บทที่ 34 ต่อให้โดนเสือหยอก แมลงเม่าขั้นเทพอย่างเขาย่อมไม่กลัว
ทันทีที่รู้ตัวว่าพูดพร้อมกัน ทั้งสองก็หัวเราะคิกคักกันอย่างน่าหมั่นไส้
“นี่เธอทำข้อสอบห้องนี้อย่างงั้นเหรอ”
เจียงฮ่าวดูจากสภาพการณ์แล้วก็ได้คาดเดาในทันที
“ใช่ นายด้วยสินะ”
ซ่งหว่านเอ๋อพยักหน้ารับและถามกลับไป
เจียงฮ่าวเองได้ส่งยิ้มละไมละพูดออกมา
“ช่างบังเอิญจริงๆ”
หลังจากนั้นทั้งสองได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนกระทั่งเสียงน่ารังเกียจเสียงที่ทำให้ซ่งหว่านเอ๋อต้องรู้สึกขยะแขยงเสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมา
“เอ๋…. นี่ไม่ใช่เพื่อนนักเรียนเจียงหรอกเหรอออออ”
เจียงฮ่าวและซ่งหว่านเอ๋อได้หันไปมองยังต้นเสียง ก็ได้เห็นฉินโชวที่กำลังถือเครื่องเขียนอยู่ มันได้เดินมาหาทั้งสองด้วยรอยยิ้มน่ารังเกียจ
“โอ้ หว่านเอ๋อก็อยู่ที่นี่ด้วยอย่างนั้นเหรอ”
ฉินโชวได้พูดออกมาด้วยความยินดีอย่างมากเมื่อเห็นหน้าซ่งหว่านเอ๋ฮ
แต่ซ่งหว่านเอ๋อนั้นกลับจ้องมองฉินโชวด้วยความรู้สึกเกลียดชังอย่างเห็นได้ชัด และทำหน้าเฉยเมยใส่ในทันที
กับอีกคนหนึ่งนั้นก็คือเจียงฮ่าวที่ในตอนนี้กำลังจ้องมองไปยังฉินโชวที่กำลังปรี่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มน่าเกลียดราวกับต้องการให้ทุกคนคิดว่าตัวมันนั้นคือบุคคลที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง
นั่นสินะ ใครจะไปคิดว่าไอ้คนที่ยิ้มออกมาได้ขนาดนี้กลับเป็นคนที่สั่งให้หักขาผู้คนได้อย่างหน้าตาเฉย
หากไม่ใช่เพราะเรื่องเมื่อวันก่อนและเมื่อเช้าล่ะก็ เขาเองก็คงจะโดนใบหน้าเปื้อนยิ้มนี่หลอกลวงเอาได้เหมือนกัน
ท่าทางรังเกียจอย่างเด่นชัดของซ่งหว่านเอ๋อนี้ทำให้ฉินโชวเองต้องสะดุ้งไปเล็กน้อย และด้วยการสะดุ้งนี้ทำให้ตัวมันนั้นเผยแววความอำมหิตฉายออกมาทางดวงตาชั่วครู่หนึ่ง
หลังจากนั้นมันได้กล่าวทักทายเจียงฮ่าวอย่างสนิทชิดใกล้ ราวกับว่าตัวมันไม่เคยรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับจี๊กกี๋เมื่อเช้าแต่อย่างใด
“เพื่อนนักเรียนเจียง นายเองก็มาเข้าสอบที่นี่ด้วยหรือนี่ ช่างบังเอิญจริงๆ”
เจียงฮ่าวเองจึงได้แกล้งประหลาดใจออกไป
“ใช่แล้ววววว นายเองก็ด้วยเหรอเนี่ยยยยย”
เจียงฮ่าวได้พยายามจะเลียนแบบเสือเปื้อนยิ้มตัวนี้
