บทที่ 76 ฉินหมิงโดนจับ ซ่งหว่านเอ๋อเอะใจ
นอกสำนักงาน พนักงานประชาสัมพันธ์สาวสวยได้จ้องมองไปยังฉินหมิงที่ตอนนี้วิ่งอย่างสุดชีวิตอย่างอึ้งๆด้วยสายตาที่บ่งบอกความประหลาดใจ
ฉินหมิงไม่แยแสต่อสิ่งใด และรีบไปกดลิฟท์พิเศษของตนในทันที เมื่อลิฟท์มาถึงเขาได้รีบเข้าไปข้างใน
ในตอนนั้นเองเขาค่อยๆยกมือขึ้นมาทั้งสองข้างอย่างสั่นละลัว และค่อยๆก้วก้าวถอยหลังไปอย่างช้าๆ
ตามมาด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจหกนายที่ถือปืนเอาไว้ในมือเตรียมพร้อมลั่นไกได้ทุกเมื่อ พวกเขาค่อยก้าวออกมาจากลิฟท์อย่างช้าๆอย่างระแวดระวัง
ฉินหมิงในตอนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะขยับหนีเลยแม้แต่น้อยเมื่อต้องพบกับสถานการณ์ตรงหน้าของมัน
แม้แต่พนักงานของฉินหมิงก็เกรงกลัวเจ้าหน้าที่และยกมือขึ้นมาไว้ท้ายทอยในทันทีโดยไม่ต้องโดนสั่งแต่อย่างใด
“คุณ ฉิงหมิง มากับเรา”
“…”
ฉินหมิงถูกจับในที่สุด แม้แต่เจียงฮ่าวเองก็ไม่คิดเลยว่าเรื่องจะจบอย่างรวดเร็วเช่นนี้
ตอนนี้ณ ร้านอินเตอร์เน็ต เจียงฮ่าวรู้สึกได้ว่าเพียงข้อมูลที่เขาส่งไปนั้นก็เพียงพอ จึงได้เริ่มลบร่องรอยต่างๆและเตรียมที่จะปิดเครี่องและจากไป
อย่างไรก็ตาม เขาเองก็พึ่งจะนึกได้ว่ายังเหลือเรื่องวิดีโอของตนอยู่ เขาจึงเริ่มเขาเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อจัดการเรื่องนี้อีกครั้ง
หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็เผยรอยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“เรียบร้อย”
“ก็นะ ระหว่างการได้รับชื่อเสียงกับอยู่ไปแบบนี้ ฉันว่าอยู่เป็นหมูคอยกินเสือแบบนี้สนุกกว่าล่ะนะ”
เมื่อพูดจบ เขาก็ทำการปิดเครื่องหลังจากลบวิดีโอของเขาเสร็จแล้ว
หลังจากออกจากร้านอินเตอร์เน็ต เขาเห็นว่ายังเร็วไปที่จะกลับบ้าน เขาจึงเลือกที่จะกลับไปโรงเรียนแทน
เมื่อเขากลับเข้ามาในห้อง เจียงฮ่าวจึงได้ยินข่าวเพื่อนร่วมห้องคุยกันถึงเรื่องฉินหมิงโดนจับ
เจียงฮ่าวเองก็แกล้งไม่รู้อะไรและรับฟังการพูดคุยของเพื่อนร่วมชั้นอยู่นิ่งๆข้างหลัง
และด้วยเรื่องในครั้งนี้ เจียงฮ่าวไม่รู้เลยว่า สิ่งที่เขาได้กระทำลงไปนั้น ได้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งเมืองเทียนเหอ ไม่สิ แม้แต่เมืองอื่นก็ยังได้รับผลกระทบ
ด้วยการกระทำของเจียงฮ่าวนี้ได้ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนเริ่มที่จะตื่นตระหนก และรู้สึกได้ว่าตัวเขานั้นยืนอยู่ปากหลุมศพของตนอีกไม่ไกลในทันที
แน่นอนว่าเจียงฮ่าวย่อมไม่รู้เรื่องนี้
