บทที่ 24 ต่อให้ดูไม่เป็นก็ไม่ควรปากดี อยู่เฉยๆก็เอาหน้ามาให้ตบซะอย่างนั้น
เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินคำพูดของหว่านเอ๋อนั้นทำให้เขาประหลาดใจพอสมควร
“ดูเหมือนว่าคุณหนูผู้นี้จะรู้ดีไม่น้อยเลยนะเนี่ย”
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นว่าจักรพรรดิ์หยกนั้นกำลังจ้องมองไปยังจี้หยกนกไฟอย่างตาไม่กระพริบ ทำให้เขานั้นเข้าใจได้ในทันที
กับผู้คนที่อยู่ในวงการหยกมาแต่เล็กแต่น้อยแบบนี้มีหรือที่จะไม่ได้รับความสามารถมา
ฉินโชวในตอนนี้แสดงออกมาด้วยหน้าตาน่าสมเพชในทันทีที่ได้ยิน ในขณะเดียวกัน แข้งขาของมันก็อ่อนเปลี้ยเพลียแรงจนสั่นไปมา เรียกได้ว่าแทบจะทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว
“เป็นไปได้ยังไงกัน มันต้องเป็นของปลอมจากแก้วสิ มันต้องเป็นของทำเองขึ้นมาแน่ๆ”
ฉินโฉวในตอนนี้ทำได้เพียงบ่นพร่ำออกมาด้วยประโยคซ้ำๆอย่างหมดแรง
ในขณะเดียวกัน คุณปู่สามของซ่งหว่านเอ๋อนั้นยังจ้องมองไปยังจี้หยกที่อยู่ในมือนี้ด้วยสายตาที่กระจ่างใส และได้พูดออกมาด้วยความสุขว่า
“สีเขียวเข้มนี้ รูปร่างนี้ ผิวที่เนียนละมุน ไร้ร่องรอยใดๆ ตัวนี้กระจ่างใสและกลมกลืน หากจะบอกว่ามันคือแก้วล่ะก็ก็คงจะเป็นแก้วที่หลอมขิ้นมาจากมรกตเขียวล่ะนะ”
“นี่ยังไม่รวมถึงเทคนิคการแกะสลักที่ละเอียดละออจนทำให้ตัวหยกนี้เปล่งประกายออกมามากกว่าปกติ และด้วยความสมบูรณ์แบบนี้เองได้หล่อหลอมทำให้นกเพลิงที่ถูกแกะสลักด้วยหยกนี้ราวกับนกเพลิงจริงๆ”
“การแกะสลักหยกชิ้นนี้ย่อมเป็นผีมือปรมาจรย์โดยแท้”
หลังจากได้ยินความเห็นจากปู่สามของซ่งหว่านเอ๋อทำให้ทุกคนถึงกับนิ่งอึ้งไป
ผู้อาวุโสตระกูลซ่งผู้นี้คือคนนี้เป็นที่ยอมรับและนับถืออย่างมากในวงการหยก แน่นอนว่าทุกๆคนนั้นย่อมรู้สึกเขาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะนิสัยของเขา
และด้วยการที่ตระกูลซ่งนี้เป็นตระกูลที่กำเนิดเกิดมาจากหยก ทำให้ระดับของตระกูลนี้เป็นอันดับหนึ่งจากตระกูลที่อยู่ในแวดวงหยกแห่งเมืองเจียงเป่ย และความสำเร็จเหล่านั้นก็มาจากผู้อาวุโสลำดับสามแห่งตระกูลซ่งผู้นี้นี่เอง
เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินความคิดเห็นของผู้อาวุโสตระกูลซ่งผู้นี้ทำให้เขาต้องมองผู้อาวุโสคนนี้ใหม่อีกครั้ง
ในตอนนี้เอง ฉินโชวที่รู้สึกได้ราวกับจิตวิญญาณของตนถูกกรีดเฉือนออกไปทีละน้อยในทันทีที่ได้ยินทุกๆคำพูดที่ ซานเย่ ประเมินมูลค่าจี้หยกนี้ออกมาให้ทุกคนฟัง จนที่สุดนั้น มันก็ได้ทรุดลงไปกับพื้น พร้อมท่าทีที่ไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“เป็นไปได้ยังไง” “โกหกแน่ๆ พวกมันต้องรวมหัวกันโกหกแน่ๆ”
“ไอ้เวรนี่มันก็แค่เด็กจนๆคนหนึ่งจะไปมีสมบัติชั้นฟ้าแบบนี้ได้ยังไงกัน มองยังไงมันก็ต้องเป็นของปลอมสิ”
ฉินโชวได้จิตตกจนเผลอพูดความในใจออกมาจนหมด
นี่เองทำให้ผู้อาวุโสลำดับสามแห่งตระกูลส่งผู้นี้รับไม่ได้ในทันที