“โอ้…ช่างบังเอิญเสียจริงๆ”
“การได้มาทำข้อสอบห้องนี้ได้นั้นแสดงว่าเพื่อนนักเรียนเจียงต้องทำคะแนนสอบที่ผ่านมาได้ค่อนข้างดีแน่ๆ ฉันได้ยินมาว่าข้อสอบในวันนี้ยากมากเลย พวกเราจะลองแข่งกันสักหน่อยไหมว่าใครจะชนะ ว่าไงล่ะ”
เจียงฮ่าวเมื่อได้ยินก็ได้ยิ้มกว้างออกมาอย่างไม่กลัวเกรง
“โฮ่…. แล้วนายคิดว่าเราควรจะแข่งกันยังไงดีล่ะ”
ในตอนนี้เอง เหล่าผู้เข้าสอบที่กำลังหันไปจ้องมองการสนทนาของทั้งสามนั้น เมื่อได้ยินว่าจะสอบแข่งกันทำให้พวกเขานั้นรีบหันไปพูดคุยกันในทันที
“เฮ้ นั่นมันฉินโชว คนที่สอบได้คะแนนท็อบไม่ใช่เหรอ และเด็กนักเรียนสวยๆคนนั้นก็ซ่งหว่านเอ๋อ แล้ว…. คนข้างๆนั่นฉันไม่รู้จักแหะ”
“ใครกันล่ะนั่นที่กล้าจะแข่งกับท็อบของชั้นอย่างฉินโชว อย่าบอกนะว่าหมอนั่นก็เป็นหัวกระทิเหมือนกัน”
“ไอ้ฉิบ…. นั่นมันไอ้สุดยอดขยะของปีที่สามที่อยู่ห้องแปดที่ชื่อเจียงฮ่าวไม่ใช่เหรอ” “ทำไมหมอนั่นถึงมาอยู่ที่นี่ได้ แถมยังกล้าท้าทายหัวกะทิของชั้นปีอีก”
“โกหกน่า ไอ้ขยะเปียกนั่นอ่ะนะ ไม่มีทาง เทียบกับหัวกะทิตัวเต็งยังกล้าเสนอหน้ารับคำท้าอีกเหรอ”
“…………..”
หนึ่งในผู้เข้าสอบที่รู้จักเจียงฮ่าวได้ขายข้อมูลของเจียงฮ่าวออกมาอย่างไม่ต้องมีอะไรมาแลกเปลี่ยน
และนี่เองทำให้ทุกคนๆนั้นจ้องมองเจียงฮ่าวด้วยสายตาแปลกๆ สายตาของคนเหล่านี้เต็มไปด้วยความเยาะเย้ยถากถางราวกับว่ากำลังมองตัวตลกที่กำลังโดนแกล้งอย่างจริงจัง
เมื่อซ่งหว่านเอ๋อที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนนั้นและเจียงฮ่าวก็ได้มีท่าทางจะแข่งด้วย
นี่ทำให้เธอนั้นรีบดึงเสื้อของเจียงฮ่าวในทันที เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอย่าไปตามน้ำ
ต่อให้เธอนั้นไม่รู้ว่าเจียงฮ่าวจะเป็นไปตามข้อมูลที่ลุงไฮ่ของเธอสืบมาทั้งหมดรึเปล่า
แถมเธอยังไม่รู้ด้วยว่าผลการเรียนและคะแนนสอบทำได้ดีหรือไม่ดี
แต่กับฉินโชวคนนี้เธอรู้จักคนๆนี้ดีกว่าใคร เหตุผลที่ฉินโชวยังกล้ามาเสนอหน้ากับเธออยู่บ่อยครั้งนั้นเป็นเพราะผลการเรียนของคนๆนี้ไม่เคยหลุดออกจากระดับท็อบสิบของชั้นปีเลยสักครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้นคือ เธอเองก็รู้ว่าฉินโชวนั้นเป็นพวกเสือยิ้มง่าย เบื้องหลังของคนๆนี้ไม่ธรรมดา และนี่เองทำให้เธอต้องตกเป็นเป้าหมายของมันอย่างสลัดไม่หลุด