ไม่นาน ข่าวของฉินหมิงที่โดนจับนั้นก็แพร่กระจายไปทั่วอินเตอร์เนต
เมื่อเจียงฮ่าวเห็นฉากนี้เอง เขาเองก็ประหลาดใจและดีใจอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
“ด้วยการที่ฉินหมิงโดนจับ และอาชญกรรมที่มันก่อไว้นั้นสมควรจะกระจ่างชัดจนดิ้นไม่หลุด ถ้าเป็นแบบนี้ ตระกูลฉินเองก็สมควรจะจบสิ้นแล้ว”
ตอนนี้ เจียงฮ่าวคาดการณ์ได้ว่า ตระกูลฉินนั้นไม่ใช่ภัยคุกคามอีกต่อไป
ระหว่างช่วงพัก เจียงฮ่าวยังคงคิดเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในตอนนั้นเอง เพื่อนข้างโต๊ะเจียงฮ่าวก็ได้สะกิดและบอกเขาว่ามีใครบางคนมาหา และคนๆนั้นเอาแต่จ้องเขาอยู่นอกห้อง
เจียงฮ่าวได้เงยหน้าขึ้นมาและหันไปมองที่ประตู เป็นซ่งหว่านเอ๋อที่กำลังยืนอยู่
“อ้าว หว่านเอ๋อเองเหรอ”
“มีอะไรรึเปล่าถึงได้มาหาน่ะ”
เจียงฮ่าวรู้สึกสงสัยเล็กน้อยจึงได้ถามออกไป
เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งหว่านเอ๋อได้หันมามองเจียงฮ่าวราวกับไม่ได้กะพริบตาแม้แต่น้อย เธอพยายามสังเกตบางอย่างจากสีหน้าของเจียงฮ่าว
เจียงฮ่าวที่เห็นเป็นแบบนั้นก็ได้มีมึนงงไปเล็กน้อย ก่อนที่จะใช้มือแตะๆไปท่วใบหน้าและถามออกมาอย่างสงสัย
“หืม อะไรเหรอ มีอะไรติดหน้าฉันรึไง”
ซ่งหว่านเอ๋อที่ยังคงจ้องมองเจียงฮ่าวอยู่นั้น ก็ได้พูดออกมาโดยยังไม่กะพริบตา
“ฉินหมิงโดนจับแล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น เจียงฮ่าวก็เข้าใจได้ในทันทีว่าซ่งหว่านเอ๋อนั้นมาที่นี่ทำไมกัน
“อื้ม รู้แล้วล่ะ ฉันพึ่งจะเห็นข่าวออกมาเมื่อกี้”
“ไม่คิดเลยจริงๆว่าฉินหมิงจะเลวชาติได้ถึงขนาดนั้น”
“แต่ก็ดีแล้วที่มันโดนจับเอาตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะโดนแก้แค้นก่อนเป็นแน่”
เขาแสดงความรู้สึกออกมาจากหัวใจจริงๆว่าดีใจขนาดไหน
ซ่งหว่านเอ๋อเองที่จ้องเจียงฮ่าวอย่างไม่กะพริบตาตั้งแต่ต้น มาถึงตอนนี้เธอเองก็ยังจับสังเกตอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้เธอจึงตัดสินใจถามคำถามหนึ่งออกมา
“นายทำรึเปล่า”
คำพูดของซ่งหว่านเอ๋อทำให้เจียงฮ่าวประหลาดใจได้ในทันที
“ฮืม?”
แต่เจียงฮ่าวก็ตอบกลับไปได้ทันทีเช่นกัน
“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะนั่น ถ้าฉันมีความสามารถถึงขนาดนั้นจะมานั่งอยู่เฉยๆแบบนี้ไปทำไม”
ในระหว่างที่เจียงฮ่าวปฏิเสธออกมา ซ่งหว่านเอ๋อก็ยังไม่พบพิรุธของเจียงฮ่าวแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกของซ่งหว่านเอ๋อก็ยังบอกเธออยู่ดีว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับเจียงฮ่าวเป็นแน่