายกับบรรดาคนใหญ่คนโตทั้งหลาย
ในขณะเดียวกัน ทุกๆคนก็ได้นำของขวัญมอบให้กับซ่งหว่านเอ๋อกับมือตัวเอง
เจียงฮ่าวที่เห็นกล่องสวยงามหรูหรามากมายที่ส่งให้ซ่งหว่านเอ๋อนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังกล่องของขวัญของตนที่อยู่ในมือ ถึงแม้ว่าเขานั้นจะเลือกกล่องที่หรูหราที่สุดในร้านมาได้ แต่นั่นก็ยังเทียบไม่ได้กับกล่องของขวัญของคนเหล่านี้
แต่นี่ก็ไม่ได้ทำให้เจียงฮ่าวสนใจแต่อย่างใด นั่นก็เพราะของที่อยู่ข้างในนี้หาใช่ของธรรมดาไม่
“แล้วววว… ถ้าคุณหนูหว่านเอ๋อไม่รับของขวัญจากเรา แล้วเราจะเข้าหาราชาหยกได้ยังไงล่ะหว่า….”
เจียงฮ่าวเองในตอนนี้ได้คิดขึ้นมา จากนั้นเขาก็ได้หันไปมองราชาหยกที่กำลังพูดคุยกับเหล่าคนใหญ่คนโต หลังจากนั้นก็มองไปยังซ่งหว่านเอ๋อที่กำลังโดนรุมล้อมด้วยผู้คน พลางใช้ความคิดของตน
ในขณะที่อีกฝากฝั่งหนึ่ง ซ่งหว่านเอ๋อในตอนนี้กำลังรับของขวัญจากมือของแต่ละคนด้วยรอยยิ้ม
แต่ในความเป็นจริงนั้นหากมีคนตั้งใจดูก็จะเห็นว่าท่าทางของเธอนั้นราวกับหุ่นยนต์ที่กำลังรับของขวัญและส่งรอยยิ้มพอเป็นพิธี แต่ดวงตานั้นกลับมองไปยังรอบๆงานราวกับหาใครสักคน
ในตอนนี้เอง ในที่สุด ซ่งหว่านเอ๋อก็พบเจอคนที่เธอตามหา นั่นก็คือเจียงฮ่าวผู้ที่ในตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่โซฟามุมห้องและสวมชุดกีฬาที่ไม่ได้เข้ากับงานนี้เลยสักนิด
เจียงฮ่าวเองในตอนนี้ก็เปลี่ยนสายตามาจ้องมองยังซ่งหว่านเอ๋อพอดิบพอดี และในทันทีที่ทั้งสองได้สบตากัน รอยยิ้มที่เปรียบได้ดั่งดอกไม้ที่สวยงามก็ได้ปรากฎมาอยู่บนใบหน้าของเธอ
หลังจากซ่งหว่านเอ๋อกลับมารับของขวัญจากผู้คนด้วยรอยยิ้มปกติจนหมด เธอก็ได้ปลีกตัวออกมาจากบอดี้การ์ดที่อายุมันห่างกันมากนักในทันทีและตรงไปยังเจียงฮ่าวในทันใด
“ฉันคิดว่านายจะไม่มาซะแล้ว”
ซ่งหว่านเอ๋อพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
เจียงฮ่าวเองที่จ้องมองซ่งหว่านเอ๋อด้วยสายตาที่ไม่กระพริบก็ทำให้ซ่งหว่านเอ๋อรู้สึกเขินอายไปจนเห็นได้ชัด แต่เขาเองก็ได้รีบพูดออกมาเพื่อแก้เขินในทันทีที่รู้สึกตัว
“เธอชวนซะขนาดนั้นฉันจะไม่มาได้ยังไงกัน”
“เอาน่า ตอนนี้ฉันก็มาแล้วนี่ไง เลิกเป็นกังวลได้แล้ว”
หลังจากนั้น เจียงฮ่าวได้นำกล่องของขวัญกล่องหนึ่งส่งให้ซ่งหว่านเอ๋อพร้อมทั้งกล่าวคำอวยพรออกมา
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
ซ่งหว่านเอ๋อได้รับของขวัญมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้มที่เปรียบได้ดั่งดอกไม้งามอีกครั้ง
“ขอบคุณนะ ฉันเองเพียงอยากให้นายมาร่วมงานเพื่อตอบแทนที่นายช่วยชีวิตเท่านั้น ดันทำให้นายต้องเสียเงินไปกับฉันอีกซะได้”
“……”
ในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันด้วยน้ำเสียงที่มีความสุขจนน่าอิจฉานั้น เสียงๆหนึ่งก็ได้ดังขึ้นมาทำลายบรรยากาศของทั้งสองคน
“หว่านเอ๋อ นี่ใคร”
ในตอนนี้เอง ชายหนุ่มชนชั้นสูงได้ปรากฎตัวมาข้างหลังซ่งหว่านเอ๋อ
เจียงฮ่าวที่เห็นก็ถึงกับประหลาดใจขึ้นมาเล็กน้อย