บทที่ 27 ในเมื่อไม่เชื่อว่ามีก็ต้องทำตัวให้คิดว่ามี
“นี่พ่อของเรากลายเป็นคนมองการไกลแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ”
“ยายแก่เกา ไปกันเถอะ พวกเราต้องไปเตรียมตั้งของตรงหน้าร้านอีก”
“ไปแล้วจ้า”
แม่ของเจียงฮ่าวได้ตอบรับในทัน เมื่อเห็นแบบนี้ทำให้เจียงฮ่าวนั้นทั้งอึ้งและยิ้มออกมา
“ที่พ่อของลูกพูดน่ะถูกต้องแล้ว เงินเก้าล้านนั่นลูกควรจะเก็บเอาไว้เพื่ออนาคตของตัวเองนะ”
เมื่อพูดจบ แม่ของเขาก็ได้หันหลังกลับไปและตามสามีของตนไปติดๆ
เป็นตอนนี้เองที่เจียงไซหยวนคนที่คร่ำเคร่งอ่านหนังสืออยู่นั้นได้ทำหน้าทะเล้นออกมาและพูดออกมาอย่างเยาะหยันว่า
“เจียงฮ่าว นี่นายตื่นแล้วจริงๆรึยังเนี่ย ฉันว่านายนั้นเก็บเอานิยายบ้าบออะไรพวกนั้นเก็บไปฝันแล้วยังฝันค้างอยู่แน่ๆ เก้าล้านบ้าบออะไรกัน”
“ถ้านายมีเงินเก้าล้านจริงฉันก็คงจะมีเงินซักสิบล้านนั่นแหล่ะ แถมยังเป็นสิบล้านดอลล่าห์ด้วย”
หลังจากมายียวนใส่เสร็จแล้วเธอก็ได้กอดหนังสือตรงกลับไปยังห้องของตนด้วยรอยยิ้มเยาะ
เจียงฮ่าวได้หันหลังกลับมาหาต้นเสียงก่อนที่จะชี้นิ้วไปยังเจียงไซหยวน
“เจียงไซหยวน นี่ เธอ….”
“ปัง”
เสียงประตูปิดใสเขาดังลั่นทำให้เจียงฮ่าวนั้นถึงกับจ้องพูดไม่ออก
เจียงฮ่าวในตอนนี้ทำได้เพียงเก็บมือของตัวเองลงมาพลางบ่นพรึมพรำออกมาว่า
“หึ ในเมื่อทุกคนไม่เชื่อนักล่ะก็ ได้…. ฉันจะพิสูจน์ให้ดูเอง”
เมื่อพูดจำ เจียงฮ่าวได้กลับเข้าไปในห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำก่อนที่จะออกจากบ้านไป
“อืมมมมม ฉันควรจะซื้ออะไรก่อนดีนะระหว่างบ้านกับรถ”
เป็นตอนนี้เองที่เจียงฮ่าวพึ่งจะนึกได้ว่าเงินเก้าล้านของเขานั้นยังเป็นเช็คอยู่สามใบ และเขายังไม่ได้เอาไปขึ้นเงินสด
“น่าจะต้องไปขึ้นเงินซะก่อนแหะเรา”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจียงฮ่าวจึงเข้าไปเอาสมุดบัญชีและออกไปขึ้นเช็คในทันที
ในตอนแรกนั้น การขึ้นเงินของเขานั้นไม่ได้ราบลื่นสักเท่าไหร่ นั่นก็เพราะเจียงฮ่าวนั้นยังอายุเพียงสิบแปดปีเท่านั้น แน่นอนว่าเขาต้องสงสัยในทันทีเมื่อนำเงินเก้าล้านไปขึ้นเงิน
อย่างไรก็ตาม เมื่อทางธนาคารทำการตรวจสอบที่มาแล้วทำให้ทุกอย่างไหลลื่นสะดวกโยธิน
“…..”
“ตอนนี้ก็ถึงเวลาไปดูบ้านแล้วสินะ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เจียงฮ่าวได้เรียกแท็กซี่ไปยังศูนย์อสังหาที่ใกล้ที่สุด
ทันทีที่เขาไปถึง เจียงฮ่าวได้ลงจากรถและตรงเข้าไปยังศูนย์อสังหาริมทรัพย์ในทันที
หลังจากที่ได้เข้าไปข้างในศูนย์อสังหาริมทรัพย์เทียนเหอแล้ว เขาพบว่า ข้างในนั้นโอ่อ่า หรูหรา และดูดีมีสไตล์อย่างมาก เรียกได้ว่าดูดีสมฐานะอย่างยิ่ง
ข้างในนั้นเองก็ได้มีผู้คนอยู่มากมาย บ้างก็เป็นพนักงานขายที่แต่งชุดฟอร์มของทางศูนย์ฯที่กำลังคอยแนะนำข้อมูลต่างๆให้ลูกค้าด้วยรอยยิ้ม
ส่วนคนที่ไม่ได้คุยกับลูกค้าอยู่นั้นก็ได้ทำการยืนพูดคุยกันเองอยู่อีกฝั่ง
ในตอนนี้เอง หญิงสาวเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งที่กำลังคุยกันนั้นเมื่อเห็นเจียงฮ่าวที่ในตอนนี้ใส่ชุดกีฬาตัวเก่งของตนพร้อมใบหน้าที่ยังอ่อนวัยนั้นทำให้ไม่มีใครอยากจะเข้าไปต้อนรับขับสู้
หนึ่งในนั้นจึงได้ชี้ไปที่เจียงฮ่าวก่อนที่จะหันไปพูดกับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง
“เม่ยน้อย มีลูกค้ามาน่ะ รีบไปต้อนรับสิ ดูท่าทีแล้วคงจะเป็นคนรวยหนุ่มแน่นเลยนะนั่น”
หญิงสาวที่กำลังหันไปดูทางอื่นนั้น เมื่อได้ยินเสียง เธอก็ได้หันไปมองตาม เมื่อพบเจียงฮ่าวแล้วก็ได้พูดดูถูกออกมาในทันที
“พี่สาวหง ทำไมพี่ไม่เข้าไปดูเองล่ะ แค่ดูท่าทางก็รู้แล้วว่าเด็กนี่แค่เข้ามาเดินเล่นเท่านั้นแหล่ะ”
“นี่ยังไม่ต้องพูดถึงการแต่งตัวเลยนะ ใส่แค่เสื้อคลุมนักกีฬาถูกๆแค่ไม่กี่ร้อยหยวนกับรองเท้าสนีกเกอร์แบบนี้เนี่ยนะที่พี่บอกว่าเป็นคนรวยหนุ่มน่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ใครจะไปรู้ล่ะ นายน้อยตระกูลใหญ่เดี๋ยวนี้ยิ่งทำตัวแปลกๆอยุ่”
เมื่อได้เห็นหญิงสาวกลุ่มนี้นินทาเจียงฮ่าวแล้ว นี่ทำให้หญิงสาวตัวสูงแต่น่ารักหน้าเขียวปั๊ดขึ้นมาและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เป็นตอนนี้เองที่เม่ยน้อยได้เรียกหญิงสาวคนนี้ในทันที
“ซิวเจี่ย มานี่หน่อยสิ”
เมื่อได้ยินดังนั้น หญิงสาวคนนี้จำต้องขานรับและรีบเดินเข้าไปหา ที่เองก็พอจะรู้ว่าผู้หญิงที่ชื่อเม่ยคนนี้ต้องการจะพูดอะไรกับเธอ
“พี่สาวเม่ยจะให้ฉันทำอะไรคะ”