“โอ้ ไอ้ตัวตำบอน เจ้าจะบอกว่าชายชราผู้นี้ตาบอดอย่างนั้นหรือ”
“ถ้าอย่างนั้นชายชราผู้นี้จะบอกออกมาอีกนะว่าด้วยการที่จี้หยกนี้ถูกแกะสลักขึ้นมาจากสุดยอดปรมาจารย์ช่างฝีมือ เมื่อรวมเข้ากับวัสดุที่ค่อนข้างจะชั้นเลิศแบบนี้แล้ว แค่มูลค่าของหยกนั้นก็ไม่ค่ำกว่าห้าสิบล้านเข้าไปแล้ว”
นี่ยังไม่รวมถึงการคาดเดาที่ว่าจี้หยกนี้ไม่ใช่ของที่สมควรจะเป็นชิ้นเดียวแต่มันควรจะมีคู่ของมันอยู่ และคู่ของมันนั้นสมควรจะถูกแกะสลักเป็นมังกร เมื่อใดก็ตามที่นกเพลิงตัวนี้อยู่คู่กับมังกร ราคาของมันก็จะยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก
หลังจากผู้อาวุโสตระกูลซ่งพูดจบลง ผู้คนที่ได้ยินต่างก็รู้สึกตกตะลึงกันไปทั่ว
“สุดยอดปรมาจารย์ ท่านนี้เป็นใครกันนะ ฉันเองในช่วงชีวิตที่เหลือนี้อยากจะพบเขาสักครั้งจริงๆ ต้องมีฝีมือขนาดไหนกันนะถึงสามารถแกะนกเพลิงที่ดูราวกับมีชีวิตแบบนี้ขึ้นมาได้”
และเมื่อพูดจบ ผู้อาวุโสได้ค่อยๆนำจี้หยกส่งคืนให้กับซ่งหว่านเอ๋อด้วยใจที่ไม่ค่อยจะยากสักเท่าไหร่
เจียงฮ่าวที่ได้ยินก็อดที่จะนึกความคิดหนึ่งในใจตนเองขึ้นมาเสียไม่ได้
“ระบบของฉันนี่ทรงพลังจริงๆ กับแค่คำสั่งการใช้งานนิดหน่อยก็ยังทรงพลังได้ถึงขนาดนี้เลยหรือนี่”
ถูกต้องแล้ว หยกนกเพลิงนี้ถูกทำขึ้นมาโดยเจียงฮ่าวนั่นเอง
ตอนแรกนั้นเขาเองก็นึกว่าระบบของเขานั้นจะทำได้เพียงการย่อยสลายและสังเคราะห์เท่านั้น ใครจะไปคิดว่าระบบจะสามารถช่วยเขาสังเคราะห์เศษหินให้กลายเป็นหยกจักพรรดิ์เขียวได้แบบนี้ และถูกต้องตามที่ผู้อาวุโสคนนี้คาดเอาไว้ เขาพึ่งจะทำหยกคู่มังกรกับนกเพลิงนี้ขึ้นมาเมื่อคืน
ระบบการสร้างสิ่งของนี้ได้แยกออกมาจากระบบสังเคราะห์ จะเรียกว่าเป็นการทำงานย่อยของระบบสังเคราะห์ก็ว่าได้ และนั่นเองก็ทำให้เขานั้นใช้ประโยชน์จากระบบของเขาได้มากขึ้น
และนี่ทำให้เขานั้นรู้สึกมีความสุขอย่างมากเมื่อคนนี้
นั่นก็เพราะระบบนี้จะช่วยทำให้เขานั้นร่ำรวยขึ้นมาได้นั่นเอง
ในตอนนี้ ซ่งหว่านเอ๋อค่อยๆรับจี้หยกกลับไปอย่างเบามือ ถึงจะดูประหม่าที่ต้องหยิบจับของมูลค่าสูงแบบนี้ก็ตาม
ในขณะเดียวกัน ตัวเธอได้รู้สึกซาบซึ้งอย่างมากที่เจี่ยงฮ่าวนั้นส่งมอบของขวัญเลอค่าขนาดนี้ให้เธอ แต่เธอนั้นสมควรจะได้รับของขวัญเช่นนี้ไว้แล้วจริงๆอย่างนั้นเหรอ
นั่นก็เพราะของขวัญชิ้นนี้มันไม่ได้สัมพันธ์กับข้อมูลที่เธอได้รับมาจากลุงไฮ่ นี่ทำให้เธอนั้นรู้สึกขัดแย้งขึ้นมาในใจเกี่ยวกับตัวตนของเจี่ยงฮ่าวในทันที
เธอได้นำจี้หยกนี้กลับเข้าไปในกล่อง ก่อนที่เธอจะส่งคืนให้กับเจียงฮ่าว
“เจียงฮ่าว ฉันรับของที่มีมูลค่าสูงมากมายขนาดนี้ไว้ไม่ได้จริง เอากลับไปเถอะ แค่เธอยอมมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของฉันก็มีความสุขมากพอแล้ว ไม่ต้องให้ของขวัญฉันหรอกนะ”
ซ่งหว่านเอ๋อได้พูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดในใจ